BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 9, 10, 11
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Sep 2006
ตอบ: 670
ที่อยู่: SIAM
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:45
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
จะแขวะก็ว่าไปตรงๆ อย่าเป็นอีแอบทำตัววิชาการ
ใครเอาข้อมูลมาแบ่งปันมาชี้แจงก็จับชนกันมั่วไปหมด
ออกจากรูมาทีก็สร้างความปั่นป่วนให้บอร์ด
เห็นใจคนที่พยายามคุยกับคนแบบนี้จริงๆว่ะ
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:47
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eGinninG พิมพ์ว่า:
บางทีก็เหนื่อยใจจริงๆคล้ายๆเคสของ CP พอไม่ทำอะไรเลยก็บ่นพอทำก็บ่น
อยากให้เข้าใจตอนนี้นะครับ อะไรที่ช่วยกันได้คนละไม้คนละมือเอาเท่าที่เราทำได้ก็ทำไปเถอะครับ
มาห่วงผลอะไรตอนนี้ ทุกวันนี้ผมซื้อข้าวแจกยามแจกแม่บ้าน มันก็ไม่ช่วยให้เหตุการณ์มันน้อยลงหรอกครับ
แต่อย่างน้อยมันก็ได้ช่วย ใครไม่อุ่นใจผมอุ่นใจครับมาพ่นหน้าบ้านผมเลยยิ่งดี ตอนนี้เรื่องการสร้างขวัญ
กำลังใจในยามที่ผู้คนวิตกกังวลเนี่ยดีที่สุดแล้วครับ
 


สรุปคือไม่มีประโยชน์ แถมยังอาจสร้างผลกระทบจากการแพร่เชื้อกระจายวงกว้าง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาให้ข้อมูลชัดเจน คุณคิดว่าเอาไม้กวาดมากวาดพื้นมันฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไรหรอครับ เผลอ ๆ อาจเป็นการ spread เชื้อจากขยะให้ลอยฟุ้งในอากาศ

คุณคิดว่าการที่ทหารเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าส่งให้ประชาชน มันได้ประโยชน์อะไรหรอครับ นอกจากอาจ spread เชื้อจากมื้อทหารไปยังประชาชน

[b]
ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าไม่มีความรู้อย่างเพียงพอ วิธีที่จะเซฟบุคลากรทางการแพทย์ เซฟทรัพยากรชาติที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ "คืออยู่นิ่ง ๆ ครับ"
 


เขาคงไม่ออกมาพ่นเฉยๆ โดยไม่รู้อะไร หรือกรมควบคุมโรคไม่แนะนำขั้นตอนต่างๆ หรอกครับ

อ้างอิงจาก:
ด้านพล.ต.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผบ.พล.ม.2 รอ. ได้นำกำลังพล ฉีดพ่นล้างสารพิษ บริเวณพื้นที่ แนวถนน พระรามที่ 1 จากแยกปทุมวัน - แยกราชประสงค์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดย มีกำลังจาก ม.1 รอ.,ม.1 พัน.1 รอ.ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน

ขณะที่ทหารจาก ม.พัน.4 พล.1 รอ. ได้นำรถน้ำผสมสาร BKC ฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย บริเวณโดยรอบและสะพานลอย ของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บนสกายวอล์ค สถานีรถไฟฟ้า และใช้ รถนำ M 51 รถน้ำผสมสาร BKC ปล่อยน้ำยาลงบนถนน และทำความสะอาด รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยระหว่างปฏิบัติงานอยู่นั้จะมีรถกระจายเสียง ทำความเข้าใจ ให้ความรู้เริ่องน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัส โควิด19 คือ BKC (benzalkonium chloride) หรือ Sanisol เป็นสารทำความสะอาดที่ใช้ฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในสารทำความสะอาดที่ทางสิงคโปร์แนะนำว่าให้ใช้ได้ในการกำจัดโคโรนาไวรัส โดยความเข้มข้นที่แนะนำคือ 0.05% ซึ่งเป็นระดับความเข้มข้นน้อยสุดที่กำจัดไวรัสได้ และยังคงปลอดภัยต่อการใช้งาน การระเหยออกจากพื้นที่ ใช้เวลาไม่เกินครึ่ง ชม. (ฉีดพ่นเป็นละอองฝอย)

สาเหตุที่เลือกใช้สาร BKC เพราะสามารถออกฤทธิ์ได้ที่ความเข้มข้นต่ำ ซึ่งสามารถผสมน้ำได้ในปริมาณมาก เหมาะกับการสนับสนุนภารกิจการชำระล้างพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ชำระล้างร่างกาย ซึ่งในส่วนของการชำระล้างร่างกาย แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์ 70%

ทั้งนี้ สารอื่นๆ ที่สามารถใช้ในการฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ตามแนวทางของสิงคโปร์ และความเข้มข้นที่ต้องเตรียมเพื่อให้ฆ่าเชื้อได้ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (NaOCl) ซึ่งเป็นส่วนผสมในไฮเตอร์สำหรับผ้าขาว 0.05-0.5% Chloroxylenol ซึ่งเป็นส่วนผสมในเดทตอล 0.12%

 




เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกท่านครับ ไม่ว่าจะเจอเสียงบ่นเสียงด่า ก็ยังก้มหน้าก้มตา ปฏิบัติงานเป็นแนวหน้าเพื่อคนไทยต่อไป #สู้ต่อไปครับ

Credit : https://www.thaipost.net/main/detail/60233  
 


ที่พูดไม่ได้จะด่าแต่ผมกลับเป็นห่วงถึงสถานการณ์ทีเกิดขึ้นครับ

คุณคิดว่าทหารมีความรู้มากแค่ไหนในการออกปฏิบัติการแต่ละครั้ง

การเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าแพ็คให้กับประชาชน หรือแม้แต่คนที่ควรรู้มากที่สุดอย่างท่านนายกแถลงข่าว 4 นาที เอามือจับ mask ลงเท่าที่ผมนับทั้งหมดคือ 20 ครั้ง

ผมว่าอันนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้วครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชินกับ mask ยิ่งใส่ก็ยิ่งรำคาญ

ผมทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ยังเผลอเอามือจับหน้า จับตาออกจะบ่อยหลังสัมผัสคนไข้ คุณคิดว่าบุคคลทั่วไปทำความสะอาดที่ต้องลงไปเสี่ยง จะไม่เอามือมาจับหรอครับ

หมอยังติดเชื้อเลยครับ ขนาดป้องกันอย่างดี ถ้าทหารกลับไปติดกันในกรมกองเองนี่ ไม่อยากจะคิดครับ  


ผมมีทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องที่ปัจจุบันเป็นแพทย์ใหญ่ตามรพ.ใหญ่ๆ ไม่เห็นมีใครออกมาบ่นเลยครับว่าเคสการฉีดถนนมันมีปัญหาทำให้เชื้อยิ่งกระจาย มีแต่บอกว่าช่วยอะไรได้ให้ช่วยกัน ถ้าคุณเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลจริง คุณไม่ควรมีความคิดแบบนี้เลยนะครับ ผมสงสารเพื่อนๆผมมาก วันๆนอนไม่ถึง 3 ชมอะไรที่ลดภาระได้ก็ต้องช่วยๆกันครับ จะแค่เล็กน้อยก็ตาม  


มันมีเรื่องหน้าบ่นกว่านี้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ จนเค้ามองข้ามประเด็นนี้ ซึ่งประเด็นซอยย่อยที่ต้องพูดก็มีอีกเยอะแยะ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่านโทรมาคุยกับผมโน่นนี่นั่น ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็พูดไม่ได้เดี๋ยวหาว่าเฟคนิวอีก เรื่องแบบนี้มันก็เป็นประเด็นที่สำคัญกว่า และโครตสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าประเด็นนี้จะไม่สำคัญ และถ้ารณรงค์ที่จะทำให้ถูก ย่อมดีกว่า  


ผมก็ยิ่งงงอยู่ดีครับ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่าน มันคือเคสรอบนอกที่ไม่ใช่แหล่งระบาดใหญ่สุดในตอนนี้นะครับ วิธีปฎิบัติต่างกันมันก็ถูกแล้วไงครับ เมื่อกี้ผมพึ่งถามโทรเพื่อผมที่เป็นหมออยู่รพ.รามา ด้วยความสงสัย
เรื่องนี้เขาก็บอกว่า ศูนย์บริหารโควิด-19 ที่ปัจจุบันรวบนายแพทย์มากมายก็เป็นคนเสนอเห็นชอบนโยบายนี้เองครับ ถ้าคุณบอกแบบนี้แสดงว่าคุณหมอทั้งคณะผิดหรอครับ

 

 

ผมเถียง Topic เรื่องปัจจุบันครับ เรื่องนี้ผมไม่เถียง เพราะข้อมูลที่ผมได้รับก็มาจากปากเปล่าหมอหน้าด่าน อย่างที่ว่าไม่มี evidence เปิดเผยแน่ช้ัดผมจะไม่พูด

เรื่องแนวทางการบริหารโควิด คุณรู้มากแค่ไหนหรอครับ ปัจจุบันเอา

ไข้ 37.5+ กับอาการติดเชื้อทางทางเดินหายใจ + กับประวัติการ contact กลุ่มเสี่ยงมาใช้

แต่ผู้ติดเชื้อ 10% ไม่มีไข้นะครับ

https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2002032?query=recirc_curatedRelated_article&fbclid=IwAR00oiNGw3RJZTRRgOceiUAP7bqBtBoGHG_Ttos_1gzEQnoSskBxgIs2wcg

แล้วตอนนี้ติดเชื้อเป็นพัน กลุ่มเสี่ยงคือใครหรอครับ แต่แนวทางด้านบนยังเหมือนเดิมนะครับ บอกว่ามันติดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลชุมชน แต่ตอนนี้มัน spread ทั้งประเทศละครับ



ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อภาครัฐครับ
 


เอ้าผมจะรู้ได้ไงครับผมไม่ใช่หมอ ผมก็เน้นย้ำไงครับมันมาจาก คณะศูนย์บริหารโควิด-19 แต่เป็นทีมแพทย์นะครับ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย ผมเชื่อทีมแพทย์ที่ออกสื่อมากกว่ารัฐบาลครับตอนนี้ ถ้าไม่เชื่อแพทย์จะให้เชื่อใครหละครับ

 
 


ก็ใช่ไงครับ ผมโต้ในประเด็นเรื่องของการคัดกรอง คุณบอกว่าเชื้อมันแพร่ไม่ถึงโรงพยาบาลชุมชน คุณยังบอกอีกว่าคุณเชื่อมั่นในทีมแพทย์

คุณจะเชื่อเพราะตัวบุคคลที่ออกสื่อจากภาครัฐก็แล้วแต่คุณครับ ก็ไม่ว่ากัน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มันก็ชัดเจนครับ

https://www.facebook.com/Infectious1234/photos/pcb.918440701919957/918421761921851/?type=3&theater

ผมไม่ได้เถียงตรงนี้ว่ามันเคยใช้ได้ และไม่ได้บอกว่าอาจารย์เหล่านั้นผิด แต่ ณ ปัจจุบัน มันต้องเปลี่ยนแปลงวิธีแล้วครับ เพราะมันระบาดในประเทศแล้ว  


เดี๋ยวนะครับ ทีมแพทย์เฉพาะกิจที่ผมทราบเป็นระดับปรมาจารย์เก่งที่สุดในประเทศแล้วนะครับ ถ้าเขาเสนอ
นโยบายนี้แล้วมันไม่ได้ผลเขาจะเสนอหรอครับ ผมแค่สงสัย แล้วงี้คือให้ผมเชื่อใครหละครับ  


เอาเข้าจริงผมไม่ทราบครับ แต่ผมไม่เชื่อครับ

ตอนเรียนเค้าก็บอกเสมอว่าอย่าเชื่ออาจารย์ซะทุกเรื่อง ไปหา evidence vasedเอาเอง บางทีอาจารย์ก็จับเปิดพร้อมกัน

และผมก็เชื่อว่าอาจารย์เองก็รู้ครับ ความรู้ทางการแพทย์ผมว่าคงไม่มีใครขัดข้อบแต่ที่ติดขัดคือภาครัฐครับที่ทำไม่ได้อย่างน้อย ๆ ก็เรื่องงบประมาณและความเชื่อมันสองอย่างละครับ
แก้ไขล่าสุดโดย FokuchzRedDevil เมื่อ Tue Mar 24, 2020 01:50, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:49
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
SEAFARER พิมพ์ว่า:
จะแขวะก็ว่าไปตรงๆ อย่าเป็นอีแอบทำตัววิชาการ
ใครเอาข้อมูลมาแบ่งปันมาชี้แจงก็จับชนกันมั่วไปหมด
ออกจากรูมาทีก็สร้างความปั่นป่วนให้บอร์ด
เห็นใจคนที่พยายามคุยกับคนแบบนี้จริงๆว่ะ  


อีแอบน่าจะเป็นคุณมากกว่าไหมครับ เอาข้อมูลมาแบ่งปันถ้าไม่ให้โต้ด้วยวิชาการจะให้เอาข้อมูลขยะแบบที่คุณชอบมาตอบโต้หรืออย่างไร

ถ้าเถียงในเชิงวิชาการทางวิทยาศาสตร์ผมก็ตอบท่านได้หมด ถ้าจะคุยกับผมว่าเป็นภาพลักษณ์ที่ดี ผมก็ไม่ขัดข้อง

ยังไม่มีซักคำถามที่ผมใช้ข้อมูลทางวิชาการตอบไม่ได้เลย

ถ้ามันจะป่วนก็เพราะมีคนแบบคุณเข้ามานี่หละครับ พฤติกรรมน่ารังเกียจ
8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: but the sun is eclipsed by the moon
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 56351
ที่อยู่: Fox River State Penitentiary. Joliet , Illinois.
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:50
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
ส่วนตัวผมโอเคนะ ไม่ใช่แค่พ่นน้ำยา ยังมีเช็ดมีทำความสะอาดอะไรต่างๆด้วย

คนไทยมีบางส่วนนะที่มักง่าย เช่นชอบซุกซองลูกอม ทิชชู่ ไว้ตามโต๊ะเก้าอี้ พนักพิงรถเมล์ และอีกมากมาย

บางคนโรคจิตรึเปล่า อย่างคลิปชาวต่างชาติเอาน้ำลายป้ายตามลิฟท์ ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิดคงแย่

พอโควิด19 ระบาด พฤติกรรมมักง่ายอาจทำให้พฤติกรรมมักง่ายทำให้เชื้อแพร่กระจายมากขึ้นได้

ลองดูเหตุการณ์คนแห่ไปหมอชิตเมื่อวันก่อน กว่าจะเดินทางไปกระจุกกันตรงนั้นต้องผ่านเส้นทางไหนบ้าง แล้วเห็นพฤติกรรมหลายคนไม่ได้ใส่ใจเรื่องเว้นระยะห่าง หรือใส่แมสด้วยซ้ำ

เพราะงั้นผมว่าทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆนะ
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 May 2011
ตอบ: 294
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:53
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eGinninG พิมพ์ว่า:
บางทีก็เหนื่อยใจจริงๆคล้ายๆเคสของ CP พอไม่ทำอะไรเลยก็บ่นพอทำก็บ่น
อยากให้เข้าใจตอนนี้นะครับ อะไรที่ช่วยกันได้คนละไม้คนละมือเอาเท่าที่เราทำได้ก็ทำไปเถอะครับ
มาห่วงผลอะไรตอนนี้ ทุกวันนี้ผมซื้อข้าวแจกยามแจกแม่บ้าน มันก็ไม่ช่วยให้เหตุการณ์มันน้อยลงหรอกครับ
แต่อย่างน้อยมันก็ได้ช่วย ใครไม่อุ่นใจผมอุ่นใจครับมาพ่นหน้าบ้านผมเลยยิ่งดี ตอนนี้เรื่องการสร้างขวัญ
กำลังใจในยามที่ผู้คนวิตกกังวลเนี่ยดีที่สุดแล้วครับ
 


สรุปคือไม่มีประโยชน์ แถมยังอาจสร้างผลกระทบจากการแพร่เชื้อกระจายวงกว้าง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาให้ข้อมูลชัดเจน คุณคิดว่าเอาไม้กวาดมากวาดพื้นมันฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไรหรอครับ เผลอ ๆ อาจเป็นการ spread เชื้อจากขยะให้ลอยฟุ้งในอากาศ

คุณคิดว่าการที่ทหารเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าส่งให้ประชาชน มันได้ประโยชน์อะไรหรอครับ นอกจากอาจ spread เชื้อจากมื้อทหารไปยังประชาชน

[b]
ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าไม่มีความรู้อย่างเพียงพอ วิธีที่จะเซฟบุคลากรทางการแพทย์ เซฟทรัพยากรชาติที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ "คืออยู่นิ่ง ๆ ครับ"
 


เขาคงไม่ออกมาพ่นเฉยๆ โดยไม่รู้อะไร หรือกรมควบคุมโรคไม่แนะนำขั้นตอนต่างๆ หรอกครับ

อ้างอิงจาก:
ด้านพล.ต.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผบ.พล.ม.2 รอ. ได้นำกำลังพล ฉีดพ่นล้างสารพิษ บริเวณพื้นที่ แนวถนน พระรามที่ 1 จากแยกปทุมวัน - แยกราชประสงค์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดย มีกำลังจาก ม.1 รอ.,ม.1 พัน.1 รอ.ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน

ขณะที่ทหารจาก ม.พัน.4 พล.1 รอ. ได้นำรถน้ำผสมสาร BKC ฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย บริเวณโดยรอบและสะพานลอย ของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บนสกายวอล์ค สถานีรถไฟฟ้า และใช้ รถนำ M 51 รถน้ำผสมสาร BKC ปล่อยน้ำยาลงบนถนน และทำความสะอาด รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยระหว่างปฏิบัติงานอยู่นั้จะมีรถกระจายเสียง ทำความเข้าใจ ให้ความรู้เริ่องน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัส โควิด19 คือ BKC (benzalkonium chloride) หรือ Sanisol เป็นสารทำความสะอาดที่ใช้ฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในสารทำความสะอาดที่ทางสิงคโปร์แนะนำว่าให้ใช้ได้ในการกำจัดโคโรนาไวรัส โดยความเข้มข้นที่แนะนำคือ 0.05% ซึ่งเป็นระดับความเข้มข้นน้อยสุดที่กำจัดไวรัสได้ และยังคงปลอดภัยต่อการใช้งาน การระเหยออกจากพื้นที่ ใช้เวลาไม่เกินครึ่ง ชม. (ฉีดพ่นเป็นละอองฝอย)

สาเหตุที่เลือกใช้สาร BKC เพราะสามารถออกฤทธิ์ได้ที่ความเข้มข้นต่ำ ซึ่งสามารถผสมน้ำได้ในปริมาณมาก เหมาะกับการสนับสนุนภารกิจการชำระล้างพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ชำระล้างร่างกาย ซึ่งในส่วนของการชำระล้างร่างกาย แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์ 70%

ทั้งนี้ สารอื่นๆ ที่สามารถใช้ในการฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ตามแนวทางของสิงคโปร์ และความเข้มข้นที่ต้องเตรียมเพื่อให้ฆ่าเชื้อได้ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (NaOCl) ซึ่งเป็นส่วนผสมในไฮเตอร์สำหรับผ้าขาว 0.05-0.5% Chloroxylenol ซึ่งเป็นส่วนผสมในเดทตอล 0.12%

 




เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกท่านครับ ไม่ว่าจะเจอเสียงบ่นเสียงด่า ก็ยังก้มหน้าก้มตา ปฏิบัติงานเป็นแนวหน้าเพื่อคนไทยต่อไป #สู้ต่อไปครับ

Credit : https://www.thaipost.net/main/detail/60233  
 


ที่พูดไม่ได้จะด่าแต่ผมกลับเป็นห่วงถึงสถานการณ์ทีเกิดขึ้นครับ

คุณคิดว่าทหารมีความรู้มากแค่ไหนในการออกปฏิบัติการแต่ละครั้ง

การเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าแพ็คให้กับประชาชน หรือแม้แต่คนที่ควรรู้มากที่สุดอย่างท่านนายกแถลงข่าว 4 นาที เอามือจับ mask ลงเท่าที่ผมนับทั้งหมดคือ 20 ครั้ง

ผมว่าอันนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้วครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชินกับ mask ยิ่งใส่ก็ยิ่งรำคาญ

ผมทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ยังเผลอเอามือจับหน้า จับตาออกจะบ่อยหลังสัมผัสคนไข้ คุณคิดว่าบุคคลทั่วไปทำความสะอาดที่ต้องลงไปเสี่ยง จะไม่เอามือมาจับหรอครับ

หมอยังติดเชื้อเลยครับ ขนาดป้องกันอย่างดี ถ้าทหารกลับไปติดกันในกรมกองเองนี่ ไม่อยากจะคิดครับ  


ผมมีทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องที่ปัจจุบันเป็นแพทย์ใหญ่ตามรพ.ใหญ่ๆ ไม่เห็นมีใครออกมาบ่นเลยครับว่าเคสการฉีดถนนมันมีปัญหาทำให้เชื้อยิ่งกระจาย มีแต่บอกว่าช่วยอะไรได้ให้ช่วยกัน ถ้าคุณเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลจริง คุณไม่ควรมีความคิดแบบนี้เลยนะครับ ผมสงสารเพื่อนๆผมมาก วันๆนอนไม่ถึง 3 ชมอะไรที่ลดภาระได้ก็ต้องช่วยๆกันครับ จะแค่เล็กน้อยก็ตาม  


มันมีเรื่องหน้าบ่นกว่านี้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ จนเค้ามองข้ามประเด็นนี้ ซึ่งประเด็นซอยย่อยที่ต้องพูดก็มีอีกเยอะแยะ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่านโทรมาคุยกับผมโน่นนี่นั่น ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็พูดไม่ได้เดี๋ยวหาว่าเฟคนิวอีก เรื่องแบบนี้มันก็เป็นประเด็นที่สำคัญกว่า และโครตสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าประเด็นนี้จะไม่สำคัญ และถ้ารณรงค์ที่จะทำให้ถูก ย่อมดีกว่า  


ผมก็ยิ่งงงอยู่ดีครับ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่าน มันคือเคสรอบนอกที่ไม่ใช่แหล่งระบาดใหญ่สุดในตอนนี้นะครับ วิธีปฎิบัติต่างกันมันก็ถูกแล้วไงครับ เมื่อกี้ผมพึ่งถามโทรเพื่อผมที่เป็นหมออยู่รพ.รามา ด้วยความสงสัย
เรื่องนี้เขาก็บอกว่า ศูนย์บริหารโควิด-19 ที่ปัจจุบันรวบนายแพทย์มากมายก็เป็นคนเสนอเห็นชอบนโยบายนี้เองครับ ถ้าคุณบอกแบบนี้แสดงว่าคุณหมอทั้งคณะผิดหรอครับ

 

 

ผมเถียง Topic เรื่องปัจจุบันครับ เรื่องนี้ผมไม่เถียง เพราะข้อมูลที่ผมได้รับก็มาจากปากเปล่าหมอหน้าด่าน อย่างที่ว่าไม่มี evidence เปิดเผยแน่ช้ัดผมจะไม่พูด

เรื่องแนวทางการบริหารโควิด คุณรู้มากแค่ไหนหรอครับ ปัจจุบันเอา

ไข้ 37.5+ กับอาการติดเชื้อทางทางเดินหายใจ + กับประวัติการ contact กลุ่มเสี่ยงมาใช้

แต่ผู้ติดเชื้อ 10% ไม่มีไข้นะครับ

https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2002032?query=recirc_curatedRelated_article&fbclid=IwAR00oiNGw3RJZTRRgOceiUAP7bqBtBoGHG_Ttos_1gzEQnoSskBxgIs2wcg

แล้วตอนนี้ติดเชื้อเป็นพัน กลุ่มเสี่ยงคือใครหรอครับ แต่แนวทางด้านบนยังเหมือนเดิมนะครับ บอกว่ามันติดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลชุมชน แต่ตอนนี้มัน spread ทั้งประเทศละครับ



ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อภาครัฐครับ
 


เอ้าผมจะรู้ได้ไงครับผมไม่ใช่หมอ ผมก็เน้นย้ำไงครับมันมาจาก คณะศูนย์บริหารโควิด-19 แต่เป็นทีมแพทย์นะครับ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย ผมเชื่อทีมแพทย์ที่ออกสื่อมากกว่ารัฐบาลครับตอนนี้ ถ้าไม่เชื่อแพทย์จะให้เชื่อใครหละครับ

 
 


ก็ใช่ไงครับ ผมโต้ในประเด็นเรื่องของการคัดกรอง คุณบอกว่าเชื้อมันแพร่ไม่ถึงโรงพยาบาลชุมชน คุณยังบอกอีกว่าคุณเชื่อมั่นในทีมแพทย์

คุณจะเชื่อเพราะตัวบุคคลที่ออกสื่อจากภาครัฐก็แล้วแต่คุณครับ ก็ไม่ว่ากัน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มันก็ชัดเจนครับ

https://www.facebook.com/Infectious1234/photos/pcb.918440701919957/918421761921851/?type=3&theater

ผมไม่ได้เถียงตรงนี้ว่ามันเคยใช้ได้ และไม่ได้บอกว่าอาจารย์เหล่านั้นผิด แต่ ณ ปัจจุบัน มันต้องเปลี่ยนแปลงวิธีแล้วครับ เพราะมันระบาดในประเทศแล้ว  


เดี๋ยวนะครับ ทีมแพทย์เฉพาะกิจที่ผมทราบเป็นระดับปรมาจารย์เก่งที่สุดในประเทศแล้วนะครับ ถ้าเขาเสนอ
นโยบายนี้แล้วมันไม่ได้ผลเขาจะเสนอหรอครับ ผมแค่สงสัย แล้วงี้คือให้ผมเชื่อใครหละครับ  


เอาเข้าจริงผมไม่ทราบครับ แต่ผมไม่เชื่อครับ

ตอนเรียนเค้าก็บอกเสมอว่าอย่าเชื่ออาจารย์ซะทุกเรื่อง ไปหา evidence vasedเอาเอง บางทีอาจารย์ก็จับเปิดพร้อมกัน

และผมก็เชื่อว่าอาจารย์เองก็รู้ครับ ความรู้ทางการแพทย์ผมว่าคงไม่มีใครขัดข้อบงแต่ที่ติดขัดคือภาครัฐครับที่ทำไม่ได้
 


ขอโทษนะครับตอนแรกผมว่าคุณมีเหตุผลนะครับ แต่พอคุณพูดแบบนี้ผมว่าคุณเลอะเทอะหละ เป็นที่ mindset
คุณล้วนๆที่มีอคติแล้วครับ

นี้รายชื่อแพทย์ในคณะครับ
1. ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร อดีตอธิการบดี ม.มหิดล และอดีต รมว.ก.สาธารณสุข
2. ศ.นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ อดีต รมช.ก.ศึกษาฯ
3. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์
4. ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ และ นายกแพทยสมาคม
5. ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา

ถ้าจะผิดทั้งคณะประเทศนี้ก็จบสิ้นแล้วหละครับ อันนี้ผมคงต้องยอม

แก้ไขล่าสุดโดย [B]eGinninG เมื่อ Tue Mar 24, 2020 01:59, ทั้งหมด 2 ครั้ง
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 415
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:54
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
จริงๆไม่ใช่แค่ทหารที่ออกมาทำด้วยซ้ำ
ยังมีเจ้าหน้าที่ของทาง กทม มาร่วมในปฏิบัติการนี้เหมือนกัน

แต่เลือกที่จะไม่พูด เลือกเล็งคำถามยิงตรงไปที่ทหารอย่างเดียว
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: SuperDry
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Dec 2006
ตอบ: 1446
ที่อยู่: Stanley Park !!
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:55
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
อ้างอิงจาก:

วันนี้ 23 มี.ค. 63 ณ. สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จตุจักร

กรมการขนส่งทางบกได้รับความอนุเคราะห์จากกองทัพภาคที่ 1 กองทัพบก นำโดยพลตรี ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1 กองทัพบก นำหน่วยทหารมาดำเนินปฏิบัติการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จตุจักร ซึ่งในวันก่อนหน้าได้มีประชาชนเข้าใช้บริการจำนวนมาก ทั้งนี้ การทำการฉีดพ่นนำ้ยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) และสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางมาใช้บริการที่สถานีขนส่งฯ ต่อไป โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. และรองแม่ทัพภาคที่ 1 ร่วมอำนวยการในการปฎิบัติการดังกล่าวด้วย


 




Credit : https://www.dlt.go.th/th/dlt-photo/view.php?_did=761

อย่างข่าวนี้ จขกท. ลองดู ท่านว่า ก็ไม่โอเคเหรอครับ ที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยรวมกำลังกันไปฉีดพ่นที่สถานีขนส่งหมอชิต คือ น้ำยาต่างๆ ก็ต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขมาแล้วส่วนหนึ่ง ถึงจะมาปฏิบัติการแบบนี้ได้

หรือเพียงเพราะพวกเขาเหล่านี้อาสามาปฏิบัติงานโดยผ่านคำสั่งจากนายทหารต่างๆ !??
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 415
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:56
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eGinninG พิมพ์ว่า:
บางทีก็เหนื่อยใจจริงๆคล้ายๆเคสของ CP พอไม่ทำอะไรเลยก็บ่นพอทำก็บ่น
อยากให้เข้าใจตอนนี้นะครับ อะไรที่ช่วยกันได้คนละไม้คนละมือเอาเท่าที่เราทำได้ก็ทำไปเถอะครับ
มาห่วงผลอะไรตอนนี้ ทุกวันนี้ผมซื้อข้าวแจกยามแจกแม่บ้าน มันก็ไม่ช่วยให้เหตุการณ์มันน้อยลงหรอกครับ
แต่อย่างน้อยมันก็ได้ช่วย ใครไม่อุ่นใจผมอุ่นใจครับมาพ่นหน้าบ้านผมเลยยิ่งดี ตอนนี้เรื่องการสร้างขวัญ
กำลังใจในยามที่ผู้คนวิตกกังวลเนี่ยดีที่สุดแล้วครับ
 


สรุปคือไม่มีประโยชน์ แถมยังอาจสร้างผลกระทบจากการแพร่เชื้อกระจายวงกว้าง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาให้ข้อมูลชัดเจน คุณคิดว่าเอาไม้กวาดมากวาดพื้นมันฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไรหรอครับ เผลอ ๆ อาจเป็นการ spread เชื้อจากขยะให้ลอยฟุ้งในอากาศ

คุณคิดว่าการที่ทหารเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าส่งให้ประชาชน มันได้ประโยชน์อะไรหรอครับ นอกจากอาจ spread เชื้อจากมื้อทหารไปยังประชาชน

[b]
ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าไม่มีความรู้อย่างเพียงพอ วิธีที่จะเซฟบุคลากรทางการแพทย์ เซฟทรัพยากรชาติที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ "คืออยู่นิ่ง ๆ ครับ"
 


เขาคงไม่ออกมาพ่นเฉยๆ โดยไม่รู้อะไร หรือกรมควบคุมโรคไม่แนะนำขั้นตอนต่างๆ หรอกครับ

อ้างอิงจาก:
ด้านพล.ต.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผบ.พล.ม.2 รอ. ได้นำกำลังพล ฉีดพ่นล้างสารพิษ บริเวณพื้นที่ แนวถนน พระรามที่ 1 จากแยกปทุมวัน - แยกราชประสงค์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดย มีกำลังจาก ม.1 รอ.,ม.1 พัน.1 รอ.ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน

ขณะที่ทหารจาก ม.พัน.4 พล.1 รอ. ได้นำรถน้ำผสมสาร BKC ฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย บริเวณโดยรอบและสะพานลอย ของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บนสกายวอล์ค สถานีรถไฟฟ้า และใช้ รถนำ M 51 รถน้ำผสมสาร BKC ปล่อยน้ำยาลงบนถนน และทำความสะอาด รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยระหว่างปฏิบัติงานอยู่นั้จะมีรถกระจายเสียง ทำความเข้าใจ ให้ความรู้เริ่องน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัส โควิด19 คือ BKC (benzalkonium chloride) หรือ Sanisol เป็นสารทำความสะอาดที่ใช้ฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในสารทำความสะอาดที่ทางสิงคโปร์แนะนำว่าให้ใช้ได้ในการกำจัดโคโรนาไวรัส โดยความเข้มข้นที่แนะนำคือ 0.05% ซึ่งเป็นระดับความเข้มข้นน้อยสุดที่กำจัดไวรัสได้ และยังคงปลอดภัยต่อการใช้งาน การระเหยออกจากพื้นที่ ใช้เวลาไม่เกินครึ่ง ชม. (ฉีดพ่นเป็นละอองฝอย)

สาเหตุที่เลือกใช้สาร BKC เพราะสามารถออกฤทธิ์ได้ที่ความเข้มข้นต่ำ ซึ่งสามารถผสมน้ำได้ในปริมาณมาก เหมาะกับการสนับสนุนภารกิจการชำระล้างพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ชำระล้างร่างกาย ซึ่งในส่วนของการชำระล้างร่างกาย แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์ 70%

ทั้งนี้ สารอื่นๆ ที่สามารถใช้ในการฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ตามแนวทางของสิงคโปร์ และความเข้มข้นที่ต้องเตรียมเพื่อให้ฆ่าเชื้อได้ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (NaOCl) ซึ่งเป็นส่วนผสมในไฮเตอร์สำหรับผ้าขาว 0.05-0.5% Chloroxylenol ซึ่งเป็นส่วนผสมในเดทตอล 0.12%

 




เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกท่านครับ ไม่ว่าจะเจอเสียงบ่นเสียงด่า ก็ยังก้มหน้าก้มตา ปฏิบัติงานเป็นแนวหน้าเพื่อคนไทยต่อไป #สู้ต่อไปครับ

Credit : https://www.thaipost.net/main/detail/60233  
 


ที่พูดไม่ได้จะด่าแต่ผมกลับเป็นห่วงถึงสถานการณ์ทีเกิดขึ้นครับ

คุณคิดว่าทหารมีความรู้มากแค่ไหนในการออกปฏิบัติการแต่ละครั้ง

การเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าแพ็คให้กับประชาชน หรือแม้แต่คนที่ควรรู้มากที่สุดอย่างท่านนายกแถลงข่าว 4 นาที เอามือจับ mask ลงเท่าที่ผมนับทั้งหมดคือ 20 ครั้ง

ผมว่าอันนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้วครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชินกับ mask ยิ่งใส่ก็ยิ่งรำคาญ

ผมทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ยังเผลอเอามือจับหน้า จับตาออกจะบ่อยหลังสัมผัสคนไข้ คุณคิดว่าบุคคลทั่วไปทำความสะอาดที่ต้องลงไปเสี่ยง จะไม่เอามือมาจับหรอครับ

หมอยังติดเชื้อเลยครับ ขนาดป้องกันอย่างดี ถ้าทหารกลับไปติดกันในกรมกองเองนี่ ไม่อยากจะคิดครับ  


ผมมีทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องที่ปัจจุบันเป็นแพทย์ใหญ่ตามรพ.ใหญ่ๆ ไม่เห็นมีใครออกมาบ่นเลยครับว่าเคสการฉีดถนนมันมีปัญหาทำให้เชื้อยิ่งกระจาย มีแต่บอกว่าช่วยอะไรได้ให้ช่วยกัน ถ้าคุณเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลจริง คุณไม่ควรมีความคิดแบบนี้เลยนะครับ ผมสงสารเพื่อนๆผมมาก วันๆนอนไม่ถึง 3 ชมอะไรที่ลดภาระได้ก็ต้องช่วยๆกันครับ จะแค่เล็กน้อยก็ตาม  


มันมีเรื่องหน้าบ่นกว่านี้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ จนเค้ามองข้ามประเด็นนี้ ซึ่งประเด็นซอยย่อยที่ต้องพูดก็มีอีกเยอะแยะ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่านโทรมาคุยกับผมโน่นนี่นั่น ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็พูดไม่ได้เดี๋ยวหาว่าเฟคนิวอีก เรื่องแบบนี้มันก็เป็นประเด็นที่สำคัญกว่า และโครตสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าประเด็นนี้จะไม่สำคัญ และถ้ารณรงค์ที่จะทำให้ถูก ย่อมดีกว่า  


ผมก็ยิ่งงงอยู่ดีครับ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่าน มันคือเคสรอบนอกที่ไม่ใช่แหล่งระบาดใหญ่สุดในตอนนี้นะครับ วิธีปฎิบัติต่างกันมันก็ถูกแล้วไงครับ เมื่อกี้ผมพึ่งถามโทรเพื่อผมที่เป็นหมออยู่รพ.รามา ด้วยความสงสัย
เรื่องนี้เขาก็บอกว่า ศูนย์บริหารโควิด-19 ที่ปัจจุบันรวบนายแพทย์มากมายก็เป็นคนเสนอเห็นชอบนโยบายนี้เองครับ ถ้าคุณบอกแบบนี้แสดงว่าคุณหมอทั้งคณะผิดหรอครับ

 

 

ผมเถียง Topic เรื่องปัจจุบันครับ เรื่องนี้ผมไม่เถียง เพราะข้อมูลที่ผมได้รับก็มาจากปากเปล่าหมอหน้าด่าน อย่างที่ว่าไม่มี evidence เปิดเผยแน่ช้ัดผมจะไม่พูด

เรื่องแนวทางการบริหารโควิด คุณรู้มากแค่ไหนหรอครับ ปัจจุบันเอา

ไข้ 37.5+ กับอาการติดเชื้อทางทางเดินหายใจ + กับประวัติการ contact กลุ่มเสี่ยงมาใช้

แต่ผู้ติดเชื้อ 10% ไม่มีไข้นะครับ

https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2002032?query=recirc_curatedRelated_article&fbclid=IwAR00oiNGw3RJZTRRgOceiUAP7bqBtBoGHG_Ttos_1gzEQnoSskBxgIs2wcg

แล้วตอนนี้ติดเชื้อเป็นพัน กลุ่มเสี่ยงคือใครหรอครับ แต่แนวทางด้านบนยังเหมือนเดิมนะครับ บอกว่ามันติดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลชุมชน แต่ตอนนี้มัน spread ทั้งประเทศละครับ



ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อภาครัฐครับ
 


เอ้าผมจะรู้ได้ไงครับผมไม่ใช่หมอ ผมก็เน้นย้ำไงครับมันมาจาก คณะศูนย์บริหารโควิด-19 แต่เป็นทีมแพทย์นะครับ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย ผมเชื่อทีมแพทย์ที่ออกสื่อมากกว่ารัฐบาลครับตอนนี้ ถ้าไม่เชื่อแพทย์จะให้เชื่อใครหละครับ

 
 


ก็ใช่ไงครับ ผมโต้ในประเด็นเรื่องของการคัดกรอง คุณบอกว่าเชื้อมันแพร่ไม่ถึงโรงพยาบาลชุมชน คุณยังบอกอีกว่าคุณเชื่อมั่นในทีมแพทย์

คุณจะเชื่อเพราะตัวบุคคลที่ออกสื่อจากภาครัฐก็แล้วแต่คุณครับ ก็ไม่ว่ากัน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มันก็ชัดเจนครับ

https://www.facebook.com/Infectious1234/photos/pcb.918440701919957/918421761921851/?type=3&theater

ผมไม่ได้เถียงตรงนี้ว่ามันเคยใช้ได้ และไม่ได้บอกว่าอาจารย์เหล่านั้นผิด แต่ ณ ปัจจุบัน มันต้องเปลี่ยนแปลงวิธีแล้วครับ เพราะมันระบาดในประเทศแล้ว  


เดี๋ยวนะครับ ทีมแพทย์เฉพาะกิจที่ผมทราบเป็นระดับปรมาจารย์เก่งที่สุดในประเทศแล้วนะครับ ถ้าเขาเสนอ
นโยบายนี้แล้วมันไม่ได้ผลเขาจะเสนอหรอครับ ผมแค่สงสัย แล้วงี้คือให้ผมเชื่อใครหละครับ  


เอาเข้าจริงผมไม่ทราบครับ แต่ผมไม่เชื่อครับ

ตอนเรียนเค้าก็บอกเสมอว่าอย่าเชื่ออาจารย์ซะทุกเรื่อง ไปหา evidence vasedเอาเอง บางทีอาจารย์ก็จับเปิดพร้อมกัน

และผมก็เชื่อว่าอาจารย์เองก็รู้ครับ ความรู้ทางการแพทย์ผมว่าคงไม่มีใครขัดข้อบงแต่ที่ติดขัดคือภาครัฐครับที่ทำไม่ได้
 


ขอโทษนะครับตอนแรกผมว่าคุณมีเหตุผลนะครับ แต่พอคุณพูดแบบนี้ผมว่าคุณเลอะเทอะหละ เป็นที่ mindset
คุณล้วนๆที่มีอคติแล้วครับ

นี้รายชื่อแพทย์ในคณะครับ
1. ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร อดีตอธิการบดี ม.มหิดล และอดีต รมว.ก.สาธารณสุข
2. ศ.นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ อดีต รมช.ก.ศึกษาฯ
3. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์
4. ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ และ นายกแพทยสมาคม
5. ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา

ถ้าจะผิดทั้งคณะประเทศนี้ก็จบสิ้นแล้วหละครับ อันนี้ผมคงต้องยอม
 


เห็นรายชื่อแล้วถ้ายังไม่เชื่ออารมณ์คงเหมือนเราไปยืนตรงหน้าเมสซี่ แล้วบอกว่าเฮ้ที่นายเล่นมันผิด ชั้นจะสอนนายเตะบอลให้เอง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 415
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:58
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
HunJungSun พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:

วันนี้ 23 มี.ค. 63 ณ. สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จตุจักร

กรมการขนส่งทางบกได้รับความอนุเคราะห์จากกองทัพภาคที่ 1 กองทัพบก นำโดยพลตรี ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1 กองทัพบก นำหน่วยทหารมาดำเนินปฏิบัติการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จตุจักร ซึ่งในวันก่อนหน้าได้มีประชาชนเข้าใช้บริการจำนวนมาก ทั้งนี้ การทำการฉีดพ่นนำ้ยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) และสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางมาใช้บริการที่สถานีขนส่งฯ ต่อไป โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. และรองแม่ทัพภาคที่ 1 ร่วมอำนวยการในการปฎิบัติการดังกล่าวด้วย


 




Credit : https://www.dlt.go.th/th/dlt-photo/view.php?_did=761

อย่างข่าวนี้ จขกท. ลองดู ท่านว่า ก็ไม่โอเคเหรอครับ ที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยรวมกำลังกันไปฉีดพ่นที่สถานีขนส่งหมอชิต คือ น้ำยาต่างๆ ก็ต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขมาแล้วส่วนหนึ่ง ถึงจะมาปฏิบัติการแบบนี้ได้

หรือเพียงเพราะพวกเขาเหล่านี้อาสามาปฏิบัติงานโดยผ่านคำสั่งจากนายทหารต่างๆ !??  


ก็คงจะเห็นทหารแล้วมันอดรนทนไม่ไหวต้องขอออกมาตำหนิหน่อยให้มันชื่นใจ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 12265
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 01:59
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
เหมือนคนพูดกับต้นไม้
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 02:00
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
Spoil
eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eGinninG พิมพ์ว่า:
บางทีก็เหนื่อยใจจริงๆคล้ายๆเคสของ CP พอไม่ทำอะไรเลยก็บ่นพอทำก็บ่น
อยากให้เข้าใจตอนนี้นะครับ อะไรที่ช่วยกันได้คนละไม้คนละมือเอาเท่าที่เราทำได้ก็ทำไปเถอะครับ
มาห่วงผลอะไรตอนนี้ ทุกวันนี้ผมซื้อข้าวแจกยามแจกแม่บ้าน มันก็ไม่ช่วยให้เหตุการณ์มันน้อยลงหรอกครับ
แต่อย่างน้อยมันก็ได้ช่วย ใครไม่อุ่นใจผมอุ่นใจครับมาพ่นหน้าบ้านผมเลยยิ่งดี ตอนนี้เรื่องการสร้างขวัญ
กำลังใจในยามที่ผู้คนวิตกกังวลเนี่ยดีที่สุดแล้วครับ
 


สรุปคือไม่มีประโยชน์ แถมยังอาจสร้างผลกระทบจากการแพร่เชื้อกระจายวงกว้าง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาให้ข้อมูลชัดเจน คุณคิดว่าเอาไม้กวาดมากวาดพื้นมันฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไรหรอครับ เผลอ ๆ อาจเป็นการ spread เชื้อจากขยะให้ลอยฟุ้งในอากาศ

คุณคิดว่าการที่ทหารเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าส่งให้ประชาชน มันได้ประโยชน์อะไรหรอครับ นอกจากอาจ spread เชื้อจากมื้อทหารไปยังประชาชน

[b]
ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าไม่มีความรู้อย่างเพียงพอ วิธีที่จะเซฟบุคลากรทางการแพทย์ เซฟทรัพยากรชาติที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ "คืออยู่นิ่ง ๆ ครับ"
 


เขาคงไม่ออกมาพ่นเฉยๆ โดยไม่รู้อะไร หรือกรมควบคุมโรคไม่แนะนำขั้นตอนต่างๆ หรอกครับ

อ้างอิงจาก:
ด้านพล.ต.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผบ.พล.ม.2 รอ. ได้นำกำลังพล ฉีดพ่นล้างสารพิษ บริเวณพื้นที่ แนวถนน พระรามที่ 1 จากแยกปทุมวัน - แยกราชประสงค์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดย มีกำลังจาก ม.1 รอ.,ม.1 พัน.1 รอ.ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน

ขณะที่ทหารจาก ม.พัน.4 พล.1 รอ. ได้นำรถน้ำผสมสาร BKC ฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย บริเวณโดยรอบและสะพานลอย ของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บนสกายวอล์ค สถานีรถไฟฟ้า และใช้ รถนำ M 51 รถน้ำผสมสาร BKC ปล่อยน้ำยาลงบนถนน และทำความสะอาด รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยระหว่างปฏิบัติงานอยู่นั้จะมีรถกระจายเสียง ทำความเข้าใจ ให้ความรู้เริ่องน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัส โควิด19 คือ BKC (benzalkonium chloride) หรือ Sanisol เป็นสารทำความสะอาดที่ใช้ฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในสารทำความสะอาดที่ทางสิงคโปร์แนะนำว่าให้ใช้ได้ในการกำจัดโคโรนาไวรัส โดยความเข้มข้นที่แนะนำคือ 0.05% ซึ่งเป็นระดับความเข้มข้นน้อยสุดที่กำจัดไวรัสได้ และยังคงปลอดภัยต่อการใช้งาน การระเหยออกจากพื้นที่ ใช้เวลาไม่เกินครึ่ง ชม. (ฉีดพ่นเป็นละอองฝอย)

สาเหตุที่เลือกใช้สาร BKC เพราะสามารถออกฤทธิ์ได้ที่ความเข้มข้นต่ำ ซึ่งสามารถผสมน้ำได้ในปริมาณมาก เหมาะกับการสนับสนุนภารกิจการชำระล้างพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ชำระล้างร่างกาย ซึ่งในส่วนของการชำระล้างร่างกาย แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์ 70%

ทั้งนี้ สารอื่นๆ ที่สามารถใช้ในการฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ตามแนวทางของสิงคโปร์ และความเข้มข้นที่ต้องเตรียมเพื่อให้ฆ่าเชื้อได้ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (NaOCl) ซึ่งเป็นส่วนผสมในไฮเตอร์สำหรับผ้าขาว 0.05-0.5% Chloroxylenol ซึ่งเป็นส่วนผสมในเดทตอล 0.12%

 




เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกท่านครับ ไม่ว่าจะเจอเสียงบ่นเสียงด่า ก็ยังก้มหน้าก้มตา ปฏิบัติงานเป็นแนวหน้าเพื่อคนไทยต่อไป #สู้ต่อไปครับ

Credit : https://www.thaipost.net/main/detail/60233  
 


ที่พูดไม่ได้จะด่าแต่ผมกลับเป็นห่วงถึงสถานการณ์ทีเกิดขึ้นครับ

คุณคิดว่าทหารมีความรู้มากแค่ไหนในการออกปฏิบัติการแต่ละครั้ง

การเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าแพ็คให้กับประชาชน หรือแม้แต่คนที่ควรรู้มากที่สุดอย่างท่านนายกแถลงข่าว 4 นาที เอามือจับ mask ลงเท่าที่ผมนับทั้งหมดคือ 20 ครั้ง

ผมว่าอันนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้วครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชินกับ mask ยิ่งใส่ก็ยิ่งรำคาญ

ผมทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ยังเผลอเอามือจับหน้า จับตาออกจะบ่อยหลังสัมผัสคนไข้ คุณคิดว่าบุคคลทั่วไปทำความสะอาดที่ต้องลงไปเสี่ยง จะไม่เอามือมาจับหรอครับ

หมอยังติดเชื้อเลยครับ ขนาดป้องกันอย่างดี ถ้าทหารกลับไปติดกันในกรมกองเองนี่ ไม่อยากจะคิดครับ  


ผมมีทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องที่ปัจจุบันเป็นแพทย์ใหญ่ตามรพ.ใหญ่ๆ ไม่เห็นมีใครออกมาบ่นเลยครับว่าเคสการฉีดถนนมันมีปัญหาทำให้เชื้อยิ่งกระจาย มีแต่บอกว่าช่วยอะไรได้ให้ช่วยกัน ถ้าคุณเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลจริง คุณไม่ควรมีความคิดแบบนี้เลยนะครับ ผมสงสารเพื่อนๆผมมาก วันๆนอนไม่ถึง 3 ชมอะไรที่ลดภาระได้ก็ต้องช่วยๆกันครับ จะแค่เล็กน้อยก็ตาม  


มันมีเรื่องหน้าบ่นกว่านี้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ จนเค้ามองข้ามประเด็นนี้ ซึ่งประเด็นซอยย่อยที่ต้องพูดก็มีอีกเยอะแยะ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่านโทรมาคุยกับผมโน่นนี่นั่น ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็พูดไม่ได้เดี๋ยวหาว่าเฟคนิวอีก เรื่องแบบนี้มันก็เป็นประเด็นที่สำคัญกว่า และโครตสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าประเด็นนี้จะไม่สำคัญ และถ้ารณรงค์ที่จะทำให้ถูก ย่อมดีกว่า  


ผมก็ยิ่งงงอยู่ดีครับ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่าน มันคือเคสรอบนอกที่ไม่ใช่แหล่งระบาดใหญ่สุดในตอนนี้นะครับ วิธีปฎิบัติต่างกันมันก็ถูกแล้วไงครับ เมื่อกี้ผมพึ่งถามโทรเพื่อผมที่เป็นหมออยู่รพ.รามา ด้วยความสงสัย
เรื่องนี้เขาก็บอกว่า ศูนย์บริหารโควิด-19 ที่ปัจจุบันรวบนายแพทย์มากมายก็เป็นคนเสนอเห็นชอบนโยบายนี้เองครับ ถ้าคุณบอกแบบนี้แสดงว่าคุณหมอทั้งคณะผิดหรอครับ

 

 

ผมเถียง Topic เรื่องปัจจุบันครับ เรื่องนี้ผมไม่เถียง เพราะข้อมูลที่ผมได้รับก็มาจากปากเปล่าหมอหน้าด่าน อย่างที่ว่าไม่มี evidence เปิดเผยแน่ช้ัดผมจะไม่พูด

เรื่องแนวทางการบริหารโควิด คุณรู้มากแค่ไหนหรอครับ ปัจจุบันเอา

ไข้ 37.5+ กับอาการติดเชื้อทางทางเดินหายใจ + กับประวัติการ contact กลุ่มเสี่ยงมาใช้

แต่ผู้ติดเชื้อ 10% ไม่มีไข้นะครับ

https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2002032?query=recirc_curatedRelated_article&fbclid=IwAR00oiNGw3RJZTRRgOceiUAP7bqBtBoGHG_Ttos_1gzEQnoSskBxgIs2wcg

แล้วตอนนี้ติดเชื้อเป็นพัน กลุ่มเสี่ยงคือใครหรอครับ แต่แนวทางด้านบนยังเหมือนเดิมนะครับ บอกว่ามันติดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลชุมชน แต่ตอนนี้มัน spread ทั้งประเทศละครับ



ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อภาครัฐครับ
 


เอ้าผมจะรู้ได้ไงครับผมไม่ใช่หมอ ผมก็เน้นย้ำไงครับมันมาจาก คณะศูนย์บริหารโควิด-19 แต่เป็นทีมแพทย์นะครับ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย ผมเชื่อทีมแพทย์ที่ออกสื่อมากกว่ารัฐบาลครับตอนนี้ ถ้าไม่เชื่อแพทย์จะให้เชื่อใครหละครับ

 
 


ก็ใช่ไงครับ ผมโต้ในประเด็นเรื่องของการคัดกรอง คุณบอกว่าเชื้อมันแพร่ไม่ถึงโรงพยาบาลชุมชน คุณยังบอกอีกว่าคุณเชื่อมั่นในทีมแพทย์

คุณจะเชื่อเพราะตัวบุคคลที่ออกสื่อจากภาครัฐก็แล้วแต่คุณครับ ก็ไม่ว่ากัน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มันก็ชัดเจนครับ

https://www.facebook.com/Infectious1234/photos/pcb.918440701919957/918421761921851/?type=3&theater

ผมไม่ได้เถียงตรงนี้ว่ามันเคยใช้ได้ และไม่ได้บอกว่าอาจารย์เหล่านั้นผิด แต่ ณ ปัจจุบัน มันต้องเปลี่ยนแปลงวิธีแล้วครับ เพราะมันระบาดในประเทศแล้ว  


เดี๋ยวนะครับ ทีมแพทย์เฉพาะกิจที่ผมทราบเป็นระดับปรมาจารย์เก่งที่สุดในประเทศแล้วนะครับ ถ้าเขาเสนอ
นโยบายนี้แล้วมันไม่ได้ผลเขาจะเสนอหรอครับ ผมแค่สงสัย แล้วงี้คือให้ผมเชื่อใครหละครับ  


เอาเข้าจริงผมไม่ทราบครับ แต่ผมไม่เชื่อครับ

ตอนเรียนเค้าก็บอกเสมอว่าอย่าเชื่ออาจารย์ซะทุกเรื่อง ไปหา evidence vasedเอาเอง บางทีอาจารย์ก็จับเปิดพร้อมกัน

และผมก็เชื่อว่าอาจารย์เองก็รู้ครับ ความรู้ทางการแพทย์ผมว่าคงไม่มีใครขัดข้อบงแต่ที่ติดขัดคือภาครัฐครับที่ทำไม่ได้
 



ขอโทษนะครับตอนแรกผมว่าคุณมีเหตุผลนะครับ แต่พอคุณพูดแบบนี้ผมว่าคุณเลอะเทอะหละ เป็นที่ mindset
คุณล้วนๆที่มีอคติแล้วครับ

นี้รายชื่อแพทย์ในคณะครับ
1. ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร อดีตอธิการบดี ม.มหิดล และอดีต รมว.ก.สาธารณสุข
2. ศ.นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ อดีต รมช.ก.ศึกษาฯ
3. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์
4. ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ และ นายกแพทยสมาคม
5. ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา

 
 


คุณครับ ผมจะใจเย็นและพยายามให้เหตุผลเป็น quote สุดท้ายแล้วนะ

ผมย้ำอีกที paper ที่เป็นมาตรฐานทั่วโลกอย่าง NEJM เป็นที่ยึดถือและใช้กัน เค้าบอกว่า 90% มีไข้ 10% ไม่มีไข้

แต่การ guideline การส่งตรวจของไทยเน้นไปที่

ไข้ 37.5 + อาการทางเดินหายใจ + ประวัติ contact

เพราะเค้าเชื่อว่ามันยังอยู่เฟส 2 คือยังไม่ระบาดจากคนในประเทศกันเองเกิน 4 ทอด

ประเด็นคือแนวทางเวชปฏิบัติที่ออกมาล่าสุดออกมาวันที่ 21 มีนาคม ยังใช้หลักเกณฑ์ตามเดิม แล้วผมถามว่าคนที่ไม่ได้มีประวัติ หรือคนที่ miss ไข้มันไม่ต้องตรวจใช่ไหม

ในขณะตอนผมอยู่เบลเยียมทุกคนเค้าจับส่งตรวจหมด อาจด้วยเรื่องงบประมาณของเค้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย เราพูดกันในเชิง fact ล้วน ๆ เพราะประเทศเราจนกว่าและทรัพยากรน้อยกว่าจริง ซึ่งผมเข้าใจและเห็นใจรัฐชิบหาย


สิ่งที่ผมพูดผมจะสื่อว่ารัฐต้องเร็วกว่านี้แล้ว มันควรจะประกาศเฟส 3 และถ้าคิดว่างบไม่พอ คนที่มีอาการเหมือนไข้หวัดทั่วไปก็กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน จะไม่ส่งตรวจก็ได้ เราจะได้มีชุดเทสที่พอ ไม่ใช่ยังคงทำตามเดิมต่อไปแบบนี้แล้วบอกว่าทุกคนไม่เป็นไร

ที่ผมพูดผมย้ำอีกทีนะว่าเห็นใจรัฐ ด้านบนผมบอกว่ามันอยู่ที่การบริหารจัดการ ผมไม่เคยโทษเรื่องทรัพยากรและงบประมาณ แต่รัฐมันต้องจัดการแบบวันต่อวันแล้วครับ

ถ้าคุณจะเชื่อจากชื่อ ผมก็ตามใจคุณเหมือนเดิมครับ ผมไม่ได้ไปบังคับใจคุณให้เชื่อตามผมซักหน่อยครับ ผมแค่เอาหลักฐานทางการแพทย์มาพูดให้คุณฟัง
แก้ไขล่าสุดโดย FokuchzRedDevil เมื่อ Tue Mar 24, 2020 02:02, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 370
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 02:01
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
ติ๊กครับ พิมพ์ว่า:
จริงๆไม่ใช่แค่ทหารที่ออกมาทำด้วยซ้ำ
ยังมีเจ้าหน้าที่ของทาง กทม มาร่วมในปฏิบัติการนี้เหมือนกัน

แต่เลือกที่จะไม่พูด เลือกเล็งคำถามยิงตรงไปที่ทหารอย่างเดียว  


เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เป็นเป้าสังคมอะแหละทหาร

ผมว่าอย่างน้อยการออกมาทำอะไรบ้างมันก็ดีครับ
อย่างเหตุการณ์นี้มันอาจจะมีบางกระบวนการไม่ถูกไม่ควรบ้าง
แต่เราปรับกันได้ครับ มันไม่ใช่ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะไม่ถูกทั้งหมดนี่เนอะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 42000
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 02:02
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
sukiojenny พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวผมโอเคนะ ไม่ใช่แค่พ่นน้ำยา ยังมีเช็ดมีทำความสะอาดอะไรต่างๆด้วย

คนไทยมีบางส่วนนะที่มักง่าย เช่นชอบซุกซองลูกอม ทิชชู่ ไว้ตามโต๊ะเก้าอี้ พนักพิงรถเมล์ และอีกมากมาย

บางคนโรคจิตรึเปล่า อย่างคลิปชาวต่างชาติเอาน้ำลายป้ายตามลิฟท์ ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิดคงแย่

พอโควิด19 ระบาด พฤติกรรมมักง่ายอาจทำให้พฤติกรรมมักง่ายทำให้เชื้อแพร่กระจายมากขึ้นได้

ลองดูเหตุการณ์คนแห่ไปหมอชิตเมื่อวันก่อน กว่าจะเดินทางไปกระจุกกันตรงนั้นต้องผ่านเส้นทางไหนบ้าง แล้วเห็นพฤติกรรมหลายคนไม่ได้ใส่ใจเรื่องเว้นระยะห่าง หรือใส่แมสด้วยซ้ำ

เพราะงั้นผมว่าทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆนะ  

ผมก็เชื่อแบบนั้นนะ เมื่อกี้ลองไปค้นข้อมูลดูหลายประเทศก็ออกมาก็แนวๆ ตวามร่วมมือหลายหน่วยงานทั้งนั้นเพียงแต่คุณภาพของบุคคลากรเขาคงดีกว่าเรา...ทีมแพทย์ที่ปรึกษาจากที่ดูแล้วคิดว่าไม่น่านะที่จะหลุดไม่อัพเดท papers ไหนจะทีมเบื้องหลังอีก..ถึงตอนนี้หลังจากได้อ่านเพิ่มเองแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นมติที่ออกมานั่นแหละ...มติที่ประชุมคงเห็นพ้องว่าได้ประโยชน์มากกว่า
ส่วนการจัดการที่บกพร่องบ้าง ก็ต้องแนะนำแก้ไขกันไป..
สรุปผมเห็นด้วยว่าควรทำ เพราะไม่มี paper ไหนบอกว่าถึงเฟสสามแล้วไม่ต้องคลีนถึงจะบอกว่าบ้านเราร้อนก็เถอะนะ..
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 415
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 02:03
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
ZdcFirz พิมพ์ว่า:
ติ๊กครับ พิมพ์ว่า:
จริงๆไม่ใช่แค่ทหารที่ออกมาทำด้วยซ้ำ
ยังมีเจ้าหน้าที่ของทาง กทม มาร่วมในปฏิบัติการนี้เหมือนกัน

แต่เลือกที่จะไม่พูด เลือกเล็งคำถามยิงตรงไปที่ทหารอย่างเดียว  


เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เป็นเป้าสังคมอะแหละทหาร

ผมว่าอย่างน้อยการออกมาทำอะไรบ้างมันก็ดีครับ
อย่างเหตุการณ์นี้มันอาจจะมีบางกระบวนการไม่ถูกไม่ควรบ้าง
แต่เราปรับกันได้ครับ มันไม่ใช่ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะไม่ถูกทั้งหมดนี่เนอะ  


เขาถุงมีสุภาษิตไงครับ
มือไม่พาย เอา........ คีย์บอร์ดราน้ำ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 May 2011
ตอบ: 294
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 02:03
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
[b]eGinninG พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eGinninG พิมพ์ว่า:
บางทีก็เหนื่อยใจจริงๆคล้ายๆเคสของ CP พอไม่ทำอะไรเลยก็บ่นพอทำก็บ่น
อยากให้เข้าใจตอนนี้นะครับ อะไรที่ช่วยกันได้คนละไม้คนละมือเอาเท่าที่เราทำได้ก็ทำไปเถอะครับ
มาห่วงผลอะไรตอนนี้ ทุกวันนี้ผมซื้อข้าวแจกยามแจกแม่บ้าน มันก็ไม่ช่วยให้เหตุการณ์มันน้อยลงหรอกครับ
แต่อย่างน้อยมันก็ได้ช่วย ใครไม่อุ่นใจผมอุ่นใจครับมาพ่นหน้าบ้านผมเลยยิ่งดี ตอนนี้เรื่องการสร้างขวัญ
กำลังใจในยามที่ผู้คนวิตกกังวลเนี่ยดีที่สุดแล้วครับ
 


สรุปคือไม่มีประโยชน์ แถมยังอาจสร้างผลกระทบจากการแพร่เชื้อกระจายวงกว้าง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาให้ข้อมูลชัดเจน คุณคิดว่าเอาไม้กวาดมากวาดพื้นมันฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไรหรอครับ เผลอ ๆ อาจเป็นการ spread เชื้อจากขยะให้ลอยฟุ้งในอากาศ

คุณคิดว่าการที่ทหารเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าส่งให้ประชาชน มันได้ประโยชน์อะไรหรอครับ นอกจากอาจ spread เชื้อจากมื้อทหารไปยังประชาชน

[b]
ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าไม่มีความรู้อย่างเพียงพอ วิธีที่จะเซฟบุคลากรทางการแพทย์ เซฟทรัพยากรชาติที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ "คืออยู่นิ่ง ๆ ครับ"
 


เขาคงไม่ออกมาพ่นเฉยๆ โดยไม่รู้อะไร หรือกรมควบคุมโรคไม่แนะนำขั้นตอนต่างๆ หรอกครับ

อ้างอิงจาก:
ด้านพล.ต.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผบ.พล.ม.2 รอ. ได้นำกำลังพล ฉีดพ่นล้างสารพิษ บริเวณพื้นที่ แนวถนน พระรามที่ 1 จากแยกปทุมวัน - แยกราชประสงค์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดย มีกำลังจาก ม.1 รอ.,ม.1 พัน.1 รอ.ร่วมกับ สำนักงานเขตปทุมวัน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน

ขณะที่ทหารจาก ม.พัน.4 พล.1 รอ. ได้นำรถน้ำผสมสาร BKC ฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย บริเวณโดยรอบและสะพานลอย ของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บนสกายวอล์ค สถานีรถไฟฟ้า และใช้ รถนำ M 51 รถน้ำผสมสาร BKC ปล่อยน้ำยาลงบนถนน และทำความสะอาด รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยระหว่างปฏิบัติงานอยู่นั้จะมีรถกระจายเสียง ทำความเข้าใจ ให้ความรู้เริ่องน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัส โควิด19 คือ BKC (benzalkonium chloride) หรือ Sanisol เป็นสารทำความสะอาดที่ใช้ฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในสารทำความสะอาดที่ทางสิงคโปร์แนะนำว่าให้ใช้ได้ในการกำจัดโคโรนาไวรัส โดยความเข้มข้นที่แนะนำคือ 0.05% ซึ่งเป็นระดับความเข้มข้นน้อยสุดที่กำจัดไวรัสได้ และยังคงปลอดภัยต่อการใช้งาน การระเหยออกจากพื้นที่ ใช้เวลาไม่เกินครึ่ง ชม. (ฉีดพ่นเป็นละอองฝอย)

สาเหตุที่เลือกใช้สาร BKC เพราะสามารถออกฤทธิ์ได้ที่ความเข้มข้นต่ำ ซึ่งสามารถผสมน้ำได้ในปริมาณมาก เหมาะกับการสนับสนุนภารกิจการชำระล้างพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ชำระล้างร่างกาย ซึ่งในส่วนของการชำระล้างร่างกาย แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์ 70%

ทั้งนี้ สารอื่นๆ ที่สามารถใช้ในการฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ตามแนวทางของสิงคโปร์ และความเข้มข้นที่ต้องเตรียมเพื่อให้ฆ่าเชื้อได้ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (NaOCl) ซึ่งเป็นส่วนผสมในไฮเตอร์สำหรับผ้าขาว 0.05-0.5% Chloroxylenol ซึ่งเป็นส่วนผสมในเดทตอล 0.12%

 




เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกท่านครับ ไม่ว่าจะเจอเสียงบ่นเสียงด่า ก็ยังก้มหน้าก้มตา ปฏิบัติงานเป็นแนวหน้าเพื่อคนไทยต่อไป #สู้ต่อไปครับ

Credit : https://www.thaipost.net/main/detail/60233  
 


ที่พูดไม่ได้จะด่าแต่ผมกลับเป็นห่วงถึงสถานการณ์ทีเกิดขึ้นครับ

คุณคิดว่าทหารมีความรู้มากแค่ไหนในการออกปฏิบัติการแต่ละครั้ง

การเอามือจับ mask ด้วยมือเปล่าแพ็คให้กับประชาชน หรือแม้แต่คนที่ควรรู้มากที่สุดอย่างท่านนายกแถลงข่าว 4 นาที เอามือจับ mask ลงเท่าที่ผมนับทั้งหมดคือ 20 ครั้ง

ผมว่าอันนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้วครับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชินกับ mask ยิ่งใส่ก็ยิ่งรำคาญ

ผมทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ยังเผลอเอามือจับหน้า จับตาออกจะบ่อยหลังสัมผัสคนไข้ คุณคิดว่าบุคคลทั่วไปทำความสะอาดที่ต้องลงไปเสี่ยง จะไม่เอามือมาจับหรอครับ

หมอยังติดเชื้อเลยครับ ขนาดป้องกันอย่างดี ถ้าทหารกลับไปติดกันในกรมกองเองนี่ ไม่อยากจะคิดครับ  


ผมมีทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องที่ปัจจุบันเป็นแพทย์ใหญ่ตามรพ.ใหญ่ๆ ไม่เห็นมีใครออกมาบ่นเลยครับว่าเคสการฉีดถนนมันมีปัญหาทำให้เชื้อยิ่งกระจาย มีแต่บอกว่าช่วยอะไรได้ให้ช่วยกัน ถ้าคุณเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลจริง คุณไม่ควรมีความคิดแบบนี้เลยนะครับ ผมสงสารเพื่อนๆผมมาก วันๆนอนไม่ถึง 3 ชมอะไรที่ลดภาระได้ก็ต้องช่วยๆกันครับ จะแค่เล็กน้อยก็ตาม  


มันมีเรื่องหน้าบ่นกว่านี้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ จนเค้ามองข้ามประเด็นนี้ ซึ่งประเด็นซอยย่อยที่ต้องพูดก็มีอีกเยอะแยะ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่านโทรมาคุยกับผมโน่นนี่นั่น ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็พูดไม่ได้เดี๋ยวหาว่าเฟคนิวอีก เรื่องแบบนี้มันก็เป็นประเด็นที่สำคัญกว่า และโครตสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าประเด็นนี้จะไม่สำคัญ และถ้ารณรงค์ที่จะทำให้ถูก ย่อมดีกว่า  


ผมก็ยิ่งงงอยู่ดีครับ หมอโรงพยาบาลชุมชนหน้าด่าน มันคือเคสรอบนอกที่ไม่ใช่แหล่งระบาดใหญ่สุดในตอนนี้นะครับ วิธีปฎิบัติต่างกันมันก็ถูกแล้วไงครับ เมื่อกี้ผมพึ่งถามโทรเพื่อผมที่เป็นหมออยู่รพ.รามา ด้วยความสงสัย
เรื่องนี้เขาก็บอกว่า ศูนย์บริหารโควิด-19 ที่ปัจจุบันรวบนายแพทย์มากมายก็เป็นคนเสนอเห็นชอบนโยบายนี้เองครับ ถ้าคุณบอกแบบนี้แสดงว่าคุณหมอทั้งคณะผิดหรอครับ

 

 

ผมเถียง Topic เรื่องปัจจุบันครับ เรื่องนี้ผมไม่เถียง เพราะข้อมูลที่ผมได้รับก็มาจากปากเปล่าหมอหน้าด่าน อย่างที่ว่าไม่มี evidence เปิดเผยแน่ช้ัดผมจะไม่พูด

เรื่องแนวทางการบริหารโควิด คุณรู้มากแค่ไหนหรอครับ ปัจจุบันเอา

ไข้ 37.5+ กับอาการติดเชื้อทางทางเดินหายใจ + กับประวัติการ contact กลุ่มเสี่ยงมาใช้

แต่ผู้ติดเชื้อ 10% ไม่มีไข้นะครับ

https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2002032?query=recirc_curatedRelated_article&fbclid=IwAR00oiNGw3RJZTRRgOceiUAP7bqBtBoGHG_Ttos_1gzEQnoSskBxgIs2wcg

แล้วตอนนี้ติดเชื้อเป็นพัน กลุ่มเสี่ยงคือใครหรอครับ แต่แนวทางด้านบนยังเหมือนเดิมนะครับ บอกว่ามันติดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลชุมชน แต่ตอนนี้มัน spread ทั้งประเทศละครับ



ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อภาครัฐครับ
 


เอ้าผมจะรู้ได้ไงครับผมไม่ใช่หมอ ผมก็เน้นย้ำไงครับมันมาจาก คณะศูนย์บริหารโควิด-19 แต่เป็นทีมแพทย์นะครับ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย ผมเชื่อทีมแพทย์ที่ออกสื่อมากกว่ารัฐบาลครับตอนนี้ ถ้าไม่เชื่อแพทย์จะให้เชื่อใครหละครับ

 
 


ก็ใช่ไงครับ ผมโต้ในประเด็นเรื่องของการคัดกรอง คุณบอกว่าเชื้อมันแพร่ไม่ถึงโรงพยาบาลชุมชน คุณยังบอกอีกว่าคุณเชื่อมั่นในทีมแพทย์

คุณจะเชื่อเพราะตัวบุคคลที่ออกสื่อจากภาครัฐก็แล้วแต่คุณครับ ก็ไม่ว่ากัน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มันก็ชัดเจนครับ

https://www.facebook.com/Infectious1234/photos/pcb.918440701919957/918421761921851/?type=3&theater

ผมไม่ได้เถียงตรงนี้ว่ามันเคยใช้ได้ และไม่ได้บอกว่าอาจารย์เหล่านั้นผิด แต่ ณ ปัจจุบัน มันต้องเปลี่ยนแปลงวิธีแล้วครับ เพราะมันระบาดในประเทศแล้ว  


เดี๋ยวนะครับ ทีมแพทย์เฉพาะกิจที่ผมทราบเป็นระดับปรมาจารย์เก่งที่สุดในประเทศแล้วนะครับ ถ้าเขาเสนอ
นโยบายนี้แล้วมันไม่ได้ผลเขาจะเสนอหรอครับ ผมแค่สงสัย แล้วงี้คือให้ผมเชื่อใครหละครับ  


เอาเข้าจริงผมไม่ทราบครับ แต่ผมไม่เชื่อครับ

ตอนเรียนเค้าก็บอกเสมอว่าอย่าเชื่ออาจารย์ซะทุกเรื่อง ไปหา evidence vasedเอาเอง บางทีอาจารย์ก็จับเปิดพร้อมกัน

และผมก็เชื่อว่าอาจารย์เองก็รู้ครับ ความรู้ทางการแพทย์ผมว่าคงไม่มีใครขัดข้อบงแต่ที่ติดขัดคือภาครัฐครับที่ทำไม่ได้
 



ขอโทษนะครับตอนแรกผมว่าคุณมีเหตุผลนะครับ แต่พอคุณพูดแบบนี้ผมว่าคุณเลอะเทอะหละ เป็นที่ mindset
คุณล้วนๆที่มีอคติแล้วครับ

นี้รายชื่อแพทย์ในคณะครับ
1. ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร อดีตอธิการบดี ม.มหิดล และอดีต รมว.ก.สาธารณสุข
2. ศ.นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ อดีต รมช.ก.ศึกษาฯ
3. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์
4. ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ และ นายกแพทยสมาคม
5. ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา

 
 


คุณครับ ผมจะใจเย็นและพยายามให้เหตุผลเป็น quote สุดท้ายแล้วนะ

ผมย้ำอีกที paper ที่เป็นมาตรฐานทั่วโลกอย่าง NEJM เป็นที่ยึดถือและใช้กัน เค้าบอกว่า 90% มีไข้ 10% ไม่มีไข้

แต่การ guideline การส่งตรวจของไทยเน้นไปที่

ไข้ 37.5 + อาการทางเดินหายใจ + ประวัติ contact

เพราะเค้าเชื่อว่ามันยังอยู่เฟส 2 คือยังไม่ระบาดจากคนในประเทศกันเองเกิน 4 ทอด

ประเด็นคือแนวทางเวชปฏิบัติที่ออกมาล่าสุดออกมาวันที่ 21 มีนาคม ยังใช้หลักเกณฑ์ตามเดิม แล้วผมถามว่าคนที่ไม่ได้มีประวัติ หรือคนที่ miss ไข้มันไม่ต้องตรวจใช่ไหม

ในขณะตอนผมอยู่เบลเยียมทุกคนเค้าจับส่งตรวจหมด อาจด้วยเรื่องงบประมาณของเค้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย เราพูดกันในเชิง fact ล้วน ๆ เพราะประเทศเราจนกว่าและทรัพยากรน้อยกว่าจริง ซึ่งผมเข้าใจและเห็นใจรัฐชิบหาย


สิ่งที่ผมพูดผมจะสื่อว่ารัฐต้องเร็วกว่านี้แล้ว มันควรจะประกาศเฟส 3 และถ้าคิดว่างบไม่พอ คนที่มีอาการเหมือนไข้หวัดทั่วไปก็กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน จะไม่ส่งตรวจก็ได้ เราจะได้มีชุดเทสที่พอ ไม่ใช่ยังคงทำตามเดิมต่อไปแบบนี้แล้วบอกว่าทุกคนไม่เป็นไร

ที่ผมพูดผมย้ำอีกทีนะว่าเห็นใจรัฐ ด้านบนผมบอกว่ามันอยู่ที่การบริหารจัดการ ผมไม่เคยโทษเรื่องทรัพยากรและงบประมาณ แต่รัฐมันต้องจัดการแบบวันต่อวันแล้วครับ

ถ้าคุณจะเชื่อจากชื่อ ผมก็ตามใจคุณเหมือนเดิมครับ  


ขอโทษนะครับ ช่วยกลับไปที่ต้นกระทู้ทีครับสรุปคุณต้องการถามอะไรกันแน่ครับ
มันเกี่ยวอะไรกับที่คุณพิมพ์มาครับคุณแค่ถามว่าควรฉีดหรือไม่ควรฉีดไม่ใช่หรอครับ
ผมก็แค่บอกว่านโยบายออกจากทีมคณะแพทย์ เกี่ยวอะไรกับอาการของโรคครับ งง
แก้ไขล่าสุดโดย [B]eGinninG เมื่อ Tue Mar 24, 2020 02:04, ทั้งหมด 1 ครั้ง
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 9, 10, 11
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel