BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 9, 10, 11
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: SuperDry
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Dec 2006
ตอบ: 1446
ที่อยู่: Stanley Park !!
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 09:53
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eMiiNeNt พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
อันนี้คือผมไม่ทราบจริง ๆ นะ

มาเทียบข้อดีข้อเสียกัน

ขอจากข้อเสียก่อนเลย

ข้อเสียคือ
1. ทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องวมกันเป็นหมู่คณะ การอยู่ในกรมกอง ณ เวลานี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะป้องกันการระบาดเป็นหมู่คณะแล้วครับ
2. การออกมาพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ประโยชน์น้อยเอามาก ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เลย transmision route ที่สำคัญที่สุดคือการสัมผัสสารคัดหลั่งครับ (จากข้อมูลมาตรฐานในปัจจุบัน) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อใช้ แล้วนำเข้าสู่ทางปาก จมูก หรือตา อายุของเชื้อไวรัสนั้นก็มีอายุเฉลี่ยที่น้อยมาก ๆ



อย่าโฟกัสเฉพาะเวลาตายอย่างเดียว ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเชื้อก็จะยิ่งอ่อนแอลง ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น บวกกับภูมิอากาศบ้านเราเป็นอากาศร้อน จึงคาดว่าเวลาที่เชื้ออยู่ได้น่าจะลดลงกว่านี้ครับ จากการเปรียบเทียบของอุณหภูมิด้านบน (77F=25C)

https://www.cnbc.com/2020/03/16/who-considers-airborne-precautions-for-medical-staff-after-study-shows-coronavirus-can-survive-in-air.html

ส่วนถ้ามีคนจะเถียงผมโดยเอารูปเมืองนอกมาทำ ผมว่าเมืองนอกเค้าไม่แรนด้อมแบบนี้นะครับ เค้าพ่นบริเวณพื้นที่ที่คิดว่ามีคนติดเชื้อจริง ๆ แล้ว lock down อีกอย่างคือเราควรพูดคุยกันด้วย evidence based ไม่ใช่ด้วยวิธีว่าเมืองนอกทำต้องดีครับ

3. เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ด้วยครับ


ข้อดี

1. ฆ่าเชื้อโรคได้
2. ภาพลักษณ์ดีขึ้น



ผมว่าการออกมาครั้งนี้มัน เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ จริง ๆ มีหน้าที่ป้องกันประเทศก็ทำไปเหอะครับ งานอื่น ๆ ให้คนที่เค้าทำตามหน้าที่ทำเหอะ


 


สารคัดหลั่งที่ว่ามันก็สามารถไปติดตามที่นั่ง หรือ อื่นๆ ที่คนอื่นจะเอามือไปจับ มันก็อยู่ได้หลาย ชั่วโมง เหมือนกันใช่ไหมครับ ตามตารางที่บอกมา แสดงว่าการที่ออกมาฉีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็น่าจะช่วยลดการกระจายของโรคนี้ได้อยู่นะครับ แล้วที่บอก มีหน้าที่ป้องกันประเทศ แล้วที่ทำแบบนี้ มันไม่ใช่การป้องกันประเทศหลอครับ ป้องกันให้คนติดน้อยลง เราไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาจับต่อจะมีการป้องกันตัวเอง ล้างมือตัวเอง หรือไม่จับหน้าตัวเองหรือเปล่า แล้วตอนนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการยิงกัน เอาทหารออกมาช่วยเป็นมดงาน ก็ดีแล้วหรือเปล่าครับ  



ประการแรก สารคัดหลั่งที่ออกมาส่วนใหญ่เกาะตามพื้นผิวได้ไม่นานครับ ดังตารางที่ได้กล่าวไป ทางหลักของการติดมักเกิดจากการสัมผัสกันทางตรง การไปกวาดพื้น พ่นน้ำยาบนพื้นถนน มันไม่มีใครหยิบจากพื้นแล้วมาแปะหน้าครับ เพราะฉะนั้นโอกาสการเกิดตรงนี้น้อย ถ้าคุณได้อ่านที่ผมพิมพ์ไป ผมไม่มีปัญหากับการทำความสะอาดครับ แต่บอกว่าาควรทำกรณีเฉพาะที่ที่เป็นแหล่างระบาด อย่างกรณีที่เกิดในเกาหลีใต้เป็นต้น ไม่ใช่แรนด้อมไล่ฉีดบนพื้นถนนครับยิ่งเวลาผ่านไป เชื้อไม่ตายจริงแต่ก่อโรคน้อยลงมากๆๆๆๆ ตามข้อมูลจาก CDC แปลว่าถ้าคุณจะฆ่าเชื้อโรค ผิวสัมผัสสัมผัสปุ๊ปต้องฆ่าเลย การที่คุณออกมาพ่นเที่ยงคืนแล้วประชาชนออกมาสัมผัสพรุ่งนี้เช้า ย่อมไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ปล่อยเชื้อกับผู้รับชื้อส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางวันในช่วง period สั้น ๆ แต่คุณมาฆ่าเชื้อตอนกลางคืน เรื่องนี้ไม่ขอตอบแล้วครับ ถ้าคุณไม่ quote ผมก็ไม่ตอบแล้วครับ เพราะพิมพ์ไปหมดแล้วในกระทู้

ประการที่สอง หน้าที่ของทหารคือเรื่องความมั่นคงครับ อันนี้ไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีน แต่ถ้าใช้คำว่าป้องกันประเทศเป็นเรื่องแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ก็ไปช่วยชาวนาปลูกข้าวด้วยครับ เพราะถ้าอาหารไม่มีประเทศยับแน่ ไปช่วยนายทุนเล่นหุ้นด้วยครับ เพราะถ้าตลาดหุ้นพัง ประเทศก็ยับ ผมว่าหน้าที่มันชัดอยู่แล้วนะครับว่าใครทำอะไร


 




ทำไมพอเป็นที่เกาหลีใต้ทำ คุณ จขกท. กลับเห็นด้วย !!?



แต่ทำไมพอเป็นที่เมืองไทยทำ (โดยทหารอาสามารับหน้าที่ตรงส่วนนี้ผ่านกรมควบคุมโรค)
คุณ จขกท. ถึงมีแต่ อคติ ข้อเสีย ความคิดด้านลบ เต็มไปหมด

ไม่ค่อยเข้าใจ ตรรกะ ของ จขกท. ในตรงจุดนี้ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 29464
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 09:53
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
HunJungSun พิมพ์ว่า:
chonbodee พิมพ์ว่า:
แบ่งชุด PPE ที่ ใส่ มาให้ รพ ใช้มั่งสิครับ

นี่ใส่กันสองคน ลูกน้องที่เหลือไม่เห็นใส่เลย  







คงกำลังทยอยๆ ไปนะครับ อันไหนช่วยได้ก็ช่วยๆ กัน #สู้ไปด้วยกันครับ  


ครับ ผมแค่แปลกใจ เฉยๆ

ในขณะที่บาง รพ ขาดชุดจนต้อง DIY ทำชุด ทำ face shield ใช้กันเอง

แม้แต่ รพใหญ่ๆ ยังต้องขอรับบริจาค

แต่ทหารกลับเอาชุด PPE มาใช้งานในรูปแบบที่ใส่กันแค่สองคน ลงพื้นที่

โดยการฉีดพ่นในพื้นที่พวกนี้ไม่ได้มีความเสี่ยง โดยความเสี่ยงแทบจะเป็น 0 เทียบกับ รพ

หัวหน้าใส่เต็มยศ โดยที่ลูกน้องใส่ชุดจิตอาสา

ในฐานะที่ผมทำงาน รพ ผมเลยไม่ค่อยชอบใจที่มีรูปภาพแบบนี้ออกมา

หมอที่ต้องไปเจอคนไข้ ผลเลือดเป็น positive ใน รพ ยังใส่น้อยกว่านี้อีก
แก้ไขล่าสุดโดย chonbodee เมื่อ Tue Mar 24, 2020 09:54, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 29464
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 09:54
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
ซ้ำ
แก้ไขล่าสุดโดย chonbodee เมื่อ Tue Mar 24, 2020 09:54, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 09:58
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eMiiNeNt พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
อันนี้คือผมไม่ทราบจริง ๆ นะ

มาเทียบข้อดีข้อเสียกัน

ขอจากข้อเสียก่อนเลย

ข้อเสียคือ
1. ทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องวมกันเป็นหมู่คณะ การอยู่ในกรมกอง ณ เวลานี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะป้องกันการระบาดเป็นหมู่คณะแล้วครับ
2. การออกมาพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ประโยชน์น้อยเอามาก ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เลย transmision route ที่สำคัญที่สุดคือการสัมผัสสารคัดหลั่งครับ (จากข้อมูลมาตรฐานในปัจจุบัน) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อใช้ แล้วนำเข้าสู่ทางปาก จมูก หรือตา อายุของเชื้อไวรัสนั้นก็มีอายุเฉลี่ยที่น้อยมาก ๆ



อย่าโฟกัสเฉพาะเวลาตายอย่างเดียว ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเชื้อก็จะยิ่งอ่อนแอลง ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น บวกกับภูมิอากาศบ้านเราเป็นอากาศร้อน จึงคาดว่าเวลาที่เชื้ออยู่ได้น่าจะลดลงกว่านี้ครับ จากการเปรียบเทียบของอุณหภูมิด้านบน (77F=25C)

https://www.cnbc.com/2020/03/16/who-considers-airborne-precautions-for-medical-staff-after-study-shows-coronavirus-can-survive-in-air.html

ส่วนถ้ามีคนจะเถียงผมโดยเอารูปเมืองนอกมาทำ ผมว่าเมืองนอกเค้าไม่แรนด้อมแบบนี้นะครับ เค้าพ่นบริเวณพื้นที่ที่คิดว่ามีคนติดเชื้อจริง ๆ แล้ว lock down อีกอย่างคือเราควรพูดคุยกันด้วย evidence based ไม่ใช่ด้วยวิธีว่าเมืองนอกทำต้องดีครับ

3. เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ด้วยครับ


ข้อดี

1. ฆ่าเชื้อโรคได้
2. ภาพลักษณ์ดีขึ้น



ผมว่าการออกมาครั้งนี้มัน เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ จริง ๆ มีหน้าที่ป้องกันประเทศก็ทำไปเหอะครับ งานอื่น ๆ ให้คนที่เค้าทำตามหน้าที่ทำเหอะ


 


สารคัดหลั่งที่ว่ามันก็สามารถไปติดตามที่นั่ง หรือ อื่นๆ ที่คนอื่นจะเอามือไปจับ มันก็อยู่ได้หลาย ชั่วโมง เหมือนกันใช่ไหมครับ ตามตารางที่บอกมา แสดงว่าการที่ออกมาฉีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็น่าจะช่วยลดการกระจายของโรคนี้ได้อยู่นะครับ แล้วที่บอก มีหน้าที่ป้องกันประเทศ แล้วที่ทำแบบนี้ มันไม่ใช่การป้องกันประเทศหลอครับ ป้องกันให้คนติดน้อยลง เราไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาจับต่อจะมีการป้องกันตัวเอง ล้างมือตัวเอง หรือไม่จับหน้าตัวเองหรือเปล่า แล้วตอนนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการยิงกัน เอาทหารออกมาช่วยเป็นมดงาน ก็ดีแล้วหรือเปล่าครับ  



ประการแรก สารคัดหลั่งที่ออกมาส่วนใหญ่เกาะตามพื้นผิวได้ไม่นานครับ ดังตารางที่ได้กล่าวไป ทางหลักของการติดมักเกิดจากการสัมผัสกันทางตรง การไปกวาดพื้น พ่นน้ำยาบนพื้นถนน มันไม่มีใครหยิบจากพื้นแล้วมาแปะหน้าครับ เพราะฉะนั้นโอกาสการเกิดตรงนี้น้อย ถ้าคุณได้อ่านที่ผมพิมพ์ไป ผมไม่มีปัญหากับการทำความสะอาดครับ แต่บอกว่าาควรทำกรณีเฉพาะที่ที่เป็นแหล่างระบาด อย่างกรณีที่เกิดในเกาหลีใต้เป็นต้น ไม่ใช่แรนด้อมไล่ฉีดบนพื้นถนนครับยิ่งเวลาผ่านไป เชื้อไม่ตายจริงแต่ก่อโรคน้อยลงมากๆๆๆๆ ตามข้อมูลจาก CDC แปลว่าถ้าคุณจะฆ่าเชื้อโรค ผิวสัมผัสสัมผัสปุ๊ปต้องฆ่าเลย การที่คุณออกมาพ่นเที่ยงคืนแล้วประชาชนออกมาสัมผัสพรุ่งนี้เช้า ย่อมไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ปล่อยเชื้อกับผู้รับชื้อส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางวันในช่วง period สั้น ๆ แต่คุณมาฆ่าเชื้อตอนกลางคืน เรื่องนี้ไม่ขอตอบแล้วครับ ถ้าคุณไม่ quote ผมก็ไม่ตอบแล้วครับ เพราะพิมพ์ไปหมดแล้วในกระทู้

ประการที่สอง หน้าที่ของทหารคือเรื่องความมั่นคงครับ อันนี้ไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีน แต่ถ้าใช้คำว่าป้องกันประเทศเป็นเรื่องแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ก็ไปช่วยชาวนาปลูกข้าวด้วยครับ เพราะถ้าอาหารไม่มีประเทศยับแน่ ไปช่วยนายทุนเล่นหุ้นด้วยครับ เพราะถ้าตลาดหุ้นพัง ประเทศก็ยับ ผมว่าหน้าที่มันชัดอยู่แล้วนะครับว่าใครทำอะไร


 




ทำไมพอเป็นที่เกาหลีใต้ทำ คุณ จขกท. กลับเห็นด้วย !!?



แต่ทำไมพอเป็นที่เมืองไทยทำ (โดยทหารอาสามารับหน้าที่ตรงส่วนนี้ผ่านกรมควบคุมโรค)
คุณ จขกท. ถึงมีแต่ อคติ ข้อเสีย ความคิดด้านลบ เต็มไปหมด

ไม่ค่อยเข้าใจ ตรรกะ ของ จขกท. ในตรงจุดนี้ครับ
 
 


คุณไล่อ่านมาทุกหน้าทุกกระทู้ ผมว่าผมเขียนไปชัดเจนมากเลยนะครับ

ประการแรก ผมไม่เห็นด้วยกับการทำความสะอาดแบบนี้ แต่ในกรณีที่ทำแบบเกาหล่ีใต้ที่ lock down ตึกแล้วฆ่าเชื้อจากกรณีพบผู้ติดเชื้อ ณ ที่นั้น ๆ ผมเห็นด้วยครับ ถ้าเกาหลีใต้พ่นที่สาธารณะผมก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีจาก fact ที่กล่าวไป

ประการที่สอง ผมก็ยังเขียนย้ำอีกครับ ในต้นกระทู้เลย ว่าไม่ว่าใครจะทำยังไงก็ตาม อยากให้ยึด evidence based เป็นหลักครับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครทำอย่างไร มันขึ้นอยู่กับว่ามันมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งที่ทำไหม

ประการที่สาม ผมไม่มั่นใจว่าทำไมกรมควบคุมโรคถึง approve การใส่ชุด PPE พ่นแบบนั้น คือไม่รู้จริง ๆ เพราะตามโรงพยาบาลมันยังขาดชุด PPE ให้หมอใส่อยู่เลยครับ อันนี้ผมเห็นแล้วยิ่งไม่สบายใจเข้าไปอีกถ้ามันมาจากกรมควบคุมโรคจริง ๆ

เพิ่มเติมคือผมไม่รู้หรอกว่าไอที่เค้าเขียนว่าส่งไปตามที่ต่าง ๆ แล้วแปะหน้าเฟสองค์กรทำดี จะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะพิมพ์เฉย ๆ แบบหน้ากากว่าไม่ขาด แต่จริง ๆ ก็ไม่มีให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือหน้างานของมันขาดอยู่ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย FokuchzRedDevil เมื่อ Tue Mar 24, 2020 10:12, ทั้งหมด 3 ครั้ง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 09:59
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
Spoil
chonbodee พิมพ์ว่า:
HunJungSun พิมพ์ว่า:
chonbodee พิมพ์ว่า:
แบ่งชุด PPE ที่ ใส่ มาให้ รพ ใช้มั่งสิครับ

นี่ใส่กันสองคน ลูกน้องที่เหลือไม่เห็นใส่เลย  







คงกำลังทยอยๆ ไปนะครับ อันไหนช่วยได้ก็ช่วยๆ กัน #สู้ไปด้วยกันครับ  


ครับ ผมแค่แปลกใจ เฉยๆ

ในขณะที่บาง รพ ขาดชุดจนต้อง DIY ทำชุด ทำ face shield ใช้กันเอง

แม้แต่ รพใหญ่ๆ ยังต้องขอรับบริจาค

แต่ทหารกลับเอาชุด PPE มาใช้งานในรูปแบบที่ใส่กันแค่สองคน ลงพื้นที่

โดยการฉีดพ่นในพื้นที่พวกนี้ไม่ได้มีความเสี่ยง โดยความเสี่ยงแทบจะเป็น 0 เทียบกับ รพ

หัวหน้าใส่เต็มยศ โดยที่ลูกน้องใส่ชุดจิตอาสา

ในฐานะที่ผมทำงาน รพ ผมเลยไม่ค่อยชอบใจที่มีรูปภาพแบบนี้ออกมา

หมอที่ต้องไปเจอคนไข้ ผลเลือดเป็น positive ใน รพ ยังใส่น้อยกว่านี้อีก  
 


ผมต้องบอกเลยว่าผมเพิ่งเห็นเหมือนกันครับ ..แล้วยิ่งวันนี้มีข่าวว่าหมอติดเชื้อรายแรกแล้ว

คือหมดคำจะพูดต่อจริง ๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: ไม่ใหญ่แต่ยาว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 29801
ที่อยู่: ในใจเธอ งุงิ
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 10:07
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
ถ่าย VTR
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: ಥ_ಥ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8823
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 10:13
ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย
เลิกเถียงกันเถอะครับ ถ้าไม่เปิดรับมันก็เท่านั้น
ทัศนคติล้วนๆเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครดีใครแย่หรอก มีแต่ชอบไม่ชอบ เห็นละเอือม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
CGM48
••••••••••••••••••••••••••



ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: SuperDry
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Dec 2006
ตอบ: 1446
ที่อยู่: Stanley Park !!
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 10:14
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eMiiNeNt พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
อันนี้คือผมไม่ทราบจริง ๆ นะ

มาเทียบข้อดีข้อเสียกัน

ขอจากข้อเสียก่อนเลย

ข้อเสียคือ
1. ทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องวมกันเป็นหมู่คณะ การอยู่ในกรมกอง ณ เวลานี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะป้องกันการระบาดเป็นหมู่คณะแล้วครับ
2. การออกมาพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ประโยชน์น้อยเอามาก ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เลย transmision route ที่สำคัญที่สุดคือการสัมผัสสารคัดหลั่งครับ (จากข้อมูลมาตรฐานในปัจจุบัน) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อใช้ แล้วนำเข้าสู่ทางปาก จมูก หรือตา อายุของเชื้อไวรัสนั้นก็มีอายุเฉลี่ยที่น้อยมาก ๆ



อย่าโฟกัสเฉพาะเวลาตายอย่างเดียว ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเชื้อก็จะยิ่งอ่อนแอลง ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น บวกกับภูมิอากาศบ้านเราเป็นอากาศร้อน จึงคาดว่าเวลาที่เชื้ออยู่ได้น่าจะลดลงกว่านี้ครับ จากการเปรียบเทียบของอุณหภูมิด้านบน (77F=25C)

https://www.cnbc.com/2020/03/16/who-considers-airborne-precautions-for-medical-staff-after-study-shows-coronavirus-can-survive-in-air.html

ส่วนถ้ามีคนจะเถียงผมโดยเอารูปเมืองนอกมาทำ ผมว่าเมืองนอกเค้าไม่แรนด้อมแบบนี้นะครับ เค้าพ่นบริเวณพื้นที่ที่คิดว่ามีคนติดเชื้อจริง ๆ แล้ว lock down อีกอย่างคือเราควรพูดคุยกันด้วย evidence based ไม่ใช่ด้วยวิธีว่าเมืองนอกทำต้องดีครับ

3. เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ด้วยครับ


ข้อดี

1. ฆ่าเชื้อโรคได้
2. ภาพลักษณ์ดีขึ้น



ผมว่าการออกมาครั้งนี้มัน เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ จริง ๆ มีหน้าที่ป้องกันประเทศก็ทำไปเหอะครับ งานอื่น ๆ ให้คนที่เค้าทำตามหน้าที่ทำเหอะ


 


สารคัดหลั่งที่ว่ามันก็สามารถไปติดตามที่นั่ง หรือ อื่นๆ ที่คนอื่นจะเอามือไปจับ มันก็อยู่ได้หลาย ชั่วโมง เหมือนกันใช่ไหมครับ ตามตารางที่บอกมา แสดงว่าการที่ออกมาฉีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็น่าจะช่วยลดการกระจายของโรคนี้ได้อยู่นะครับ แล้วที่บอก มีหน้าที่ป้องกันประเทศ แล้วที่ทำแบบนี้ มันไม่ใช่การป้องกันประเทศหลอครับ ป้องกันให้คนติดน้อยลง เราไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาจับต่อจะมีการป้องกันตัวเอง ล้างมือตัวเอง หรือไม่จับหน้าตัวเองหรือเปล่า แล้วตอนนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการยิงกัน เอาทหารออกมาช่วยเป็นมดงาน ก็ดีแล้วหรือเปล่าครับ  



ประการแรก สารคัดหลั่งที่ออกมาส่วนใหญ่เกาะตามพื้นผิวได้ไม่นานครับ ดังตารางที่ได้กล่าวไป ทางหลักของการติดมักเกิดจากการสัมผัสกันทางตรง การไปกวาดพื้น พ่นน้ำยาบนพื้นถนน มันไม่มีใครหยิบจากพื้นแล้วมาแปะหน้าครับ เพราะฉะนั้นโอกาสการเกิดตรงนี้น้อย ถ้าคุณได้อ่านที่ผมพิมพ์ไป ผมไม่มีปัญหากับการทำความสะอาดครับ แต่บอกว่าาควรทำกรณีเฉพาะที่ที่เป็นแหล่างระบาด อย่างกรณีที่เกิดในเกาหลีใต้เป็นต้น ไม่ใช่แรนด้อมไล่ฉีดบนพื้นถนนครับยิ่งเวลาผ่านไป เชื้อไม่ตายจริงแต่ก่อโรคน้อยลงมากๆๆๆๆ ตามข้อมูลจาก CDC แปลว่าถ้าคุณจะฆ่าเชื้อโรค ผิวสัมผัสสัมผัสปุ๊ปต้องฆ่าเลย การที่คุณออกมาพ่นเที่ยงคืนแล้วประชาชนออกมาสัมผัสพรุ่งนี้เช้า ย่อมไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ปล่อยเชื้อกับผู้รับชื้อส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางวันในช่วง period สั้น ๆ แต่คุณมาฆ่าเชื้อตอนกลางคืน เรื่องนี้ไม่ขอตอบแล้วครับ ถ้าคุณไม่ quote ผมก็ไม่ตอบแล้วครับ เพราะพิมพ์ไปหมดแล้วในกระทู้

ประการที่สอง หน้าที่ของทหารคือเรื่องความมั่นคงครับ อันนี้ไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีน แต่ถ้าใช้คำว่าป้องกันประเทศเป็นเรื่องแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ก็ไปช่วยชาวนาปลูกข้าวด้วยครับ เพราะถ้าอาหารไม่มีประเทศยับแน่ ไปช่วยนายทุนเล่นหุ้นด้วยครับ เพราะถ้าตลาดหุ้นพัง ประเทศก็ยับ ผมว่าหน้าที่มันชัดอยู่แล้วนะครับว่าใครทำอะไร


 




ทำไมพอเป็นที่เกาหลีใต้ทำ คุณ จขกท. กลับเห็นด้วย !!?



แต่ทำไมพอเป็นที่เมืองไทยทำ (โดยทหารอาสามารับหน้าที่ตรงส่วนนี้ผ่านกรมควบคุมโรค)
คุณ จขกท. ถึงมีแต่ อคติ ข้อเสีย ความคิดด้านลบ เต็มไปหมด

ไม่ค่อยเข้าใจ ตรรกะ ของ จขกท. ในตรงจุดนี้ครับ
 
 


คุณไล่อ่านมาทุกหน้าทุกกระทู้ ผมว่าผมเขียนไปชัดเจนมากเลยนะครับ

ประการแรก ผมไม่เห็นด้วยกับการทำความสะอาดแบบนี้ แต่ในกรณีที่ทำแบบเกาหล่ีใต้ที่ lock down ตึกแล้วฆ่าเชื้อจากกรณีพบผู้ติดเชื้อ ณ ที่นั้น ๆ ผมเห็นด้วยครับ ถ้าเกาหลีใต้พ่นที่สาธารณะผมก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีจาก fact ที่กล่าวไป

ประการที่สอง ผมก็ยังเขียนย้ำอีกครับ ในต้นกระทู้เลย ว่าไม่ว่าใครจะทำยังไงก็ตาม อยากให้ยึด evidence based เป็นหลักครับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครทำอย่างไร มันขึ้นอยู่กับว่ามันมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งที่ทำไหม

ประการที่สาม ผมไม่มั่นใจว่าทำไมกรมควบคุมโรคถึง approve การใส่ชุด PPE พ่นแบบนั้น คือไม่รู้จริง ๆ เพราะตามโรงพยาบาลมันยังขาดชุด PPE ให้หมอใส่อยู่เลยครับ อันนี้ผมเห็นแล้วยิ่งไม่สบายใจเข้าไปอีกถ้ามันมาจากกรมควบคุมโรคจริง ๆ

เพิ่มเติมคือผมไม่รู้หรอกว่าไอที่เค้าเขียนว่าส่งไปตามที่ต่าง ๆ แล้วแปะหน้าเฟสองค์กรทำดี จะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะพิมพ์เฉย ๆ แบบหน้ากากว่าไม่ขาด แต่จริง ๆ ก็ไม่มีให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือหน้างานของมันขาดอยู่ครับ  


1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 10:19
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eMiiNeNt พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
อันนี้คือผมไม่ทราบจริง ๆ นะ

มาเทียบข้อดีข้อเสียกัน

ขอจากข้อเสียก่อนเลย

ข้อเสียคือ
1. ทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องวมกันเป็นหมู่คณะ การอยู่ในกรมกอง ณ เวลานี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะป้องกันการระบาดเป็นหมู่คณะแล้วครับ
2. การออกมาพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ประโยชน์น้อยเอามาก ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เลย transmision route ที่สำคัญที่สุดคือการสัมผัสสารคัดหลั่งครับ (จากข้อมูลมาตรฐานในปัจจุบัน) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อใช้ แล้วนำเข้าสู่ทางปาก จมูก หรือตา อายุของเชื้อไวรัสนั้นก็มีอายุเฉลี่ยที่น้อยมาก ๆ



อย่าโฟกัสเฉพาะเวลาตายอย่างเดียว ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเชื้อก็จะยิ่งอ่อนแอลง ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น บวกกับภูมิอากาศบ้านเราเป็นอากาศร้อน จึงคาดว่าเวลาที่เชื้ออยู่ได้น่าจะลดลงกว่านี้ครับ จากการเปรียบเทียบของอุณหภูมิด้านบน (77F=25C)

https://www.cnbc.com/2020/03/16/who-considers-airborne-precautions-for-medical-staff-after-study-shows-coronavirus-can-survive-in-air.html

ส่วนถ้ามีคนจะเถียงผมโดยเอารูปเมืองนอกมาทำ ผมว่าเมืองนอกเค้าไม่แรนด้อมแบบนี้นะครับ เค้าพ่นบริเวณพื้นที่ที่คิดว่ามีคนติดเชื้อจริง ๆ แล้ว lock down อีกอย่างคือเราควรพูดคุยกันด้วย evidence based ไม่ใช่ด้วยวิธีว่าเมืองนอกทำต้องดีครับ

3. เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ด้วยครับ


ข้อดี

1. ฆ่าเชื้อโรคได้
2. ภาพลักษณ์ดีขึ้น



ผมว่าการออกมาครั้งนี้มัน เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ จริง ๆ มีหน้าที่ป้องกันประเทศก็ทำไปเหอะครับ งานอื่น ๆ ให้คนที่เค้าทำตามหน้าที่ทำเหอะ


 


สารคัดหลั่งที่ว่ามันก็สามารถไปติดตามที่นั่ง หรือ อื่นๆ ที่คนอื่นจะเอามือไปจับ มันก็อยู่ได้หลาย ชั่วโมง เหมือนกันใช่ไหมครับ ตามตารางที่บอกมา แสดงว่าการที่ออกมาฉีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็น่าจะช่วยลดการกระจายของโรคนี้ได้อยู่นะครับ แล้วที่บอก มีหน้าที่ป้องกันประเทศ แล้วที่ทำแบบนี้ มันไม่ใช่การป้องกันประเทศหลอครับ ป้องกันให้คนติดน้อยลง เราไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาจับต่อจะมีการป้องกันตัวเอง ล้างมือตัวเอง หรือไม่จับหน้าตัวเองหรือเปล่า แล้วตอนนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการยิงกัน เอาทหารออกมาช่วยเป็นมดงาน ก็ดีแล้วหรือเปล่าครับ  



ประการแรก สารคัดหลั่งที่ออกมาส่วนใหญ่เกาะตามพื้นผิวได้ไม่นานครับ ดังตารางที่ได้กล่าวไป ทางหลักของการติดมักเกิดจากการสัมผัสกันทางตรง การไปกวาดพื้น พ่นน้ำยาบนพื้นถนน มันไม่มีใครหยิบจากพื้นแล้วมาแปะหน้าครับ เพราะฉะนั้นโอกาสการเกิดตรงนี้น้อย ถ้าคุณได้อ่านที่ผมพิมพ์ไป ผมไม่มีปัญหากับการทำความสะอาดครับ แต่บอกว่าาควรทำกรณีเฉพาะที่ที่เป็นแหล่างระบาด อย่างกรณีที่เกิดในเกาหลีใต้เป็นต้น ไม่ใช่แรนด้อมไล่ฉีดบนพื้นถนนครับยิ่งเวลาผ่านไป เชื้อไม่ตายจริงแต่ก่อโรคน้อยลงมากๆๆๆๆ ตามข้อมูลจาก CDC แปลว่าถ้าคุณจะฆ่าเชื้อโรค ผิวสัมผัสสัมผัสปุ๊ปต้องฆ่าเลย การที่คุณออกมาพ่นเที่ยงคืนแล้วประชาชนออกมาสัมผัสพรุ่งนี้เช้า ย่อมไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ปล่อยเชื้อกับผู้รับชื้อส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางวันในช่วง period สั้น ๆ แต่คุณมาฆ่าเชื้อตอนกลางคืน เรื่องนี้ไม่ขอตอบแล้วครับ ถ้าคุณไม่ quote ผมก็ไม่ตอบแล้วครับ เพราะพิมพ์ไปหมดแล้วในกระทู้

ประการที่สอง หน้าที่ของทหารคือเรื่องความมั่นคงครับ อันนี้ไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีน แต่ถ้าใช้คำว่าป้องกันประเทศเป็นเรื่องแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ก็ไปช่วยชาวนาปลูกข้าวด้วยครับ เพราะถ้าอาหารไม่มีประเทศยับแน่ ไปช่วยนายทุนเล่นหุ้นด้วยครับ เพราะถ้าตลาดหุ้นพัง ประเทศก็ยับ ผมว่าหน้าที่มันชัดอยู่แล้วนะครับว่าใครทำอะไร


 




ทำไมพอเป็นที่เกาหลีใต้ทำ คุณ จขกท. กลับเห็นด้วย !!?



แต่ทำไมพอเป็นที่เมืองไทยทำ (โดยทหารอาสามารับหน้าที่ตรงส่วนนี้ผ่านกรมควบคุมโรค)
คุณ จขกท. ถึงมีแต่ อคติ ข้อเสีย ความคิดด้านลบ เต็มไปหมด

ไม่ค่อยเข้าใจ ตรรกะ ของ จขกท. ในตรงจุดนี้ครับ
 
 


คุณไล่อ่านมาทุกหน้าทุกกระทู้ ผมว่าผมเขียนไปชัดเจนมากเลยนะครับ

ประการแรก ผมไม่เห็นด้วยกับการทำความสะอาดแบบนี้ แต่ในกรณีที่ทำแบบเกาหล่ีใต้ที่ lock down ตึกแล้วฆ่าเชื้อจากกรณีพบผู้ติดเชื้อ ณ ที่นั้น ๆ ผมเห็นด้วยครับ ถ้าเกาหลีใต้พ่นที่สาธารณะผมก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีจาก fact ที่กล่าวไป

ประการที่สอง ผมก็ยังเขียนย้ำอีกครับ ในต้นกระทู้เลย ว่าไม่ว่าใครจะทำยังไงก็ตาม อยากให้ยึด evidence based เป็นหลักครับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครทำอย่างไร มันขึ้นอยู่กับว่ามันมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งที่ทำไหม

ประการที่สาม ผมไม่มั่นใจว่าทำไมกรมควบคุมโรคถึง approve การใส่ชุด PPE พ่นแบบนั้น คือไม่รู้จริง ๆ เพราะตามโรงพยาบาลมันยังขาดชุด PPE ให้หมอใส่อยู่เลยครับ อันนี้ผมเห็นแล้วยิ่งไม่สบายใจเข้าไปอีกถ้ามันมาจากกรมควบคุมโรคจริง ๆ

เพิ่มเติมคือผมไม่รู้หรอกว่าไอที่เค้าเขียนว่าส่งไปตามที่ต่าง ๆ แล้วแปะหน้าเฟสองค์กรทำดี จะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะพิมพ์เฉย ๆ แบบหน้ากากว่าไม่ขาด แต่จริง ๆ ก็ไม่มีให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือหน้างานของมันขาดอยู่ครับ  


 
 


ผมขอให้มันถึงโดยเร็วและขอให้ถึงมือผู้ปฏิบัติหน้างานจริง ๆ แล้วกันครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 42000
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 10:29
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
ลักษณะเถียงกันไม่จบแน่นอนถ้าความเห็นออกมาทำนอง คิดว่าที่ปรึกษาค้านแล้วแต่รัฐบาลรั้นที่จะทำอะไรแบบนี้...
ไม่รู้นะ พูดแค่ว่าคลีนดีหรือไม่ดี ไม่เอาเรื่องชุดเรื่องสร้างภาพอะไรมาพูดกัน และไม่เอาสิ่งที่ไม่มีใครรู้จริงๆ มาพูด เช่น มติที่ประชุม และรายละเอียดงานวิจัยซึ่งยังไม่จบมาพูด

ความเห็นผม ผมเห็นข้อดีอีกหน่อยคือ
1. การออกมาฆ่าเชื่อย่อมดีกว่า เพราะเข้าใจว่ามันครอบคลุมถึงตัวเชื้อตัวอื่นด้วย เป็นโอกาสดีที่จะ big cleaning
2. เท่าที่ไปอ่านมา เขาก็ระบุเป็นจุดนะไม่ได้หว่านแหไปทั่วอย่างที่เข้าใจ แปลว่าได้รับการแนะนำมาพอสมควร
3. ทางด้านขวัญ และกำลังใจของคนดีขึ้นแน่นอน เพราะพื้นที่ ที่เชื่อมั่นว่าสะอาดแล้วย่อมสร้างความมั่นใจให้คนได้ดีกว่า

ส่วนเรื่องทหารออกมาแบบนี้ คราวหน้าไปทำนาด้วยอะไรด้วย อันนี้ผมแย้งเจ้าของกระทู้หน่อย...
ผมไม่ได้ว่าอะไรท่านนะ เข้าใจว่าหน้าที่ใครควรจะหน้าที่มัน...แต่ในโลกความเป็นจริงมันไม่ได้ไงทุกกระทรวงทุกหน่วยงานมันก็ต้องร่วมมือกันอยู่แล้วในสภาวะฉุกเฉินแบบนี้ประเทศมันถึงจะไปข้างหน้าได้...

ผมว่าผมให้ความเห็นไปตั้งแต่ครั้งแรกเลยมั้งครับตั้งแต่เข้ามู้มา สมมุติถ้าเขามีมติให้เฉพาะทีมแพทย์ หรือสาธารณะสุขเท่านั้นเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ท่านไหวเหรอครับทีมเดียว มันเป็นไปไม่ได้มันถึงต้องเอาทีมทหารและอาสาเข้ามาของพวกนี้เขาเรียกว่าความร่วมมือไงครับ จำนวนคนเขาก็ระบุชัดเจนนี่ว่าใครมาบ้างโดยทั่วไปมีการลงชื่ออยู่แล้ว แล้วท่านรู้หรือเปล่าว่าเขามีมาตรการอย่างไรบ้างหลังจากทำความสะอาดแล้ว อาจจะกักตัวเข้าศูนย์ควบคุมก็ได้ อันนี้ละไว้ที่ต้องการสื่อคือ....

พิจารณามาตั้งแต่เมื่อคืน ผมว่าเขาไม่ได้ออกมาทำมั่วๆ ก็มติมันออกมาแบบนั้นแปลว่าเขาพิจารณามาแล้วว่าข้อดีมันมากกว่าข้อเสีย และได้รับการแนะนำมาพอสมควร...บางอย่างอาจจะต่างกันไม่มาก แต่สมมุติว่าดีกว่า 1 % ก็ถือว่าดีกว่าครับผมมองแบบนี้นะ
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 29464
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 10:30
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eMiiNeNt พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
อันนี้คือผมไม่ทราบจริง ๆ นะ

มาเทียบข้อดีข้อเสียกัน

ขอจากข้อเสียก่อนเลย

ข้อเสียคือ
1. ทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องวมกันเป็นหมู่คณะ การอยู่ในกรมกอง ณ เวลานี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะป้องกันการระบาดเป็นหมู่คณะแล้วครับ
2. การออกมาพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ประโยชน์น้อยเอามาก ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เลย transmision route ที่สำคัญที่สุดคือการสัมผัสสารคัดหลั่งครับ (จากข้อมูลมาตรฐานในปัจจุบัน) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อใช้ แล้วนำเข้าสู่ทางปาก จมูก หรือตา อายุของเชื้อไวรัสนั้นก็มีอายุเฉลี่ยที่น้อยมาก ๆ



อย่าโฟกัสเฉพาะเวลาตายอย่างเดียว ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเชื้อก็จะยิ่งอ่อนแอลง ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น บวกกับภูมิอากาศบ้านเราเป็นอากาศร้อน จึงคาดว่าเวลาที่เชื้ออยู่ได้น่าจะลดลงกว่านี้ครับ จากการเปรียบเทียบของอุณหภูมิด้านบน (77F=25C)

https://www.cnbc.com/2020/03/16/who-considers-airborne-precautions-for-medical-staff-after-study-shows-coronavirus-can-survive-in-air.html

ส่วนถ้ามีคนจะเถียงผมโดยเอารูปเมืองนอกมาทำ ผมว่าเมืองนอกเค้าไม่แรนด้อมแบบนี้นะครับ เค้าพ่นบริเวณพื้นที่ที่คิดว่ามีคนติดเชื้อจริง ๆ แล้ว lock down อีกอย่างคือเราควรพูดคุยกันด้วย evidence based ไม่ใช่ด้วยวิธีว่าเมืองนอกทำต้องดีครับ

3. เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ด้วยครับ


ข้อดี

1. ฆ่าเชื้อโรคได้
2. ภาพลักษณ์ดีขึ้น



ผมว่าการออกมาครั้งนี้มัน เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ จริง ๆ มีหน้าที่ป้องกันประเทศก็ทำไปเหอะครับ งานอื่น ๆ ให้คนที่เค้าทำตามหน้าที่ทำเหอะ


 


สารคัดหลั่งที่ว่ามันก็สามารถไปติดตามที่นั่ง หรือ อื่นๆ ที่คนอื่นจะเอามือไปจับ มันก็อยู่ได้หลาย ชั่วโมง เหมือนกันใช่ไหมครับ ตามตารางที่บอกมา แสดงว่าการที่ออกมาฉีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็น่าจะช่วยลดการกระจายของโรคนี้ได้อยู่นะครับ แล้วที่บอก มีหน้าที่ป้องกันประเทศ แล้วที่ทำแบบนี้ มันไม่ใช่การป้องกันประเทศหลอครับ ป้องกันให้คนติดน้อยลง เราไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาจับต่อจะมีการป้องกันตัวเอง ล้างมือตัวเอง หรือไม่จับหน้าตัวเองหรือเปล่า แล้วตอนนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการยิงกัน เอาทหารออกมาช่วยเป็นมดงาน ก็ดีแล้วหรือเปล่าครับ  



ประการแรก สารคัดหลั่งที่ออกมาส่วนใหญ่เกาะตามพื้นผิวได้ไม่นานครับ ดังตารางที่ได้กล่าวไป ทางหลักของการติดมักเกิดจากการสัมผัสกันทางตรง การไปกวาดพื้น พ่นน้ำยาบนพื้นถนน มันไม่มีใครหยิบจากพื้นแล้วมาแปะหน้าครับ เพราะฉะนั้นโอกาสการเกิดตรงนี้น้อย ถ้าคุณได้อ่านที่ผมพิมพ์ไป ผมไม่มีปัญหากับการทำความสะอาดครับ แต่บอกว่าาควรทำกรณีเฉพาะที่ที่เป็นแหล่างระบาด อย่างกรณีที่เกิดในเกาหลีใต้เป็นต้น ไม่ใช่แรนด้อมไล่ฉีดบนพื้นถนนครับยิ่งเวลาผ่านไป เชื้อไม่ตายจริงแต่ก่อโรคน้อยลงมากๆๆๆๆ ตามข้อมูลจาก CDC แปลว่าถ้าคุณจะฆ่าเชื้อโรค ผิวสัมผัสสัมผัสปุ๊ปต้องฆ่าเลย การที่คุณออกมาพ่นเที่ยงคืนแล้วประชาชนออกมาสัมผัสพรุ่งนี้เช้า ย่อมไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ปล่อยเชื้อกับผู้รับชื้อส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางวันในช่วง period สั้น ๆ แต่คุณมาฆ่าเชื้อตอนกลางคืน เรื่องนี้ไม่ขอตอบแล้วครับ ถ้าคุณไม่ quote ผมก็ไม่ตอบแล้วครับ เพราะพิมพ์ไปหมดแล้วในกระทู้

ประการที่สอง หน้าที่ของทหารคือเรื่องความมั่นคงครับ อันนี้ไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีน แต่ถ้าใช้คำว่าป้องกันประเทศเป็นเรื่องแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ก็ไปช่วยชาวนาปลูกข้าวด้วยครับ เพราะถ้าอาหารไม่มีประเทศยับแน่ ไปช่วยนายทุนเล่นหุ้นด้วยครับ เพราะถ้าตลาดหุ้นพัง ประเทศก็ยับ ผมว่าหน้าที่มันชัดอยู่แล้วนะครับว่าใครทำอะไร


 




ทำไมพอเป็นที่เกาหลีใต้ทำ คุณ จขกท. กลับเห็นด้วย !!?



แต่ทำไมพอเป็นที่เมืองไทยทำ (โดยทหารอาสามารับหน้าที่ตรงส่วนนี้ผ่านกรมควบคุมโรค)
คุณ จขกท. ถึงมีแต่ อคติ ข้อเสีย ความคิดด้านลบ เต็มไปหมด

ไม่ค่อยเข้าใจ ตรรกะ ของ จขกท. ในตรงจุดนี้ครับ
 
 


คุณไล่อ่านมาทุกหน้าทุกกระทู้ ผมว่าผมเขียนไปชัดเจนมากเลยนะครับ

ประการแรก ผมไม่เห็นด้วยกับการทำความสะอาดแบบนี้ แต่ในกรณีที่ทำแบบเกาหล่ีใต้ที่ lock down ตึกแล้วฆ่าเชื้อจากกรณีพบผู้ติดเชื้อ ณ ที่นั้น ๆ ผมเห็นด้วยครับ ถ้าเกาหลีใต้พ่นที่สาธารณะผมก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีจาก fact ที่กล่าวไป

ประการที่สอง ผมก็ยังเขียนย้ำอีกครับ ในต้นกระทู้เลย ว่าไม่ว่าใครจะทำยังไงก็ตาม อยากให้ยึด evidence based เป็นหลักครับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครทำอย่างไร มันขึ้นอยู่กับว่ามันมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งที่ทำไหม

ประการที่สาม ผมไม่มั่นใจว่าทำไมกรมควบคุมโรคถึง approve การใส่ชุด PPE พ่นแบบนั้น คือไม่รู้จริง ๆ เพราะตามโรงพยาบาลมันยังขาดชุด PPE ให้หมอใส่อยู่เลยครับ อันนี้ผมเห็นแล้วยิ่งไม่สบายใจเข้าไปอีกถ้ามันมาจากกรมควบคุมโรคจริง ๆ

เพิ่มเติมคือผมไม่รู้หรอกว่าไอที่เค้าเขียนว่าส่งไปตามที่ต่าง ๆ แล้วแปะหน้าเฟสองค์กรทำดี จะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะพิมพ์เฉย ๆ แบบหน้ากากว่าไม่ขาด แต่จริง ๆ ก็ไม่มีให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือหน้างานของมันขาดอยู่ครับ  


 


อันนี้เป็นหน่วยงานของรัฐมั้ยครับ ที่คุณบุ๋มกำลังทำอยู่

หรือว่าเป็นภาคเอกชน ที่อาสามาเป็นคนกลางให้ โรงงาน เพื่อส่งต่อไป รพ ที่ทำงาน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 128
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 11:02
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
ต้องทำครับ เพราะเรามองไม่เห็นเชื้อ
สถิติอาจจะบอกว่ามีน้อย แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มี
เหมือนล้างมือบ่อยๆ จะล้างไปทำไมให้เปลืองสบู่ แต่ก็ต้องทำ
คนทำความสะอาดในต่างประเทศ ก็ใส่ชุด PPE ทั้งนั้น
แล้วเค้าก็ทำในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน ยังไงก็มีประโยชน์
ในภาวะที่วิกฤติโรคระบาด หากจะมุ่งหวังแต่ประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง
เราจะผ่านพ้นวิกฤติไปได้อย่างไรกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 82
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 11:02
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eMiiNeNt พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
อันนี้คือผมไม่ทราบจริง ๆ นะ

มาเทียบข้อดีข้อเสียกัน

ขอจากข้อเสียก่อนเลย

ข้อเสียคือ
1. ทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องวมกันเป็นหมู่คณะ การอยู่ในกรมกอง ณ เวลานี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะป้องกันการระบาดเป็นหมู่คณะแล้วครับ
2. การออกมาพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ประโยชน์น้อยเอามาก ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เลย transmision route ที่สำคัญที่สุดคือการสัมผัสสารคัดหลั่งครับ (จากข้อมูลมาตรฐานในปัจจุบัน) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อใช้ แล้วนำเข้าสู่ทางปาก จมูก หรือตา อายุของเชื้อไวรัสนั้นก็มีอายุเฉลี่ยที่น้อยมาก ๆ



อย่าโฟกัสเฉพาะเวลาตายอย่างเดียว ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเชื้อก็จะยิ่งอ่อนแอลง ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น บวกกับภูมิอากาศบ้านเราเป็นอากาศร้อน จึงคาดว่าเวลาที่เชื้ออยู่ได้น่าจะลดลงกว่านี้ครับ จากการเปรียบเทียบของอุณหภูมิด้านบน (77F=25C)

https://www.cnbc.com/2020/03/16/who-considers-airborne-precautions-for-medical-staff-after-study-shows-coronavirus-can-survive-in-air.html

ส่วนถ้ามีคนจะเถียงผมโดยเอารูปเมืองนอกมาทำ ผมว่าเมืองนอกเค้าไม่แรนด้อมแบบนี้นะครับ เค้าพ่นบริเวณพื้นที่ที่คิดว่ามีคนติดเชื้อจริง ๆ แล้ว lock down อีกอย่างคือเราควรพูดคุยกันด้วย evidence based ไม่ใช่ด้วยวิธีว่าเมืองนอกทำต้องดีครับ

3. เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ด้วยครับ


ข้อดี

1. ฆ่าเชื้อโรคได้
2. ภาพลักษณ์ดีขึ้น



ผมว่าการออกมาครั้งนี้มัน เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ จริง ๆ มีหน้าที่ป้องกันประเทศก็ทำไปเหอะครับ งานอื่น ๆ ให้คนที่เค้าทำตามหน้าที่ทำเหอะ


 


สารคัดหลั่งที่ว่ามันก็สามารถไปติดตามที่นั่ง หรือ อื่นๆ ที่คนอื่นจะเอามือไปจับ มันก็อยู่ได้หลาย ชั่วโมง เหมือนกันใช่ไหมครับ ตามตารางที่บอกมา แสดงว่าการที่ออกมาฉีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็น่าจะช่วยลดการกระจายของโรคนี้ได้อยู่นะครับ แล้วที่บอก มีหน้าที่ป้องกันประเทศ แล้วที่ทำแบบนี้ มันไม่ใช่การป้องกันประเทศหลอครับ ป้องกันให้คนติดน้อยลง เราไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาจับต่อจะมีการป้องกันตัวเอง ล้างมือตัวเอง หรือไม่จับหน้าตัวเองหรือเปล่า แล้วตอนนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการยิงกัน เอาทหารออกมาช่วยเป็นมดงาน ก็ดีแล้วหรือเปล่าครับ  



ประการแรก สารคัดหลั่งที่ออกมาส่วนใหญ่เกาะตามพื้นผิวได้ไม่นานครับ ดังตารางที่ได้กล่าวไป ทางหลักของการติดมักเกิดจากการสัมผัสกันทางตรง การไปกวาดพื้น พ่นน้ำยาบนพื้นถนน มันไม่มีใครหยิบจากพื้นแล้วมาแปะหน้าครับ เพราะฉะนั้นโอกาสการเกิดตรงนี้น้อย ถ้าคุณได้อ่านที่ผมพิมพ์ไป ผมไม่มีปัญหากับการทำความสะอาดครับ แต่บอกว่าาควรทำกรณีเฉพาะที่ที่เป็นแหล่างระบาด อย่างกรณีที่เกิดในเกาหลีใต้เป็นต้น ไม่ใช่แรนด้อมไล่ฉีดบนพื้นถนนครับยิ่งเวลาผ่านไป เชื้อไม่ตายจริงแต่ก่อโรคน้อยลงมากๆๆๆๆ ตามข้อมูลจาก CDC แปลว่าถ้าคุณจะฆ่าเชื้อโรค ผิวสัมผัสสัมผัสปุ๊ปต้องฆ่าเลย การที่คุณออกมาพ่นเที่ยงคืนแล้วประชาชนออกมาสัมผัสพรุ่งนี้เช้า ย่อมไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ปล่อยเชื้อกับผู้รับชื้อส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางวันในช่วง period สั้น ๆ แต่คุณมาฆ่าเชื้อตอนกลางคืน เรื่องนี้ไม่ขอตอบแล้วครับ ถ้าคุณไม่ quote ผมก็ไม่ตอบแล้วครับ เพราะพิมพ์ไปหมดแล้วในกระทู้

ประการที่สอง หน้าที่ของทหารคือเรื่องความมั่นคงครับ อันนี้ไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีน แต่ถ้าใช้คำว่าป้องกันประเทศเป็นเรื่องแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ก็ไปช่วยชาวนาปลูกข้าวด้วยครับ เพราะถ้าอาหารไม่มีประเทศยับแน่ ไปช่วยนายทุนเล่นหุ้นด้วยครับ เพราะถ้าตลาดหุ้นพัง ประเทศก็ยับ ผมว่าหน้าที่มันชัดอยู่แล้วนะครับว่าใครทำอะไร


 




ทำไมพอเป็นที่เกาหลีใต้ทำ คุณ จขกท. กลับเห็นด้วย !!?



แต่ทำไมพอเป็นที่เมืองไทยทำ (โดยทหารอาสามารับหน้าที่ตรงส่วนนี้ผ่านกรมควบคุมโรค)
คุณ จขกท. ถึงมีแต่ อคติ ข้อเสีย ความคิดด้านลบ เต็มไปหมด

ไม่ค่อยเข้าใจ ตรรกะ ของ จขกท. ในตรงจุดนี้ครับ
 
 


คุณไล่อ่านมาทุกหน้าทุกกระทู้ ผมว่าผมเขียนไปชัดเจนมากเลยนะครับ

ประการแรก ผมไม่เห็นด้วยกับการทำความสะอาดแบบนี้ แต่ในกรณีที่ทำแบบเกาหล่ีใต้ที่ lock down ตึกแล้วฆ่าเชื้อจากกรณีพบผู้ติดเชื้อ ณ ที่นั้น ๆ ผมเห็นด้วยครับ ถ้าเกาหลีใต้พ่นที่สาธารณะผมก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีจาก fact ที่กล่าวไป

ประการที่สอง ผมก็ยังเขียนย้ำอีกครับ ในต้นกระทู้เลย ว่าไม่ว่าใครจะทำยังไงก็ตาม อยากให้ยึด evidence based เป็นหลักครับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครทำอย่างไร มันขึ้นอยู่กับว่ามันมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งที่ทำไหม

ประการที่สาม ผมไม่มั่นใจว่าทำไมกรมควบคุมโรคถึง approve การใส่ชุด PPE พ่นแบบนั้น คือไม่รู้จริง ๆ เพราะตามโรงพยาบาลมันยังขาดชุด PPE ให้หมอใส่อยู่เลยครับ อันนี้ผมเห็นแล้วยิ่งไม่สบายใจเข้าไปอีกถ้ามันมาจากกรมควบคุมโรคจริง ๆ

เพิ่มเติมคือผมไม่รู้หรอกว่าไอที่เค้าเขียนว่าส่งไปตามที่ต่าง ๆ แล้วแปะหน้าเฟสองค์กรทำดี จะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะพิมพ์เฉย ๆ แบบหน้ากากว่าไม่ขาด แต่จริง ๆ ก็ไม่มีให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือหน้างานของมันขาดอยู่ครับ  


 
 


ผมขอให้มันถึงโดยเร็วและขอให้ถึงมือผู้ปฏิบัติหน้างานจริง ๆ แล้วกันครับ  





ขวางโลกดีครับบอกว่าเกลียดรัฐบาลเกลียดทหารก็จบ อิๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 11:07
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
chatavit พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
HunJungSun พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
eMiiNeNt พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
อันนี้คือผมไม่ทราบจริง ๆ นะ

มาเทียบข้อดีข้อเสียกัน

ขอจากข้อเสียก่อนเลย

ข้อเสียคือ
1. ทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องวมกันเป็นหมู่คณะ การอยู่ในกรมกอง ณ เวลานี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะป้องกันการระบาดเป็นหมู่คณะแล้วครับ
2. การออกมาพ่นยาฆ่าเชื้อนั้น ประโยชน์น้อยเอามาก ๆ ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เลย transmision route ที่สำคัญที่สุดคือการสัมผัสสารคัดหลั่งครับ (จากข้อมูลมาตรฐานในปัจจุบัน) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจับสิ่งของที่ผู้ติดเชื้อใช้ แล้วนำเข้าสู่ทางปาก จมูก หรือตา อายุของเชื้อไวรัสนั้นก็มีอายุเฉลี่ยที่น้อยมาก ๆ



อย่าโฟกัสเฉพาะเวลาตายอย่างเดียว ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเชื้อก็จะยิ่งอ่อนแอลง ตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น บวกกับภูมิอากาศบ้านเราเป็นอากาศร้อน จึงคาดว่าเวลาที่เชื้ออยู่ได้น่าจะลดลงกว่านี้ครับ จากการเปรียบเทียบของอุณหภูมิด้านบน (77F=25C)

https://www.cnbc.com/2020/03/16/who-considers-airborne-precautions-for-medical-staff-after-study-shows-coronavirus-can-survive-in-air.html

ส่วนถ้ามีคนจะเถียงผมโดยเอารูปเมืองนอกมาทำ ผมว่าเมืองนอกเค้าไม่แรนด้อมแบบนี้นะครับ เค้าพ่นบริเวณพื้นที่ที่คิดว่ามีคนติดเชื้อจริง ๆ แล้ว lock down อีกอย่างคือเราควรพูดคุยกันด้วย evidence based ไม่ใช่ด้วยวิธีว่าเมืองนอกทำต้องดีครับ

3. เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ด้วยครับ


ข้อดี

1. ฆ่าเชื้อโรคได้
2. ภาพลักษณ์ดีขึ้น



ผมว่าการออกมาครั้งนี้มัน เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ จริง ๆ มีหน้าที่ป้องกันประเทศก็ทำไปเหอะครับ งานอื่น ๆ ให้คนที่เค้าทำตามหน้าที่ทำเหอะ


 


สารคัดหลั่งที่ว่ามันก็สามารถไปติดตามที่นั่ง หรือ อื่นๆ ที่คนอื่นจะเอามือไปจับ มันก็อยู่ได้หลาย ชั่วโมง เหมือนกันใช่ไหมครับ ตามตารางที่บอกมา แสดงว่าการที่ออกมาฉีดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็น่าจะช่วยลดการกระจายของโรคนี้ได้อยู่นะครับ แล้วที่บอก มีหน้าที่ป้องกันประเทศ แล้วที่ทำแบบนี้ มันไม่ใช่การป้องกันประเทศหลอครับ ป้องกันให้คนติดน้อยลง เราไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาจับต่อจะมีการป้องกันตัวเอง ล้างมือตัวเอง หรือไม่จับหน้าตัวเองหรือเปล่า แล้วตอนนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการยิงกัน เอาทหารออกมาช่วยเป็นมดงาน ก็ดีแล้วหรือเปล่าครับ  



ประการแรก สารคัดหลั่งที่ออกมาส่วนใหญ่เกาะตามพื้นผิวได้ไม่นานครับ ดังตารางที่ได้กล่าวไป ทางหลักของการติดมักเกิดจากการสัมผัสกันทางตรง การไปกวาดพื้น พ่นน้ำยาบนพื้นถนน มันไม่มีใครหยิบจากพื้นแล้วมาแปะหน้าครับ เพราะฉะนั้นโอกาสการเกิดตรงนี้น้อย ถ้าคุณได้อ่านที่ผมพิมพ์ไป ผมไม่มีปัญหากับการทำความสะอาดครับ แต่บอกว่าาควรทำกรณีเฉพาะที่ที่เป็นแหล่างระบาด อย่างกรณีที่เกิดในเกาหลีใต้เป็นต้น ไม่ใช่แรนด้อมไล่ฉีดบนพื้นถนนครับยิ่งเวลาผ่านไป เชื้อไม่ตายจริงแต่ก่อโรคน้อยลงมากๆๆๆๆ ตามข้อมูลจาก CDC แปลว่าถ้าคุณจะฆ่าเชื้อโรค ผิวสัมผัสสัมผัสปุ๊ปต้องฆ่าเลย การที่คุณออกมาพ่นเที่ยงคืนแล้วประชาชนออกมาสัมผัสพรุ่งนี้เช้า ย่อมไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ปล่อยเชื้อกับผู้รับชื้อส่วนใหญ่อยู่ตอนกลางวันในช่วง period สั้น ๆ แต่คุณมาฆ่าเชื้อตอนกลางคืน เรื่องนี้ไม่ขอตอบแล้วครับ ถ้าคุณไม่ quote ผมก็ไม่ตอบแล้วครับ เพราะพิมพ์ไปหมดแล้วในกระทู้

ประการที่สอง หน้าที่ของทหารคือเรื่องความมั่นคงครับ อันนี้ไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีน แต่ถ้าใช้คำว่าป้องกันประเทศเป็นเรื่องแบบนี้ ผมว่าตอนนี้ก็ไปช่วยชาวนาปลูกข้าวด้วยครับ เพราะถ้าอาหารไม่มีประเทศยับแน่ ไปช่วยนายทุนเล่นหุ้นด้วยครับ เพราะถ้าตลาดหุ้นพัง ประเทศก็ยับ ผมว่าหน้าที่มันชัดอยู่แล้วนะครับว่าใครทำอะไร


 




ทำไมพอเป็นที่เกาหลีใต้ทำ คุณ จขกท. กลับเห็นด้วย !!?



แต่ทำไมพอเป็นที่เมืองไทยทำ (โดยทหารอาสามารับหน้าที่ตรงส่วนนี้ผ่านกรมควบคุมโรค)
คุณ จขกท. ถึงมีแต่ อคติ ข้อเสีย ความคิดด้านลบ เต็มไปหมด

ไม่ค่อยเข้าใจ ตรรกะ ของ จขกท. ในตรงจุดนี้ครับ
 
 


คุณไล่อ่านมาทุกหน้าทุกกระทู้ ผมว่าผมเขียนไปชัดเจนมากเลยนะครับ

ประการแรก ผมไม่เห็นด้วยกับการทำความสะอาดแบบนี้ แต่ในกรณีที่ทำแบบเกาหล่ีใต้ที่ lock down ตึกแล้วฆ่าเชื้อจากกรณีพบผู้ติดเชื้อ ณ ที่นั้น ๆ ผมเห็นด้วยครับ ถ้าเกาหลีใต้พ่นที่สาธารณะผมก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีจาก fact ที่กล่าวไป

ประการที่สอง ผมก็ยังเขียนย้ำอีกครับ ในต้นกระทู้เลย ว่าไม่ว่าใครจะทำยังไงก็ตาม อยากให้ยึด evidence based เป็นหลักครับ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครทำอย่างไร มันขึ้นอยู่กับว่ามันมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งที่ทำไหม

ประการที่สาม ผมไม่มั่นใจว่าทำไมกรมควบคุมโรคถึง approve การใส่ชุด PPE พ่นแบบนั้น คือไม่รู้จริง ๆ เพราะตามโรงพยาบาลมันยังขาดชุด PPE ให้หมอใส่อยู่เลยครับ อันนี้ผมเห็นแล้วยิ่งไม่สบายใจเข้าไปอีกถ้ามันมาจากกรมควบคุมโรคจริง ๆ

เพิ่มเติมคือผมไม่รู้หรอกว่าไอที่เค้าเขียนว่าส่งไปตามที่ต่าง ๆ แล้วแปะหน้าเฟสองค์กรทำดี จะเป็นจริงหรือไม่ หรือจะพิมพ์เฉย ๆ แบบหน้ากากว่าไม่ขาด แต่จริง ๆ ก็ไม่มีให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือหน้างานของมันขาดอยู่ครับ  


 
 


ผมขอให้มันถึงโดยเร็วและขอให้ถึงมือผู้ปฏิบัติหน้างานจริง ๆ แล้วกันครับ  





ขวางโลกดีครับบอกว่าเกลียดรัฐบาลเกลียดทหารก็จบ อิๆ  


คลั่งการเมืองจนเสียสติ เดี๋ยวเจอโรคระบาดก็รู้ครับ ของมันยังเพิ่งเริ่ม คนอยู่หน้างานได้รับผลกระทบเค้าก็ต้องพูดครับ
ถ้าจะพูดจาขวางโลกไม่มีข้อมูลหรือความรู้มาโต้แย้ง ผมว่านั่งหน้าคอม สำเหนียกตัวเองแล้วหุบปากดีกว่านะครับ อิอิ
แก้ไขล่าสุดโดย FokuchzRedDevil เมื่อ Tue Mar 24, 2020 12:02, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 1595
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 24, 2020 11:23
[RE: ทำไมต้องเอาทหารออกมาพ่นน้ำยาด้วย]
หัวหน้ายาม สั่งการก็เป็นแบบนี้แหละครับ
โทษต้องโทษคนสั่งการ คนที่ออกมาทำก็แค่ทำตามคำสั่ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
BMW F10 serie5
Bimmer

ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 9, 10, 11
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel