ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงครับ

กิจของสงฆ์มีเยอะแยะครับ ไม่จำเป็นต้องไปนั่งเล่นเกม งานทำความสะอาดเยอะแยะไป งานซ่อมสร้างก็เยอะเช่นกัน

อยากนั่งสบายหน่อยก็จับตำรามานั่งสวดมนต์ ท่องบทต่างๆให้คล่อง ศึกษาเรียนรู้การทำพิธีต่างๆจากพระสงฆ์ผู้มีประสบการณ์

ถ้าตั้งใจทำจริงๆ วันๆนึงยังไงก็ไม่ว่างหรอกครับ

1.มา MRT ครับ พระโซนในเมืองนี่ละครับ
2.ใช่ครับพริตตี้ล้นเต็มงาน
3.แต่งซิ่งขนาดนั้นเอาไปเล่มเกมส์ครับ เพราะผมเคยเข้าไปในกุฏิวัดนึงก็ยังเห็นพระนั่งเล่นเกมส์นะ

เคยเห็นพระไปงานหนังสือเหมือนกัน อันนี้ผมโอเคนะ
เพื่อนเล่าให้ฟังตอนที่ไปบวชเป็น บวชได้ 20 วัน ได้มาละ 15,000 พระที่อยู่ในวัดนานๆไม่ค่อยสึกกันหรอกครับ
สึกแล้วไม่รู้จะไปทำอะไรที่ได้ปัจจัยเยอะเท่านี้ ปัจจัยที่ได้ก็มาจากเงินทำบุญ และเวลาไปงานทำบุญย้านก็จะได้เยอะหน่อย

เดี๋ยวนีผมไม่ได้เข้าวัดแล้วครับ ผมไม่ชอบคนหากินกับศาสนาครับ

โอ้โห ยังมีคนคิดแบบนี้อยู่อีกหรอเนี่ย

Job Class: Monk

เป็นการฝึกจิต สมาธิ อย่างนึงโดยนิมิตเป็นmonk

ที่เห็นบางวัดเปิด server เค้าเอามาเป็นของกล้องวงจรปิดนะครับ

สั้น ๆ ว่าไม่เหมาะ

ตรรกะตลาดล่าง....

แค่บอกว่าเมหาะหรือไม่เหมาะ พร้อมกับเหตุผลก็พอครับ อย่าถึงขั้นด่าสาดเสียเทเสียกันเล้ยพ่อคนดีทั้งหลาย ที่พวกคุณๆด่ากันนักนี่ ดีพร้อมประเสริฐเลิศกันหรือยัง ศีล5พวกคุณนี่รักษากันพร้อมได้ถึง24ชม.ป่าว พิจารณาตัวเองก่อนแล้วค่อยพิจารณาคนอื่นเถอะ


คนเรานี่แปลก ยัดเยียดให้คนอื่นต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เป็นอะไรต้องเป็นแบบนั้น แถมต้องเป็นให้ดีอีก แต่ตัวเองไม่เคยส่องกระจกดูเงา


ส่วนตัวผมไม่ซีครับ ศีลพระ227 ผมให้ค่าแค่ ปาราชิก4 รองมาก็สังฆาทิเสส13 เท่านั้นพอ นอกนั้นมันเป็นศีลเล็กน้อง หยุมหยิม เรียกได้ว่าเป็นข้อมารยาทของพระมากกว่า ซึ่งรักษาไม่ดีก็โดนชาวบ้านนินทาได้ จากข้อนี้ผมมองว่า จิตใจคนมันรักษายากครับ เหมือนเปลวไฟปลายเทียน ลมพัดมาแผ่วเบามันก็สะเทีอนแล้วฉันใดก็ฉันนั้นแหละ ถามตัวเราๆดูว่ารักษาอารมณ์ตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน พระก็คน ไม่ใช่พระอรหันต์ ท่านก็คงรักษาจิตใจตัวเองได้ยากเหมือนกันแหละ ไม่ต่างกับคุณ

คนเราสมัยนี้น่ะ รักษาตัวรักษาใจได้ปรกติ(ที่ทำได้ยาก) หากทำได้ ก็ไม่แปลกเท่าไร แต่หากทำตัวแปลกนี่สิ เผลอๆคนรอบข้างอาจจะมองว่าบ้า ตอนเป็นพระ ผมก็ได้เล่าเรียนมาครับ แต่ผมไม่ใช่ผู้วิเศษอะไรหรอกนะ ชีวิตก็ปรกติ จิตใจร่างกายไม่ได้ต่างจากตอนเป็นโยมเลยครับ แถมต้องมาอดทนสำรวมร่่างกาย จิตใจ กับมารยาทที่ระวังเป็นพิเศษอีก

ถามคุณๆเลยว่า เห็นสาวสวยหุ่นดีเดินมา ในใจคุณคิดอะไร คุณแสดงออกยังไง คุณตีปีกพรึบๆปากสั่นอยากเข้าไปเกี้ยว หรือสงบสำรวม แล้วแต่คุณจะเลือกปฏิบัติ ซึ่งพระก็ไม่ต่างกับคุณนั่นแหละ

ผมเข้าใจพระดีครับ ทั้งพระป่า พระบ้าน พระเมือง ไม่ต่างกัน ผมไม่ซีอยู่แล้วเรื่องส่วนตัวของพระท่าน ยังไงผมก็ไหว้ อาจจะเพระาผมมองโลกในแง่ดี แต่กลับกันพระรูปไหนที่ทำงาน ทำคุณต่อส่วนรวมเยอะๆ มีผลที่ประจักษ์ผมก็ยิ่งศรัทธา

พระทำถนน พระเป็นหมอยา พระไปสอนหนังสือ ถามเลย เป็นกิจของสงฆ์ไหม ก็ไม่เป็นครับ แต่ทำไมบางคนเลือกที่จะเคารพละครับ หรือสองมาตราฐาน

อยากคุยเรื่องพระ ถามผมได้ครับ ผมอดีตมหาเปรียญ

มองมุมไหน....พระเล่นเกมก็ดูเลวร้ายกว่าพระฉันมื้อเย็นเยอะครับ


ทานข้าวยังพอ "อ้าง" ได้ว่ากินเพื่ออยู่....ร่างกายได้รับสารอาหาร เป็น 1 ในปัจจัย 4

เล่นเกมมัน "จำเป็น" ต่อการดำรงชีพ???

แค่เล่นเกมออนไลน์ ก็ผิด 1 ในศีล 8 แล้วครับ

พระสงฆ์ควรเว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี รวมถึงประดับเครื่องไม้หอมต่างๆ

ยุคนี้สำหรับผมคือละเว้นสิ่งที่ให้ความบันเทิงของทางโลกนั่นแหล่ะครับ

เม้นบน อย่าเรียกตัวเองว่า อดีตพระเลย คุณต้องแยกให้ออกระหว่าง "พระและนักบวช" พวกนักบวช ก็แค่เข้ามา เพราะผลประโยชน์ ส่วนพระ เค้าศึกษาทางธรรม ไม่สนใจทางโลกหรอก แต่ในทางกลับกัน มันก็ต้องมีนักบวชก่อนพระนั่นแหละ

เม้นท์บนนี่หมายถึงใคร ถ้าหมายถึงผม ผมจะบอกให้ ในทางกฏหมาย พรบ.สงฆ์ ไม่มีคำว่าพระ และ นักบวชครับ ในทางสงฆ์เค้าก็เรียกกันว่า "บรรพชิต ประเภท ภิกษุ" ครับ ถ้าอยากรู้ว่า ภิกษุคืออะไร ก็จะบอกให้อีกว่า " คือ ผู้ขอครับ " ขออะไรละ "ขอ ข้าว ขอน้ำจากชาวบ้าน" หวังว่าคงเข้าใจ

เค้าถามกรณีพระสงฆ์ครับ คนทั่วไปไม่เป็นไรหรอก แต่พระสงฆ์ไม่ควรนะครับ ต้องถามว่าบวชเข้ามาเพื่ออะไร

แล้วเอามาทำไรครับ
สอดส่องโจรผู้ร้าย
ต้องพิจารณาต่อ ในวัดมีของมีค่า
ควรมั้ย บวชเพื่อลดละ สลัดออก
แต่แอบเก็บของมีค่าไว้