[RE: โครงการ 30 บาทขาดทุนสร้างความเสียหายให้ประเทศจริงเหรอ?]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
the Smirnoff พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
the Smirnoff พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
the Smirnoff พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
the Smirnoff พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
the Smirnoff พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
จากใจคนที่เป็นติ่งทักษิณ ตาสว่างมาตั้งแต่นานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกแล้ว
ไม่ชอบ 30บาทเท่าไหร่คิดว่าเเป็นประชานิยมสุดโต่งไปหน่อย ถ้าปรับเป็น 500-1000 บาทรักษาทุกโรคอันนี้พอเห็นภาพขึ้นมาเยอะเลย
อันนี้เห็นด้วย ค่าเงิน30บาทในตอนนั้นมันคือที่ปชช.พอจ่ายได้
แต่ตอนนี้ควรปรับเพดานขึ้นจาก30ได้ละ
แต่ปชป.หรือไอตูบนะที่จะให้ฟรีเลย นั่นอ่ะฟายจริง
ตั้งแต่สมัยก่อนมันก้ควรปรับเป็น 1000บาท รักษาทุกโรคตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
มันทำให้ประชาชนนิสัยไม่เสียด้วย แล้วเซฟทุกทาง 1000ก้ถือว่าช่วยโคตรเยอะมากแล้ว
มันต้องวัดที่ว่าปชช.จะจ่ายได้ที่เท่าไหร่นั่นแหละคับ
1000สำหรับคนจนมันก็ถือว่าเยอะมั๊ยผมก็ตอบไม่ได้
มันต้องcutloss มั่ง
คือมันไว้คัดกรองให้ประชาชนที่ต้องป่วยหนักหน่อยถึงมาอะ
ดูโหดร้ายไปหน่อยแต่ถ้าประชาชนที่ป่วยหนักแล้วไม่มีเงินกระทั่ง1000บาทไปจ่ายมันก้คือประชาชนที่ไม่มีคุณภาพสุดๆแล้ว
แล้วคิดดูถ้าต้องเอาเงินรัฐ หลักแสน หลักล้านมาช่วยจ่ายให้ประชาชนที่ไม่มีกระทั่งเงิน1000บาทมารักษามันก้คือเสียผลประโยชสุดๆ คนกลุ่มน้ไม่มีทางหาเงินมาช่วยรัฐคืนได้อยุ่แล้ว 1แสนอะ
มันอาจจะมองดูโหดร้ายแต่ ประเทศมันก้คือธุรกิจอะแหละ
นี่ยังไม่นับว่าเอางบรักษามาไปใช้ได้อีกหลายอย่างนะ
ผมว่ามันจะสุดโต่งไปหน่อยถ้าประเทศๆนึงจะleave one behind ซึ่งตราบใดที่ประเทศไทยยังเป็นประชาธิปไตยและมีรัฐธรรมนูญที่กำหนดหน้าที่รัฐ มาตรา55 และสิทธิประชาชนมาตราไหนจำไม่ได้ละ เกี่ยวกับเรื่องสิทธิที่ได้รับการบริการสาธารณสุขของรัฐ ก็ทำแบบที่คุณว่าไม่ได้..
คหสต.ประเทศต้องleave no one behindคับ การgroomingคนก็เป็นส่วนสำคัญให้ประเทศเดิน สุขภาพที่ดีของประชาชนเป็นส่วนประกอบหลักใหญ่ๆ การทิ้งคนที่ไม่มีศักยภาพไว้ข้างหลังมันไม่ใช่cut lossแบบธุรกิจอ่ะคับ มันคือการปล่อยให้คนๆนึงตาย
ส่วนงบถ้าเป็นธุรกิจคงcut costจากสิ่งที่ไม่จำเป็นก่อนคับเช่นงบสภาบัน หรืออื่นๆ สุขภาพยังไงผมก็ว่าmustในเชิงธุรกิจ
แต่ก็น่าสนใจนะว่าถ้าประเทศๆนึงทิ้งประชากรที่ไม่มีศักยภาพมากพอตามที่รัฐกำหนดแล้วจะเป็นยังไง จะเหมือนที่ชาวเสื้อเหลืองเคยอยากได้มั๊ยว่าเสียงในกทม.มีค่ามากกว่าตจว.
ไว้อาจเปิดกระทู้discussกันในบอร์ด ผมว่าน่าสนใจดี หรือจริงๆมีประเทศไหนทำแล้วก็บอกได้คับผมไม่ทราบเหมือนกัน
มันก้ทุกประเทศแหละที่ leave one behind
ของไทยเรานี่ดีที่สุดแล้วมั้ง ยิ่งเทียบกับประเทศไม่มีเงิน
คือตอนนี้ สมมติ สเกลการดูแลสุขภาพประชาชน ความดีตั้งแต่ 1-100
1 คือดีสุด
ประเทศที่2รองจากเรา ค่าความดี อาจจะ 10
แล้วก้มีพวก 11 12 13 14 เรียงไป
ของเราอยุ่ประมาณ 2-3 แล้วพอบอกจะให้ลดลงมาซัก 10 เท่าประเทศอื่น
ก้จะมีคนบอกแบบที่นายบอกอะ ไม่อยากให้leave one behind
คือเราดูแลดีจนดีมากเกินไปแล้ว
ถ้าไปนโยบาย30บาทมันดีจริง ประเทศอื่นมันทำกันหมดแล้วแหละ นี่มันสุดโต่งไปนิด
หืมมม
Unversal health careนี่หลายประเทศทำนะครับ
70กว่าประเทศ ผมก็ไม่ได้updateนานละไม่มั่นใจตัวเลขในปัจจุบัน
ยิ่งรัฐสวัสดิการในแถบยุโรปนี่ก็มีอยู่แล้วคับไม่ต้องพูดถึง รักษาฟรีหมดไม่ต้องจ่ายซักบาท ไปจ่ายในรูปแบบtax
ส่วนในอาเซียนก็มีการพูดเรื่องนี้ในที่ประชุมอาเซียนกันตลอดนะคับว่าจะผลักดันให้กลุ่มประเทศอาเซียนมีuniversal health careอย่างมาเลย์ก็พึ่งมีไปปี60มั้งถ้าจำไม่ผิด บรูไนอีกประเทศ
ผมมองว่าในขณะที่ทุกคนผลักดันให้เกิดขึ้น ประเทศเราซึ่งทำได้ดีอยู่แล้วและเป็นตัวอย่างให้นานาประเทศในอาเซียนด้วยซ้ำกลับอยากลดstandardตัวเองลงผมมองว่ามันแปลกๆในวิธีการอ่ะคับ เราควรตั้งเป้ามองไปในภาพให้เหมือนประเทศที่เจริญแล้วมากกว่าเปรียบเทียบตัวเองกับประเทศที่ยากจนหรือด้อยกว่าอ่ะคับ
เอางี้นะ บอกไงดี ค่าใช้จ่ายต่อการรักษาต่อโรคอะ ไม่ว่าประเทศไหนก้ราคาเท่ากันถูกมั๊ย
สมมติเป็น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ราคาค่ารักษาก้คือ สมมติตีกลมๆ 1ล้านบาท เทียบเมกาก้ อาจจะแพงกว่านิด 1.2ล้านอะไรก้ว่าไป
ในขณะที่ประเทศพวกนั้นค่าภาษีที่จ่ายน่าจะอยุ่ที่ประมาณ มากกว่าเรา10เท่า+ได้ ในแง่ของภาษีต่อหัวเฉลี่ยต่อประชากรที่เก็บ
ในมุมทั้ง2มุม 1. มุมค่าtax ที่คนนั้นที่ป่วยมีโอกาสที่เค้าคนนั้นจะput ค่า tax ให้ตัวเองดองไว้เกือบเท่าค่ารักษาที่จ่ายในโรคที่เป็น
2. ค่าผลผลิตที่คนๆนั้นจะหายป่วยแล้วกลับไปทำงานต่อเพื่อทำให้มุลค่าของตัวเองcover ที่รัฐจ่ายค่ารักษาให้
แล้วผมก้ค่อนข้างมั่นใจว่า อันนี้จากที่อ่านหลายปีมาแล้วซึ่งตอนนี้ก้ยังคงคล้ายๆแบบนี้มั้งคือ
3. ตปทเค้าไม่ได้ให้การรักษาฟรีกับ "ทุกคน" นะ คือมันต้องมีสิทธิบางอย่างไม่เมหือนของไทยที่ใช้คำว่าทุกคนได้เลย แค่ต้องรอคิว
แล้วย้อนกลับไป ไม่ว่าจะข้อ 1 2 3 ไม่มีข้อไหนเลยที่เราควรจะทำแบบนั้น แล้วต่างประเทศเค้าแค่ดูนโยบายครับ ไม่ได้เอาไปทำ เพราะเค้าศึกษาแล้วเหนข้อด้อยมากกว่าข้อดีไงเค้าเลยไม่เอาไปทำตาม
ไม่งั้นนโยบายนี้อะมีมากี่ปีแล้วหว่า 15 ปีแล้วมั้ง ถ้ามันดีจริงต่างประเทศเค้าเอาไปทำหมดแล้ว อย่างยุคทักษิณตอนเริ่มนโยบายนี้แค่ 1-2ปีก้ทำให้เป็นรูปธรรมแล้ว ต่างประเทศถ้าจะทำก๊อปไปแปปเดียวก้ได้ละ นี่15ปีแล้วมั้งยังไม่มีใครทำตามเลย
ตัวอย่าง
https://aga24h.allianz-assistance.co.th/th/usa-health-care-system/
1. 2ทางคือ1.ขึ้นtax 2. ลดผลประโยชน์ ซึ่งแน่นอนไม่มีรัฐบาลไหนของไทยขึ้นtaxหรือลดประโยชน์หรอก ขนาดคสช.อำนาจล้นมือยังไม่กล้าทำเลย จริงๆคือปัญหาเดียวกับอังกฤษ
2. อันนี้ผมไม่เคยหาข้อมูลเปรียบเทียบ ถ้ามีแปะก็ดีคับผมได้ศึกษา
3. อย่างที่บอก ไทยกับอังกฤษเหมือนๆกันคือรักษาฟรีทุกโค "ทุกคน" ส่วนประเทศอื่นเค้ามีfundingจากกองทุนอื่นๆและปชช.จ่ายบางส่วน อันนี้ผมเห็นด้วยกับคุณนะว่าต้องปฏิรูปซักอย่าง แต่อย่างที่ผมบอกการตั้ง1000ขั้นต่ำหรือยังไง ต้องมีการศึกษามาก่อนคับ ไม่ใช่อยู่ๆตั้งมาแล้วบอกcut lossใครไม่มีปัญญาจ่ายก็ทิ้งเลย อันนี้ที่ผมไม่เห็นด้วยครับ ควรมีแผนรับรอง
4. เทียบศรีลังกาก็ได้คับถ้าจำไม่ผิดก็รักษาฟรีเหมือนไทย ค่าครองชีพค่าใช้จ่ายน่าจะพอๆกัน
ประเทศที่ใช้คือ England
https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/124307
ซึ่งอยากจะเปลีย่นจะตายแล้วแต่ไม่กล้าแตะ
แล้วก้สมมติศรีลังกา ไทย
สรุปมี3ประเทศที่ใช้ ประเทศที่เจริญแล้ว 1 ซึ่งพร้อมที่จะถอยในอนาคตถ้ามีช่อง
แบบนี้มันดีตรงไหนไอนโยบายนี้ ขนาดอังกฤษที่เก็บภาษีต่อหัวได้เยอะกว่าเรากี่เท่าเค้ายังพยุงไม่ไหวแล้ว แล้วของไทยเเก็บภาษีได้นิดนึงแต่เอาไปจ่ายค่าพยาบาลต่อหัวโคตรเยอะ
ถ้ามันดีจริงอะมันไม่ได้แค่3ประเทศหรอกที่ใช้ มันต้องหลัก หลายสิบประเทศนู่น
ของเราก้อย่างที่บอกไป เหมือนเอาเงินเยอะไปเทรักษาแล้วไม่ได้อะไรกลับมาคืนมากกว่า ในเชิงประเทศนะ
UK ก็ถูกแล้วหนิคับ ไม่ใช่แค่อังกฤษที่มีUniversal health coverage ซึ่งdetailย่อยอาจแตกต่างกัน แต่โดยรวมคือรักษาฟรี ได้ใบpescriptionเหมือนกัน
แล้วจาก70กว่าประเทศเหลืแ3ประเทศได้ไงอ่ะงง555
กลับมาที่อังกฤษ NHSเงินเริ่มcrisisมันจากหลายปัจจัยนิคับ
เช่น ageing การถูกลดงบจากปัญหาเศรษฐกิจ จากการเก็บtaxได้น้อยลง
แต่ผมฟังหรืออ่านบทความนึงนานมาละตั้งแต่คุยเรื่องนี้กับเพื่อนที่อังกฤษ ถ้าเทียบGDPกับhealthcare spendingระหว่างอังกฤษกับประเทศในยุโรปเป็น%ที่ต่ำกว่า 10%มั้งถ้าจำไม่ผิดนานละ ซึ่งsize of economyก็มีส่วนในการทำให้underfunded เลยเป็นคำตอบว่าทำไมพยุงไม่ไหว
แต่ถามว่ายกเลิกมั๊ย... ก็ไม่นะก็อยู่ตราบจนปัจจุบันแต่อย่างที่บอกต้องมีการปรับปรุงข้อกำหนดบางอย่างแหละเพื่อระยะยาวซึ่งอังกฤษทำอะไรผมก็ไม่ได้ตามละ แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคือ Brexit ลดspendingไปได้ไม่มากก็น้อย
ผมพูดกลับกันบ้างว่า ถ้ามันไม่ดีจริงมันไม่อยู่มานานเป็น20ปีหรอกในไทย ในประเทศอื่นๆก็ไม่ต่ำกว่าเรา
ผมว่ามองแบบนี้ดีกว่าคับ มองหลายๆมุม
มุมประชาชน - อันนี้ดีแน่นอนได้ประโยชน์100%
มุมงบประมาณ - เฉยๆถ้างบพอ แย่แน่นอนถ้างบไม่พอ ซึ่งงบไม่พอมาจากหลายปัจจัยก็ไปแก้ไม่ใช่ยุบ หรือศึกษาทางเลือกอื่นถ้าศึกษาแล้วมีแนวทางที่ดีกว่าในระยะยาวก็ยุบแค่นั้นไม่ยากเหมือนโครงการหรือนโยบายอื่นๆ
มุมคนทำงานในระบบสาธารณสุข - อันนี้ผมไม่รู้ คุณทำงานในระบบสาธารณสุขรึเปล่า? ถ้าทำก็แชร์ได้ครับ
ส่วนตัวที่ได้ยินfeedbackมาคืองานหนักขึ้น เลยไม่พอใจในโครงการนี้
สรุปอีกที ผมว่าโครงการนี้ดี แต่ต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกว่านี้ ไม่ให้ขาดทุนจนล้มทั้งกระดาน ซึ่งก็ต้องค่อยๆแก้ไขไปหรือหาsolutionที่ดีกว่าก็เปลี่ยน