ผมใช้มือถือแอนดรอยด์มาตลอด ที่ผ่านมาก็มี Samsung, Huawei, Poco

ตอนนี้ได้ฤกษ์ลองเปลี่ยนมาใช้ iPhone บ้าง พึ่งไปถอย 13 pro max มาได้ 4-5 วันนี้เอง

จะขอรีวิวสั้น ๆ สรุปง่าย ๆ ให้อ่านกันครับ ขอแบ่งเป็น สิ่งที่ผมรู้สึกว่าดีกว่าแอนดรอยด์ กับ สิ่งที่ผมรู้สึกว่าด้อยกว่าแอนดรอยด์ นะครับ

ปล. ไลฟ์สไตล์ของผมก็ใช้แอพโซเชียลทั่ว ๆ ไป + แอพธนาคาร + แอพชอปปิ้งครับ ไม่มีเล่นเกม






สิ่งที่ผมรู้สึกว่าดีกว่าแอนดรอยด์

- หลาย ๆ แอพนั้นทำมาสำหรับไอโฟนค่อนข้างดีกว่า ที่ชัด ๆ เลยมี Instagram หรือแอพหาคู่ ( ) อย่าง CMB, Tinder ที่แอนดรอยด์ชอบค้างประจำตอนผมยังใช้อยู่

- ปัญหา Notifications ไม่เด้ง แทบไม่มีเลย ในขณะที่ตอนใช้แอนดรอยด์เป็นบ่อยมาก เคยไม่เด้งจนแฟน(เก่า)งอน เพราะไม่ตอบแชท

- กล้องผมว่าโทนสวยกว่าแอนดรอยด์นะ แอนดรอยด์มันจะเป็นอีกโทนนึง คงนีกกันออกนะ

- ระบบ Cloud ค่อนข้างเป็นระเบียบดี อย่างพวกรูปภาพผมว่าจัดเก็บเป็นระเบียบ แยก category ดีกว่าแอนดรอยด์ครับ

- ตัว 13 Pro max นี่ลบข้อครหาเรื่องไอโฟนแบตน้อยไปได้เยอะเลย เหมือนจะข่มเรือธงตัวอื่นด้วย ของผมคือเล่นทั้งวันไม่ต้องชาร์จ ยังเหลือเกิน 60% อยู่เลยครับ

- ส่วนสิ่งที่ผมชอบมากสุดคือเรื่อง Privacy ซึ่งแอปเปิ้ลชูเรื่องนี้เป็นจุดขายเยอะมาก ๆ แล้วก็เห็นผลจริง ๆ คือ ป้องกันการโดน track/โดนพวกแอพต่าง ๆ ล้วงข้อมูลเรา






สิ่งที่ผมรู้สึกว่าด้อยกว่าแอนดรอยด์

- ผมยังรู้สึกว่าการมีปุ่ม back อยู่ตรงมุมขวาล่างของแบบแอนดรอยด์มันใช้งานสะดวกกว่า

- โหมดเปิดเสียงเปิดสั่นปรับค่อนข้างยุ่งยาก อย่างผมจะชอบเปิดเสียงโทรเข้าอย่างเดียว แต่ทุกแอพปิดเสียงหมด ในแอนดรอยด์มันปรับง่ายกว่า ส่วนไอโฟนต้องมานั่งกดตั้งค่าทีละแอพ (หรือผมทำไม่เป็นเองวะ )

- กล้องถ่ายสวยจริง แต่ยังไม่มีโหมด manual ให้ใช้ ณ ตอนนี้ ผมชอบใช้โหมด manual ในบางจังหวะเลยรู้สึกขัด ๆ หน่อย

- พวกเครื่องมือต่าง ๆ แอนดรอยด์ทำได้ดีกว่าเช่น google map ที่ข่ม map ของ ios ค่อนข้างเยอะ, ปฏิทินกับเครื่องคิดเลขที่ผมรู้สึกว่าของแอนดรอยด์ใช้ค่อนข้างเข้ามือกว่า, นาฬิกาปลุกที่แอนดรอยด์ปรับได้ว่าจะ snooze กี่นาที แต่ไอโฟนปรับไม่ได้ (น่าจะ fix ไว้ที่ 9 นาทีมั้ง)…จากทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทำให้ผมยังโหลดแอพบางอันของ google มาใช้อยู่

- ไม่มี Fast charge แบบแอนดรอยด์ แต่ทดแทนด้วยแบตอึด ผมเลยไม่ซีเรียส

- Port Lightning นี่เอ็งจะดันทุรังไปถึงไหน

- อันนี้บัดซบที่สุด ซึ่งก็คือ การใช้ FaceID ในยุคที่ต้องใส่แมสตลอดเวลา คงไม่ต้องบรรยายว่ายุ่งยากแค่ไหน ก็หวังว่ามือถือรุ่นต่อ ๆ ไปจะกลับมาใช้ TouchID ล่ะนะ





จบการรีวิวครับ

ผมก็เป็นคนนึงที่ใช้แอนดรอย ยังชอบตรงมุมข้างล่าง มีปุ่ม Back เนี่ยแหละครับ ทำให้ใช้งานได้สะดวก

ผมใช้ iphone คู่กับ android มาตลอดหลายปีหลัง
ถ้ารุ่นราคา 2-30,000 บาท มาเทียบกัน ผมว่าใช้งานได้ดีพอกัน มีเด่นมีด้อยในแต่ละด้าน
เรื่องที่ผมไม่ชอบ iphone มากที่สุด คือยังดันทุรังใช้ port lightning
มันควรเปลี่ยนเป็น usbc ได้แล้ว ทั้งที่ต่างประเทศเขากดดันให้เปลี่ยน แต่ apple ก็ไม่ยอมเปลี่ยนสักที
ถ่ายข้อมูลได้ช้ามาก ถ้าไฟล์ใหญ่มากบางครั้งก็ค้างไปเลย

สงสัยต้องโดน Apple watch ละครับ ไว้ปลดล็อกเวลาใส่เเมส

ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย เดี๋ยวแก้เพิ่มแปป

กุเกิ้ลแมพกากจริง ผมเจอหลายรอบละ ของแฟนผมนะ

ผมใช้แอนดรอย

งานผมมันต้องทำงานกับพวกเชื้อโรค ต้องล้างมือบ่อยทั้งวัน ดูแล้วไม่น่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ครับ

ตั้งแต่ใช้ android ไม่คิดจะกลับไปใช้ iphoneอีกเลย

เพราะมันแพง

ผมเองก็ใช้ Android มาตลอด แต่เปลี่ยนมาใช้ iPhone 11 Pro สิ่งที่ผมไม่ชอบจนหงุดหงิด แม้จะใช้มาเป็นปีแล้ว หลักๆที่หงุดหงิดอยู่ทุกวันคือ

1.) เวลาดู Page Facebook แล้วเราจะกดดูแผนที่ มันจะบังคับเปิด Apple Map เท่านั้น และจะหา Location ของร้านไม่เจอ เช่นถ้ากดไปร้านที่ Icon Siam มันจะเปิด Apple Map แล้วนำทางไปที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็คือแถวๆศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
2.) เวลาเปิดลิ้งค์ให้ Facebook หรือ Line เช่น Pantip, Soccersuck มันจะเปิด Safari ซึ่่งทำให้เราต้องมานั่ง Login บริการนั้นๆใน Safari ในขณะที่ Android จะเปิด Native App นั้นๆ ได้เลยถ้าเรา install ไว้
3.) เวลาจะต่อ Wifi ของกล้องหน้ารถ ปัญหาคือกล้องหน้ารถมันเป็น Wifi ที่ไม่มี Internet แต่เอาไว้ต่อเพื่อดึงไฟล์ iOS จะไม่ยอมต่อ Wifi นั้นๆให้ ทำให่้เราเชื่อมต่อกับกล้องไม่ได้

(เคสนี้ผมเคยมีครั้งนึงโดนคู่กรณีชน แล้วจะดึงภาพจากกล้อง แต่ดึงไม่ได้ สุดท้ายต้องถอด Micro SD ไปเสียบ Card Reader แล้วจิ้มเข้า iPad Pro โคตรวุ่นวาย)

4.) ไม่มี Fast Charge

นอกนั้นก็ปัญหานิดๆหน่อยๆ ตามประสาคนใช้ Android มาหลายปีมาใช้ iOS แต่ไม่ได้หงุดหงิดเท่า 3-4 ข้อดังกล่าว ถามว่าจะขายย้ายค่ายไหม ก็คงไม่เพราะมันยังใช้งานได้อยู่

แต่ถ้าเจ๊งเมื่อไร คงกลับไปใช้ Android ละ



Edit : เพิ่มเติม

5.) Siri นี่คนละเรื่องกับ Google Assistant เลย Google ฟังเข้าใจมากกว่า หาข้อมูลได้ตรงมากกว่าเยอะ
ุ6.) Android Auto > Apply Car Play อย่าง Android Auto เรากดปุ่มไมค์ที่พวงมาลัยแล้วพูดได้เลย "นำทางไปเมกาบางนา" "อยากไปทอสคาน่าเขาใหญ่" "ไปซิคาด้าหัวหิน" มันพาไปได้หมดอ่ะ หาเจอตอลด แต่ Apple Car Play พูดซะ 10 ครั้ง หาเจอซัก 3 ครั้งก็บุญแล้ว

ผมใช้มาแล้วทั้งคู่ โอเคทั้งคู่
แต่เรื่องปุ่ม back ผมกลับชอบของไอโฟนมากกว่าที่ไม่มี
ใช้การปัดขวาเอาเพื่อ back ไม่ก็กดออกแอพไปเลย

กินแบตเพิ่มทั้งคู่นี่แหละที่ผมเบื่อ มันต้องเปิดไวไฟ บูทูธทิ้งตลอดเวลา แอปเปิลวอชจะกินแบตเยอะขึ้น ผมรู้สึกได้เลยว่าช่วงหลังแบตหมดไวมาก

ผมเองใช้ไอโฟนมาตลอดจนเครื่องปัจจุบันหันมาใช้แอนดรอย ก็รุ่นรองเรือธงของตอนนั้นนะ

ผมงงมากเวลาที่คนแนะนำแอนดรอยบอกสมัยนี้ความสเถียรไม่ต้องมาพูดกันแล้ว
จะไม่พูดได้ยังไงในเมื่อโนติเด้งบ้างไม่เด้งบ้างอยู่เลย แอพค้างถี่กว่าไอโฟนนะสำหรับผม(ใช้ไอโฟนมาถ้าแบนยังดีอยู่แทบไม่เคยค้างเลยมั้ง)

แอพยังไม่เสถียรแต่บอกไม่ต้องพูดเรื่องความเสถียร
ไม่รู้ว่าความเสถียรของเค้าคือเลื่อนหน้าจอแล้วมันลื่นๆก็นับว่าโอเคหรือยังไงกัน

ไม่มี Fast charge เขามีตั้งแต่ iPhone แล้วเด้ทั่น

ขอสอบถามหน่อยครับ ไอโฟนสามารถปาดขวา(ปาดจากขอบขวาไปซ้าย) แบบแอนดรอยเพื่อ back ได้ไหมครับ
ติดตรงนี้ของแอนดรอยมากกลัวเปลี่ยนไปจะไม่ถนัด

Face id และ port lightning คือแบบเมื่อไรจะเปลี่ยน