BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:20
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2


อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย

https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:22
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:23
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:25
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ  


ใครแถครับ

คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้

แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ

ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อิอิ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:29
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ  


ใครแถครับ

คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้

แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ

ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อิอิ  

เอ้า ยังไม่ยอมอ่านอีก

เอามาแปะให้เลยละกัน


อ้างอิงจาก:
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2


อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย

https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251  
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 1338
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:29
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง  



และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะตรวจ 1,000 คน ติดเชื้อ 500 คนภายในไม่กี่วัน ระบาดขนาดนั้นต้องผ่านมานานพอสมควรแล้วครับ  

อาทิตย์เดียวก็ติดได้แล้วครับ 500 จริงๆมันมีเยอะกว่านี้อีก

เคยผ่านชุมชนพม่าแถวมหาชัยไหม เมืองหลวงพม่าชัดๆ 555 คนในสมุทรสาครบอก พม่าเยอะกว่าอีก คนไทยมี 7-8 แสน พม่ามี ล้านกว่าๆ  


มันคือ 500 จากการตรวจ 1 พันคนครับ สัดส่วนการตรวจเจอ 50%
 

ชุมชนแออัดแบบนั้น ยังไงก็ติด เค้าถึงให้เว้นระยะ
ถ้าไม่ตรวจตอนนี้ รับรองมี 100% ให้เห็นแน่นอน

แค่วันนี้ไปตรวจ ยังกลัวตอนไปไม่ติด จะติดตอนกลับเนี้ยแหล่ะ  


ใช่ครับ ชุมชนแออัดแบบนั้นยังไงก็ติด แต่ถ้าสามารถแพร่เชื้อได้ 500 คนใน 1 สัปดาห์นี่ก็เวอร์ไปเยอะมาก ระยะฟักตัวสูงสุด 14 วัน ถ้าแค่ 1 สัปดาห์ใน 1 พันคนที่ตรวจไปก็คงมียังตรวจไม่เจอเชื้ออีกเพียบ ก็คือต้องมีคนติดเชื้อเกิน 50% ไปเยอะเลย ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบาด 50% ภายในสัปดาห์เดียว ถ้าใช่จริงอีตราการแพร่เชื้อเข้าขั้นวิกฤติละครับ  

ดูเกาหลีใต้ ที่ระบาดในโบสถ์สิครับ ว่าใช้เวลาแค่กี่วัน ยอดไปกี่ร้อยคน  

ที่เกาหลีหลังจากป้าไปจีนจนถึงตรวจเจอเชื้อก็ประมาณเดือนกว่าครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:35
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ  


ใครแถครับ

คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้

แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ

ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อิอิ  

เอ้า ยังไม่ยอมอ่านอีก

เอามาแปะให้เลยละกัน


อ้างอิงจาก:
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2


อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย

https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251  
 

จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน

มีตรงไหนน้า ที่บอกว่าต้องเป็นรุ่นที่มาจากระลอกแรกเท่านั้น

ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ

ผมเบื่อมากกว่าอีกน้า

อิอิ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:37
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง  



และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะตรวจ 1,000 คน ติดเชื้อ 500 คนภายในไม่กี่วัน ระบาดขนาดนั้นต้องผ่านมานานพอสมควรแล้วครับ  

อาทิตย์เดียวก็ติดได้แล้วครับ 500 จริงๆมันมีเยอะกว่านี้อีก

เคยผ่านชุมชนพม่าแถวมหาชัยไหม เมืองหลวงพม่าชัดๆ 555 คนในสมุทรสาครบอก พม่าเยอะกว่าอีก คนไทยมี 7-8 แสน พม่ามี ล้านกว่าๆ  


มันคือ 500 จากการตรวจ 1 พันคนครับ สัดส่วนการตรวจเจอ 50%
 

ชุมชนแออัดแบบนั้น ยังไงก็ติด เค้าถึงให้เว้นระยะ
ถ้าไม่ตรวจตอนนี้ รับรองมี 100% ให้เห็นแน่นอน

แค่วันนี้ไปตรวจ ยังกลัวตอนไปไม่ติด จะติดตอนกลับเนี้ยแหล่ะ  


ใช่ครับ ชุมชนแออัดแบบนั้นยังไงก็ติด แต่ถ้าสามารถแพร่เชื้อได้ 500 คนใน 1 สัปดาห์นี่ก็เวอร์ไปเยอะมาก ระยะฟักตัวสูงสุด 14 วัน ถ้าแค่ 1 สัปดาห์ใน 1 พันคนที่ตรวจไปก็คงมียังตรวจไม่เจอเชื้ออีกเพียบ ก็คือต้องมีคนติดเชื้อเกิน 50% ไปเยอะเลย ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบาด 50% ภายในสัปดาห์เดียว ถ้าใช่จริงอีตราการแพร่เชื้อเข้าขั้นวิกฤติละครับ  

ดูเกาหลีใต้ ที่ระบาดในโบสถ์สิครับ ว่าใช้เวลาแค่กี่วัน ยอดไปกี่ร้อยคน  

ที่เกาหลีหลังจากป้าไปจีนจนถึงตรวจเจอเชื้อก็ประมาณเดือนกว่าครับ  

อ่านดูอีกทีครับ อันนี้แค่ไปโบสถ์ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าอยู่กันแบบพม่ามหาชัยติดกันเพียบกว่านั้นแน่ๆ


เดือนมกราคม 63 หญิงชรารายนี้ซึ่งมีที่พำนักในเมืองแทกู (Daegu) ห่างจากกรุงโซลมาทางใต้ราว 235 กิโลเมตร ได้เดินทางมายังกรุงโซล มีการใช้บริการขนส่งสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า

7 ก.พ. 63 หญิงชราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

9 ก.พ. หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี (Shincheonji Church) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา

10 ก.พ. 63 หญิงชรามีอาการไข้ขึ้น แต่ปฏิเสธที่จะตรวจหา COVID-19 เพราะมองว่าตนไม่ได้เดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา

16 ก.พ. 63 หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอีกครั้ง

17 ก.พ. 63 ได้รับการตรวจ COVID-19 ที่สถานพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวมากักตัวไว้เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล

18 ก.พ. 63 โรงพยาบาลยืนยันว่าหญิงชราคนดังกล่าวเป็น “ผู้ป่วยรายที่ 31 (31st Patient)”

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/119966
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:39
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ  


ใครแถครับ

คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้

แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ

ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อิอิ  

เอ้า ยังไม่ยอมอ่านอีก

เอามาแปะให้เลยละกัน


อ้างอิงจาก:
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2


อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย

https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251  
 

จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน

มีตรงไหนน้า ที่บอกว่าต้องเป็นรุ่นที่มาจากระลอกแรกเท่านั้น

ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ

ผมเบื่อมากกว่าอีกน้า

อิอิ  

5555555555 อ้าวรุ่นที่เพิ่งติดมันเรียกเป็นรุ่นๆได้เหรอจ๊ะ อย่าแถเยอะเลย ถลอกเปล่าๆนะจ๊ะ

ยิ่งแถยิ่งโผล่เยอะนะ นู๋
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 1338
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 13:31
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง  



และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะตรวจ 1,000 คน ติดเชื้อ 500 คนภายในไม่กี่วัน ระบาดขนาดนั้นต้องผ่านมานานพอสมควรแล้วครับ  

อาทิตย์เดียวก็ติดได้แล้วครับ 500 จริงๆมันมีเยอะกว่านี้อีก

เคยผ่านชุมชนพม่าแถวมหาชัยไหม เมืองหลวงพม่าชัดๆ 555 คนในสมุทรสาครบอก พม่าเยอะกว่าอีก คนไทยมี 7-8 แสน พม่ามี ล้านกว่าๆ  


มันคือ 500 จากการตรวจ 1 พันคนครับ สัดส่วนการตรวจเจอ 50%
 

ชุมชนแออัดแบบนั้น ยังไงก็ติด เค้าถึงให้เว้นระยะ
ถ้าไม่ตรวจตอนนี้ รับรองมี 100% ให้เห็นแน่นอน

แค่วันนี้ไปตรวจ ยังกลัวตอนไปไม่ติด จะติดตอนกลับเนี้ยแหล่ะ  


ใช่ครับ ชุมชนแออัดแบบนั้นยังไงก็ติด แต่ถ้าสามารถแพร่เชื้อได้ 500 คนใน 1 สัปดาห์นี่ก็เวอร์ไปเยอะมาก ระยะฟักตัวสูงสุด 14 วัน ถ้าแค่ 1 สัปดาห์ใน 1 พันคนที่ตรวจไปก็คงมียังตรวจไม่เจอเชื้ออีกเพียบ ก็คือต้องมีคนติดเชื้อเกิน 50% ไปเยอะเลย ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบาด 50% ภายในสัปดาห์เดียว ถ้าใช่จริงอีตราการแพร่เชื้อเข้าขั้นวิกฤติละครับ  

ดูเกาหลีใต้ ที่ระบาดในโบสถ์สิครับ ว่าใช้เวลาแค่กี่วัน ยอดไปกี่ร้อยคน  

ที่เกาหลีหลังจากป้าไปจีนจนถึงตรวจเจอเชื้อก็ประมาณเดือนกว่าครับ  

อ่านดูอีกทีครับ อันนี้แค่ไปโบสถ์ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าอยู่กันแบบพม่ามหาชัยติดกันเพียบกว่านั้นแน่ๆ


เดือนมกราคม 63 หญิงชรารายนี้ซึ่งมีที่พำนักในเมืองแทกู (Daegu) ห่างจากกรุงโซลมาทางใต้ราว 235 กิโลเมตร ได้เดินทางมายังกรุงโซล มีการใช้บริการขนส่งสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า

7 ก.พ. 63 หญิงชราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

9 ก.พ. หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี (Shincheonji Church) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา

10 ก.พ. 63 หญิงชรามีอาการไข้ขึ้น แต่ปฏิเสธที่จะตรวจหา COVID-19 เพราะมองว่าตนไม่ได้เดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา

16 ก.พ. 63 หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอีกครั้ง

17 ก.พ. 63 ได้รับการตรวจ COVID-19 ที่สถานพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวมากักตัวไว้เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล

18 ก.พ. 63 โรงพยาบาลยืนยันว่าหญิงชราคนดังกล่าวเป็น “ผู้ป่วยรายที่ 31 (31st Patient)”

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/119966  


อันนี้มันช่วงแรกที่ป้าแกบอก หลังสอบสวนจริงๆ ไปโบสถ์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้อีกหลายครั้งครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 13:38
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ  


ใครแถครับ

คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้

แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ

ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อิอิ  

เอ้า ยังไม่ยอมอ่านอีก

เอามาแปะให้เลยละกัน


อ้างอิงจาก:
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2


อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย

https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251  
 

จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน

มีตรงไหนน้า ที่บอกว่าต้องเป็นรุ่นที่มาจากระลอกแรกเท่านั้น

ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ

ผมเบื่อมากกว่าอีกน้า

อิอิ  

5555555555 อ้าวรุ่นที่เพิ่งติดมันเรียกเป็นรุ่นๆได้เหรอจ๊ะ อย่าแถเยอะเลย ถลอกเปล่าๆนะจ๊ะ

ยิ่งแถยิ่งโผล่เยอะนะ นู๋
 

ทำไมมันจะเรียกไม่ได้ว้าาาาา

งงจริง ๆ เลย แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ แนะนำหน่อยสิ

เด็กน้อย

อย่าแถเลยจ้า

ไม่ฉลาด อ่านแล้วตีความไม่ออกก็ยอมรับหน่อยน้าาาา

สงสารหมอเค้าที่โดนคนไม่ฉลาดเอาคำพูดไปตีความผิด ๆ

อิอิ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 15:19
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง  



และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะตรวจ 1,000 คน ติดเชื้อ 500 คนภายในไม่กี่วัน ระบาดขนาดนั้นต้องผ่านมานานพอสมควรแล้วครับ  

อาทิตย์เดียวก็ติดได้แล้วครับ 500 จริงๆมันมีเยอะกว่านี้อีก

เคยผ่านชุมชนพม่าแถวมหาชัยไหม เมืองหลวงพม่าชัดๆ 555 คนในสมุทรสาครบอก พม่าเยอะกว่าอีก คนไทยมี 7-8 แสน พม่ามี ล้านกว่าๆ  


มันคือ 500 จากการตรวจ 1 พันคนครับ สัดส่วนการตรวจเจอ 50%
 

ชุมชนแออัดแบบนั้น ยังไงก็ติด เค้าถึงให้เว้นระยะ
ถ้าไม่ตรวจตอนนี้ รับรองมี 100% ให้เห็นแน่นอน

แค่วันนี้ไปตรวจ ยังกลัวตอนไปไม่ติด จะติดตอนกลับเนี้ยแหล่ะ  


ใช่ครับ ชุมชนแออัดแบบนั้นยังไงก็ติด แต่ถ้าสามารถแพร่เชื้อได้ 500 คนใน 1 สัปดาห์นี่ก็เวอร์ไปเยอะมาก ระยะฟักตัวสูงสุด 14 วัน ถ้าแค่ 1 สัปดาห์ใน 1 พันคนที่ตรวจไปก็คงมียังตรวจไม่เจอเชื้ออีกเพียบ ก็คือต้องมีคนติดเชื้อเกิน 50% ไปเยอะเลย ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบาด 50% ภายในสัปดาห์เดียว ถ้าใช่จริงอีตราการแพร่เชื้อเข้าขั้นวิกฤติละครับ  

ดูเกาหลีใต้ ที่ระบาดในโบสถ์สิครับ ว่าใช้เวลาแค่กี่วัน ยอดไปกี่ร้อยคน  

ที่เกาหลีหลังจากป้าไปจีนจนถึงตรวจเจอเชื้อก็ประมาณเดือนกว่าครับ  

อ่านดูอีกทีครับ อันนี้แค่ไปโบสถ์ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าอยู่กันแบบพม่ามหาชัยติดกันเพียบกว่านั้นแน่ๆ


เดือนมกราคม 63 หญิงชรารายนี้ซึ่งมีที่พำนักในเมืองแทกู (Daegu) ห่างจากกรุงโซลมาทางใต้ราว 235 กิโลเมตร ได้เดินทางมายังกรุงโซล มีการใช้บริการขนส่งสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า

7 ก.พ. 63 หญิงชราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

9 ก.พ. หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี (Shincheonji Church) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา

10 ก.พ. 63 หญิงชรามีอาการไข้ขึ้น แต่ปฏิเสธที่จะตรวจหา COVID-19 เพราะมองว่าตนไม่ได้เดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา

16 ก.พ. 63 หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอีกครั้ง

17 ก.พ. 63 ได้รับการตรวจ COVID-19 ที่สถานพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวมากักตัวไว้เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล

18 ก.พ. 63 โรงพยาบาลยืนยันว่าหญิงชราคนดังกล่าวเป็น “ผู้ป่วยรายที่ 31 (31st Patient)”

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/119966  


อันนี้มันช่วงแรกที่ป้าแกบอก หลังสอบสวนจริงๆ ไปโบสถ์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้อีกหลายครั้งครับ  

มีลิ้งข่าวไหมครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 15:20
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ  


ใครแถครับ

คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้

แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ

ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อิอิ  

เอ้า ยังไม่ยอมอ่านอีก

เอามาแปะให้เลยละกัน


อ้างอิงจาก:
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2


อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย

https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251  
 

จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน

มีตรงไหนน้า ที่บอกว่าต้องเป็นรุ่นที่มาจากระลอกแรกเท่านั้น

ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ

ผมเบื่อมากกว่าอีกน้า

อิอิ  

5555555555 อ้าวรุ่นที่เพิ่งติดมันเรียกเป็นรุ่นๆได้เหรอจ๊ะ อย่าแถเยอะเลย ถลอกเปล่าๆนะจ๊ะ

ยิ่งแถยิ่งโผล่เยอะนะ นู๋
 

ทำไมมันจะเรียกไม่ได้ว้าาาาา

งงจริง ๆ เลย แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ แนะนำหน่อยสิ

เด็กน้อย

อย่าแถเลยจ้า

ไม่ฉลาด อ่านแล้วตีความไม่ออกก็ยอมรับหน่อยน้าาาา

สงสารหมอเค้าที่โดนคนไม่ฉลาดเอาคำพูดไปตีความผิด ๆ

อิอิ

 

ขำจริงๆ พูดให้มัดตัวเองชัดๆ

"ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ"

เรียกระลอก 2 ได้ แต่ระลอก 2 จาก ระลอก 1 คือ รุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ ไง ไม่ใช่ระลอก 2 จาก กุมภา-มีนา

พูดเองมึนเองซะอย่างงั้น นี่แหล่ะหน่า คนที่เค้าเรียกว่าไม่มีแก่นสาร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 1338
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 15:47
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง  



และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะตรวจ 1,000 คน ติดเชื้อ 500 คนภายในไม่กี่วัน ระบาดขนาดนั้นต้องผ่านมานานพอสมควรแล้วครับ  

อาทิตย์เดียวก็ติดได้แล้วครับ 500 จริงๆมันมีเยอะกว่านี้อีก

เคยผ่านชุมชนพม่าแถวมหาชัยไหม เมืองหลวงพม่าชัดๆ 555 คนในสมุทรสาครบอก พม่าเยอะกว่าอีก คนไทยมี 7-8 แสน พม่ามี ล้านกว่าๆ  


มันคือ 500 จากการตรวจ 1 พันคนครับ สัดส่วนการตรวจเจอ 50%
 

ชุมชนแออัดแบบนั้น ยังไงก็ติด เค้าถึงให้เว้นระยะ
ถ้าไม่ตรวจตอนนี้ รับรองมี 100% ให้เห็นแน่นอน

แค่วันนี้ไปตรวจ ยังกลัวตอนไปไม่ติด จะติดตอนกลับเนี้ยแหล่ะ  


ใช่ครับ ชุมชนแออัดแบบนั้นยังไงก็ติด แต่ถ้าสามารถแพร่เชื้อได้ 500 คนใน 1 สัปดาห์นี่ก็เวอร์ไปเยอะมาก ระยะฟักตัวสูงสุด 14 วัน ถ้าแค่ 1 สัปดาห์ใน 1 พันคนที่ตรวจไปก็คงมียังตรวจไม่เจอเชื้ออีกเพียบ ก็คือต้องมีคนติดเชื้อเกิน 50% ไปเยอะเลย ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบาด 50% ภายในสัปดาห์เดียว ถ้าใช่จริงอีตราการแพร่เชื้อเข้าขั้นวิกฤติละครับ  

ดูเกาหลีใต้ ที่ระบาดในโบสถ์สิครับ ว่าใช้เวลาแค่กี่วัน ยอดไปกี่ร้อยคน  

ที่เกาหลีหลังจากป้าไปจีนจนถึงตรวจเจอเชื้อก็ประมาณเดือนกว่าครับ  

อ่านดูอีกทีครับ อันนี้แค่ไปโบสถ์ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าอยู่กันแบบพม่ามหาชัยติดกันเพียบกว่านั้นแน่ๆ


เดือนมกราคม 63 หญิงชรารายนี้ซึ่งมีที่พำนักในเมืองแทกู (Daegu) ห่างจากกรุงโซลมาทางใต้ราว 235 กิโลเมตร ได้เดินทางมายังกรุงโซล มีการใช้บริการขนส่งสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า

7 ก.พ. 63 หญิงชราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

9 ก.พ. หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี (Shincheonji Church) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา

10 ก.พ. 63 หญิงชรามีอาการไข้ขึ้น แต่ปฏิเสธที่จะตรวจหา COVID-19 เพราะมองว่าตนไม่ได้เดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา

16 ก.พ. 63 หญิงชราเดินทางไปยังโบสถ์ชินชอนจี เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอีกครั้ง

17 ก.พ. 63 ได้รับการตรวจ COVID-19 ที่สถานพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวมากักตัวไว้เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล

18 ก.พ. 63 โรงพยาบาลยืนยันว่าหญิงชราคนดังกล่าวเป็น “ผู้ป่วยรายที่ 31 (31st Patient)”

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/119966  


อันนี้มันช่วงแรกที่ป้าแกบอก หลังสอบสวนจริงๆ ไปโบสถ์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้อีกหลายครั้งครับ  

มีลิ้งข่าวไหมครับ  


https://thestandard.co/corona-virus-south-korea-found-52-more-victims/

ข่าวนานแล้ว หาข่าวแบบเร็วๆ นะครับ ในข่าวนี้บอกว่าไปอย่างน้อย 4 ครั้งครับ มากกว่าในไทม์ไลน์ที่ป้าบอกตอนแรก 2 ครั้ง ซึ่งจริงๆ เคยอ่านข่าวว่ามากกว่านั้นอีก แต่ป้าไม่ยอมบอก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 16:04
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555  


555

ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ

แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก

ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ

สวัสดี  


ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ  


ใครแถครับ

คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้

แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ

ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อิอิ  

เอ้า ยังไม่ยอมอ่านอีก

เอามาแปะให้เลยละกัน


อ้างอิงจาก:
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2


อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย

https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251  
 

จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน

มีตรงไหนน้า ที่บอกว่าต้องเป็นรุ่นที่มาจากระลอกแรกเท่านั้น

ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ

ผมเบื่อมากกว่าอีกน้า

อิอิ  

5555555555 อ้าวรุ่นที่เพิ่งติดมันเรียกเป็นรุ่นๆได้เหรอจ๊ะ อย่าแถเยอะเลย ถลอกเปล่าๆนะจ๊ะ

ยิ่งแถยิ่งโผล่เยอะนะ นู๋
 

ทำไมมันจะเรียกไม่ได้ว้าาาาา

งงจริง ๆ เลย แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ แนะนำหน่อยสิ

เด็กน้อย

อย่าแถเลยจ้า

ไม่ฉลาด อ่านแล้วตีความไม่ออกก็ยอมรับหน่อยน้าาาา

สงสารหมอเค้าที่โดนคนไม่ฉลาดเอาคำพูดไปตีความผิด ๆ

อิอิ

 

ขำจริงๆ พูดให้มัดตัวเองชัดๆ

"ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ"

เรียกระลอก 2 ได้ แต่ระลอก 2 จาก ระลอก 1 คือ รุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ ไง ไม่ใช่ระลอก 2 จาก กุมภา-มีนา

พูดเองมึนเองซะอย่างงั้น นี่แหล่ะหน่า คนที่เค้าเรียกว่าไม่มีแก่นสาร  

เหมือนยิ่งอธิบาย ยิ่งงงเองนะเนี่ย พ่อคนเต็มไปด้วยแก่นสาร

แสดงว่าประเทศเราเคยมีระลอก 2 แล้วใช่ป่ะ เพราะมีเคสจากคนที่ติดตั้งแต่มกรา ลามมา กุมภา-มีนา-เมษา-พฤษภา ใช่มั้ย

เพราะตัวเองบอกว่าเรียกระลอก 2 ได้

เปรียบเทียบจากสิ่งที่ตัวเองบอกว่า "เรียกระลอก 2 ได้ แต่ระลอก 2 จาก ระลอก 1 คือ รุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ ไง ไม่ใช่ระลอก 2 จาก กุมภา-มีนา"

หมายความว่าปัจจุบันนี้เป็นระลอก 1 ใหม่ แล้วถ้าลามไปเรื่อย ๆ ค่อยเรียกระลอก 2 ใหม่ แบบนี้ก็ได้หรอ

แล้วถ้าหายไปอีกแล้วมีมาอีก จะเรียก ระลอก 1 ใหม่กว่า แล้วถ้าติดไปอีกจะเรียกระลอก 2 ใหม่กว่า ไปแบบนี้เรื่อย ๆ เลยป่ะเนี่ย 555

แล้วมันจะมีระลอก 3 มั้ยอ่ะแบบนี้ แล้วระลอก 2 แบบที่ตัวเองว่าเนี่ย นับเริ่มยังไง สิ้นสุดตรงไหน พอมีคนป่วยคนนึง ไปติดเชื้อจากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน ก็นับเป็นระลอก 2 เลยสินะ

ไอ้ที่ผมพิมพ์ไปข้างบนหน่ะ *ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ* ไม่ได้มัดตัวเองนะ มันเป็นคำถามจ้า แต่คนตอบเสือกตอบมัดตัวเองซะแล้ว 555

เพราะผมไม่ได้นับว่าแบบนั้น เป็นระลอก 2 อยู่แล้วจ้า

ถึงว่าทำไมถึงมั่วเอา secondary attack rate มาอ้างอิงเฉยเลย เพราะเข้าใจว่า secondary attack rate = second wave นี้เอง

ตกลงจะนิยามระลอก 2 แค่ว่า "การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น"
และ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

แล้วถ้าคนที่ติดเชื้อในการระบาดระลอก 2 ไปแพร่เชื้อต่อ จะเรียกว่าอะไรครับ third wave หรือ tertiary attack rate ป่ะจ๊ะ

อิอิ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel