[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
secondary attack rate กับ second wave
มีความหมายเดียวกันหรอครับ
ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย
secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร
แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน
ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ
ด้วยความเคารพ
555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ
secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ
ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า
มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ
คำมันมีความหมายของมันอยู่
secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก
imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)
ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR
วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ
ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย
เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก
ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ
ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ
"
อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติด
เชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"
ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง
เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ
รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน
ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่
ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง
แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย
ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้
ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)
มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)
ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ
ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ
ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ
นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น
คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ
อาการหนักจริงๆ
ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ
แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"
หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ
อาการหนักกว่าจริง ๆ
555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง
นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ)
ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา
"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า
การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น
หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555
555
ถ้ามีปัญญาอ้างแค่ประโยคเดิม ๆ ที่ผมอธิบายไปแล้ว คุณยังไม่เข้าใจ
แล้วยังเสือกตีความสิ่งที่หมอพูดไม่ออกอีก
ผมก็คงจนปัญญาที่จะเสวนาด้วยแล้วครับ
สวัสดี
ไม่ต้องรีบโพส ไปอ่านข้างบนซะก่อน จะได้จบๆ คงไม่ต้องมาแถแล้วนะ
ใครแถครับ
คุยกับคนบางคนยังรู้เรื่อง พออธิบายได้
แต่คุยกับคนที่มืดบอด ไม่ยอมรับว่าตัวเองแถ
ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
อิอิ
เอ้า ยังไม่ยอมอ่านอีก
เอามาแปะให้เลยละกัน
อ้างอิงจาก:
นพ.ยง บอกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าควบคุมการระบาดได้ดีมาก เป็น1ใน7ประเทศ ที่องค์การอนามัยโลกชื่นชม สำหรับประเทศไทย การระบาดระลอกแรก เริ่มเมื่อต้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดปลายเดือนเมษายน ทั้งหมดมาจากการควบคุมโรค การป้องกัน ที่คนไทยทุกคนช่วยกัน
ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อ2 รายล่าสุด เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ และยังไม่ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ในประเทศไทย
แต่ หากจะมีการระบาดระลอก2นั้น ต้องเป็นการติดต่อกันในประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มก้อน แต่หาก สมมติเจอผู้ติดเชื้อ1คน แล้วสามารถควบคุมได้ ไม่ให้แพร่กระจาย ก็ไม่ถือว่าเป็นการระบาดระลอก2
อันนี้น่าจะจบได้ละ ไม่น่ามีช่องให้แถไปได้อีก โคดเบื่อเลย
https://ch3thailandnews.bectero.com/news/204251
จากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน
มีตรงไหนน้า ที่บอกว่าต้องเป็นรุ่นที่มาจากระลอกแรกเท่านั้น
ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ
ผมเบื่อมากกว่าอีกน้า
อิอิ
5555555555 อ้าวรุ่นที่เพิ่งติดมันเรียกเป็นรุ่นๆได้เหรอจ๊ะ อย่าแถเยอะเลย ถลอกเปล่าๆนะจ๊ะ
ยิ่งแถยิ่งโผล่เยอะนะ นู๋
ทำไมมันจะเรียกไม่ได้ว้าาาาา
งงจริง ๆ เลย แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ แนะนำหน่อยสิ
เด็กน้อย
อย่าแถเลยจ้า
ไม่ฉลาด อ่านแล้วตีความไม่ออกก็ยอมรับหน่อยน้าาาา
สงสารหมอเค้าที่โดนคนไม่ฉลาดเอาคำพูดไปตีความผิด ๆ
อิอิ
ขำจริงๆ พูดให้มัดตัวเองชัดๆ
"ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ"
เรียกระลอก 2 ได้ แต่ระลอก 2 จาก ระลอก 1 คือ รุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ ไง ไม่ใช่ระลอก 2 จาก กุมภา-มีนา
พูดเองมึนเองซะอย่างงั้น นี่แหล่ะหน่า คนที่เค้าเรียกว่าไม่มีแก่นสาร
เหมือนยิ่งอธิบาย ยิ่งงงเองนะเนี่ย พ่อคนเต็มไปด้วยแก่นสาร
แสดงว่าประเทศเราเคยมีระลอก 2 แล้วใช่ป่ะ เพราะมีเคสจากคนที่ติดตั้งแต่มกรา ลามมา กุมภา-มีนา-เมษา-พฤษภา ใช่มั้ย
เพราะตัวเองบอกว่าเรียกระลอก 2 ได้
เปรียบเทียบจากสิ่งที่ตัวเองบอกว่า "เรียกระลอก 2 ได้ แต่ระลอก 2 จาก ระลอก 1 คือ รุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ ไง ไม่ใช่ระลอก 2 จาก กุมภา-มีนา"
หมายความว่าปัจจุบันนี้เป็นระลอก 1 ใหม่ แล้วถ้าลามไปเรื่อย ๆ ค่อยเรียกระลอก 2 ใหม่ แบบนี้ก็ได้หรอ
แล้วถ้าหายไปอีกแล้วมีมาอีก จะเรียก ระลอก 1 ใหม่กว่า แล้วถ้าติดไปอีกจะเรียกระลอก 2 ใหม่กว่า ไปแบบนี้เรื่อย ๆ เลยป่ะเนี่ย 555
แล้วมันจะมีระลอก 3 มั้ยอ่ะแบบนี้ แล้วระลอก 2 แบบที่ตัวเองว่าเนี่ย นับเริ่มยังไง สิ้นสุดตรงไหน พอมีคนป่วยคนนึง ไปติดเชื้อจากรุ่นสู่รุ่น เป็นกลุ่มเป็นก้อน ก็นับเป็นระลอก 2 เลยสินะ
ไอ้ที่ผมพิมพ์ไปข้างบนหน่ะ *ถ้าเป็นรุ่นที่เพิ่งติดมารอบนี้ แล้วไปติดเพิ่มอีกต่อ ๆ ไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะนับเป็นระลอก 2 ได้มั้ยครับ* ไม่ได้มัดตัวเองนะ มันเป็นคำถามจ้า แต่คนตอบเสือกตอบมัดตัวเองซะแล้ว 555
เพราะผมไม่ได้นับว่าแบบนั้น เป็นระลอก 2 อยู่แล้วจ้า
ถึงว่าทำไมถึงมั่วเอา secondary attack rate มาอ้างอิงเฉยเลย เพราะเข้าใจว่า secondary attack rate = second wave นี้เอง
ตกลงจะนิยามระลอก 2 แค่ว่า "การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น"
และ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"
แล้วถ้าคนที่ติดเชื้อในการระบาดระลอก 2 ไปแพร่เชื้อต่อ จะเรียกว่าอะไรครับ third wave หรือ tertiary attack rate ป่ะจ๊ะ
อิอิ