BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
UzE
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Sep 2009
ตอบ: 4267
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 23:55
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 00:02
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
ExtremePro พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
ExtremePro พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
ExtremePro พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
ExtremePro พิมพ์ว่า:
ใจความสำคัญ มันไม่ได้อยู่ที่ใช้คำไหนหรอกมั้ง

ถ้าที่ผ่านมาเครดิตดีต่อให้รอบแรกใช้คำผิดเค้าก็ไม่ด่ากันหรอก
การแก้เรื่องใช้คำกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าซ๊ะงั้น
 

ก็คล้ายๆกับ ฟุตบอลเรียกเป็นประตู ถ้ามีคนใช้คำว่า ลีดส์ยิงนำ 1 แต้ม มันก็ไม่ได้สำคัญมาก แต่มันไม่ใช่ไง

แล้วที่ไปด่าๆกันคือ ด่าเพราะไม่รู้จักไปหาข้อมูลมาต่างหาก  

หลายคนเขาก็รู้แหละ มันไม่เกี่ยวกับรอบแรก
แค่เขาไม่ได้สนใจที่ต้องไปกางสมุดมาแซะคนอื่น แบบคุณ
เขาสนใจ สุขภาพ ปากท้อง มากกว่า
แล้วดูสิ่งที่โฟกัส
ไหนจะการต่อ พรก. ฉุกเฉินคุมม็อบก่อนหน้านี้อีก

จะ ระลอกแรก,ระลอก2,รอบใหม่ มันก็คือกลับมาระบาดใหม่เหมือนกัน
นี่ต้องเป็นประเด็นให้ความสำคัญกว่า การควบคุมโรค เตรียมความพร้อมอุปกรณ์
มารตรการรองรับอีกหรอกเนี่ย
 

หือ แล้วที่ด่าๆไปคืออะไร
ไม่พอใจเรื่องม๊อบ แล้วเกี่ยวไรกับโรคระบาด อย่าโยงมั่วสิ

พรบ.ฉุกเฉินไปเกี่ยวไรกับม๊อบ


ส่วนประโยชน์ก็ตามนี้

1. ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3

2. ถ้าเรียกว่าระบาดรอบใหม่ เราไม่ต้องเสียเวลาไปค้นจากคนกลุ่มแรก ไปไล่หากลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ได้เลย งานจะไวขึ้น

ถ้าเปรียบกับฟุตบอลคือ เรียก ล้ำหน้า กับ แฮนด์บอล ถ้าเรียกฟาล์วมันก็ยังต้องหาอีกฟาล์วอะไร ถ้าเรียกล้ำหน้าคือเข้าใจง่าย แฮนด์บอล ก็รู้กัน ไม่ต้องไปถามต่อฟาล์วเรื่องอะไร  


เรื่องม็อบกับพรก. มันคือยกเคสเรื่องเครดิตครับ ทำไมคนรอจะด่าขนาดนั้น
ส่วนประโยชน์ก็ตามนั้น รู้ไว้มันดี
เห็นด้วยที่จะใช้คำให้ถูก
แต่ย้ำคำเดิมการให้ความสำคัญ
ชาวบ้านมันไม่ได้อุ่นใจเพราะการอธิบายคำนี่ครับ

เลี่ยงการแซะหรือดูถูกคนอื่นเขาก็ได้นะ
มันน่าจะฟังมากขึ้น  

ดูถูกอะไรเหรอ นี่ไม่ใช่ทวิตเตอร์ เฟส ที่จะรวมพวกมั่วๆซั่วๆเลอะเทอะไว้เยอะ
แค่แปลกใจ ทำไมไม่มีใครฉุกคิดกันเลยสักคนว่าทำไม

เอาจริงๆผมยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าหมอนี่พูดยังไงไปบ้าง เพราะผมไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่
เคยเปิดดู 4-5 ครั้ง ดูไม่เคยจะจบ
รอมันจบแล้วค่อยมาหาข่าวอ่านสรุปสบายใจกว่า

นี่ถ้าเป็นเฟส ทวิตนะ ไม่เสียเวลามาพิมพ์หรอก ขยะเยอะเกิ๊น  


ครับ เอาแบบท่านว่าก็ได้ครับ
ขอโทดที่ไปกล่าวหาท่านครับ  

ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอโทดผมหรอกครับ
ในนี้ผมเห็นด้วยหลายเรื่อง แต่ไม่เห็นด้วย 2 เรื่อง
แต่ก็ดีกว่าพวกใน ทวิต เฟส เยอะอยู่ดี แต่ละฝั่งเหมือนมีไว้เป็นที่ระบาย พกแต่ใจไปพอสมองไม่ต้อง เหมือนอนุทิน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 00:13
ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 00:41
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: เรื้อนเพราะรัก ไม่รักไม่เรื้อน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 34927
ที่อยู่: 乃木坂46
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 01:30
ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
เห้ยคุณ ไอความหมายผมว่าหลายๆคนพอจะรู้นะว่าคำศัพท์มีผลเกี่ยวเนื่องกับลักษณะที่เกิด อย่างหลายคนเค้าก็ว่ามีข้อสงสัยว่าตกลงแล้วมันเข้าข่ายระบาดระรอก2 หรือระรอกใหม่กันแน่
แล้วคุณสามารถให้คำตอบที่กระจ่างได้มั้ยล่ะว่าทำไมเป็นระรอกใหม่ ไม่ใช่ระรอกสอง เพราะอะไรศคบ.ถึงตีความแบบนั้น

แล้วสาระสำคัญอื่นๆในการแถลงล่ะว่าไงบ้าง ที่มาสาเหตุเป็นยังไงสืบได้ถึงไหนบ้างแล้ว สถานการณ์ปัจจุบัน ในจังหวัดเป็นยังไง จังหวัดข้างเคียงเป็นยังไง กทม.เป็นยังไง แล้วทั่วประเทศเป็นยังไง แล้วแนวทางการรับมือต่อไปเป็นยังไงบ้าง

เอ้าาา เห็นบอกกระทู้สาระไม่ค่อยมา ตั้งแต่อ่านข่าวมู้ก่อนแล้วผมก็รอยูสหมอๆมาช่วยอธิบายอยู่นะ แต่ยังไม่มีก็ขอความรู้จากพวกคุณก่อนละกัน มาแล้วก็ช่วยๆกันตอบหน่อยนะพ่อคู๊ณณณณ คงไม่ใช่ว่าแซะไปก่อนมันง่ายกว่า พอถามหาสาระแล้วเงียบหายนะ  

ที่ยกคำอธิบายมา คือ จากกระทู้ที่เข้าไปด่าส่งกันอย่างเดียว ใช่ไหม  


ผมก็ไม่ได้มองจากกระทู้ด่านั้นอย่างเดียวหรอก ก็ดูคนรอบตัวด้วย หรือแม้แต่กระทู้นี้ด้วย
ผมไม่คิดว่าจะมีแต่คนที่ด่าส่งๆอย่างเดียว หลายคนก็ค้นข้อมูลเพิ่ม แต่หลังจากค้นแล้วก็ไม่เห็นว่าอะไรจะดีขึ้น เลยจบด้วยการด่าเช่นเดียวกัน

แต่ผมไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าจะมีคนที่มาถึงอ่านกระทู้ไม่หาข้อมูลต่อแล้วด่าไปเลย แบบนั้นมันก็มีแน่ แต่จะว่ายังไงดี เนื้อหาในถ้อยแถลงควรกระชับครบถ้วนอยู่แล้วรึป่าว ถ้าคนจะด่าเลยหลังอ่านจบผมว่าไม่แปลก แต่ถ้าผิดขึ้นมาคุณก็เบลมเค้าได้

แต่เห็นคุณรวมถึงบางเมนม์กล่าวเหมือนแต่ละคนไม่ได้รู้ ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่ง เลยจบด้วยการด่า แบบนั้นผมว่าไม่ถูกต้อง


ปล. เอ้อมู้นั้นผมเห็นมียูสที่เป็นหมอยังด่าเรื่องเล่นคำเลยนะ ทั้งๆที่เค้าคงรู้ถึงความต่างอยู่แล้วแหละ แต่ผมว่าที่เค้าด่าเรื่องมัวแต่สรรหา​คำเพราะเค้าอยากจะรู้แนวทางการรับมือจากภาครัฐเป็นประเด็นสำคัญมากกว่านะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย โยดะคือรัก เมื่อ Mon Dec 21, 2020 01:34, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 02:26
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
เห้ยคุณ ไอความหมายผมว่าหลายๆคนพอจะรู้นะว่าคำศัพท์มีผลเกี่ยวเนื่องกับลักษณะที่เกิด อย่างหลายคนเค้าก็ว่ามีข้อสงสัยว่าตกลงแล้วมันเข้าข่ายระบาดระรอก2 หรือระรอกใหม่กันแน่
แล้วคุณสามารถให้คำตอบที่กระจ่างได้มั้ยล่ะว่าทำไมเป็นระรอกใหม่ ไม่ใช่ระรอกสอง เพราะอะไรศคบ.ถึงตีความแบบนั้น

แล้วสาระสำคัญอื่นๆในการแถลงล่ะว่าไงบ้าง ที่มาสาเหตุเป็นยังไงสืบได้ถึงไหนบ้างแล้ว สถานการณ์ปัจจุบัน ในจังหวัดเป็นยังไง จังหวัดข้างเคียงเป็นยังไง กทม.เป็นยังไง แล้วทั่วประเทศเป็นยังไง แล้วแนวทางการรับมือต่อไปเป็นยังไงบ้าง

เอ้าาา เห็นบอกกระทู้สาระไม่ค่อยมา ตั้งแต่อ่านข่าวมู้ก่อนแล้วผมก็รอยูสหมอๆมาช่วยอธิบายอยู่นะ แต่ยังไม่มีก็ขอความรู้จากพวกคุณก่อนละกัน มาแล้วก็ช่วยๆกันตอบหน่อยนะพ่อคู๊ณณณณ คงไม่ใช่ว่าแซะไปก่อนมันง่ายกว่า พอถามหาสาระแล้วเงียบหายนะ  

ที่ยกคำอธิบายมา คือ จากกระทู้ที่เข้าไปด่าส่งกันอย่างเดียว ใช่ไหม  


ผมก็ไม่ได้มองจากกระทู้ด่านั้นอย่างเดียวหรอก ก็ดูคนรอบตัวด้วย หรือแม้แต่กระทู้นี้ด้วย
ผมไม่คิดว่าจะมีแต่คนที่ด่าส่งๆอย่างเดียว หลายคนก็ค้นข้อมูลเพิ่ม แต่หลังจากค้นแล้วก็ไม่เห็นว่าอะไรจะดีขึ้น เลยจบด้วยการด่าเช่นเดียวกัน

แต่ผมไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าจะมีคนที่มาถึงอ่านกระทู้ไม่หาข้อมูลต่อแล้วด่าไปเลย แบบนั้นมันก็มีแน่ แต่จะว่ายังไงดี เนื้อหาในถ้อยแถลงควรกระชับครบถ้วนอยู่แล้วรึป่าว ถ้าคนจะด่าเลยหลังอ่านจบผมว่าไม่แปลก แต่ถ้าผิดขึ้นมาคุณก็เบลมเค้าได้

แต่เห็นคุณรวมถึงบางเมนม์กล่าวเหมือนแต่ละคนไม่ได้รู้ ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่ง เลยจบด้วยการด่า แบบนั้นผมว่าไม่ถูกต้อง


ปล. เอ้อมู้นั้นผมเห็นมียูสที่เป็นหมอยังด่าเรื่องเล่นคำเลยนะ ทั้งๆที่เค้าคงรู้ถึงความต่างอยู่แล้วแหละ แต่ผมว่าที่เค้าด่าเรื่องมัวแต่สรรหา​คำเพราะเค้าอยากจะรู้แนวทางการรับมือจากภาครัฐเป็นประเด็นสำคัญมากกว่านะ  

ระบาดวิทยา เป็นสาขาเฉพาะทาง ถ้าไม่เรียนก็ไม่รู้ครับ
ตอนโควิดช่วงแรกๆมีทำข่าวกันอยู่ แต่คงไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่ ขึ้นชื่อว่าหมอก็คิดว่ารู้หมด แต่จริงๆไม่ใช่
สาขาระบาดวิทยาคนเรียนน้อย เมืองนอกก็ไม่เยอะเท่าสาขาอื่นๆ
ก็แน่สิ เรียนจบมันก็หาเงินไม่ง่ายเท่าสาขาอื่น


ค้นข้อมูลแล้วไม่เห็นอะไรดีขึ้น
หือ มีอย่างงี้ด้วยเหรอ

แล้วมันแย่จนต้องไปด่าขนาดนั้นเลยเหรอ ด่าแล้วมันมีอะไรดีขึ้น
แก้ไขล่าสุดโดย Saint's Knight เมื่อ Mon Dec 21, 2020 02:30, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: เรื้อนเพราะรัก ไม่รักไม่เรื้อน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 34927
ที่อยู่: 乃木坂46
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 03:29
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
เห้ยคุณ ไอความหมายผมว่าหลายๆคนพอจะรู้นะว่าคำศัพท์มีผลเกี่ยวเนื่องกับลักษณะที่เกิด อย่างหลายคนเค้าก็ว่ามีข้อสงสัยว่าตกลงแล้วมันเข้าข่ายระบาดระรอก2 หรือระรอกใหม่กันแน่
แล้วคุณสามารถให้คำตอบที่กระจ่างได้มั้ยล่ะว่าทำไมเป็นระรอกใหม่ ไม่ใช่ระรอกสอง เพราะอะไรศคบ.ถึงตีความแบบนั้น

แล้วสาระสำคัญอื่นๆในการแถลงล่ะว่าไงบ้าง ที่มาสาเหตุเป็นยังไงสืบได้ถึงไหนบ้างแล้ว สถานการณ์ปัจจุบัน ในจังหวัดเป็นยังไง จังหวัดข้างเคียงเป็นยังไง กทม.เป็นยังไง แล้วทั่วประเทศเป็นยังไง แล้วแนวทางการรับมือต่อไปเป็นยังไงบ้าง

เอ้าาา เห็นบอกกระทู้สาระไม่ค่อยมา ตั้งแต่อ่านข่าวมู้ก่อนแล้วผมก็รอยูสหมอๆมาช่วยอธิบายอยู่นะ แต่ยังไม่มีก็ขอความรู้จากพวกคุณก่อนละกัน มาแล้วก็ช่วยๆกันตอบหน่อยนะพ่อคู๊ณณณณ คงไม่ใช่ว่าแซะไปก่อนมันง่ายกว่า พอถามหาสาระแล้วเงียบหายนะ  

ที่ยกคำอธิบายมา คือ จากกระทู้ที่เข้าไปด่าส่งกันอย่างเดียว ใช่ไหม  


ผมก็ไม่ได้มองจากกระทู้ด่านั้นอย่างเดียวหรอก ก็ดูคนรอบตัวด้วย หรือแม้แต่กระทู้นี้ด้วย
ผมไม่คิดว่าจะมีแต่คนที่ด่าส่งๆอย่างเดียว หลายคนก็ค้นข้อมูลเพิ่ม แต่หลังจากค้นแล้วก็ไม่เห็นว่าอะไรจะดีขึ้น เลยจบด้วยการด่าเช่นเดียวกัน

แต่ผมไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าจะมีคนที่มาถึงอ่านกระทู้ไม่หาข้อมูลต่อแล้วด่าไปเลย แบบนั้นมันก็มีแน่ แต่จะว่ายังไงดี เนื้อหาในถ้อยแถลงควรกระชับครบถ้วนอยู่แล้วรึป่าว ถ้าคนจะด่าเลยหลังอ่านจบผมว่าไม่แปลก แต่ถ้าผิดขึ้นมาคุณก็เบลมเค้าได้

แต่เห็นคุณรวมถึงบางเมนม์กล่าวเหมือนแต่ละคนไม่ได้รู้ ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่ง เลยจบด้วยการด่า แบบนั้นผมว่าไม่ถูกต้อง


ปล. เอ้อมู้นั้นผมเห็นมียูสที่เป็นหมอยังด่าเรื่องเล่นคำเลยนะ ทั้งๆที่เค้าคงรู้ถึงความต่างอยู่แล้วแหละ แต่ผมว่าที่เค้าด่าเรื่องมัวแต่สรรหา​คำเพราะเค้าอยากจะรู้แนวทางการรับมือจากภาครัฐเป็นประเด็นสำคัญมากกว่านะ  

ระบาดวิทยา เป็นสาขาเฉพาะทาง ถ้าไม่เรียนก็ไม่รู้ครับ
ตอนโควิดช่วงแรกๆมีทำข่าวกันอยู่ แต่คงไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่ ขึ้นชื่อว่าหมอก็คิดว่ารู้หมด แต่จริงๆไม่ใช่
สาขาระบาดวิทยาคนเรียนน้อย เมืองนอกก็ไม่เยอะเท่าสาขาอื่นๆ
ก็แน่สิ เรียนจบมันก็หาเงินไม่ง่ายเท่าสาขาอื่น


ค้นข้อมูลแล้วไม่เห็นอะไรดีขึ้น
หือ มีอย่างงี้ด้วยเหรอ

แล้วมันแย่จนต้องไปด่าขนาดนั้นเลยเหรอ ด่าแล้วมันมีอะไรดีขึ้น  


หมอเค้ารู้หรือไม่ผมก็แค่คาดเดาอะนะ อาจจะไม่รู้อย่างที่คุณว่าก็ได้ แต่แล้วยังไงครับ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าสิ่งที่แถลงไม่ใช่สิ่งที่หมออยากรู้มากที่สุดอยู่ดี
ที่บอกค้นข้อมูลแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมา ไม่ต้องถามว่ามีด้วยหรือ มีนี่นี่ไง ค้นแล้วยังไม่สามารถสรุปได้อยู่ดีว่าหมอตีความถูกต้องไหมเพราะอ่านแล้วก็คลุมเครือ ยิ่งเราไม่ใช่หมอถ้าไม่ชัดเจนจริงๆยิ่งไม่กล้าฟันธง สรุปถ้อยแถลงก็ไม่สามารถหาข้อสรุปให้ตัวเองได้
ที่สำคัญคือประเด็นอื่นที่สำคัญกว่าถ้อยแถลงก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ดี ตรงนี้ยิ่งสำคัญกว่า

แย่ขนาดนั้นมั้ยคุณเป็นใครวะถึงคิดว่ามันไม่แย่ ถ้าถามว่าด่าแล้วได้อะไรนั่นมันเป็นการระบายความอัดอั้นตันใจที่ผู้คนได้รับมายังไงล่ะ ไปบอกพวกนั้นสิว่าให้เก็บไว้ในใจ ไปไล่เรียงเลยทำได้ไหม
ไม่ต้องมาถามผมหรอกด่าแล้วดีขึ้นไหม ถ้าเห็นว่าไม่ควรก็ไปกล่าวกับยูสเซอร์หรือประชาชนเอาเองเลยว่าให้ทนเก็บไว้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 1338
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 05:45
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง  



และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะตรวจ 1,000 คน ติดเชื้อ 500 คนภายในไม่กี่วัน ระบาดขนาดนั้นต้องผ่านมานานพอสมควรแล้วครับ  

อาทิตย์เดียวก็ติดได้แล้วครับ 500 จริงๆมันมีเยอะกว่านี้อีก

เคยผ่านชุมชนพม่าแถวมหาชัยไหม เมืองหลวงพม่าชัดๆ 555 คนในสมุทรสาครบอก พม่าเยอะกว่าอีก คนไทยมี 7-8 แสน พม่ามี ล้านกว่าๆ  


มันคือ 500 จากการตรวจ 1 พันคนครับ สัดส่วนการตรวจเจอ 50%
 

ชุมชนแออัดแบบนั้น ยังไงก็ติด เค้าถึงให้เว้นระยะ
ถ้าไม่ตรวจตอนนี้ รับรองมี 100% ให้เห็นแน่นอน

แค่วันนี้ไปตรวจ ยังกลัวตอนไปไม่ติด จะติดตอนกลับเนี้ยแหล่ะ  


ใช่ครับ ชุมชนแออัดแบบนั้นยังไงก็ติด แต่ถ้าสามารถแพร่เชื้อได้ 500 คนใน 1 สัปดาห์นี่ก็เวอร์ไปเยอะมาก ระยะฟักตัวสูงสุด 14 วัน ถ้าแค่ 1 สัปดาห์ใน 1 พันคนที่ตรวจไปก็คงมียังตรวจไม่เจอเชื้ออีกเพียบ ก็คือต้องมีคนติดเชื้อเกิน 50% ไปเยอะเลย ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบาด 50% ภายในสัปดาห์เดียว ถ้าใช่จริงอีตราการแพร่เชื้อเข้าขั้นวิกฤติละครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status: Manchester is red!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 705
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 09:24
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
บ้านเมืองอื่นไประยะ 4-5 แล้ว มัวแต่มาอะไรกันก็ไม่รู้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 09:49
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 11:51
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
โยดะคือรัก พิมพ์ว่า:
เห้ยคุณ ไอความหมายผมว่าหลายๆคนพอจะรู้นะว่าคำศัพท์มีผลเกี่ยวเนื่องกับลักษณะที่เกิด อย่างหลายคนเค้าก็ว่ามีข้อสงสัยว่าตกลงแล้วมันเข้าข่ายระบาดระรอก2 หรือระรอกใหม่กันแน่
แล้วคุณสามารถให้คำตอบที่กระจ่างได้มั้ยล่ะว่าทำไมเป็นระรอกใหม่ ไม่ใช่ระรอกสอง เพราะอะไรศคบ.ถึงตีความแบบนั้น

แล้วสาระสำคัญอื่นๆในการแถลงล่ะว่าไงบ้าง ที่มาสาเหตุเป็นยังไงสืบได้ถึงไหนบ้างแล้ว สถานการณ์ปัจจุบัน ในจังหวัดเป็นยังไง จังหวัดข้างเคียงเป็นยังไง กทม.เป็นยังไง แล้วทั่วประเทศเป็นยังไง แล้วแนวทางการรับมือต่อไปเป็นยังไงบ้าง

เอ้าาา เห็นบอกกระทู้สาระไม่ค่อยมา ตั้งแต่อ่านข่าวมู้ก่อนแล้วผมก็รอยูสหมอๆมาช่วยอธิบายอยู่นะ แต่ยังไม่มีก็ขอความรู้จากพวกคุณก่อนละกัน มาแล้วก็ช่วยๆกันตอบหน่อยนะพ่อคู๊ณณณณ คงไม่ใช่ว่าแซะไปก่อนมันง่ายกว่า พอถามหาสาระแล้วเงียบหายนะ  

ที่ยกคำอธิบายมา คือ จากกระทู้ที่เข้าไปด่าส่งกันอย่างเดียว ใช่ไหม  


ผมก็ไม่ได้มองจากกระทู้ด่านั้นอย่างเดียวหรอก ก็ดูคนรอบตัวด้วย หรือแม้แต่กระทู้นี้ด้วย
ผมไม่คิดว่าจะมีแต่คนที่ด่าส่งๆอย่างเดียว หลายคนก็ค้นข้อมูลเพิ่ม แต่หลังจากค้นแล้วก็ไม่เห็นว่าอะไรจะดีขึ้น เลยจบด้วยการด่าเช่นเดียวกัน

แต่ผมไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าจะมีคนที่มาถึงอ่านกระทู้ไม่หาข้อมูลต่อแล้วด่าไปเลย แบบนั้นมันก็มีแน่ แต่จะว่ายังไงดี เนื้อหาในถ้อยแถลงควรกระชับครบถ้วนอยู่แล้วรึป่าว ถ้าคนจะด่าเลยหลังอ่านจบผมว่าไม่แปลก แต่ถ้าผิดขึ้นมาคุณก็เบลมเค้าได้

แต่เห็นคุณรวมถึงบางเมนม์กล่าวเหมือนแต่ละคนไม่ได้รู้ ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่ง เลยจบด้วยการด่า แบบนั้นผมว่าไม่ถูกต้อง


ปล. เอ้อมู้นั้นผมเห็นมียูสที่เป็นหมอยังด่าเรื่องเล่นคำเลยนะ ทั้งๆที่เค้าคงรู้ถึงความต่างอยู่แล้วแหละ แต่ผมว่าที่เค้าด่าเรื่องมัวแต่สรรหา​คำเพราะเค้าอยากจะรู้แนวทางการรับมือจากภาครัฐเป็นประเด็นสำคัญมากกว่านะ  

ระบาดวิทยา เป็นสาขาเฉพาะทาง ถ้าไม่เรียนก็ไม่รู้ครับ
ตอนโควิดช่วงแรกๆมีทำข่าวกันอยู่ แต่คงไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่ ขึ้นชื่อว่าหมอก็คิดว่ารู้หมด แต่จริงๆไม่ใช่
สาขาระบาดวิทยาคนเรียนน้อย เมืองนอกก็ไม่เยอะเท่าสาขาอื่นๆ
ก็แน่สิ เรียนจบมันก็หาเงินไม่ง่ายเท่าสาขาอื่น


ค้นข้อมูลแล้วไม่เห็นอะไรดีขึ้น
หือ มีอย่างงี้ด้วยเหรอ

แล้วมันแย่จนต้องไปด่าขนาดนั้นเลยเหรอ ด่าแล้วมันมีอะไรดีขึ้น  


หมอเค้ารู้หรือไม่ผมก็แค่คาดเดาอะนะ อาจจะไม่รู้อย่างที่คุณว่าก็ได้ แต่แล้วยังไงครับ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าสิ่งที่แถลงไม่ใช่สิ่งที่หมออยากรู้มากที่สุดอยู่ดี
ที่บอกค้นข้อมูลแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมา ไม่ต้องถามว่ามีด้วยหรือ มีนี่นี่ไง ค้นแล้วยังไม่สามารถสรุปได้อยู่ดีว่าหมอตีความถูกต้องไหมเพราะอ่านแล้วก็คลุมเครือ ยิ่งเราไม่ใช่หมอถ้าไม่ชัดเจนจริงๆยิ่งไม่กล้าฟันธง สรุปถ้อยแถลงก็ไม่สามารถหาข้อสรุปให้ตัวเองได้
ที่สำคัญคือประเด็นอื่นที่สำคัญกว่าถ้อยแถลงก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ดี ตรงนี้ยิ่งสำคัญกว่า

แย่ขนาดนั้นมั้ยคุณเป็นใครวะถึงคิดว่ามันไม่แย่ ถ้าถามว่าด่าแล้วได้อะไรนั่นมันเป็นการระบายความอัดอั้นตันใจที่ผู้คนได้รับมายังไงล่ะ ไปบอกพวกนั้นสิว่าให้เก็บไว้ในใจ ไปไล่เรียงเลยทำได้ไหม
ไม่ต้องมาถามผมหรอกด่าแล้วดีขึ้นไหม ถ้าเห็นว่าไม่ควรก็ไปกล่าวกับยูสเซอร์หรือประชาชนเอาเองเลยว่าให้ทนเก็บไว้  

ไม่รู้ก็คือไม่รู้นั้นแหล่ะครับ แล้วหมอเค้าพูดเรื่องนี้เรื่องเดียวรึป่าว ก็ไม่

ค้นนี่มีค้นจริงรึป่าวก็ไม่รู้ เป็นแค่ความเชื่อเท่านั้น ใช่ไหม

อ้าว คิดแบบนี้ ก็คิดเองเออเอง เข้าข้างตัวเองสิ พอถามกลับดันให้ไปถามเอาเอง แล้วตัวเองก็พูดมาเองไม่ใช่รึ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 11:51
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง  



และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะตรวจ 1,000 คน ติดเชื้อ 500 คนภายในไม่กี่วัน ระบาดขนาดนั้นต้องผ่านมานานพอสมควรแล้วครับ  

อาทิตย์เดียวก็ติดได้แล้วครับ 500 จริงๆมันมีเยอะกว่านี้อีก

เคยผ่านชุมชนพม่าแถวมหาชัยไหม เมืองหลวงพม่าชัดๆ 555 คนในสมุทรสาครบอก พม่าเยอะกว่าอีก คนไทยมี 7-8 แสน พม่ามี ล้านกว่าๆ  


มันคือ 500 จากการตรวจ 1 พันคนครับ สัดส่วนการตรวจเจอ 50%
 

ชุมชนแออัดแบบนั้น ยังไงก็ติด เค้าถึงให้เว้นระยะ
ถ้าไม่ตรวจตอนนี้ รับรองมี 100% ให้เห็นแน่นอน

แค่วันนี้ไปตรวจ ยังกลัวตอนไปไม่ติด จะติดตอนกลับเนี้ยแหล่ะ  


ใช่ครับ ชุมชนแออัดแบบนั้นยังไงก็ติด แต่ถ้าสามารถแพร่เชื้อได้ 500 คนใน 1 สัปดาห์นี่ก็เวอร์ไปเยอะมาก ระยะฟักตัวสูงสุด 14 วัน ถ้าแค่ 1 สัปดาห์ใน 1 พันคนที่ตรวจไปก็คงมียังตรวจไม่เจอเชื้ออีกเพียบ ก็คือต้องมีคนติดเชื้อเกิน 50% ไปเยอะเลย ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะระบาด 50% ภายในสัปดาห์เดียว ถ้าใช่จริงอีตราการแพร่เชื้อเข้าขั้นวิกฤติละครับ  

ดูเกาหลีใต้ ที่ระบาดในโบสถ์สิครับ ว่าใช้เวลาแค่กี่วัน ยอดไปกี่ร้อยคน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 11:56
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2008
ตอบ: 322
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:07
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 21, 2020 12:13
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
kidorange41 พิมพ์ว่า:
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก website นี้

https://www.medicinenet.com/second_wave/definition.htm

Second wave: A phenomenon of infections that can develop during a pandemic. The disease infects one group of people first. Infections appear to decrease. And then, infections increase in a different part of the population, resulting in a second wave of infections.

ผมว่าเรียกระลอก 2 ได้นะ

แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าอ้างอิงจากที่ไหนเป็นหลัก

แถมจากอันนี้ด้วยครับ

http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/4455-second-wave.html

การระบาดระลอกสอง หรือ Second wave หมายถึง ปรากฏการณ์การระบาดของโรคที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากการระบาดของโรคระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลง  

ผมเองก็ไม่ได้ใช้อังกฤษทุกวันๆ

แต่เท่าที่แปลความหมายคราวๆคือ การระบาดกลุ่มแรกลดลง แล้วมีหลายๆกลุ่มระบาดเพิ่มขึ้นมา
แต่ไทยการระบาดรอบแรกจบไปแล้ว จากจำนวนวันที่ปลอดเชื้อเทียบกับระยะเวลาที่เชื้อสามารถแฝงตัวอยู่ได้
ยิ่งหลังๆ ไม่ใส่หน้ากากเห็นกันได้ทั่วๆไปเลย ถ้ายังมีเชื้อ ยังไงๆคนสูงอายุต้องมีอาการกันแล้ว

ถ้าแปลตรงตัวคือ ไม่เข้าข่าย second wave เพราะมันจบ ไม่ใช่ decrease ครับ  


เท่าที่ไปนั่งหามาคำว่า second wave ยังไม่มีคำจำกัดความในทางระบาดวิทยาจริง ๆ ด้วยครับ

เหมือนต้องดูตามกราฟการระบาดของโรค รายสัปดาห์ รายเดือน แล้ววิเคราะห์กันเอาเอง

แต่ที่ท่านบอกว่า "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ผมขออ้างอิงบ้างได้มั้ยครับ คือยังหาจาก text ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด  

เวนกำ ก็ที่แปะหน้ากระทู้นั้นไง text


ส่วนอันนี้ คือ ผลสรุปของการแบ่งคำเรียกครับ ไม่ใช่ทฤษฎี

"ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"





ลิ้งค์แบบเต็มไปเลย ไม่ต้องย่อแล้ว เดียวไม่รู้อีกว่าเป็น text

http://www.elnurse.ssru.ac.th/rangsima_pa/pluginfile.php/249/block_html/content/PWP%20%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%203%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2.pdf  

secondary attack rate กับ second wave

มีความหมายเดียวกันหรอครับ

ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

secondary attcak rate มีค่าวัดนะครับ มีหน่วยเป็น ต่อประชากร

แต่ second wave เป็นคำที่เป็นคำจำกัดความ ไม่มีหน่วยวัดชัดเจน

ถ้าเอามารวมกัน ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ

ด้วยความเคารพ  

555 คิดเหมือนผมตอนแรกเลย ติดลูปเดียวกัน
ทฤษฎีพวกนี้ ตีความไปเรื่อยๆ เดียวจะเจอเองครับ

secondary attcak rate เอาไว้วัดค่าอะไร คำตอบก็อยู่ตรงนั้นแหล่ะ


ถ้าบอกว่า secondary attcak rate ไม่ใช่การวัดค่าการระบาดระลอก 2 แล้ววัดค่าอะไรครับ
จะเรียกว่า วัดค่าการระบาดรอบแรกครั้งที่สอง เหรอ มันจะโหดเกินไปนะผมว่า  

มันไม่ใช่การติดลูป มันไม่ใช่การตีความอะไรหรอกครับ

คำมันมีความหมายของมันอยู่

secondary attack rate (SAR) มันเป็นค่าที่วัดออกมาได้ เท่าที่ผมเข้าใจมันหมายถึง อัตราที่คนติดเชื้อ จะแพร่เชื้อให้คนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

ขอยกภาษาอังกฤษมาเลยล่ะกัน ท่านน่าจะอ่านออก

imagine you have one person with a new disease coming in contact with 10 people. That one person infects three people who then become ill. In that situation the secondary attack rate would be 3/10 (30%)

ไม่ว่าจะเป็นระบาด ระลอก (wave) ไหนก็ตาม ถึงระลอกสาม ระลอกสี่ มันก็จะเรียกว่า SAR

วิธีคำนวณก็อยู่ในเอกสารที่ท่านว่ามานั่นแหละ

ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคำว่า second wave เลย

เพราะอย่างที่บอกไปคำว่า second wave มันวัดค่าไม่ได้ มันเป็นแค่คำที่บอกว่าเกิดการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรก

ส่วนจะต้องติดมาจากคนป่วยของระลอกแรก หรือเกิดหลังจากการระบาดระลอกแรกลดลง หรือจบลง อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะยังไม่มีคำจำกัดความ  

ถามจริงๆว่าได้อ่านรึป่าวครับ



"อัตราป่วยระลอกสองช่วยแสดงถึง ความสามารถของเชื้อโรคในการทำให้เกิดการติดเชื้อในร่างกายของโฮสท์ และการแพร่กระจายของโรคมีมากน้อยเพียงใด"

ถ้าเอากลุ่มแรกรวมกับกลุ่มอื่นที่มาจากปัจจัยภายนอก มันจะคำนวนออกมาเป็นค่าความสามารถการติดเชื้อของไวรัสได้ยังไง ในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

เหมือนทำการทดลองภายในขวดโหล แล้วเอาสิ่งของจากข้างนอกเข้าไปใส่ แล้วจะคำนวนออกมาได้ยังไงในเมื่อมันมีปัจจัยภายนอก มันไม่ใช่การแพร่กระจายจากในขวด มันคือการใส่เพิ่มเข้ามา อันนี้หลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้นเลยนะ





รวมกับที่ หมอยงพูดก็น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ
เอาจริงๆผมไม่ชอบหมอยงตั้งแรกๆ พูดเยอะไป แต่บางทีก็ดี พูดเยอะๆมันก็เป็นข้อมูลได้เหมือนกัน  


ถ้าแค่อ่าน แล้วไม่ได้เข้าใจจริง ๆ ผมว่าอย่าอ่านเลยดีกว่า แล้วยิ่งเอามาโพสต์บอกคนอื่นต่อ มันจะยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่

ประเด็นเรื่องคำจำกัดความของ "การระบาดระลอก 2" อันนี้จบไปแล้วนะ เพราะมันยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ที่โฆษกพูดมันก็ไม่ได้ผิด แต่ที่คนที่เอามาแย้งท่านในนี้ก็ไม่ผิดเหมือนกัน เพราะระบาดระลอกใหม่ หรือระบาดระลอก 2 มันก็คือการระบาดอีกครั้ง หลังจากที่การระบาดครั้งแรกลดลง หรือจบลง

แต่ที่ผมแย้งคุณคือ คุณเอาคำว่า secondary attack rate (SAR) มาอธิบายถึงการระบาดระลอก 2 ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ไอ้ที่คุณอธิบายมาผมงงจริง ๆ นะ เรื่องขวด เรื่องอะไรเนี่ย เลยไม่ได้ตัดสินว่าคุณเข้าใจยังไง แต่คำว่า rate หรืออัตรา มันต้องคำนวณได้อยู่แล้ว มันต้องรายงานมาเป็นค่า ไม่งั้นมันจะเป็น rate ไม่ได้

ผมลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ล่ะกัน เอาสูตรจาก text (จริง ๆ มันคือ powerpoint ของคน ๆ นึงนะ ลองหาอ่านเพิ่มจากหลาย ๆ แหล่งก็ดี จะได้เทียบกับข้อมูลอื่น ๆ บ้าง)

มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากร 100 คน ทำให้มีคนป่วยทั้งหมด 30 คน โดย 20 คนแรกป่วยก่อน หมายถึง โรคนี้มี attack rate (อัตราป่วยระลอกแรก) ร้อยละ 20 จากนั้นมีผู้สัมผัสกับคนป่วย (นับรวมได้ 80 คน โดยหักผู้ป่วยระลอกแรกออก) ป่วยอีก 10 คน หมายถึง โรคนี้มี SAR (อัตราป่วยระลอกสอง) ร้อยละ 12.5 จากนั้นผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาจนหาย ตรวจไม่พบโรคในประชากรกลุ่มนี้อีก เวลาผ่านไปช่วงนึงกลับพบผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มอีกครั้ง (อันนี้ถึงจะเรียก second wave ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SAR เลย และไม่เกี่ยวกับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" ด้วย)

ไม่รู้คุณจะเข้าใจมั้ย แต่ผมคงอธิบายได้เท่านี้ครับ

ส่วนที่หมอยงพูดนั้น "สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ" นั้น ผมเข้าใจว่าแกหมายถึง บริบทของเหตุการณ์นั้นคือ "เป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา" แกไม่ได้หมายความว่า ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมา ถ้าเจอถึงเรียกว่าระลอก 2 ได้ อย่างที่คุณอ้างขึ้นมาเอง แกแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ" เท่านั้นครับ

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแย้งมาได้นะครับ รอฟังอยู่ แต่ผมต้องใช้เวลาหาข้อมูลหน่อยนะ เพราะผมหาจากหลาย ๆ แหล่ง ไม่ได้อ้างอิงจากสไลด์เดียว หรือคำพูดของหมอคนเดียวครับ

 


นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ การวัดอัตราการระบาดง่ายๆแค่นี้ คนอื่นเค้าเข้าใจกันไปเยอะแล้ว นี่ยังดันทุรังเถียงมั่วๆซั่วๆมาได้อีก
เหลือเชื่อจริงๆ


นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


คราวนี้ยังจะเอาอะไรมาเถียงอีก มันก็อ่านเห็นๆกันอยู่ ไม่รู้จะแกล้งตีมึนไปถึงไหน หลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ยังทำเป็นไม่เข้าใจ

อาการหนักจริงๆ  


ใครไม่เข้าใจกันแน่ แล้วยังดันทุรังมาเถียงมั่ว ๆ กว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

แค่ตีความจากประโยคที่หมอบอกมันก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าระบาดระลอก 2 ต้องหมายถึง อันนี้ยกประโยคของคุณมาเลยนะ "อธิบายสั้นๆ การจะเรียกว่าระบาดระลอก 2 คือ การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" กับ "ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3" หมอแค่บอกว่า "การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน" ประโยคไหนที่บอกว่า "การติดเชื้อจากกลุ่มแรกเท่านั้น" หรือ "ต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3"

หลักวิทยาศาสตร์ที่คนบอกว่าง่าย ๆ แต่ตีมึนไม่เข้าใจนี้ หมดคำจะพูดครับ

อาการหนักกว่าจริง ๆ  

555555555 ยอดมนุษย์จริงๆ อาการโคดสุด ประเภทยอมไม่ได้ ดันทุรังให้สุดทาง


นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีตรวจพบปริมาณชิ้นส่วนไวรัส (ซากเชื้อ) ในหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนั้นว่า ไม่น่าจะถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในต่างประเทศและหายป่วยก่อนเดินทางเข้ามา

"สถานการณ์ขณะนี้ไม่ถือเป็นการระบาดระลอกสอง เพราะไม่ใช่การติดเชื้อภายในประเทศ"
นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น


หรือ แค่นี้ ยังมีช่องให้ แถได้อีกเหรอครับ 55555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel