BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: -KANING-
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Dec 2009
ตอบ: 13794
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:31
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
MildMind พิมพ์ว่า:
คือไม่ต้องออกมาพูดว่ามันระบาดยังไง คือคนตามข่าวเค้ารู้ว่ากลุ่มนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับรอบแรก

คือควรออกมาพูดสาระ มาตรการ และจะแก้ปัญหายังไง

มาพูดเรื่องไรไม่รู้ให้คนเค้าด่าเล่น

ถามกลับครับ ว่าออกมาพูดว่าระบาดระลอกใหม่ ไม่ใช่ระลอกสอง

มันได้ประโยชน์ยังไงบ้าง?  

แล้วเค้าไม่พูดเรื่องมาตรการเหรอ

เค้าพูดให้ด่าเล่นยังไง พูดให้เข้าใจมากกว่ามั่ง แต่ไม่ได้พยายามคิดว่าทำไมไม่พยายามหาสาเหตุ อยากด่าอย่างเดียวไง

ถ้าถามถึงประโยชน์ ด่าแล้วได้ประโยชน์อะไร ด่าแล้วด่าผิดอีกต่างหาก  


เค้าด่ากันเพราะอะไรครับ ไปคิดดูใหม่ดีๆ

ด่าเพราะมาตรการการจัดการทุกอย่างที่ห่วยแตก ตั้งเเต่เริ่มเรื่องจนจบเรื่อง จนเริ่มรอบใหม่

ประชาชนเสียอะไรไปมากเท่าไหร่ เเต่รัฐมัวทำอะไรอยู่ ออกมาพ่นแต่ละอย่าง ไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ไขเลย

คุณคิดว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะโกรธเเค้นเเค่ไหนครับ

คนเรามันไม่ได้ด่า เพราะอยากด่า เเต่เพราะมันมีเรื่องให้ด่ามาตลอด

สุดท้าย มันก็ระบาดเเล้วมันก็จบไปแบบเดิม โดยรัฐไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย

นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ว่าระบาดรอบเเรกเกิดจากอะไร รอบสองเกิดจากอะไร ทุกคนก็รู้กันหมด

และประชาชนได้เห้นมาตรการในการรับมือม็อบที่ไวชิบหาย เด็ดขาดชิบหาย

เเต่กับปากท้องเเละปัญหาประชาชน ช้าเเละห่วยเเตกชิบหายเหมือนกัน

ไม่ให้เค้าโกรธกันได้ยังไง


ปล. ตอนมีปัญหากับประชาชน เอาช่องทางการสื่อสารทุกอย่างมาใช้ เพื่อทำลายฝั่งตรงข้าม ยิงทุกสื่อเป็นเนื้อหาเดียวกันอย่างเก่งเลย

เเต่พอปัญหาเเบบนี้ เสือกไม่เอาช่องทางพวกนั้นมาใช้ ออกมาแถลง จนโดนพวกคลิกเบทจับคำพูดมาประจานเอายอดไลค์ ให้คนด่ากันเล่น ก็ยังไม่คิดจะสื่อสารอะไรออกมาให้มันดี

เห็นความแตกต่างรึยัง ว่าความสนใจของรัฐอยู่ตรงไหน

ปกป้องประชาชนไม่สำคัญเท่าปกป้องประโยชน์ตัวเอง น่ารังเกียจมาก
แก้ไขล่าสุดโดย MildMind เมื่อ Sun Dec 20, 2020 21:37, ทั้งหมด 3 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:36
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
planex พิมพ์ว่า:
ผมอ่านละก็งงอยู่ดี 55
ระลอก 2 กับ 2nd wave มันคนละอย่างถูกมั้ยครับ


"นพ.ยง กล่าวว่า การระบาดระลอก 2 หมายถึงมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไป"
ตอนนั้นอธิบายงี้เพราะมีแต่คนติดที่เข้ามาจาก ตปท.

แต่ตอนนี้ตลอดสปัดาห์ที่ผ่านมา เรามีผู้ติดเชื้อในประเทศแล้วใช่มั้ยครับ ก็น่าจะระลอก 2 ถูกแล้วป่ะ



คำว่า ระลอก 2 ของ นพ.ยง มันเหมือน phase 2 มากกว่านะผมว่า (ติดจากคนกลุ่มแรก)
ส่วนที่เราพูดๆ ระลอก 2 ของคนทั่วไป น่าจะหมายถึง 2nd wave / resurgence แบบที่ยุโรปเจอตอนนี้ว่ามันกลับมา

 

บางทีก็ทำให้สับสนได้ครับ

ถ้าเทียบแบบ มีรถเดิม 1 คัน แล้วไปซื้อรถอีก 1 คัน
จะเรียกอะไร ?
ซื้อรถคันที่ 2 หรือ ซื้อรถคันใหม่
ใช่ จะเรียกยังไงก็คือ มีรถมาเพิ่มอีกคันนึง รวมเป็น 2 คันนั้นแหล่ะ


แต่กับโรคระบาด ถ้าทางวิชาการมันจะมีความต่างกันอย่างชัดเจน

1. ระบาดระลอก 2 เราต้องไปไล่ตามหาคนกลุ่มแรก ไปตรวจเช็คคนที่เป็นพาหะคือใคร แล้วเช็คอาการของเชื้อว่าหลบมาได้ยังไง

2. แตกต่างกับการระบาดใหม่ เราไม่ต้องไปไล่หาคนติดโรคกลุ่มแรกแล้ว ไปไล่หากลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ได้เลย กลุ่มแรกคือไม่เกี่ยว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:40
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
MildMind พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
MildMind พิมพ์ว่า:
คือไม่ต้องออกมาพูดว่ามันระบาดยังไง คือคนตามข่าวเค้ารู้ว่ากลุ่มนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับรอบแรก

คือควรออกมาพูดสาระ มาตรการ และจะแก้ปัญหายังไง

มาพูดเรื่องไรไม่รู้ให้คนเค้าด่าเล่น

ถามกลับครับ ว่าออกมาพูดว่าระบาดระลอกใหม่ ไม่ใช่ระลอกสอง

มันได้ประโยชน์ยังไงบ้าง?  

แล้วเค้าไม่พูดเรื่องมาตรการเหรอ

เค้าพูดให้ด่าเล่นยังไง พูดให้เข้าใจมากกว่ามั่ง แต่ไม่ได้พยายามคิดว่าทำไมไม่พยายามหาสาเหตุ อยากด่าอย่างเดียวไง

ถ้าถามถึงประโยชน์ ด่าแล้วได้ประโยชน์อะไร ด่าแล้วด่าผิดอีกต่างหาก  


เค้าด่ากันเพราะอะไรครับ ไปคิดดูใหม่ดีๆ

ด่าเพราะมาตรการการจัดการทุกอย่างที่ห่วยแตก ตั้งเเต่เริ่มเรื่องจนจบเรื่อง จนเริ่มรอบใหม่

ประชาชนเสียอะไรไปมากเท่าไหร่ เเต่รัฐมัวทำอะไรอยู่ ออกมาพ่นแต่ละอย่าง ไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ไขเลย

คุณคิดว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะโกรธเเค้นเเค่ไหนครับ

คนเรามันไม่ได้ด่า เพราะอยากด่า เเต่เพราะมันมีเรื่องให้ด่ามาตลอด

สุดท้าย มันก็ระบาดเเล้วมันก็จบไปแบบเดิม โดยรัฐไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย

นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ว่าระบาดรอบเเรกเกิดจากอะไร รอบสองเกิดจากอะไร ทุกคนก็รู้กันหมด

และประชาชนได้เห้นมาตรการในการรับมือม็อบที่ไวชิบหาย เด็ดขาดชิบหาย

เเต่กับปากท้องเเละปัญหาประชาชน ช้าเเละห่วยเเตกชิบหายเหมือนกัน

ไม่ให้เค้าโกรธกันได้ยังไง


ปล. ตอนมีปัญหากับประชาชน เอาช่องทางการสื่อสารทุกอย่างมาใช้ เพื่อทำลายฝั่งตรงข้าม ยิงทุกสื่อเป็นเนื้อหาเดียวกันอย่างเก่งเลย

เเต่พอปัญหาเเบบนี้ เสือกไม่เอาช่องทางพวกนั้นมาใช้ ออกมาแถลง จนโดนพวกคลิกเบทจับคำพูดมาประจานเอายอดไลค์ ให้คนด่ากันเล่น ก็ยังไม่คิดจะสื่อสารอะไรออกมาให้มันดี

เห็นความแตกต่างรึยัง ว่าความสนใจของรัฐอยู่ตรงไหน

 

อ่านอีกรอบนึงนะครับ ว่าด่าอะไรกันบ้าง http://www.soccersuck.com/boards/topic/1953272/1


แล้วระบาดรอบแรก ไทยควรทำแบบไหนถึงจะถูกใจเหรอ
ปิดประเทศตั้งแต่แรกเลย คิดว่าจะกันเชื้อได้จริงๆไหม เคยอ่านพวก อาจารย์หมอที่เค้าคุยกันไหม ยังไงก็ติด จะช้าเร็วก็ติด

ยิ่งปิดประเทศเร็ว เศรษฐกิจยิ่งแย่ ไทยพึ่งการท่องเที่ยวจนถึงขีดสุดแล้ว ถ้าไม่มีโควิด เงินบาทดีไม่ดีจะวิ่งแถว 29 หรือหนักๆ ก็ 28 เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status: Sometimes you have to do the wrong things, for the
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 17995
ที่อยู่: New World
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:43
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
อยู่ที่การนิยามของคำ ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรกับชาวบ้านถ้ามานั่งเถียงกันเรื่องคำเรียก

สำนักข่าวก็ใช้คำว่าระลอก 2 เกลื่อนกลาดเวลารายงานเคสต่างประเทศ รวมถึงหมอโฆษกด้วย

ตอนพูดถึงต่างประเทศผมก็ไม่คิดว่าแก research จัดคำนิยามให้แต่ละประเทศนะ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7184
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:44
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
อ่ะ ผมผู้มาจากอีกฝั่งมาละนะครับ แล้วก็จะมาแย้งด้วยชุดข้อมูลเช่นกัน

อ้างอิงจาก:
https://www.bbc.com/news/health-53113785  


ถ้าดูตามลิงค์ด้านบน หมอในอังกฤษบอกว่า "2nd Wave" มันไม่มี standard definition ในเชิงวิทยาศาสตร์ครับ แล้วก็เป็นอะไรที่เป็น arbitrary ด้วยเช่นกันครับ

"Some describe any rise as a second wave, but it is often a bumpy first wave. This is happening in some US states.

In order to say one wave has ended, the virus would have been brought under control and cases fallen substantially."

ถ้าคุณอ่านประโยคนี้ มันไม่เกี่ยวกับว่ามีการติดเชื้อในประเทศหรือนอกประเทศเลยครับ แต่มันก็คือการระบาดอีกระลอก โดยไม่ได้สนใจถึงที่มาของเชื้อ แต่มันเกิดการลุกลาม"ขึ้นใหม่"หลังจากจำนวนเคสลดลงและอยู่ภายใต้การควบคุมนั่นเอง

ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ด่าหมอเลยแม้แต่น้อย แต่ผมตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงไม่เรียก 2nd wave for the sake of easier understanding of everyone หรอครับ คือผมเองไม่ได้เรียน virology หรือ epidemiology มานะครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบอีกว่าในไทยกะต่างประเทศเหมือนกันมั้ย แต่ที่อ่านมา มันก็ไม่มี standard definition จริงๆนั่นแหล่ะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 1338
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:48
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:52
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
อ่ะ ผมผู้มาจากอีกฝั่งมาละนะครับ แล้วก็จะมาแย้งด้วยชุดข้อมูลเช่นกัน

อ้างอิงจาก:
https://www.bbc.com/news/health-53113785  


ถ้าดูตามลิงค์ด้านบน หมอในอังกฤษบอกว่า "2nd Wave" มันไม่มี standard definition ในเชิงวิทยาศาสตร์ครับ แล้วก็เป็นอะไรที่เป็น arbitrary ด้วยเช่นกันครับ

"Some describe any rise as a second wave, but it is often a bumpy first wave. This is happening in some US states.

In order to say one wave has ended, the virus would have been brought under control and cases fallen substantially."

ถ้าคุณอ่านประโยคนี้ มันไม่เกี่ยวกับว่ามีการติดเชื้อในประเทศหรือนอกประเทศเลยครับ แต่มันก็คือการระบาดอีกระลอก โดยไม่ได้สนใจถึงที่มาของเชื้อ แต่มันเกิดการลุกลาม"ขึ้นใหม่"หลังจากจำนวนเคสลดลงและอยู่ภายใต้การควบคุมนั่นเอง

ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ด่าหมอเลยแม้แต่น้อย แต่ผมตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงไม่เรียก 2nd wave for the sake of easier understanding of everyone หรอครับ คือผมเองไม่ได้เรียน virology หรือ epidemiology มานะครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบอีกว่าในไทยกะต่างประเทศเหมือนกันมั้ย แต่ที่อ่านมา มันก็ไม่มี standard definition จริงๆนั่นแหล่ะครับ  

อันนี้ผมก็เจอตอนไปหาแบบ eng
แต่ยังหาที่เป็น text ไม่ได้


ตะกี้พิมพ์ๆก็เพิ่มรู้เรียกต่างกันมีประโยชน์ยังไง เพิ่ง edit ใส่หัวกระทู้ตะกี้


1. ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3

2. ถ้าเรียกว่าระบาดรอบใหม่ เราไม่ต้องเสียเวลาไปค้นจากคนกลุ่มแรก ไปไล่หากลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ได้เลย งานจะไวขึ้น

ถ้าเปรียบกับฟุตบอลคือ เรียก ล้ำหน้า กับ แฮนด์บอล ถ้าเรียกฟาล์วมันก็ยังต้องหาอีกฟาล์วอะไร ถ้าเรียกล้ำหน้าคือเข้าใจง่าย แฮนด์บอล ก็รู้กัน ไม่ต้องไปถามต่อฟาล์วเรื่องอะไร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:54
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
nekomajin พิมพ์ว่า:
สำหรับผมมันคือระลอก 2 และระบาดมานานแล้ว จำนวนถึงได้เยอะขนาดนั้น  

เป็นไปไม่ได้ที่ระบาดมานานแล้ว โควิดจะอาการหนักสำหรับคนแก่ ถ้าระบาดนานแล้วคนแก่ยังไงๆก็มีอาการต้องเข้าโรงบาล

แล้วโรงบาลไหนจะปิดข่าว ปิดไม่ได้หรอก หมอ พยาบาลก็กลัวโรคเหมือนกัน มีผู้ป่วยโควิดยังไงก็ต้องแจ้ง ไม่งั้น หมอพยาบาล ติดกันยกโขยง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 696
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 21:59
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
ExtremePro พิมพ์ว่า:
ใจความสำคัญ มันไม่ได้อยู่ที่ใช้คำไหนหรอกมั้ง

ถ้าที่ผ่านมาเครดิตดีต่อให้รอบแรกใช้คำผิดเค้าก็ไม่ด่ากันหรอก
การแก้เรื่องใช้คำกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าซ๊ะงั้น
 

ก็คล้ายๆกับ ฟุตบอลเรียกเป็นประตู ถ้ามีคนใช้คำว่า ลีดส์ยิงนำ 1 แต้ม มันก็ไม่ได้สำคัญมาก แต่มันไม่ใช่ไง

แล้วที่ไปด่าๆกันคือ ด่าเพราะไม่รู้จักไปหาข้อมูลมาต่างหาก  

หลายคนเขาก็รู้แหละ มันไม่เกี่ยวกับรอบแรก
แค่เขาไม่ได้สนใจที่ต้องไปกางสมุดมาแซะคนอื่น แบบคุณ
เขาสนใจ สุขภาพ ปากท้อง มากกว่า
แล้วดูสิ่งที่โฟกัส
ไหนจะการต่อ พรก. ฉุกเฉินคุมม็อบก่อนหน้านี้อีก

จะ ระลอกแรก,ระลอก2,รอบใหม่ มันก็คือกลับมาระบาดใหม่เหมือนกัน
นี่ต้องเป็นประเด็นให้ความสำคัญกว่า การควบคุมโรค เตรียมความพร้อมอุปกรณ์
มารตรการรองรับอีกหรอกเนี่ย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
อืมมมมมมม...
ออนไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7184
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 22:03
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
อ่ะ ผมผู้มาจากอีกฝั่งมาละนะครับ แล้วก็จะมาแย้งด้วยชุดข้อมูลเช่นกัน

อ้างอิงจาก:
https://www.bbc.com/news/health-53113785  


ถ้าดูตามลิงค์ด้านบน หมอในอังกฤษบอกว่า "2nd Wave" มันไม่มี standard definition ในเชิงวิทยาศาสตร์ครับ แล้วก็เป็นอะไรที่เป็น arbitrary ด้วยเช่นกันครับ

"Some describe any rise as a second wave, but it is often a bumpy first wave. This is happening in some US states.

In order to say one wave has ended, the virus would have been brought under control and cases fallen substantially."

ถ้าคุณอ่านประโยคนี้ มันไม่เกี่ยวกับว่ามีการติดเชื้อในประเทศหรือนอกประเทศเลยครับ แต่มันก็คือการระบาดอีกระลอก โดยไม่ได้สนใจถึงที่มาของเชื้อ แต่มันเกิดการลุกลาม"ขึ้นใหม่"หลังจากจำนวนเคสลดลงและอยู่ภายใต้การควบคุมนั่นเอง

ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ด่าหมอเลยแม้แต่น้อย แต่ผมตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงไม่เรียก 2nd wave for the sake of easier understanding of everyone หรอครับ คือผมเองไม่ได้เรียน virology หรือ epidemiology มานะครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบอีกว่าในไทยกะต่างประเทศเหมือนกันมั้ย แต่ที่อ่านมา มันก็ไม่มี standard definition จริงๆนั่นแหล่ะครับ  

อันนี้ผมก็เจอตอนไปหาแบบ eng
แต่ยังหาที่เป็น text ไม่ได้


ตะกี้พิมพ์ๆก็เพิ่มรู้เรียกต่างกันมีประโยชน์ยังไง เพิ่ง edit ใส่หัวกระทู้ตะกี้


1. ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3

2. ถ้าเรียกว่าระบาดรอบใหม่ เราไม่ต้องเสียเวลาไปค้นจากคนกลุ่มแรก ไปไล่หากลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ได้เลย งานจะไวขึ้น

ถ้าเปรียบกับฟุตบอลคือ เรียก ล้ำหน้า กับ แฮนด์บอล ถ้าเรียกฟาล์วมันก็ยังต้องหาอีกฟาล์วอะไร ถ้าเรียกล้ำหน้าคือเข้าใจง่าย แฮนด์บอล ก็รู้กัน ไม่ต้องไปถามต่อฟาล์วเรื่องอะไร  


No need to refer back to patient zero ก็ได้ครับสำหรับ 2nd wave. อย่าง New Zealand ตอนเค้ามี 2nd wave หลังจากไม่เจอผู้พบเชื้อเกือบ 30 วัน เค้าก็ไม่ได้ไปไล่หาจากกลุ่มแรกแล้วครับ อย่าง Singapore ก็ follow the same principles

ฉะนั้น ไอ้ที่ของเราพยายามจะ trace back to 1st wave of patient มันไม่ได้ make sense เลยครับ... It's a freaking 2nd wave so just admit it and do a damn thing to rectify the situation ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: #Nerazzurri #LFC
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 14682
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 22:05
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
สำคัญขนาดนั้นหรอ แซะเป็นเด็กเลย ชิ่วๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 22:07
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
ExtremePro พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
ExtremePro พิมพ์ว่า:
ใจความสำคัญ มันไม่ได้อยู่ที่ใช้คำไหนหรอกมั้ง

ถ้าที่ผ่านมาเครดิตดีต่อให้รอบแรกใช้คำผิดเค้าก็ไม่ด่ากันหรอก
การแก้เรื่องใช้คำกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าซ๊ะงั้น
 

ก็คล้ายๆกับ ฟุตบอลเรียกเป็นประตู ถ้ามีคนใช้คำว่า ลีดส์ยิงนำ 1 แต้ม มันก็ไม่ได้สำคัญมาก แต่มันไม่ใช่ไง

แล้วที่ไปด่าๆกันคือ ด่าเพราะไม่รู้จักไปหาข้อมูลมาต่างหาก  

หลายคนเขาก็รู้แหละ มันไม่เกี่ยวกับรอบแรก
แค่เขาไม่ได้สนใจที่ต้องไปกางสมุดมาแซะคนอื่น แบบคุณ
เขาสนใจ สุขภาพ ปากท้อง มากกว่า
แล้วดูสิ่งที่โฟกัส
ไหนจะการต่อ พรก. ฉุกเฉินคุมม็อบก่อนหน้านี้อีก

จะ ระลอกแรก,ระลอก2,รอบใหม่ มันก็คือกลับมาระบาดใหม่เหมือนกัน
นี่ต้องเป็นประเด็นให้ความสำคัญกว่า การควบคุมโรค เตรียมความพร้อมอุปกรณ์
มารตรการรองรับอีกหรอกเนี่ย
 

หือ แล้วที่ด่าๆไปคืออะไร
ไม่พอใจเรื่องม๊อบ แล้วเกี่ยวไรกับโรคระบาด อย่าโยงมั่วสิ

พรบ.ฉุกเฉินไปเกี่ยวไรกับม๊อบ


ส่วนประโยชน์ก็ตามนี้

1. ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3

2. ถ้าเรียกว่าระบาดรอบใหม่ เราไม่ต้องเสียเวลาไปค้นจากคนกลุ่มแรก ไปไล่หากลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ได้เลย งานจะไวขึ้น

ถ้าเปรียบกับฟุตบอลคือ เรียก ล้ำหน้า กับ แฮนด์บอล ถ้าเรียกฟาล์วมันก็ยังต้องหาอีกฟาล์วอะไร ถ้าเรียกล้ำหน้าคือเข้าใจง่าย แฮนด์บอล ก็รู้กัน ไม่ต้องไปถามต่อฟาล์วเรื่องอะไร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 22:14
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
อ่ะ ผมผู้มาจากอีกฝั่งมาละนะครับ แล้วก็จะมาแย้งด้วยชุดข้อมูลเช่นกัน

อ้างอิงจาก:
https://www.bbc.com/news/health-53113785  


ถ้าดูตามลิงค์ด้านบน หมอในอังกฤษบอกว่า "2nd Wave" มันไม่มี standard definition ในเชิงวิทยาศาสตร์ครับ แล้วก็เป็นอะไรที่เป็น arbitrary ด้วยเช่นกันครับ

"Some describe any rise as a second wave, but it is often a bumpy first wave. This is happening in some US states.

In order to say one wave has ended, the virus would have been brought under control and cases fallen substantially."

ถ้าคุณอ่านประโยคนี้ มันไม่เกี่ยวกับว่ามีการติดเชื้อในประเทศหรือนอกประเทศเลยครับ แต่มันก็คือการระบาดอีกระลอก โดยไม่ได้สนใจถึงที่มาของเชื้อ แต่มันเกิดการลุกลาม"ขึ้นใหม่"หลังจากจำนวนเคสลดลงและอยู่ภายใต้การควบคุมนั่นเอง

ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ด่าหมอเลยแม้แต่น้อย แต่ผมตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงไม่เรียก 2nd wave for the sake of easier understanding of everyone หรอครับ คือผมเองไม่ได้เรียน virology หรือ epidemiology มานะครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบอีกว่าในไทยกะต่างประเทศเหมือนกันมั้ย แต่ที่อ่านมา มันก็ไม่มี standard definition จริงๆนั่นแหล่ะครับ  

อันนี้ผมก็เจอตอนไปหาแบบ eng
แต่ยังหาที่เป็น text ไม่ได้


ตะกี้พิมพ์ๆก็เพิ่มรู้เรียกต่างกันมีประโยชน์ยังไง เพิ่ง edit ใส่หัวกระทู้ตะกี้


1. ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3

2. ถ้าเรียกว่าระบาดรอบใหม่ เราไม่ต้องเสียเวลาไปค้นจากคนกลุ่มแรก ไปไล่หากลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ได้เลย งานจะไวขึ้น

ถ้าเปรียบกับฟุตบอลคือ เรียก ล้ำหน้า กับ แฮนด์บอล ถ้าเรียกฟาล์วมันก็ยังต้องหาอีกฟาล์วอะไร ถ้าเรียกล้ำหน้าคือเข้าใจง่าย แฮนด์บอล ก็รู้กัน ไม่ต้องไปถามต่อฟาล์วเรื่องอะไร  


No need to refer back to patient zero ก็ได้ครับสำหรับ 2nd wave. อย่าง New Zealand ตอนเค้ามี 2nd wave หลังจากไม่เจอผู้พบเชื้อเกือบ 30 วัน เค้าก็ไม่ได้ไปไล่หาจากกลุ่มแรกแล้วครับ อย่าง Singapore ก็ follow the same principles

ฉะนั้น ไอ้ที่ของเราพยายามจะ trace back to 1st wave of patient มันไม่ได้ make sense เลยครับ... It's a freaking 2nd wave so just admit it and do a damn thing to rectify the situation ครับ  

มีข้อเท็จจริงหรือข่าวตรงไหนที่พูดครับ "No need to refer back to patient zero"
ที่ยังไม่ชัดเจนจาก eng คือยังหาจาก text ไม่ได้
ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด

พูดถึงประโยชน์ในการใช้คำพูดเพื่อให้เข้าใจ มันไม่ง่ายกว่าเหรอ มีข้อเสียตรงไหนถ้าจะเกณฑ์คำพูด


แล้วอีกอย่างที่อยากจะบอกคือ ไอ้ที่ไทยคำ อังกฤษคำ มันก็ไม่ได้ make sense มาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ...
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2005
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 22:15
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Boulevard พิมพ์ว่า:
สำคัญขนาดนั้นหรอ แซะเป็นเด็กเลย ชิ่วๆ  

อ้าว เอาความรู้มาให้ ก็หาว่าแซะอีก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7184
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Sun Dec 20, 2020 22:26
[RE: ทำไม ระบาดวิทยาถึงไม่เรียก ระลอก 2]
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
อ่ะ ผมผู้มาจากอีกฝั่งมาละนะครับ แล้วก็จะมาแย้งด้วยชุดข้อมูลเช่นกัน

อ้างอิงจาก:
https://www.bbc.com/news/health-53113785  


ถ้าดูตามลิงค์ด้านบน หมอในอังกฤษบอกว่า "2nd Wave" มันไม่มี standard definition ในเชิงวิทยาศาสตร์ครับ แล้วก็เป็นอะไรที่เป็น arbitrary ด้วยเช่นกันครับ

"Some describe any rise as a second wave, but it is often a bumpy first wave. This is happening in some US states.

In order to say one wave has ended, the virus would have been brought under control and cases fallen substantially."

ถ้าคุณอ่านประโยคนี้ มันไม่เกี่ยวกับว่ามีการติดเชื้อในประเทศหรือนอกประเทศเลยครับ แต่มันก็คือการระบาดอีกระลอก โดยไม่ได้สนใจถึงที่มาของเชื้อ แต่มันเกิดการลุกลาม"ขึ้นใหม่"หลังจากจำนวนเคสลดลงและอยู่ภายใต้การควบคุมนั่นเอง

ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ด่าหมอเลยแม้แต่น้อย แต่ผมตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงไม่เรียก 2nd wave for the sake of easier understanding of everyone หรอครับ คือผมเองไม่ได้เรียน virology หรือ epidemiology มานะครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบอีกว่าในไทยกะต่างประเทศเหมือนกันมั้ย แต่ที่อ่านมา มันก็ไม่มี standard definition จริงๆนั่นแหล่ะครับ  

อันนี้ผมก็เจอตอนไปหาแบบ eng
แต่ยังหาที่เป็น text ไม่ได้


ตะกี้พิมพ์ๆก็เพิ่มรู้เรียกต่างกันมีประโยชน์ยังไง เพิ่ง edit ใส่หัวกระทู้ตะกี้


1. ถ้าเรียกระลอก 2 คือ เราต้องไปสืบหาว่าใครในกลุ่มแรก คือพาหะนำโรคมาระบาดใส่กลุ่มที่ 2,3

2. ถ้าเรียกว่าระบาดรอบใหม่ เราไม่ต้องเสียเวลาไปค้นจากคนกลุ่มแรก ไปไล่หากลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ได้เลย งานจะไวขึ้น

ถ้าเปรียบกับฟุตบอลคือ เรียก ล้ำหน้า กับ แฮนด์บอล ถ้าเรียกฟาล์วมันก็ยังต้องหาอีกฟาล์วอะไร ถ้าเรียกล้ำหน้าคือเข้าใจง่าย แฮนด์บอล ก็รู้กัน ไม่ต้องไปถามต่อฟาล์วเรื่องอะไร  


No need to refer back to patient zero ก็ได้ครับสำหรับ 2nd wave. อย่าง New Zealand ตอนเค้ามี 2nd wave หลังจากไม่เจอผู้พบเชื้อเกือบ 30 วัน เค้าก็ไม่ได้ไปไล่หาจากกลุ่มแรกแล้วครับ อย่าง Singapore ก็ follow the same principles

ฉะนั้น ไอ้ที่ของเราพยายามจะ trace back to 1st wave of patient มันไม่ได้ make sense เลยครับ... It's a freaking 2nd wave so just admit it and do a damn thing to rectify the situation ครับ  

มีข้อเท็จจริงหรือข่าวตรงไหนที่พูดครับ "No need to refer back to patient zero"
ที่ยังไม่ชัดเจนจาก eng คือยังหาจาก text ไม่ได้
ถ้าพูดเอาเองใครก็พูดได้หมด
พูดถึงประโยชน์ในการใช้คำพูดเพื่อให้เข้าใจ มันไม่ง่ายกว่าเหรอ มีข้อเสียตรงไหนถ้าจะเกณฑ์คำพูด
แล้วอีกอย่างที่อยากจะบอกคือ ไอ้ที่ไทยคำ อังกฤษคำ มันก็ไม่ได้ make sense มาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ...  


ไทยคำ อังกฤษคำ = ไม่ make sense ยังไงครับ ? ถ้าไม่ได้มีความสามารถในการเข้าใจ ผมว่าเราก็คงไม่สามารถคุยกันต่อได้ครับ (ผมเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักตั้งแต่เด็กครับ ภาษาไทยผมไม่แข็งแรงเท่าอังกฤษครับ) ผมมองว่าตราบใดที่ผมสื่อสารได้ คนรับสารเข้าใจได้ มันก็จบแล้วนี่ครับ ทุกวันนี้ผมทำงานผมก็ใช้อังกฤษเป็นหลัก สลับไทย/อังกฤษไปเรื่อยๆ ทุกคนก็ทำงานกับผมได้นะครับ

อันนี้คือเรื่อง Patient Zero ครับ ว่าจำเป็นจะต้องหามั้ย ซึ่งถ้าหาไม่เจอแล้วเราจะ treat สถานการณ์อย่างไร เพราถ้า zero in on patient zero ไม่ได้ เราก็ต้อง treat ต่ออยู่ดีครับ

https://www.researchgate.net/publication/281759511_Finding_patient_zero

หรืออย่างกรณีของ NZ ก็ทำ Pangolin แต่ไม่ได้บอกว่า 2nd wave มี association กะ 1st wave อย่างไรนะครับ

https://i.stuff.co.nz/national/health/coronavirus/300124671/covid19-the-nz-strains-and-our-second-wave-of-coronavirus
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel