เจ้าของกระทู้น่าจะอารมณ์แบบคุยกับแฟนอะ อยากพักเรื่องการเมืองบ้าง ไม่ใช่แมร่งคุยตลอด 24/7 แต่แฟนพูดไม่หยุด เจ้าของกระทู้เลยบ่นแฟนไป กลายเป็นเจ้าของกระทู้เป็นสลิ่ม 55

กระทู้นี้เห็นได้ชัดว่า การเมืองนี่ใครเห็นไม่ตรงกับฝั่งตน หรือ แบบไม่เออออไปกับฝั่งตน จะถูกจับอยู่กับฝั่งตรงข้ามทันที

ปล.ความผิดพลาดของจขม.อย่างเดียว คือ การเอามาเล่าในบอร์ดนี้เท่านั้นละครับ ^^

คุณไม่สลิ่มหรอก ผมว่าพวกคลั่งการเมืองจนเกินเหตุอะชอบว่าคนอื่นเป็นสลิ่ม คือมันมีคนที่เค้าไม่ได้สนใจการเมืองมากขนาดนั้น
ชีวิตมันมีหลายๆด้าน คือไม่เห็นด้วยกับลุง เชียร์ม็อบแต่ก็ไม่ได้เชียร์ทุกเรื่อง มันก็มีหลายๆเรื่องที่ม็อบทำไม่ถูก ก็ไม่ควรหลับหูหลับตาอวยไหม
คือแค่คิดไม่เหมือนกัน ไม่call out ไม่ออกมาแสดงออกก็ไปไล่แบนเค้า ไม่หาว่าเค้าเป็นสลิ่มมันไม่ใช่อะ นี่เหรอคือประชาธิปไตยที่พวกคุณ
ที่สนับสนุนม็อบใฝ่หากันอะ โดยการตีตราคนอื่นให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ทั้งๆที่ไม่รู้จักอะไรเค้าเลยเนี่ยนะ ผมว่าใจแคบไปป่าว

อารมณ์หลักคือคนกำลงอิน จะรู้มากหรือรู้น้อย ก็อยากจะพูด อยากจะคุย อยากจะเมาส์เยอะๆ
เหมือนเวลาทีมได้ผู้เล่นคนใหม่ๆเข้าทีม แล้วแฟนบอลมาตั้งกระทู้คุยนั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับว่ามีความรู้แค่ไหน
เพียงแต่การเมือง มันยาวนานกว่านั้น มีประเด็นใหม่ๆมาเรื่อยๆตลอดเวลา การเมาส์ก็เลยมีตลอดเช่นกัน

ต้องถามตัวเองก่อนว่า คำว่า อย่าบ้าการเมืองมาก คืออะไร ตัวจขกท เป็นอะไรถึงไม่ชอบ ไม่ชอบเพราะอะไร
ถ้าไม่ชอบ ก็คือ ไม่ชอบ ไม่ว่าจะฝั่งไหน
ก็อาจต้องบอกไปว่า เครียดเยอะแล้ว อยากคุยเรื่องอื่นแทน แต่ก็ต้องทำใจว่า เขาจะเอาเรื่องนี้ ไปคุยกับคนอื่นแทน
หรือ จขกท อาจจะไม่ชอบวิธ๊คุย วิธีพูด ทางการเมือง ของแฟนก็ได้ อันนี้ ก็สุดวิสัย

แต่บริบทอันนึง ที่ จขกท มองจากตัวเองมากเกินไป คือ "(แฟนผมยังเรียนมหาลัยอยู่นะครับ) ผมอยากให้สนใจเรื่องเรียน ถ้าจะพูดเรื่องนี้ไม่ค่อยอยากให้พูดครับ"
จขกท ไปโฟกัส ว่าคือ แฟนยังเด็กควรต้องเรียน เผลอๆ นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มความไม่พอใจของจขกท ด้วยซ้ำนะ
อย่าลืมสิว่า การเคลื่อนไหว ระลอกนี้ ขับเคลื่อนด้วยคนกลุ่มนั้น แฟน จขกท อยู่ในโครงสร้าง สิ่งแวดล้อม และบรรยากาศนั้นโดยตรงเลยนะ ความอิน ความเกี่ยวข้อง มันเยอะกว่าปกติ เทียบกับการชุมนุมรอบอื่นๆในหลายปีนี้ ไม่มีการเคลื่อนไหวในจะเกี่ยวกับเด็ก มากไปกว่านี้อีกแล้ว
มันก็คล้ายๆกับอยู่ในบริบทที่คนรอบตัวคุยกันเรื่องบอลทั้งนั้น (แล้วตัวเองก็ดันชอบอีก) ก็เลยมาคุยกับ จขกท อีกที

ก็ยังดีกว่าแฟนท่านเป็นสลิ่มครับ ถือว่าอย่างน้อยยังมีตรรกกะแยกแยะอยู่บ้าง ของแบบนี้ต้องค่อยๆให้เค้าเรียนรู้เองว่าอะไรมากไป กำลังอินท่าจะเบรคยาก อีกอย่างยังอายุน้อยก็ต้องค่อยๆปรับทีละนิดทีละนิด ถ้าท่านมีความอดทนพออะนะ

จากการที่อ่านคอมเมนต์ จกท.

ผมแนะนำ ในชีวิตคู่ ต้องวางทิฐิ ความชอบ ไม่ชอบลงก่อน

คุณต้องทำความเข้าใจในตัวแฟนก่อน ว่าที่เขามาพูดคุย เรื่องต่างๆกับคุณเพราะอะไร

อันไม่ใช่แค่การเมืองเท่านั้น ผมหมายถึงทุกเรื่อง การที่แฟนเซ้าซี้ถามนู้น นี่นั่น

บางทีแค่เขาต้องการให้คุณมีส่วนร่วม กิจกรรมพูดคุย หรือ ต้องการแค่คนรับฟังและเข้าใจเขาเท่านั้น

นี่เพียงเรื่องเล็กๆ แต่มันมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตคู่นะครับฝากไว้แค่นี่

หัวใจของประชาธิปไตย คือ การรับฟัง และ พูดคุยด้วยเหตุผล ที่เหมาะสม

ถึงจะบอกว่าตัวเองไม่สลิ่ม (far-right + fallacy + authoritarian) แต่ก็เป็นอำนาจนิยมอยู่ดี (จากตรรกะ: แฟนยังอยู่มหาลัย ควรสนใจเรื่องเรียน ไม่ควรสนใจเรื่องการเมือง)

ถ้าเป็นห่วงเรื่องการเรียนจริง ก็แค่ดูว่าที่ผ่านมาเค้าเรียนเป็นไง ถ้าเรียนดีอยู่แล้วยิ่งใช้ตรรกะนี้ไม่ได้ ถ้าเรียนไม่ดีก็ใส่ใจหน่อย ว่าวิชานั้นวิชานี้ไม่เข้าใจตรงไหน ได้ทบทวนมั้ย ซึ่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการห้ามสนใจเรื่องการเมืองอยู่ดี

ถ้ารู้สึกว่าแฟนสนใจเรื่องการเมืองเยอะจนไม่สนใจเรา ก็อาจจะมอ้อนหน่อย หรือบอกตรงๆ ว่าพักนี้ไม่ค่อยใส่ใจเราเลยนะ แต่การไปสั่งห้ามแฟนไม่ให้พูดเรื่องการเมืองก็ไม่ช่วยอะไร ดีไม่ดีทำให้แย่ลงด้วย เพราะเกิดความรู้สึกว่าอีกฝ่ายใช้อำนาจเหนือกว่าโดยไม่สนใจเหตุผล (อำนาจนิยม)

ทางที่ดีก็คุยไปเลย ถกกันแบบเรื่องนั้นเรื่องนี้มาจากไหน แต่ละคนคิดเห็นกับเหตุการณ์นั้นอย่างไร เพราะอะไร การเมืองโลกเป็นยังไง จะกระทบกับไทยยังไง บลาๆ

บางคนนี่ก็บอกว่าให้ จขกท. ยอมรับเค้าให้ได้ เหมือนจะบอกว่าฝั่งแฟนจขกท.อยู่ฝั่งประชาธิปไตยทำไรก็ไม่ผิดงี้ แต่อันนี้มันเรื่องชีวิตคู่จะให้พูดแต่การเมืองมันก็ไม่ได้ มันต้องบาลานซ์กันอ่ะ ผมเข้าใจจขกท.นะบางทีพูดแต่เรื่องการเมืองอย่างเดียวมันก็เอียนเพราะวันทั้งวันเราก็เสพข่าวกันมากเกินพอแล้ว

ปล.ผมไม่ใช่สลิ่มนะ เพราะอยู่ฝั่งม๊อบ แต่ขอเรียกพวกที่เอะอะก็ยัดเยียดให้คนอื่นเป็นสลิ่มว่าคุณก็คือสลิ่มนี่แหละ

ผมว่าเกินไปนะ ใครไม่เห็นด้วยจะยัดให้เป็นสลิ่มทุกคนเลยหรอ ผมเลยไม่เห็นด้วยกับคำนี้เลยนะ มันมักง่ายเกินไป

ง่ายๆผมว่ารำคาญแฟนมากกว่า เหนื่อยที่ต้องฟังโน่นนี่ ผมก็เป็นนิสัยผู้หญิงทำใจครับฟังๆเออออไป ดีกว่าทะเลาะกันครับผม
ส่วนเรื่องยัดเยียดสลิ่มนี่ผมไม่ชอบเลย บางครั้งมันก็เกินไปคนเรามีความคลั่งการเมืองไม่เท่ากันต้องเข้าใจในจุดนั้นด้วย บางทีมันก็เบื่อจะฟังแค่นั้นเอง

คล้ายๆกัน กับกรณีแฟนผม เลย 55

ตอนนี้ไม่พูดเรื่องนี้กันล่ะ

เข้าใจว่าคุณตอบก่อนที่เค้าจะมาอธิบายในหลายๆ คอมเมนต์ ว่าเค้าเป็นอย่างไร

ซึ่งในคำตอบของเค้าก็พอบอกได้ว่าเค้ามีความคิดเห็นทางการเมืองอยู่ฝั่งไหน

เลยอยากขอทราบนิยาม หรือ คำอธิบาย ของคนที่คุณว่าเค้าเป็น สลิ่ม หน่อยครับ

หรือ คนที่เป็นสลิ่ม ในความคิดคุณเป็นยังไง

แล้วถ้าเค้าก็ไม่ได้เห็นด้วยกับรบ.ด้วยละครับ ผมว่าเราคิดแทนคนอื่นไม่ได้หรอกนะครับ ได้แต่คาดเดา ซึ่งคาดเดาคงใช้คำว่าแน่นอนไม่ได้
แต่เอาเถอะครับผมไม่ได้อยากจะมาขัดขากันเองหรืออะไร แค่ไม่อยากให้ใช้อคติมากไปเลยเข้ามาเตือนนิดหน่อยแค่นั้นครับ

ดีซะอีกที่แฟนท่านคุยกับท่าน

ไม่งั้นถ้าเขาอีดอัดมากๆ เขาก็ไปคุยกับคนอื่นนะครับ

อันนี้ผมขอเรื้อนแล้วอคำอธิบายด้วยว่า "โดยพื้นฐานทางความคิดคุณก็คือสลิ่ม" อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้แล้วมันบ่งบอกตรงไหน หรือการไม่เป็นสลิ่มมันต้องทำตัวยังไงคิดยังไงอธิบายทีครับ การที่คุณไปยัดเยียดเค้าแบบนั้นมันไม่ใช่อะผมว่า ถ้าคุณไม่มีเหตุผลมาอธฺบาย ความคิดคุณก็คงไม่ต่างจากพวกสลิ่มเหมือนกัน ที่ยัดเยียดความคิดตัวเองให้คนอื่น

พูดมาก หาอะไรอุดปากซะ