ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 14, 15, 16
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 78
ที่อยู่: soccersuck
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 03:07
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
เปรี่ยนยาง ไป4 เส้นแล้ว ผมรอเปรี่ยนยางให้นะครับ ดริฟมันจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เสมอ ดั่ง ชีวิต
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2007
ตอบ: 1248
ที่อยู่: อยู่ใน Limbo
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 09:13
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
แหกโค้งไปดิ 5555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
...Thnks fr th Mmrs...

ออฟไลน์
โค้ช A-License
Status: RVV-IRENE-YOONJO-YEBIN-SUJI-YUJEONG
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 15359
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 09:34
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
สิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับกระทู้นี้คือ จขกท. มาตั้งกระทู้ด้วยข้อมูล

และถูกแย้งด้วยข้อมูล แต่กลับหายไปเลย ไม่กลับมายอมรับหรือโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น

ไม่รู้ว่าเข้ามาอ่านมั้ยด้วยเถอะ

ตั้งกระทู้ไว้ตอน ทุ่มครึ่ง จนตอนนี้ 9 โมงเช้าแล้ว จะบอกว่า ตั้งปุ้บนอนปั้บ ไม่รอพูดคุยในกระทู้ตัวเองตั้งเลยเหรอ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1066
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 10:02
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
เช้าแล้ว debate กันต่อไหมครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2007
ตอบ: 3281
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 11:35
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
อย่ากระนั้น พิมพ์ว่า:
เช้าแล้ว debate กันต่อไหมครับ  


ถ้าจะ debate คงมาตั้งแต่เมื่อคืนละ ปกติคนตั้งกระทู้ก็ต้องรีเฟรชดูตลอดอยู่ละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
ไอดีเก่าโดนลบ
Status: Crash landing on you
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 12357
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 12:07
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
อยู่ดีๆก็หาย ไลน์ไม่ตอบ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: Wildly-Vet
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 6950
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 12:16
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
ตายเลยจริงๆเคสนี้ แฟนซิตี้อยู่เงียบๆดีกว่าครับ ยกเว้นใครมาด่าพวกคุณเหมือนเคสกระทู้นั้นค่อยมาโต้ แต่เรื่องความผิดนี่ยังไงก็จริง สำหรับคนที่เพิ่งมาเชียร์ช่วงหลังก็เข้าใจได้ว่าไม่รู้ว่าเกิดไรขึ้น แต่เคสนี้ดูยังไงก็ผิดแหละ รอดมาได้ก็โอเคแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


#ForzaMilan #ฉันภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ ๙
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 493
ที่อยู่: Itaewon Class ,Soul
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 12:54
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
ผมว่า คนปักธง. ก็คือเจ้าของกระทู้แหละครับ. ลองชี้แจงตามที่เค้าสงสัยดูสิครับ

หรือปิดหูปิดตา ไม่รับรู้ว่ามันผิดปกติ อะไรเลย

กฏมันหลวม มีช่องโหว่ ฝ่ายทีมงาน ก็อาศัยช่องทางกฏหมาย สู้คดี

มันถูกกฏแหละคนับ. แต่ถามหาความถูกต้อง. คิดว่ามันถูกหรือไหมครับ.

นับดูตอนนี้ ทีมมีแชมป์ มีสปอนเซอร์ มีรายได้ต่างๆ. มันช่วงติดลมบนแล้วครับ.

ถ้ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง ก็ชี้แจงมาเลยครับ. พร้อมฟัง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Dec 2009
ตอบ: 828
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 12:56
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
Spoil
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Spoil
Spoil
Batao พิมพ์ว่า:
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
vit_bank พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
KingKeanoSS พิมพ์ว่า:
Macor พิมพ์ว่า:
เห็นออกมาโวยวายหลายคน เลยขอออกมาอธิบายเท่าที่ทราบให้เห็นภาพคร่าวๆละกัน

————————————————————-—————-

ก่อนอื่นลองดูข้อมูลที่มาของรายได้ของเรือใบก่อนว่ามาจาก



ปีล่าสุด จะสังเกตได้ว่าราว 60% มาจาก broadcast และ matchday
ในขณะที่ 40% ที่เหลือมาจากค่าโฆษณา

ซึ่ง 1 ในข้อที่ทางยูฟ่ากล่าวหาคือ สโมสรมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางผิดกฎ FFP ..ในที่นี้คือ การใช้เงิน sponsor อัดฉีดจากบริษัทที่เว่อร์กว่าความเป็นจริง ในที่นี้คือ Etihad group ที่ดูจ่ายให้เรือ “มากกว่า” ที่บริษัทจะทำได้ นั่นจึงทำให้เป็นข้อสังเกตว่าเรือใบใช้เงินชีคอัดส่วนต่างที่เหลือแทน (ไม่เกี่ยวกับที่ sponsor เป็นเจ้าของนะ ไม่งั้น king power ของเจ้าสัวก็คงโดนเหมือนกัน)

และหนึ่งในดีลที่เรียกว่า โครตเตะตา คือ ดีลที่จ่ายให้เรือใบมูลค่า 400 ลป ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่รวมทั้ง sponsor บนอกเสื้อ + ชื่อสนาม เป็นระยะเวลา 10 ปี ....ซึ่งเฉลี่ยจะจ่ายให้เรือใบปีละ 40 ลป. ซึ่งถ้าคิดเป็นสัดส่วนรายได้ มันแค่ราว 10% เท่านั้น (หลังๆน้อยกว่า 10% อีก แต่ก็อาจมีมูลค่าอื่นๆอีก แต่ก็ไม่น่าเกิน 20%)

ในขณะที่ดีลใหญ่ๆอื่นๆ เช่น ขายให้กลุ่มทุนจีน 265 ลป หรือ พูม่าดีล 650 ลป กลับถูกมองข้ามซะงั้น

https://www.theguardian.com/football/2015/dec/01/manchester-city-265m-deal-chinese-investment-group

————————————————————————

พูดง่ายๆก็ คือ เรือใบ มีรายได้ 100% ...ราว 10% ถูกกล่าวหาว่าเงินมีที่มาที่ขัดต่อ FFP (คือมูลค่ารวมไม่ผิด แต่ บ. Sponsor ดูจ่ายเยอะเกิน) แต่ในขณะที่ 90% ที่เหลือของรายได้มีที่มาที่โปร่งใส ถูกตรวจสอบด้วย บ ตรวจบัญชีตลอด (อันนี้เรือใบอ้างตอนอุทธรณ์ CAS) ด้วยแถม 60% ก็มาจาก match day และ broadcast ที่มันเห็นชัดเจนว่าใครได้เท่าไหร่

แต่ตอนนี้หลายๆยูสกำลังจะตีคลุมว่ารายได้ 100% ของเรือใบอัดฉีดมาจากเจ้าของล้วนๆ เอาเปรียบชาวบ้าน
ทั้งที่เรือใบยังไม่เคยทำลายตลาดเลยด้วยซ้ำ (top5 แพงสุด epl ยังไม่ติดเลย และไม่ได้ซื้อนักเตะราคา 200m+ แบบ psg)
ในขณะที่โครงสร้างค่าเหนื่อย เพดานสูงสุดยังมีทีม top ที่จ่ายให้มากกว่าเรืออีกหลายทีม

เพราะฉะนั้นการที่มารุม 10% ของรายได้ต้องสงสัย เเล้วบอกว่าเงินซื้อแชมป์ สำหรับผมเป็นการดิสเดรดิตนักเตะและโค้ช

สุดท้ายนี้แค่อยากออกมาพูดอีกมุมบ้าง สำหรับบางคนที่เข้าใจว่าชีคเอาเงินจ่ายหมดเลย
ส่วนใครที่ตั้งธงไว้แล้วก็แล้วแต่ท่านๆเลย
 


ตอบทอปเม้นไห้ได้ก่อน  


ผมว่าที่ เจ้าของกระทู้เค้ายกมาแค่ช่วงหลังเพราะ แสดงให้เห้นว่าตอนนี้ ซิตี้มาไกลจากคำว่ากดสุตรเงินไม่อั้นมานานมากแล้วไง

ส่วนที่ท็อปคอมเม้นเอามาแย้งก็คือ ใช่ช่วงแรกๆการเงินซิตี้เป้นตัวแดง เจ้าของทีมเลยใช้การอัดฉีดผ่านบริษัทในเครื่อ เอติฮัท แต่!!!! ทั้งนี้ทั้งนั้นการอัดฉีดแบบนี้มันก้มีข้อกำจัด(เยอะเกินไปไม่ได้)และต้องสมเหตุสมผล และคุณอย่างลืมว่าทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในกรอบของกฏการเงินที่ ยูฟ่าตั้งมา มาสกัดไม่ให้ ซิตี้ ใช้เงินเกินไป พอขอยํ้าอีกครั้งนะว่าทั้งหมดทั้งมวล อยู่ในกรอบการเงินทั้งสิ้น เพราะเหตุนี้ ศาลกีฬาถึงตัดสินให้ ซิตี้พ้นผิดจากข้อกล่าวหาว่าตกแต่งบัญชี แต่ยังให้ถูกปรับเพราะไม่ให้ความร่วมมือในการสืบสวน จบไหม  
ยอมรับว่าโกงทีมอื่นแบบแมนๆมันยากมากเลยเหรอ ถามจริง  


แทนที่จะคุยกันด้วยเหตุด้วยผลดีดี ผมก็พร้อมจะคุยแบบสุภาพชนด้วยนะ แต่ถ้ามาแบบนี้ก็กดเรื้อนและปล่อยผ่านไป  
 


รบกวนท่านไปอ่านคำตัดสินของศาลกีฬาโลกใหม่ครับ ศาลไม่ได้บอกว่าซิตี้ไม่ผิดนะครับ แต่แค่เอาผิดไม่ได้เพราะหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักพอจึงยกประโยชน์ให้ ต่างกันนะครับระหว่างไม่ผิดกับไม่สามารถเอาผิดได้  


"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา" <---------------------ตรงนี้ตัดสินว่าไม่ผิด

"ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องความไม่ตรงไปตรงมาในการปกปิดการระดมทุนมีความชัดเจนว่าผิดกฎหมายมากกว่าการขัดขวางการสืบสวนของซีเอฟซีบีนั้น การลงโทษแบนไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันระดับสโมสรของยูฟ่า เนื่องจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของซีเอฟซีบีนั้น ไม่สมเหตุสมผล" <--------------------อันนี้ตัดสินว่า ไม่ตรงไปตรงมาในการนำสืบข้อมูล(การระเมิดการเงิน) มีความพยายามขัดขวางการสืบสวนข้อมูล

มันมีตรงไหนที่ ศาลบอกว่า ซิตี้ละเมิดกฏการเงิน ถ้าซิตี้ละเมิดจริงศาลก้ต้องตัดสินยืนตามคำสั่งยูฟ่าไปแล้ว ผมว่าคนที่ไม่เข้าใจน่าจะเป็นคุณมากกว่านะครับ  

 

“UEFA notes that the CAS panel found that there was insufficient conclusive evidence to uphold all of the CFCB’s conclusions in this specific case and that many of the alleged breaches were time-barred due to the five-year time period foreseen in the UEFA regulations.

เอาตามอันที่ท่านยกมาเลยนะครับ (อันที่แปลมาจากที่ผมเอามาให้ดู)

"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา" <---------------------ตรงนี้ตัดสินว่าไม่ผิด

ตรงนี้คือที่ผมบอกว่าหลักฐานไม่มีนำหนักพอครับ ไม่ใช่ว่าซิตี้ไม่ผิดแต่หลักฐานที่จะเอาผิดไม่มีน้ำหนักพอ  


ใช่ครับหลักฐานมีนํ้าหนักไม่เพียงพอก็เป็นอันยกฟ้อง คนที่ถูกกล่าวหาก็พ้นผิดไปกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนคดีอาญาบ้านเราพอคนถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย แล้วศาลบอลหลักฐานไม่เพียงพอคนๆก็กลายมาเป็นผู้บริสุทธิ์ใช้ชีวติเหมือนคนสุจริตทั่วๆไป ผมเข้าใจถูกไหม  


คดีขาดอายุความ เลยพ้นผิด ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ได้ทำผิดนะครับ คุณแค่รอดตัวเพราะกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เค้าเลยไม่ไปพิจารณาในเนื้อหาแห่งคดี

คุณบอกได้ว่า ศาลยกฟ้องเพราะขาดอายุความ แต่คุณจะบอกว่าศาลยกฟ้องเพราะคุณไม่ได้ฆ่าคนไม่ได้ มันคนละประเด็นกัน

ผมถึงได้บอกว่า เหตุผลในคำตัดสินตัวเต็มยังไม่ออก เอาอะไรมามั่นใจว่าทำผิด หรือ ไม่ได้ทำผิดจริง อีกทั้งคำตัดสินยังไม่ได้ลงถึงประเด็นในคดีว่า ประเด็นใดที่หลักฐานไม่เพียงพอ และ ประเด็นใดที่เอาผิดไม่ได้เพราะขาดอายุความ เพียงแต่พูดรวมๆว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอและขาดอายุความ  


ศาลไม่ได้บอกว่าคดีขาดอายุความนะครับ ศาลบอกหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ  


ท่านแปลประโยคที่ว่านี้ว่าอย่างไรครับ
'The CAS award emphasized that most of the alleged breaches reported by the Adjudicatory Chamber of the CFCB were either not established or time-barred'
ถ้าจะแปลสุดที่ว่าไม่น่าเชื่อถือ คำตัดสินของ panel คงไม่ต้องใส่คำว่า time-barred ลงมา

อีกทั้งคำแถลงของ UEFA
'that many of the alleged breaches were time-barred due to the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations'
ยังพูดในประเด็นเรื่องของอายุความ

ถ้าจะบอกว่าไม่มีเรื่องอายุความมาเกี่ยวข้องก็คงไม่ใช่อะครับ เพราะมันเขียนอยู่ในนั้น

https://www.tas-cas.org/fileadmin/user_upload/CAS_Media_Release_6785_Decision.pdf

https://www.uefa.com/insideuefa/mediaservices/mediareleases/news/025f-0fe04532cd96-809561062b21-1000--uefa-statement-on-cas-manchester-city-decision/  


เออผมไม่รู้จะตอบยังไงดีผมได้ source มาก้เหมือนกับคุณนั้นหล่ะครับ แปลมา

"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา"

การละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับ <<< อันนี้หมายถึงหลักฐานไม่น่าเชื่อถือครับ(แปลไทยเป็นไทย)

และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา ในส่วนนี้ความหมายที่ผมเข้าใจว่า เงื่อนไขของเวลา ในตัวของหลักฐานนั้นๆครับไม่ใช้เงื่อไข่ขอคดี

ไม่มีตรงไหนเลยที่ศาลบอกคดีขาดอายุความ

ถ้าคดีขาดอายุความ แล้วคุณไม่คิดหรอว่าทนายฝ่ายยูฟ่าห่วยแตกมากๆ

และคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องการลงโทษของยูย่า ยูย่าเพิ่งจะลงโทษไปเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง มันจะขาดอายุความได้ยังไง มันไม่ใช่คดีที่ยูฟ่าเป็นโจรทย์ยื่นฟ้องแมน ซิตี้ระเมิดกฏการเงินโดยตรง คุณเข้าใจไหมครับผมขี้เกียจอธิบายแล้วนะ

 

alleged breaches คือ ข้อกล่าวหาในการฝ่าฝืนครับ ไม่ใช่หลักฐาน

'that many of the alleged breaches were time-barred due to the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations'

ประมาณว่า ช่วงเวลาที่ยูฟ่ากล่าวหาว่าซิตี้ทำผิดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ใน the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations' (ซึ่งผมไม่รู้ว่ากฎ 5 ปี นี้เขียนไว้ว่ายังไง)  
 


ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น Art 10 ของ UEFA Disciplinary Regulations คือ ความผิดใดๆ นอกจาก เรื่องโดปยา และ ความผิดที่ได้กระทำลงในสนาม มีอายุความ 5 ปี

นี่ผมอ่านกฎหมายมาก็เยอะ ยังมาโดนแขวะอีก มีแปลไทยเป็นไทย ถึงขั้นขี้เกียจจะอธิบายอีก น่าเศร้าจริงๆ

อีกอย่าง ผมอยากให้ความรู้ท่านแมนซิตี้อีกประการนึง จริงๆแล้วที่เราเรียกศาลกีฬาโลกๆ (CAS) มันไม่ใช่การพิจารณาคดีแบบศาลบ้านเรา แต่มันคือการ arbitrate

ทีนี้ที่ถามว่ายูฟ่าเพิ่งลงโทษจะขาดอายุความได้ไง ก็คือ ยูฟ่าตัดสินใจลงโทษซิตี้ เป็นการบวนการภายในของยูฟ่าเอง, ซิตี้เลยยื่นเรื่องอุทธรณ์คำสั่งของยูฟ่าไปยังศาลกีฬาโลก เพราะเป็นวิธีระงับข้อพิพาทวิธีหนึ่ง โดยบอกว่ายูฟ่าทำไม่ถูกเนื่องจากพ้นกำหนด 5 ปี เพราะเรื่องมันเกิดปี 2009, ศาลกีฬาโลกเลยตัดสินว่าใช่ คดีมันขาดอายุความในบางข้อกล่าวหา (ขอเอาเเค่ประเด็นอายุความก่อน)

ถามว่าทนายยูฟ่าห่วยมากๆไหม ส่วนตัวก็คิดว่าไม่ห่วย ปัญหาจริงๆ มันก็เริ่มมาตั้งแต่ในส่วนของการตรวจสอบแล้ว เพราะหลักฐานมันเพิ่งปรากฎหลังพ้นกำหนด 5 ปี แต่อย่างไรก็ตาม art 10 ที่ว่าก็ไม่ได้บอกว่า 5 ปีเริ่มนับแต่เมื่อใด ตรงนี้เลยเป็นพื้นที่ของการตีความข้อกฎหมาย

ทางทนายยูฟ่าอาจเห็นว่า 5 ปีนับแต่รู้ถึงเหตุแห่งการกระทำความผิด จึงลงโทษได้, ในทางตรงกันข้ามทางซิตี้ก็คงสู้ว่า 5 ปีนับแต่ความผิดเกิดขึ้นจริง
(ประเด็นนี้ไม่มีในตัว media release แต่คิดว่าน่าจะการพูดถึงประเด็นนี้ในคำตัดสินตัวเต็ม)

แล้วถามว่าช่องว่างในการตีความกฎหมายตรงนี้สำคัญยังไง ต้องย้อนกลับไปถึงหลักการของ CAS เพราะการเลือก arbitrators ใน CAS นั้นมันใช้ระบบเลือก 3 คน โดยแบ่งเป็น คู่ความเลือกฝั่งละ 1 คน และประธาน CAS เลือกอีก 1 คน ซึ่งโดยปกติแล้วคู่ความแต่ละฝั่งจะเลือก arbitrator ที่มีประวัติการตัดสินคดีไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตัวเอง ทีนี้การลอบบี้ยิสต์จะมีความสำคัญตอนนี้ ก็คือ arbitrator คนที่ 3 ที่เลือกโดยประธานอาจเป็นปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินคดีนี้ได้เลย ถ้า arbitrator คนนั้นโปรไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ

ทั้งหมดทั้งมวลคือจะบอกว่า ซิตี้ชนะคดีนี้เพราะเทคนิคทางกฎหมายซะส่วนใหญ่ ทั้งในเรื่องการตีความกฎหมาย หรือ แหล่งที่มาของพยานหลักฐาน ซิตี้ไม่ได้สู้ว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่ได้จ่ายเงินหรืออัดฉีดเงินแบบผิดกฎหมาย และศาลก็ไม่ได้กล่าวไปถึงตรงนั้น (เท่าที่อ่านคำตัดสินใน media release)

ฉะนั้นจะมาเคลมว่าซิตี้ไม่ผิด ไม่ได้ทำผิดจริงไม่ได้ ไม่ได้อัดฉีดเงินไม่ได้

อันนี้ความเห็นส่วนตัว เคสนี้ต้องเป็นเคสที่ทำให้เกิดการแก้กฎหมายในส่วนนี้แน่ๆในอนาคต โดยการกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่า limitation on prosecution หรือ กำหนดระยะเวลาในการดำเนินคดี (เผื่อมาบอกอีกว่าไม่ใช่อายุความ) มีระยะเวลา 5 ปี นับแต่รู้เหตุของการกระทำความผิด ให้ชัดเจนไปเลย จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการตีความ พวกกรณีแบบนี้เรื่องการปกปิดบัญชีจะได้ไม่รอด แม้จะมาพบการกระทำผิดในภายหลัง
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1066
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 12:57
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
พัคแซรอย พิมพ์ว่า:
ผมว่า คนปักธง. ก็คือเจ้าของกระทู้แหละครับ. ลองชี้แจงตามที่เค้าสงสัยดูสิครับ

หรือปิดหูปิดตา ไม่รับรู้ว่ามันผิดปกติ อะไรเลย

กฏมันหลวม มีช่องโหว่ ฝ่ายทีมงาน ก็อาศัยช่องทางกฏหมาย สู้คดี

มันถูกกฏแหละคนับ. แต่ถามหาความถูกต้อง. คิดว่ามันถูกหรือไหมครับ.

นับดูตอนนี้ ทีมมีแชมป์ มีสปอนเซอร์ มีรายได้ต่างๆ. มันช่วงติดลมบนแล้วครับ.

ถ้ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง ก็ชี้แจงมาเลยครับ. พร้อมฟัง  


ผมแฟนแมนซิตี้นะครับ

ผมอยากรู้ว่าที่ทุกท่านมองว่าผิดเนี่ย​ มองในแง่กฏหมาย​หรือศีลธรรมกันครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 493
ที่อยู่: Itaewon Class ,Soul
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 13:39
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
อย่ากระนั้น พิมพ์ว่า:
พัคแซรอย พิมพ์ว่า:
ผมว่า คนปักธง. ก็คือเจ้าของกระทู้แหละครับ. ลองชี้แจงตามที่เค้าสงสัยดูสิครับ

หรือปิดหูปิดตา ไม่รับรู้ว่ามันผิดปกติ อะไรเลย

กฏมันหลวม มีช่องโหว่ ฝ่ายทีมงาน ก็อาศัยช่องทางกฏหมาย สู้คดี

มันถูกกฏแหละคนับ. แต่ถามหาความถูกต้อง. คิดว่ามันถูกหรือไหมครับ.

นับดูตอนนี้ ทีมมีแชมป์ มีสปอนเซอร์ มีรายได้ต่างๆ. มันช่วงติดลมบนแล้วครับ.

ถ้ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง ก็ชี้แจงมาเลยครับ. พร้อมฟัง  


ผมแฟนแมนซิตี้นะครับ

ผมอยากรู้ว่าที่ทุกท่านมองว่าผิดเนี่ย​ มองในแง่กฏหมาย​หรือศีลธรรมกันครับ  


ผมว่ามองในแง่ ศีลธรรม ความยุติธรรมในกฏที่ใช้. ดูแล้วมันไม่แฟร์ กับทีมอื่นๆ.

แต่อย่างว่า พอสู้ด้วยกฏหมาย มันก็จะมีช่องโหว่ ทางกฏหมาย ทำให้ ซิตี้รอด

ผมมองแบบกลางๆ ไม่ถึงกับต้องแบนไปเล่นบอล ยุโรป เปลี่ยนเป็นแบนตลาดการซื้อขาย 2-3 ตลาดก็ว่ากันไป

กับปรับเงิน

ถ้ามองในแง่กฏหมายอย่างเดียว. ก็ต้องวัดกันที่หลักฐาน เหมือนเคสนี้ครับ ที่รอด

ผมว่าถ้าเชียร์ทีมมาตั้งแต่เริ่มๆ ยังไงแฟนบอลแมนซิ. ก็น่าจะรู้ถึงความไม่ปกติ กับการอัดเงินเข้ามา. แต่ตอนนี้ ทีมสามารถ อยู่ได้ด้วยตัวเอง ใช้การบริหารเป็นหลักครับ

แต่ถ้าศาลตัดสินแล้ว. มันก็ต้องตามนั้นแหละครับ อาจจะไม่ถูกใจ แต่มันถูกหลักกฏข้อบังคับ

จากที่แปล source มา มันเป็นภาษากฏหมาย คือหลักฐานที่นำมาฟ้องซิตี้มัน ได้มาโดยมิชอบ. ทนายของแมนซิ เล่นตรงประเด็นนี้เป็นหลักครับเพราะประเด็นนี้ ฟ้องให้แบนแมนซิ

อีกประเด็นเรื่องไม่ให้ความร่วมมือ แมนซิผิดจริงตามหลักฐาน ก็โดนปรับไป. แต่ศาลเห็นว่า โทษปรับเยอะเกินไป ก็เลยลดโทษให้

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Mar 2006
ตอบ: 8094
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 13:50
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Spoil
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Spoil
Spoil
Batao พิมพ์ว่า:
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
vit_bank พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
KingKeanoSS พิมพ์ว่า:
Macor พิมพ์ว่า:
เห็นออกมาโวยวายหลายคน เลยขอออกมาอธิบายเท่าที่ทราบให้เห็นภาพคร่าวๆละกัน

————————————————————-—————-

ก่อนอื่นลองดูข้อมูลที่มาของรายได้ของเรือใบก่อนว่ามาจาก



ปีล่าสุด จะสังเกตได้ว่าราว 60% มาจาก broadcast และ matchday
ในขณะที่ 40% ที่เหลือมาจากค่าโฆษณา

ซึ่ง 1 ในข้อที่ทางยูฟ่ากล่าวหาคือ สโมสรมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางผิดกฎ FFP ..ในที่นี้คือ การใช้เงิน sponsor อัดฉีดจากบริษัทที่เว่อร์กว่าความเป็นจริง ในที่นี้คือ Etihad group ที่ดูจ่ายให้เรือ “มากกว่า” ที่บริษัทจะทำได้ นั่นจึงทำให้เป็นข้อสังเกตว่าเรือใบใช้เงินชีคอัดส่วนต่างที่เหลือแทน (ไม่เกี่ยวกับที่ sponsor เป็นเจ้าของนะ ไม่งั้น king power ของเจ้าสัวก็คงโดนเหมือนกัน)

และหนึ่งในดีลที่เรียกว่า โครตเตะตา คือ ดีลที่จ่ายให้เรือใบมูลค่า 400 ลป ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่รวมทั้ง sponsor บนอกเสื้อ + ชื่อสนาม เป็นระยะเวลา 10 ปี ....ซึ่งเฉลี่ยจะจ่ายให้เรือใบปีละ 40 ลป. ซึ่งถ้าคิดเป็นสัดส่วนรายได้ มันแค่ราว 10% เท่านั้น (หลังๆน้อยกว่า 10% อีก แต่ก็อาจมีมูลค่าอื่นๆอีก แต่ก็ไม่น่าเกิน 20%)

ในขณะที่ดีลใหญ่ๆอื่นๆ เช่น ขายให้กลุ่มทุนจีน 265 ลป หรือ พูม่าดีล 650 ลป กลับถูกมองข้ามซะงั้น

https://www.theguardian.com/football/2015/dec/01/manchester-city-265m-deal-chinese-investment-group

————————————————————————

พูดง่ายๆก็ คือ เรือใบ มีรายได้ 100% ...ราว 10% ถูกกล่าวหาว่าเงินมีที่มาที่ขัดต่อ FFP (คือมูลค่ารวมไม่ผิด แต่ บ. Sponsor ดูจ่ายเยอะเกิน) แต่ในขณะที่ 90% ที่เหลือของรายได้มีที่มาที่โปร่งใส ถูกตรวจสอบด้วย บ ตรวจบัญชีตลอด (อันนี้เรือใบอ้างตอนอุทธรณ์ CAS) ด้วยแถม 60% ก็มาจาก match day และ broadcast ที่มันเห็นชัดเจนว่าใครได้เท่าไหร่

แต่ตอนนี้หลายๆยูสกำลังจะตีคลุมว่ารายได้ 100% ของเรือใบอัดฉีดมาจากเจ้าของล้วนๆ เอาเปรียบชาวบ้าน
ทั้งที่เรือใบยังไม่เคยทำลายตลาดเลยด้วยซ้ำ (top5 แพงสุด epl ยังไม่ติดเลย และไม่ได้ซื้อนักเตะราคา 200m+ แบบ psg)
ในขณะที่โครงสร้างค่าเหนื่อย เพดานสูงสุดยังมีทีม top ที่จ่ายให้มากกว่าเรืออีกหลายทีม

เพราะฉะนั้นการที่มารุม 10% ของรายได้ต้องสงสัย เเล้วบอกว่าเงินซื้อแชมป์ สำหรับผมเป็นการดิสเดรดิตนักเตะและโค้ช

สุดท้ายนี้แค่อยากออกมาพูดอีกมุมบ้าง สำหรับบางคนที่เข้าใจว่าชีคเอาเงินจ่ายหมดเลย
ส่วนใครที่ตั้งธงไว้แล้วก็แล้วแต่ท่านๆเลย
 


ตอบทอปเม้นไห้ได้ก่อน  


ผมว่าที่ เจ้าของกระทู้เค้ายกมาแค่ช่วงหลังเพราะ แสดงให้เห้นว่าตอนนี้ ซิตี้มาไกลจากคำว่ากดสุตรเงินไม่อั้นมานานมากแล้วไง

ส่วนที่ท็อปคอมเม้นเอามาแย้งก็คือ ใช่ช่วงแรกๆการเงินซิตี้เป้นตัวแดง เจ้าของทีมเลยใช้การอัดฉีดผ่านบริษัทในเครื่อ เอติฮัท แต่!!!! ทั้งนี้ทั้งนั้นการอัดฉีดแบบนี้มันก้มีข้อกำจัด(เยอะเกินไปไม่ได้)และต้องสมเหตุสมผล และคุณอย่างลืมว่าทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในกรอบของกฏการเงินที่ ยูฟ่าตั้งมา มาสกัดไม่ให้ ซิตี้ ใช้เงินเกินไป พอขอยํ้าอีกครั้งนะว่าทั้งหมดทั้งมวล อยู่ในกรอบการเงินทั้งสิ้น เพราะเหตุนี้ ศาลกีฬาถึงตัดสินให้ ซิตี้พ้นผิดจากข้อกล่าวหาว่าตกแต่งบัญชี แต่ยังให้ถูกปรับเพราะไม่ให้ความร่วมมือในการสืบสวน จบไหม  
ยอมรับว่าโกงทีมอื่นแบบแมนๆมันยากมากเลยเหรอ ถามจริง  


แทนที่จะคุยกันด้วยเหตุด้วยผลดีดี ผมก็พร้อมจะคุยแบบสุภาพชนด้วยนะ แต่ถ้ามาแบบนี้ก็กดเรื้อนและปล่อยผ่านไป  
 


รบกวนท่านไปอ่านคำตัดสินของศาลกีฬาโลกใหม่ครับ ศาลไม่ได้บอกว่าซิตี้ไม่ผิดนะครับ แต่แค่เอาผิดไม่ได้เพราะหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักพอจึงยกประโยชน์ให้ ต่างกันนะครับระหว่างไม่ผิดกับไม่สามารถเอาผิดได้  


"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา" <---------------------ตรงนี้ตัดสินว่าไม่ผิด

"ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องความไม่ตรงไปตรงมาในการปกปิดการระดมทุนมีความชัดเจนว่าผิดกฎหมายมากกว่าการขัดขวางการสืบสวนของซีเอฟซีบีนั้น การลงโทษแบนไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันระดับสโมสรของยูฟ่า เนื่องจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของซีเอฟซีบีนั้น ไม่สมเหตุสมผล" <--------------------อันนี้ตัดสินว่า ไม่ตรงไปตรงมาในการนำสืบข้อมูล(การระเมิดการเงิน) มีความพยายามขัดขวางการสืบสวนข้อมูล

มันมีตรงไหนที่ ศาลบอกว่า ซิตี้ละเมิดกฏการเงิน ถ้าซิตี้ละเมิดจริงศาลก้ต้องตัดสินยืนตามคำสั่งยูฟ่าไปแล้ว ผมว่าคนที่ไม่เข้าใจน่าจะเป็นคุณมากกว่านะครับ  

 

“UEFA notes that the CAS panel found that there was insufficient conclusive evidence to uphold all of the CFCB’s conclusions in this specific case and that many of the alleged breaches were time-barred due to the five-year time period foreseen in the UEFA regulations.

เอาตามอันที่ท่านยกมาเลยนะครับ (อันที่แปลมาจากที่ผมเอามาให้ดู)

"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา" <---------------------ตรงนี้ตัดสินว่าไม่ผิด

ตรงนี้คือที่ผมบอกว่าหลักฐานไม่มีนำหนักพอครับ ไม่ใช่ว่าซิตี้ไม่ผิดแต่หลักฐานที่จะเอาผิดไม่มีน้ำหนักพอ  


ใช่ครับหลักฐานมีนํ้าหนักไม่เพียงพอก็เป็นอันยกฟ้อง คนที่ถูกกล่าวหาก็พ้นผิดไปกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนคดีอาญาบ้านเราพอคนถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย แล้วศาลบอลหลักฐานไม่เพียงพอคนๆก็กลายมาเป็นผู้บริสุทธิ์ใช้ชีวติเหมือนคนสุจริตทั่วๆไป ผมเข้าใจถูกไหม  


คดีขาดอายุความ เลยพ้นผิด ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ได้ทำผิดนะครับ คุณแค่รอดตัวเพราะกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เค้าเลยไม่ไปพิจารณาในเนื้อหาแห่งคดี

คุณบอกได้ว่า ศาลยกฟ้องเพราะขาดอายุความ แต่คุณจะบอกว่าศาลยกฟ้องเพราะคุณไม่ได้ฆ่าคนไม่ได้ มันคนละประเด็นกัน

ผมถึงได้บอกว่า เหตุผลในคำตัดสินตัวเต็มยังไม่ออก เอาอะไรมามั่นใจว่าทำผิด หรือ ไม่ได้ทำผิดจริง อีกทั้งคำตัดสินยังไม่ได้ลงถึงประเด็นในคดีว่า ประเด็นใดที่หลักฐานไม่เพียงพอ และ ประเด็นใดที่เอาผิดไม่ได้เพราะขาดอายุความ เพียงแต่พูดรวมๆว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอและขาดอายุความ  


ศาลไม่ได้บอกว่าคดีขาดอายุความนะครับ ศาลบอกหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ  


ท่านแปลประโยคที่ว่านี้ว่าอย่างไรครับ
'The CAS award emphasized that most of the alleged breaches reported by the Adjudicatory Chamber of the CFCB were either not established or time-barred'
ถ้าจะแปลสุดที่ว่าไม่น่าเชื่อถือ คำตัดสินของ panel คงไม่ต้องใส่คำว่า time-barred ลงมา

อีกทั้งคำแถลงของ UEFA
'that many of the alleged breaches were time-barred due to the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations'
ยังพูดในประเด็นเรื่องของอายุความ

ถ้าจะบอกว่าไม่มีเรื่องอายุความมาเกี่ยวข้องก็คงไม่ใช่อะครับ เพราะมันเขียนอยู่ในนั้น

https://www.tas-cas.org/fileadmin/user_upload/CAS_Media_Release_6785_Decision.pdf

https://www.uefa.com/insideuefa/mediaservices/mediareleases/news/025f-0fe04532cd96-809561062b21-1000--uefa-statement-on-cas-manchester-city-decision/  


เออผมไม่รู้จะตอบยังไงดีผมได้ source มาก้เหมือนกับคุณนั้นหล่ะครับ แปลมา

"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา"

การละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับ <<< อันนี้หมายถึงหลักฐานไม่น่าเชื่อถือครับ(แปลไทยเป็นไทย)

และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา ในส่วนนี้ความหมายที่ผมเข้าใจว่า เงื่อนไขของเวลา ในตัวของหลักฐานนั้นๆครับไม่ใช้เงื่อไข่ขอคดี

ไม่มีตรงไหนเลยที่ศาลบอกคดีขาดอายุความ

ถ้าคดีขาดอายุความ แล้วคุณไม่คิดหรอว่าทนายฝ่ายยูฟ่าห่วยแตกมากๆ

และคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องการลงโทษของยูย่า ยูย่าเพิ่งจะลงโทษไปเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง มันจะขาดอายุความได้ยังไง มันไม่ใช่คดีที่ยูฟ่าเป็นโจรทย์ยื่นฟ้องแมน ซิตี้ระเมิดกฏการเงินโดยตรง คุณเข้าใจไหมครับผมขี้เกียจอธิบายแล้วนะ

 

alleged breaches คือ ข้อกล่าวหาในการฝ่าฝืนครับ ไม่ใช่หลักฐาน

'that many of the alleged breaches were time-barred due to the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations'

ประมาณว่า ช่วงเวลาที่ยูฟ่ากล่าวหาว่าซิตี้ทำผิดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ใน the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations' (ซึ่งผมไม่รู้ว่ากฎ 5 ปี นี้เขียนไว้ว่ายังไง)  
 


ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น Art 10 ของ UEFA Disciplinary Regulations คือ ความผิดใดๆ นอกจาก เรื่องโดปยา และ ความผิดที่ได้กระทำลงในสนาม มีอายุความ 5 ปี

นี่ผมอ่านกฎหมายมาก็เยอะ ยังมาโดนแขวะอีก มีแปลไทยเป็นไทย ถึงขั้นขี้เกียจจะอธิบายอีก น่าเศร้าจริงๆ

อีกอย่าง ผมอยากให้ความรู้ท่านแมนซิตี้อีกประการนึง จริงๆแล้วที่เราเรียกศาลกีฬาโลกๆ (CAS) มันไม่ใช่การพิจารณาคดีแบบศาลบ้านเรา แต่มันคือการ arbitrate

ทีนี้ที่ถามว่ายูฟ่าเพิ่งลงโทษจะขาดอายุความได้ไง ก็คือ ยูฟ่าตัดสินใจลงโทษซิตี้ เป็นการบวนการภายในของยูฟ่าเอง, ซิตี้เลยยื่นเรื่องอุทธรณ์คำสั่งของยูฟ่าไปยังศาลกีฬาโลก เพราะเป็นวิธีระงับข้อพิพาทวิธีหนึ่ง โดยบอกว่ายูฟ่าทำไม่ถูกเนื่องจากพ้นกำหนด 5 ปี เพราะเรื่องมันเกิดปี 2009, ศาลกีฬาโลกเลยตัดสินว่าใช่ คดีมันขาดอายุความในบางข้อกล่าวหา (ขอเอาเเค่ประเด็นอายุความก่อน)

ถามว่าทนายยูฟ่าห่วยมากๆไหม ส่วนตัวก็คิดว่าไม่ห่วย ปัญหาจริงๆ มันก็เริ่มมาตั้งแต่ในส่วนของการตรวจสอบแล้ว เพราะหลักฐานมันเพิ่งปรากฎหลังพ้นกำหนด 5 ปี แต่อย่างไรก็ตาม art 10 ที่ว่าก็ไม่ได้บอกว่า 5 ปีเริ่มนับแต่เมื่อใด ตรงนี้เลยเป็นพื้นที่ของการตีความข้อกฎหมาย

ทางทนายยูฟ่าอาจเห็นว่า 5 ปีนับแต่รู้ถึงเหตุแห่งการกระทำความผิด จึงลงโทษได้, ในทางตรงกันข้ามทางซิตี้ก็คงสู้ว่า 5 ปีนับแต่ความผิดเกิดขึ้นจริง
(ประเด็นนี้ไม่มีในตัว media release แต่คิดว่าน่าจะการพูดถึงประเด็นนี้ในคำตัดสินตัวเต็ม)

แล้วถามว่าช่องว่างในการตีความกฎหมายตรงนี้สำคัญยังไง ต้องย้อนกลับไปถึงหลักการของ CAS เพราะการเลือก arbitrators ใน CAS นั้นมันใช้ระบบเลือก 3 คน โดยแบ่งเป็น คู่ความเลือกฝั่งละ 1 คน และประธาน CAS เลือกอีก 1 คน ซึ่งโดยปกติแล้วคู่ความแต่ละฝั่งจะเลือก arbitrator ที่มีประวัติการตัดสินคดีไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตัวเอง ทีนี้การลอบบี้ยิสต์จะมีความสำคัญตอนนี้ ก็คือ arbitrator คนที่ 3 ที่เลือกโดยประธานอาจเป็นปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินคดีนี้ได้เลย ถ้า arbitrator คนนั้นโปรไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ

ทั้งหมดทั้งมวลคือจะบอกว่า ซิตี้ชนะคดีนี้เพราะเทคนิคทางกฎหมายซะส่วนใหญ่ ทั้งในเรื่องการตีความกฎหมาย หรือ แหล่งที่มาของพยานหลักฐาน ซิตี้ไม่ได้สู้ว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่ได้จ่ายเงินหรืออัดฉีดเงินแบบผิดกฎหมาย และศาลก็ไม่ได้กล่าวไปถึงตรงนั้น (เท่าที่อ่านคำตัดสินใน media release)

ฉะนั้นจะมาเคลมว่าซิตี้ไม่ผิด ไม่ได้ทำผิดจริงไม่ได้ ไม่ได้อัดฉีดเงินไม่ได้

อันนี้ความเห็นส่วนตัว เคสนี้ต้องเป็นเคสที่ทำให้เกิดการแก้กฎหมายในส่วนนี้แน่ๆในอนาคต โดยการกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่า limitation on prosecution หรือ กำหนดระยะเวลาในการดำเนินคดี (เผื่อมาบอกอีกว่าไม่ใช่อายุความ) มีระยะเวลา 5 ปี นับแต่รู้เหตุของการกระทำความผิด ให้ชัดเจนไปเลย จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการตีความ พวกกรณีแบบนี้เรื่องการปกปิดบัญชีจะได้ไม่รอด แม้จะมาพบการกระทำผิดในภายหลัง  


ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ส่วนตัวตอนแรกผมคิดว่าหมายถึงช่วงเวลาในการฟ้องร้องกับเวลาที่กระทำผิด เพราะเท่าที่อ่านเวลาในคำกล่าวหาว่าแมนซิทำผิดกฎคือ ช่วงปี 2012-2016 ถ้านับจากวันที่ฟ้องคือปี 2020 มันจะมีแค่ช่วงปี 2015 บางส่วน กับ 2016 ที่ยังอยู่ใน Time line 5 ปี

ปล. แต่ผมคิดว่าเราอธิบายอะไรไปท่านนั้นงไม่ฟังที่เราพูดแล้วครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1066
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 14:03
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
พัคแซรอย พิมพ์ว่า:
อย่ากระนั้น พิมพ์ว่า:
พัคแซรอย พิมพ์ว่า:
ผมว่า คนปักธง. ก็คือเจ้าของกระทู้แหละครับ. ลองชี้แจงตามที่เค้าสงสัยดูสิครับ

หรือปิดหูปิดตา ไม่รับรู้ว่ามันผิดปกติ อะไรเลย

กฏมันหลวม มีช่องโหว่ ฝ่ายทีมงาน ก็อาศัยช่องทางกฏหมาย สู้คดี

มันถูกกฏแหละคนับ. แต่ถามหาความถูกต้อง. คิดว่ามันถูกหรือไหมครับ.

นับดูตอนนี้ ทีมมีแชมป์ มีสปอนเซอร์ มีรายได้ต่างๆ. มันช่วงติดลมบนแล้วครับ.

ถ้ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง ก็ชี้แจงมาเลยครับ. พร้อมฟัง  


ผมแฟนแมนซิตี้นะครับ

ผมอยากรู้ว่าที่ทุกท่านมองว่าผิดเนี่ย​ มองในแง่กฏหมาย​หรือศีลธรรมกันครับ  


ผมว่ามองในแง่ ศีลธรรม ความยุติธรรมในกฏที่ใช้. ดูแล้วมันไม่แฟร์ กับทีมอื่นๆ.

แต่อย่างว่า พอสู้ด้วยกฏหมาย มันก็จะมีช่องโหว่ ทางกฏหมาย ทำให้ ซิตี้รอด

ผมมองแบบกลางๆ ไม่ถึงกับต้องแบนไปเล่นบอล ยุโรป เปลี่ยนเป็นแบนตลาดการซื้อขาย 2-3 ตลาดก็ว่ากันไป

กับปรับเงิน

ถ้ามองในแง่กฏหมายอย่างเดียว. ก็ต้องวัดกันที่หลักฐาน เหมือนเคสนี้ครับ ที่รอด

ผมว่าถ้าเชียร์ทีมมาตั้งแต่เริ่มๆ ยังไงแฟนบอลแมนซิ. ก็น่าจะรู้ถึงความไม่ปกติ กับการอัดเงินเข้ามา. แต่ตอนนี้ ทีมสามารถ อยู่ได้ด้วยตัวเอง ใช้การบริหารเป็นหลักครับ

แต่ถ้าศาลตัดสินแล้ว. มันก็ต้องตามนั้นแหละครับ อาจจะไม่ถูกใจ แต่มันถูกหลักกฏข้อบังคับ

จากที่แปล source มา มันเป็นภาษากฏหมาย คือหลักฐานที่นำมาฟ้องซิตี้มัน ได้มาโดยมิชอบ. ทนายของแมนซิ เล่นตรงประเด็นนี้เป็นหลักครับเพราะประเด็นนี้ ฟ้องให้แบนแมนซิ

อีกประเด็นเรื่องไม่ให้ความร่วมมือ แมนซิผิดจริงตามหลักฐาน ก็โดนปรับไป. แต่ศาลเห็นว่า โทษปรับเยอะเกินไป ก็เลยลดโทษให้

 


ขอบคุณครับ​ เป็นคำอธิบาย/ข้อโต้แย้งที่อ่านแล้วสบายใจ

มุมมองส่วนตัวในแง่ศีลธรรม​ ถ้าไม่ได้มีเรื่องกฏหมายเข้ามาเดี่ยวข้อง
สิ่งที่แมนซิตี้ทำคือ​การใช้เงินส่วนตัวของเจ้าของในการพัฒนาสโมสร​ ถ้าคนมองว่าจุดนี้ผิดศีลธรรม​ เชลซี ยูไนเต็ด​ ลิเวอร์พูล​ อาร์เซนอล​ และสโมสรอื่นๆ​ แทบทุกสโมสร​ ล้วนมีการทำอย่างนี้ทั้งสิ้นในอดีตที่ผ่านมา​ นั่นแปลว่าทุกสโมสรผิดศีลธรรมเอาเปรียบคู่แข่งเหมือนกันทั้งหมดหรือเปล่าครับ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Dec 2009
ตอบ: 828
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 14:42
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Spoil
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
MidFieldz- พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Spoil
Spoil
Batao พิมพ์ว่า:
juhookkruboyz พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
vit_bank พิมพ์ว่า:
Batao พิมพ์ว่า:
KingKeanoSS พิมพ์ว่า:
Macor พิมพ์ว่า:
เห็นออกมาโวยวายหลายคน เลยขอออกมาอธิบายเท่าที่ทราบให้เห็นภาพคร่าวๆละกัน

————————————————————-—————-

ก่อนอื่นลองดูข้อมูลที่มาของรายได้ของเรือใบก่อนว่ามาจาก



ปีล่าสุด จะสังเกตได้ว่าราว 60% มาจาก broadcast และ matchday
ในขณะที่ 40% ที่เหลือมาจากค่าโฆษณา

ซึ่ง 1 ในข้อที่ทางยูฟ่ากล่าวหาคือ สโมสรมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางผิดกฎ FFP ..ในที่นี้คือ การใช้เงิน sponsor อัดฉีดจากบริษัทที่เว่อร์กว่าความเป็นจริง ในที่นี้คือ Etihad group ที่ดูจ่ายให้เรือ “มากกว่า” ที่บริษัทจะทำได้ นั่นจึงทำให้เป็นข้อสังเกตว่าเรือใบใช้เงินชีคอัดส่วนต่างที่เหลือแทน (ไม่เกี่ยวกับที่ sponsor เป็นเจ้าของนะ ไม่งั้น king power ของเจ้าสัวก็คงโดนเหมือนกัน)

และหนึ่งในดีลที่เรียกว่า โครตเตะตา คือ ดีลที่จ่ายให้เรือใบมูลค่า 400 ลป ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่รวมทั้ง sponsor บนอกเสื้อ + ชื่อสนาม เป็นระยะเวลา 10 ปี ....ซึ่งเฉลี่ยจะจ่ายให้เรือใบปีละ 40 ลป. ซึ่งถ้าคิดเป็นสัดส่วนรายได้ มันแค่ราว 10% เท่านั้น (หลังๆน้อยกว่า 10% อีก แต่ก็อาจมีมูลค่าอื่นๆอีก แต่ก็ไม่น่าเกิน 20%)

ในขณะที่ดีลใหญ่ๆอื่นๆ เช่น ขายให้กลุ่มทุนจีน 265 ลป หรือ พูม่าดีล 650 ลป กลับถูกมองข้ามซะงั้น

https://www.theguardian.com/football/2015/dec/01/manchester-city-265m-deal-chinese-investment-group

————————————————————————

พูดง่ายๆก็ คือ เรือใบ มีรายได้ 100% ...ราว 10% ถูกกล่าวหาว่าเงินมีที่มาที่ขัดต่อ FFP (คือมูลค่ารวมไม่ผิด แต่ บ. Sponsor ดูจ่ายเยอะเกิน) แต่ในขณะที่ 90% ที่เหลือของรายได้มีที่มาที่โปร่งใส ถูกตรวจสอบด้วย บ ตรวจบัญชีตลอด (อันนี้เรือใบอ้างตอนอุทธรณ์ CAS) ด้วยแถม 60% ก็มาจาก match day และ broadcast ที่มันเห็นชัดเจนว่าใครได้เท่าไหร่

แต่ตอนนี้หลายๆยูสกำลังจะตีคลุมว่ารายได้ 100% ของเรือใบอัดฉีดมาจากเจ้าของล้วนๆ เอาเปรียบชาวบ้าน
ทั้งที่เรือใบยังไม่เคยทำลายตลาดเลยด้วยซ้ำ (top5 แพงสุด epl ยังไม่ติดเลย และไม่ได้ซื้อนักเตะราคา 200m+ แบบ psg)
ในขณะที่โครงสร้างค่าเหนื่อย เพดานสูงสุดยังมีทีม top ที่จ่ายให้มากกว่าเรืออีกหลายทีม

เพราะฉะนั้นการที่มารุม 10% ของรายได้ต้องสงสัย เเล้วบอกว่าเงินซื้อแชมป์ สำหรับผมเป็นการดิสเดรดิตนักเตะและโค้ช

สุดท้ายนี้แค่อยากออกมาพูดอีกมุมบ้าง สำหรับบางคนที่เข้าใจว่าชีคเอาเงินจ่ายหมดเลย
ส่วนใครที่ตั้งธงไว้แล้วก็แล้วแต่ท่านๆเลย
 


ตอบทอปเม้นไห้ได้ก่อน  


ผมว่าที่ เจ้าของกระทู้เค้ายกมาแค่ช่วงหลังเพราะ แสดงให้เห้นว่าตอนนี้ ซิตี้มาไกลจากคำว่ากดสุตรเงินไม่อั้นมานานมากแล้วไง

ส่วนที่ท็อปคอมเม้นเอามาแย้งก็คือ ใช่ช่วงแรกๆการเงินซิตี้เป้นตัวแดง เจ้าของทีมเลยใช้การอัดฉีดผ่านบริษัทในเครื่อ เอติฮัท แต่!!!! ทั้งนี้ทั้งนั้นการอัดฉีดแบบนี้มันก้มีข้อกำจัด(เยอะเกินไปไม่ได้)และต้องสมเหตุสมผล และคุณอย่างลืมว่าทั้งหมดทั้งมวลอยู่ในกรอบของกฏการเงินที่ ยูฟ่าตั้งมา มาสกัดไม่ให้ ซิตี้ ใช้เงินเกินไป พอขอยํ้าอีกครั้งนะว่าทั้งหมดทั้งมวล อยู่ในกรอบการเงินทั้งสิ้น เพราะเหตุนี้ ศาลกีฬาถึงตัดสินให้ ซิตี้พ้นผิดจากข้อกล่าวหาว่าตกแต่งบัญชี แต่ยังให้ถูกปรับเพราะไม่ให้ความร่วมมือในการสืบสวน จบไหม  
ยอมรับว่าโกงทีมอื่นแบบแมนๆมันยากมากเลยเหรอ ถามจริง  


แทนที่จะคุยกันด้วยเหตุด้วยผลดีดี ผมก็พร้อมจะคุยแบบสุภาพชนด้วยนะ แต่ถ้ามาแบบนี้ก็กดเรื้อนและปล่อยผ่านไป  
 


รบกวนท่านไปอ่านคำตัดสินของศาลกีฬาโลกใหม่ครับ ศาลไม่ได้บอกว่าซิตี้ไม่ผิดนะครับ แต่แค่เอาผิดไม่ได้เพราะหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักพอจึงยกประโยชน์ให้ ต่างกันนะครับระหว่างไม่ผิดกับไม่สามารถเอาผิดได้  


"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา" <---------------------ตรงนี้ตัดสินว่าไม่ผิด

"ขณะที่ข้อกล่าวหาเรื่องความไม่ตรงไปตรงมาในการปกปิดการระดมทุนมีความชัดเจนว่าผิดกฎหมายมากกว่าการขัดขวางการสืบสวนของซีเอฟซีบีนั้น การลงโทษแบนไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันระดับสโมสรของยูฟ่า เนื่องจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของซีเอฟซีบีนั้น ไม่สมเหตุสมผล" <--------------------อันนี้ตัดสินว่า ไม่ตรงไปตรงมาในการนำสืบข้อมูล(การระเมิดการเงิน) มีความพยายามขัดขวางการสืบสวนข้อมูล

มันมีตรงไหนที่ ศาลบอกว่า ซิตี้ละเมิดกฏการเงิน ถ้าซิตี้ละเมิดจริงศาลก้ต้องตัดสินยืนตามคำสั่งยูฟ่าไปแล้ว ผมว่าคนที่ไม่เข้าใจน่าจะเป็นคุณมากกว่านะครับ  

 

“UEFA notes that the CAS panel found that there was insufficient conclusive evidence to uphold all of the CFCB’s conclusions in this specific case and that many of the alleged breaches were time-barred due to the five-year time period foreseen in the UEFA regulations.

เอาตามอันที่ท่านยกมาเลยนะครับ (อันที่แปลมาจากที่ผมเอามาให้ดู)

"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา" <---------------------ตรงนี้ตัดสินว่าไม่ผิด

ตรงนี้คือที่ผมบอกว่าหลักฐานไม่มีนำหนักพอครับ ไม่ใช่ว่าซิตี้ไม่ผิดแต่หลักฐานที่จะเอาผิดไม่มีน้ำหนักพอ  


ใช่ครับหลักฐานมีนํ้าหนักไม่เพียงพอก็เป็นอันยกฟ้อง คนที่ถูกกล่าวหาก็พ้นผิดไปกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนคดีอาญาบ้านเราพอคนถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย แล้วศาลบอลหลักฐานไม่เพียงพอคนๆก็กลายมาเป็นผู้บริสุทธิ์ใช้ชีวติเหมือนคนสุจริตทั่วๆไป ผมเข้าใจถูกไหม  


คดีขาดอายุความ เลยพ้นผิด ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ได้ทำผิดนะครับ คุณแค่รอดตัวเพราะกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เค้าเลยไม่ไปพิจารณาในเนื้อหาแห่งคดี

คุณบอกได้ว่า ศาลยกฟ้องเพราะขาดอายุความ แต่คุณจะบอกว่าศาลยกฟ้องเพราะคุณไม่ได้ฆ่าคนไม่ได้ มันคนละประเด็นกัน

ผมถึงได้บอกว่า เหตุผลในคำตัดสินตัวเต็มยังไม่ออก เอาอะไรมามั่นใจว่าทำผิด หรือ ไม่ได้ทำผิดจริง อีกทั้งคำตัดสินยังไม่ได้ลงถึงประเด็นในคดีว่า ประเด็นใดที่หลักฐานไม่เพียงพอ และ ประเด็นใดที่เอาผิดไม่ได้เพราะขาดอายุความ เพียงแต่พูดรวมๆว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอและขาดอายุความ  


ศาลไม่ได้บอกว่าคดีขาดอายุความนะครับ ศาลบอกหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ  


ท่านแปลประโยคที่ว่านี้ว่าอย่างไรครับ
'The CAS award emphasized that most of the alleged breaches reported by the Adjudicatory Chamber of the CFCB were either not established or time-barred'
ถ้าจะแปลสุดที่ว่าไม่น่าเชื่อถือ คำตัดสินของ panel คงไม่ต้องใส่คำว่า time-barred ลงมา

อีกทั้งคำแถลงของ UEFA
'that many of the alleged breaches were time-barred due to the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations'
ยังพูดในประเด็นเรื่องของอายุความ

ถ้าจะบอกว่าไม่มีเรื่องอายุความมาเกี่ยวข้องก็คงไม่ใช่อะครับ เพราะมันเขียนอยู่ในนั้น

https://www.tas-cas.org/fileadmin/user_upload/CAS_Media_Release_6785_Decision.pdf

https://www.uefa.com/insideuefa/mediaservices/mediareleases/news/025f-0fe04532cd96-809561062b21-1000--uefa-statement-on-cas-manchester-city-decision/  


เออผมไม่รู้จะตอบยังไงดีผมได้ source มาก้เหมือนกับคุณนั้นหล่ะครับ แปลมา

"ผลการตัดสินของซีเอเอส เน้นย้ำว่าข้อกล่าวหาของคณะผู้พิพากษาของซีเอฟซีบีที่ระบุว่ามีการละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา"

การละเมิดส่วนใหญ่นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับ <<< อันนี้หมายถึงหลักฐานไม่น่าเชื่อถือครับ(แปลไทยเป็นไทย)

และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลา ในส่วนนี้ความหมายที่ผมเข้าใจว่า เงื่อนไขของเวลา ในตัวของหลักฐานนั้นๆครับไม่ใช้เงื่อไข่ขอคดี

ไม่มีตรงไหนเลยที่ศาลบอกคดีขาดอายุความ

ถ้าคดีขาดอายุความ แล้วคุณไม่คิดหรอว่าทนายฝ่ายยูฟ่าห่วยแตกมากๆ

และคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องการลงโทษของยูย่า ยูย่าเพิ่งจะลงโทษไปเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง มันจะขาดอายุความได้ยังไง มันไม่ใช่คดีที่ยูฟ่าเป็นโจรทย์ยื่นฟ้องแมน ซิตี้ระเมิดกฏการเงินโดยตรง คุณเข้าใจไหมครับผมขี้เกียจอธิบายแล้วนะ

 

alleged breaches คือ ข้อกล่าวหาในการฝ่าฝืนครับ ไม่ใช่หลักฐาน

'that many of the alleged breaches were time-barred due to the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations'

ประมาณว่า ช่วงเวลาที่ยูฟ่ากล่าวหาว่าซิตี้ทำผิดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ใน the 5 year time period foreseen in the UEFA regulations' (ซึ่งผมไม่รู้ว่ากฎ 5 ปี นี้เขียนไว้ว่ายังไง)  
 


ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น Art 10 ของ UEFA Disciplinary Regulations คือ ความผิดใดๆ นอกจาก เรื่องโดปยา และ ความผิดที่ได้กระทำลงในสนาม มีอายุความ 5 ปี

นี่ผมอ่านกฎหมายมาก็เยอะ ยังมาโดนแขวะอีก มีแปลไทยเป็นไทย ถึงขั้นขี้เกียจจะอธิบายอีก น่าเศร้าจริงๆ

อีกอย่าง ผมอยากให้ความรู้ท่านแมนซิตี้อีกประการนึง จริงๆแล้วที่เราเรียกศาลกีฬาโลกๆ (CAS) มันไม่ใช่การพิจารณาคดีแบบศาลบ้านเรา แต่มันคือการ arbitrate

ทีนี้ที่ถามว่ายูฟ่าเพิ่งลงโทษจะขาดอายุความได้ไง ก็คือ ยูฟ่าตัดสินใจลงโทษซิตี้ เป็นการบวนการภายในของยูฟ่าเอง, ซิตี้เลยยื่นเรื่องอุทธรณ์คำสั่งของยูฟ่าไปยังศาลกีฬาโลก เพราะเป็นวิธีระงับข้อพิพาทวิธีหนึ่ง โดยบอกว่ายูฟ่าทำไม่ถูกเนื่องจากพ้นกำหนด 5 ปี เพราะเรื่องมันเกิดปี 2009, ศาลกีฬาโลกเลยตัดสินว่าใช่ คดีมันขาดอายุความในบางข้อกล่าวหา (ขอเอาเเค่ประเด็นอายุความก่อน)

ถามว่าทนายยูฟ่าห่วยมากๆไหม ส่วนตัวก็คิดว่าไม่ห่วย ปัญหาจริงๆ มันก็เริ่มมาตั้งแต่ในส่วนของการตรวจสอบแล้ว เพราะหลักฐานมันเพิ่งปรากฎหลังพ้นกำหนด 5 ปี แต่อย่างไรก็ตาม art 10 ที่ว่าก็ไม่ได้บอกว่า 5 ปีเริ่มนับแต่เมื่อใด ตรงนี้เลยเป็นพื้นที่ของการตีความข้อกฎหมาย

ทางทนายยูฟ่าอาจเห็นว่า 5 ปีนับแต่รู้ถึงเหตุแห่งการกระทำความผิด จึงลงโทษได้, ในทางตรงกันข้ามทางซิตี้ก็คงสู้ว่า 5 ปีนับแต่ความผิดเกิดขึ้นจริง
(ประเด็นนี้ไม่มีในตัว media release แต่คิดว่าน่าจะการพูดถึงประเด็นนี้ในคำตัดสินตัวเต็ม)

แล้วถามว่าช่องว่างในการตีความกฎหมายตรงนี้สำคัญยังไง ต้องย้อนกลับไปถึงหลักการของ CAS เพราะการเลือก arbitrators ใน CAS นั้นมันใช้ระบบเลือก 3 คน โดยแบ่งเป็น คู่ความเลือกฝั่งละ 1 คน และประธาน CAS เลือกอีก 1 คน ซึ่งโดยปกติแล้วคู่ความแต่ละฝั่งจะเลือก arbitrator ที่มีประวัติการตัดสินคดีไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตัวเอง ทีนี้การลอบบี้ยิสต์จะมีความสำคัญตอนนี้ ก็คือ arbitrator คนที่ 3 ที่เลือกโดยประธานอาจเป็นปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินคดีนี้ได้เลย ถ้า arbitrator คนนั้นโปรไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นพิเศษ

ทั้งหมดทั้งมวลคือจะบอกว่า ซิตี้ชนะคดีนี้เพราะเทคนิคทางกฎหมายซะส่วนใหญ่ ทั้งในเรื่องการตีความกฎหมาย หรือ แหล่งที่มาของพยานหลักฐาน ซิตี้ไม่ได้สู้ว่าตัวเองบริสุทธิ์ ไม่ได้จ่ายเงินหรืออัดฉีดเงินแบบผิดกฎหมาย และศาลก็ไม่ได้กล่าวไปถึงตรงนั้น (เท่าที่อ่านคำตัดสินใน media release)

ฉะนั้นจะมาเคลมว่าซิตี้ไม่ผิด ไม่ได้ทำผิดจริงไม่ได้ ไม่ได้อัดฉีดเงินไม่ได้

อันนี้ความเห็นส่วนตัว เคสนี้ต้องเป็นเคสที่ทำให้เกิดการแก้กฎหมายในส่วนนี้แน่ๆในอนาคต โดยการกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่า limitation on prosecution หรือ กำหนดระยะเวลาในการดำเนินคดี (เผื่อมาบอกอีกว่าไม่ใช่อายุความ) มีระยะเวลา 5 ปี นับแต่รู้เหตุของการกระทำความผิด ให้ชัดเจนไปเลย จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการตีความ พวกกรณีแบบนี้เรื่องการปกปิดบัญชีจะได้ไม่รอด แม้จะมาพบการกระทำผิดในภายหลัง  


ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ส่วนตัวตอนแรกผมคิดว่าหมายถึงช่วงเวลาในการฟ้องร้องกับเวลาที่กระทำผิด เพราะเท่าที่อ่านเวลาในคำกล่าวหาว่าแมนซิทำผิดกฎคือ ช่วงปี 2012-2016 ถ้านับจากวันที่ฟ้องคือปี 2020 มันจะมีแค่ช่วงปี 2015 บางส่วน กับ 2016 ที่ยังอยู่ใน Time line 5 ปี

ปล. แต่ผมคิดว่าเราอธิบายอะไรไปท่านนั้นงไม่ฟังที่เราพูดแล้วครับ  


เรื่องปีอาจจะตามที่ท่านว่าเลย เพราะผมก็ไม่แน่ใจเรื่องปีจริงๆ ว่ามีข้อกล่าวหาอะไรในปีไหนบ้าง รออ่านตัวเต็มอีกที
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 493
ที่อยู่: Itaewon Class ,Soul
โพสเมื่อ: Tue Jul 14, 2020 15:55
[RE: ตกลงที่มาของรายได้เรือใบมาจากไหนนะ? เจ้าของอัดฉีดหมดเลย?]
อย่ากระนั้น พิมพ์ว่า:
พัคแซรอย พิมพ์ว่า:
อย่ากระนั้น พิมพ์ว่า:
พัคแซรอย พิมพ์ว่า:
ผมว่า คนปักธง. ก็คือเจ้าของกระทู้แหละครับ. ลองชี้แจงตามที่เค้าสงสัยดูสิครับ

หรือปิดหูปิดตา ไม่รับรู้ว่ามันผิดปกติ อะไรเลย

กฏมันหลวม มีช่องโหว่ ฝ่ายทีมงาน ก็อาศัยช่องทางกฏหมาย สู้คดี

มันถูกกฏแหละคนับ. แต่ถามหาความถูกต้อง. คิดว่ามันถูกหรือไหมครับ.

นับดูตอนนี้ ทีมมีแชมป์ มีสปอนเซอร์ มีรายได้ต่างๆ. มันช่วงติดลมบนแล้วครับ.

ถ้ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง ก็ชี้แจงมาเลยครับ. พร้อมฟัง  


ผมแฟนแมนซิตี้นะครับ

ผมอยากรู้ว่าที่ทุกท่านมองว่าผิดเนี่ย​ มองในแง่กฏหมาย​หรือศีลธรรมกันครับ  


ผมว่ามองในแง่ ศีลธรรม ความยุติธรรมในกฏที่ใช้. ดูแล้วมันไม่แฟร์ กับทีมอื่นๆ.

แต่อย่างว่า พอสู้ด้วยกฏหมาย มันก็จะมีช่องโหว่ ทางกฏหมาย ทำให้ ซิตี้รอด

ผมมองแบบกลางๆ ไม่ถึงกับต้องแบนไปเล่นบอล ยุโรป เปลี่ยนเป็นแบนตลาดการซื้อขาย 2-3 ตลาดก็ว่ากันไป

กับปรับเงิน

ถ้ามองในแง่กฏหมายอย่างเดียว. ก็ต้องวัดกันที่หลักฐาน เหมือนเคสนี้ครับ ที่รอด

ผมว่าถ้าเชียร์ทีมมาตั้งแต่เริ่มๆ ยังไงแฟนบอลแมนซิ. ก็น่าจะรู้ถึงความไม่ปกติ กับการอัดเงินเข้ามา. แต่ตอนนี้ ทีมสามารถ อยู่ได้ด้วยตัวเอง ใช้การบริหารเป็นหลักครับ

แต่ถ้าศาลตัดสินแล้ว. มันก็ต้องตามนั้นแหละครับ อาจจะไม่ถูกใจ แต่มันถูกหลักกฏข้อบังคับ

จากที่แปล source มา มันเป็นภาษากฏหมาย คือหลักฐานที่นำมาฟ้องซิตี้มัน ได้มาโดยมิชอบ. ทนายของแมนซิ เล่นตรงประเด็นนี้เป็นหลักครับเพราะประเด็นนี้ ฟ้องให้แบนแมนซิ

อีกประเด็นเรื่องไม่ให้ความร่วมมือ แมนซิผิดจริงตามหลักฐาน ก็โดนปรับไป. แต่ศาลเห็นว่า โทษปรับเยอะเกินไป ก็เลยลดโทษให้

 


ขอบคุณครับ​ เป็นคำอธิบาย/ข้อโต้แย้งที่อ่านแล้วสบายใจ

มุมมองส่วนตัวในแง่ศีลธรรม​ ถ้าไม่ได้มีเรื่องกฏหมายเข้ามาเดี่ยวข้อง
สิ่งที่แมนซิตี้ทำคือ​การใช้เงินส่วนตัวของเจ้าของในการพัฒนาสโมสร​ ถ้าคนมองว่าจุดนี้ผิดศีลธรรม​ เชลซี ยูไนเต็ด​ ลิเวอร์พูล​ อาร์เซนอล​ และสโมสรอื่นๆ​ แทบทุกสโมสร​ ล้วนมีการทำอย่างนี้ทั้งสิ้นในอดีตที่ผ่านมา​ นั่นแปลว่าทุกสโมสรผิดศีลธรรมเอาเปรียบคู่แข่งเหมือนกันทั้งหมดหรือเปล่าครับ

 


ผิดจุดครับ สิ่งที่ เจ้าของสโมสร สามารถ อัดฉีดเงินส่วนตัว Inject เข้าไปพัฒนาทีมได้ คือส่วน อุปกรณ์ เทคโนโลยี สนามฝึกซ้อม ทีมชุดเยาวชน ทีมฟุตบอล หญิง น่าจะประมาณนี้ครับ. นี้คือสิ่งที่สามารถทำได้ โดยที่ไม่ถูกนำไปคิดในส่วนของกฏ FFP

ส่วนสโมสรที่ท่านกล่าวมานั้น ใช้เงินที่เกิดขึ้นจริงของทางสโมสร ไม่ได้อัดฉีดตรงจากเจ้าของ คือรายรับ-รายจ่าย ในการซื้อผู้เล่น

ตัว FFP จะคิดจากพวกค่า ลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ค่าสปอนเซอร์ต่างๆ เงินซื้อขายนักเตะ ค่าเหนื่อย ค่าตัวนักเตะ รายจ่ายต่างๆสโมสร รายรับในส่วนอื่นๆสโมสร. ถึงจะสรุป ว่าทีมสามารถมีเงินซื้อ ผู้เล่นได้ เท่าไร. ถ้าติดลบหรือตัวแดง ต้องไม่เกิน เท่าไร

อาจจะมีทีมเชลชี ช่วงปี 2004 ยุคเริ่มแรก ที่เจ้าของอัดฉีดเงิน เข้าสโมสรโดยตรง

ซึ่งตัวกฏ FFP เริ่มประกาศใช้ตอนปี 2011. ซึ่งก่อนจะใช้จริง ทีมเชลชี ได้ทำการเตรียมตัวปรับ บัญชี เป็นรูปแบบการจัดการ
ให้สโมสรสามารถ อยู่ได้ด้วยตัวเองได้ แล้วยังไปหาซื้อดาวรุ่ง ทำอคาเดมี ส่งออก สร้างเงินให้ทางสโมสรได้เยอะอยู่ครับ

เพราะมีความเลื่อมล้ำ ทางการเงิน ทางการแข่งขันในยุคก่อนๆ มีการใช้เงินเกินตัว จึงอยากให้ สโมสรฟุตบอลมีความมั่นคง จึงมีกฏ FFP ออกมา

ย้ำครับว่า เริ่มใช้ ตอนปี 2011กฏมันออกมาทีหลังตามการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมฟุตบอล ที่เริ่มมีตัวเงินผลประโยชน์ที่มากกว่าเมื่อก่อน เพราะต้องการให้เกิดการแข่งขันที่ยุติธรรมด้วย. ตัวกฏมันมีความตั้งใจดี

แต่ยังขาดความรัดกุมในเรื่องข้อกฏหมาย. ก็ต้องปรับแก้กันไป. เพื่อสิ่งที่ดีกว่าครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 14, 15, 16
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel