Shiroyasha พิมพ์ว่า:
ดีลที่่ถูกตั้งข้อสงสัยกันคือดีล 400 ล้านปอนด์ของ Etihad group ตอนปี 2011 ครับ
ไม่ใช่ดีลของ Puma ตอนปี 2019 นั่นมันผ่านมา 9 ปีแล้วครับ
ช่วงเวลานั้นไม่มีดีลสปอนเซอร์ระดับ 400 ล้านปอนด์เกิดขึ้นมาก่อนครับ อาร์เซน่อลที่ขายชื่อสนาม เอมิเรตส์ ไปตอนปี 2009-10 คือ 90 ล้านปอนด์ ขนาดสนามเมดิสัน สแควร์ การ์เด็นที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกเวลานั้น ยังแค่ 187 ล้านปอนด์
ผ่านไป 2 ปีสนามของซิตี้แพงกว่า 4 เท่าตัว ทั้งๆที่เวลานั้นซิตี้ยังไม่เคยเป็นแชมป์ลีค แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ยังไม่เคยได้ ยังไม่เคยเข้ารอบน็อกเอาต์ด้วยมั้ง
อะไรทำให้ซิตี้ได้รับเงินขนาดนี้ได้?
ถ้าจะเคลมว่าซิตี้โตขึ้นมาได้เอง ก็ลองย้อนดูผลประกอบการการและหลังดีลกับ Etihad group แล้วกันครับ [ข้อมูลจาก forbes]
------ Value --- Revenue --- Operating Income
ปี 2011 $291M --- $153M --- -$82M
ปี 2012 $443M --- $246M --- -$123M
ปี 2013 $689M --- $362M --- -$53M
ปี 2014 $863M --- $411M --- -$18M
ปี 2015 $1.4B --- $562M --- +$122M
คุณจะเห็นว่าทีมเติบโตแบบก้าวกระโดดมากๆ ทั้งในแง่ มูลค่าทีม ผลประกอบการ โดยเฉพาะ Operating Income จากติดลบอยู่ 4 ปี กลายเป็นพุ่งไป +100 ล้านปอนด์ในปีเดียว
ยิ่งถ้าย้อนกลับดูก่อนการเทคโอเวอร์ จะเห็นว่าซิตี้ไม่เคยมีรายได้ในระดับ 100 ล้านปอนด์มาก่อนเลย
คุณคิดว่าบังเอิญหรือไง ที่อยู่ๆสถานะทางการเงินมันพุ่งขึ้นมาได้แบบนี้
หรือคุณคิดว่าผมมีอคติก็แย้งมาครับ
ผมในฐานะแฟนซิตี้คนนึง ขอมาให้ความเห็นแทนแล้วกันนะครับ
เห็นมีหลายคนเรียกร้องให้ตอบเม้นท์นี้ 555
แต่บอกก่อนว่า อาจจะไม่ไปในแนวทางเดียวกับเจ้าของกระทู้ (คุณ macor) มากนัก เพราะส่วนตัวแล้วผมมองประเด็นหลักต่างออกไป
จากคำถามของคุณ
1.การที่สถานะการเงินพุ่งขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
แน่นอนว่า จุดเริ่มต้นมาจากการลงทุนของเจ้าของสโมสร
2.ดีล 400M ปอนด์ ที่พูดถึง ผมก็คิดว่าเป็นเงินชีคแหละ
อัดฉีดเข้ามาผ่านช่องทางที่ "กฏ" ที่พอมีช่องให้ทำได้
ซึ่งจาก 2 ข้อที่พูดไป ผมคงไม่กล้าเคลว่า ซิตี้ เติบโตขึ้นมาเอง แน่นอน "เงินทุน" เป็นส่วนสำคัญ
แต่ผมก็กล้าพูดเช่นกันว่า 90% ของสโมสรใหญ่ๆ บนโลกเรา ผ่านการอัดฉีดเงินทุนมาก่อน
ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ตามแต่ช่องทางที่ยุคนั้นๆ เอื้ออำนวย
แล้วการใช้เงิน ผิดหรือไม่ ?
ด้วยความสัตย์จริงเลยนะ ผมว่าไม่ผิด ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของ ซิตี้ แล้วจะพูดว่าไม่ผิดนะ
สมัยโรมันกับเชลซี ผมก็ไม่เคยคิดว่าผิด ตอนนั้นผมแค่คิดว่า เชลซีโชคดีจังวะ เมื่อไหร่ทีมตรูจะโชคดีมั่ง
(ท่านไปค้นประวัติผมดูได้ ผมไม่เคยแซะเชลซี รวมถึงสโมสรอื่นใดเรื่องเงินเลย)
ส่วนใครจะมองว่าการอัดฉีดเงินนั้นผิด เป็นการเอาเปรียบเพื่อน
ก็ขอให้ลองไปค้นประวัติทีมตัวเองดูก่อน ว่าเคยผ่านเหตุการณ์ทำนองนั้นมาไหม แล้วค่อยถกประเด็นนี้กันต่อ
อ่ะ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจเริ่มโวยวายในใจละ (หรือบางคนอาจถึงขั้นสบถออกมา)
เรื่องเงินมันก็เรื่องนึง แต่ทีมมรึงมันแหกกฏ FFP นี่หว่า
ผมจะบอกว่า ถ้าผลตัดสินออกมาว่า ผิดจริงโดนแบน ผมยอมรับคำตัดสินได้นะ
ไม่รู้ว่าคุณๆ จะเชื่อกันหรือเปล่า แต่ผมบอกแฟนผมก่อนนี้ไว้ละ ว่าถ้าอุทรณ์ไม่ผ่านทีมเราโดนแบน
แสดงว่าหลักฐานชัด ทีมงานแม่งทะเล่อทะล่าสุดๆ
ต้องเชียร์ให้เอาแชมป์ UCL ให้ได้ปีนี้ ไม่งั้นรออีกหลายปีเลย
แต่ในเมื่อคำตัดสินเป็นแบบนี้ ผมในฐานะแฟนของทีมก็มั่นใจว่ารอดอย่างใสสะอาด ไม่ได้ติดสินบนแน่ๆ
ทำไมผมจึงพูดแบบนี้
เท้าความถึงกฏ FFP กันสักนิด
ผมเชื่อว่าคนในกระทู้นี้คงรู้ข้อมูลพอสมควร ว่ากฏ FFP มีประเด็นว่าเป็นดาบสองคม
ในแง่ของการกีดกันทีมเล็ก ที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ว่าจริงๆ มัน fair หรือ don't fair กันแน่
แต่ผมจะไม่พูดถึงประเด็นนั้นหรอก
ประเด็นที่ผมจะพูดคือ ในเมื่อทุกคน ยอมรับมัน ณ จุดนี้ ว่าถูกบังคับใช้ ไม่ว่ามันจะดีหรือไม่ดีก็ตาม
ก็ต้องทำตาม เพราะเป็น "กฏ" ถูกไหม
ใช่ครับ "ไม่ว่าจะดีหรือไม่ เราต้องทำตามกฏนั่นแหละ"
ถ้าคุณเห็นด้วยกับประโยคนี้ ก็อ่านต่อครับ
สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจอยู่ตรงนี้ครับ
ในกฏ FFP ของ UEFA มีเขียนไว้ใน article 37 เองว่า
Article 37 – Statute of limitations
Prosecution is barred after five years for all breaches of the UEFA Club Licensing and
Financial Fair Play Regulations.
(ขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนสมาชิกในกระทู้นี้นี่แหละ)
แปลง่ายๆ ได้ว่า การฟ้องร้องจะไม่สามารถทำได้ หลังจากการละเมิดผ่านไป 5 ปี
หรือก็คือ จะเอาผิดใครด้วยกฏนี้ได้ ต้องทำภายใน 5 ปี เกินจากนี้ กฏไม่ครอบคลุม (โชคดีจัง)
ประโยคเดียวกันกับเมื่อกี้ "ไม่ว่าจะดีหรือไม่ เราก็ต้องทำตามกฏนั่นแหละ"
อันนี้พูดในมุมที่แย่ที่สุดเลย คือรอดเพราะเรื่องเวลานะ แต่ถ้าแถลงการณ์ออกมาเป็นหลักฐานอ่อน ผมยิ่งยืดใหญ่เลยนะ 555
เป็นการตอบที่ยาวมากๆ ไม่เคยตอบอะไรยาวขนาดนี้
เผื่อคนขี้เกียจอ่าน ผมสรุปให้สั้นลง
-> แมนซิไม่ได้อยู่ดีๆ ประสบความสำเร็จ มันผ่านการลงทุนของเจ้าของ
ซึ่งเป็นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาก
-> ใช้เงินไม่น่าจะผิด ทุกทีมผ่านการใช้เงินมาทั้งนั้น ต่างกันที่รูปแบบ และช่วงเวลา
-> ไม่ผิดกฏ FFP เพราะกฏเขียนไว้ชัดเจน ว่าเกิน 5 ปี จะมาง้องแง้ง เอ้ย ฟ้องไม่ได้
ขอบคุณที่สละเวลาอ่าน
ใครมีประเด็นไหนแย้ง ผมยินดีรับฟังนะครับ ขอให้มีมุมมองที่เป็นประโยชน์
จะมาแบบ ทีมมรึงโกงๆๆๆๆ ไร้คลาสๆๆๆๆ อะไรแบบนี้ไม่เอานะ ดูไม่มีสมอง