ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 9149
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:11
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Spoil
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Contingency พิมพ์ว่า:
Rosicky10 พิมพ์ว่า:
มีครั้งไหนที่ไปตีพม่าเองบ้างครับ

ทำไมต้องรอให้มันมาตีตลอด ถ้าทัพแข็งแรงจริงไม่ตียึดกลับบ้าง
 


ปัจจัยหลักมองว่า ถึงชนะได้ แต่คุมยากมาก
หัวเมืองห้าวๆทั้งนั้น แล้วไกลจากศูนย์อำนาจแบบนี้ ถ้าแข็งเมืองที กว่าจะแต่งทัพมาแก้ทีก็ลำบาก

 


สมมติถ้ามีพระองค์ใดไปตีได้พม่าจริง ๆ คงต้องย้ายเหมือนหลวงไปอยู่ที่หงสาวดีแหล่ะครับ สามารถดูแลได้ทั้งฝั่งสยามและพุกาม แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยอยู่ดี  
 



มองตามแนวคิด ยุคนั้น คงไม่น่าจะทำเท่าไหร่
ย้ายเมืองหลวงไปที่ไกลมากๆ โดยที่เมืองเก่ายังสภาพดีอยู่ เพื่อมาปกครองคนต่างภาษา

ข้อน่าคิดต่อมา คือ กำลังพลจะพอแค่ไหน ไหนการคุมทั้ง 2 เมืองใหญ่
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2007
ตอบ: 43528
ที่อยู่: แขนของทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:19
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Contingency พิมพ์ว่า:
Rosicky10 พิมพ์ว่า:
มีครั้งไหนที่ไปตีพม่าเองบ้างครับ

ทำไมต้องรอให้มันมาตีตลอด ถ้าทัพแข็งแรงจริงไม่ตียึดกลับบ้าง
 


ปัจจัยหลักมองว่า ถึงชนะได้ แต่คุมยากมาก
หัวเมืองห้าวๆทั้งนั้น แล้วไกลจากศูนย์อำนาจแบบนี้ ถ้าแข็งเมืองที กว่าจะแต่งทัพมาแก้ทีก็ลำบาก

 


อันนี้เห็นด้วยหัวเมิงแถบนั้นเปรี้ยวทุกราย คือไม่มีทางปกครองให้จ่ายส่วนได้เกินปีด้วยซ้ำไปเผลอๆ ถือเผลอทีแข็งทันทีเลยถ้าไม่ใช่แบบบุเรงนองเอาไม่อยู่จริงๆ สังเกตได้เลยว่าภายในปวศ.พม่ากว่าจะรวมได้แต่ระรอบโคตรยาก พวกกว่าจะบวกกันเองจบ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ❤️❀janrybnk48❀❤️my january.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 11958
ที่อยู่: Rivendell
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:28
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Gorge พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


อ่าครับ ต้องให้เครดิตมังมหานรธาเลยที่ไม่ยอมถอนทัพตามคำร้องขอของแม่ทัพนายกอง สั่งล้อมต่อไม่ให้ฝั่งอยุธยาได้ทำไรไถนา ย้ายทัพหลักไปที่ดอนหนีน้ำ เอาดินและอิฐมาก่อให้พ้นน้ำ ให้ทหารต่อเรือรบจำนวนมากสำหรับเป็นพาหนะ กองทัพพม่าจึงสามารถทำสงครามกับกรุงศรีอยุทธยาต่อมาได้โดยใช้อาศัยการรบทางน้ำเป็นหลัก กองทัพเรือของพม่านั้นสามารถรบชนะกองทัพกรุงศรีอยุทธยาในช่วงหน้าน้ำได้หลายครั้ง

 


เก่งจริงครับแม่ทัพพม่าที่มาบุกตอนเสียกรุงรอบ 2 แล้วเด็ดขาดด้วย พม่าเอาจำนวนคนเข้าว่าเลยอะ จริงๆต้องขอบคุณจีนนะครับที่บุกพม่า ตอนพม่าบุกมาตีกรุงธนบุรี ไม่งั้นมีสิทธิ์เสียกรุงธนบุรีอีกรอบ ถ้ามาถึงได้ไม่น่ารอดอีกรอบ  


ก็เกือบไปแล้วเหมือนกันครับ คราวศึกที่รพะเจ้ามังระส่งแม่ทัพรอบจัดอย่างอะแชหวุ่นกี้ที่เคยโชว์ในสงครามจีนพม่ามาแล้วลงมาตีกรุงธนบุรี ถึงขนาดตีได้เมืองพิษณุโลกได้แล้วนะ แต่พระเจ้ามังระสิ้นพระชนม์เสียก่อนจึงต้องยกทัพกลับ  


ส่วนตัวเห็นว่ามหาสีหสุระหรืออะแซหวุ่นกึ้โชคดีแล้วครับที่ไม่ได้เอาชื่อมาทิ้งที่ไทย ถึงตีพิษณุโลกได้ก็ได้แต่เมืองเปล่า กองทัพพม่าประสบปัญหาขาดเสบียง อีกทั้งรบกับทัพเมืองเหนือมากว่าสี่เดือนย่อมบอบช้ำไม่น้อย ผิดกับทัพหลวงพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มาตั้งรับอยู่ปากน้ำพิงที่ไม่ได้รับความเสียหายมาก่อน อีกทั้งเส้นทางลำเลียงเสบียงยุทธปัจจัยก็ยังอยู่ในมือ ส่วนเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์สองพี่น้องที่ถอยไปทางเพชบูรณ์ก็ละลายกองทัพพม่าที่มหาสีหสุระส่งมาไล่ติดตามจนเกือบเกลี้ยง เหลือหนีตายข้ามโขงไปไม่เท่าไหร่ หมดความได้เปรียบด้านกำลังพลเรียบร้อย และที่สำคัญหัวเมืองล้านนาตอนนั้นมาขึ้นกับกรุงธนบุรีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหัวเมืองล้านนาเป็นฐานเสบียงเหมือนแต่ก่อน ผมยังนึกสงสัยพม่าจะส่งกำลังบำรุงอย่างไรในเมื่อเส้นทางแต่ละเส้นแทบจะถูกปิดตาย แถมทัพเจ้าพระยาสองพี่น้องที่เพชรบูรณ์ก็พร้อมยกกลับมาเกาะติดในอีกไม่ช้า ด้านหน้ามีทัพหลวงกรุงธนบุรีที่ยังสด ทางเหนือมีล้านนาจ่อหลัง แล้วแบบนี้มหาสีหสุระจะยึดกรุงธนบุรีอย่างไรได้

แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นฝ่ายแพ้ ฝ่ายไทยบอกว่าแพ้เพราะเสียพิษณุโลก แต่พม่าหนักกว่าครับ พระเจ้าจิงกูจาด่ามหาสีหสุระเลยว่า “พ่ายแพ้เพราะใช้กลยุทธทางการทหารที่เลว”

 


อะแซหวุ่นกึ้แกมาทางระแหงแล้วมีเนเมียวสีหบดีค่อยก่อกวนอยู่บนเชียงใหม่ ทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทยกขึ้นไปรบข้างบนกับเนเมียวสีหบดีแต่ยังโชคดีที่ท่านไม่ยกตามเนเมียวสีหบดีไปเพราะถ้าท่านตามไปทัพของท่านจะถูกตัดเพราะอะแซหวุ่นกึ้จะยึดพิษณุโลกได้ นึกภาพตามนะครับฝั่งกรุงธนยกทัพขึ้นไปหนุนพิษณุโลกตั้งทัพเรียงต่อกันเป็นชั้นๆตั้งแต่ท้ายเมืองพิษณุโลกจนถึงกรุงธน ทัพอะแซหวุ่นกึ้แกมีมากกว่าแกเลยไม่ได้ล้อมเมืองพิษณุโลกอย่างเดียวแกแบ่งกำลังลงมาตีตัดทัพกรุงธนที่ต่อติดเป็นชั้นๆ พิษณุโลกช่วงนั้นในเมืองขาดสะเบียงหนักอยุ่แต่แรกแล้วยิ่งมาโดนอะแซหวุ่นกึ้แกมาตีตัดท้ายเมืองทำให้สายส่งกำลังบำรุงทัพกรุงธนขาด ทำให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทท่านต้องทิ้งเมือง อะแซหวุ่นกึ้แกได้เมืองพิษณุโลกแกแค่ต่อเรือแล้วก็ใหลทัพลงมาแปบเดียวก็ถึงธนบุรีแล้วครับเพราะกำลังที่เราเอาไปรบกับแกที่เมืองพิษณุโลกเป็นกำลังส่วนใหญ่ที่เรามีแต่เราก็ต้านแกไม่อยู่ตรงนี้ก็เท่ากับว่าแพ้แล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Operation Meetinghouse เมื่อ Tue Apr 07, 2020 23:30, ทั้งหมด 1 ครั้ง
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:31
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Gorge พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


อ่าครับ ต้องให้เครดิตมังมหานรธาเลยที่ไม่ยอมถอนทัพตามคำร้องขอของแม่ทัพนายกอง สั่งล้อมต่อไม่ให้ฝั่งอยุธยาได้ทำไรไถนา ย้ายทัพหลักไปที่ดอนหนีน้ำ เอาดินและอิฐมาก่อให้พ้นน้ำ ให้ทหารต่อเรือรบจำนวนมากสำหรับเป็นพาหนะ กองทัพพม่าจึงสามารถทำสงครามกับกรุงศรีอยุทธยาต่อมาได้โดยใช้อาศัยการรบทางน้ำเป็นหลัก กองทัพเรือของพม่านั้นสามารถรบชนะกองทัพกรุงศรีอยุทธยาในช่วงหน้าน้ำได้หลายครั้ง

 


เก่งจริงครับแม่ทัพพม่าที่มาบุกตอนเสียกรุงรอบ 2 แล้วเด็ดขาดด้วย พม่าเอาจำนวนคนเข้าว่าเลยอะ จริงๆต้องขอบคุณจีนนะครับที่บุกพม่า ตอนพม่าบุกมาตีกรุงธนบุรี ไม่งั้นมีสิทธิ์เสียกรุงธนบุรีอีกรอบ ถ้ามาถึงได้ไม่น่ารอดอีกรอบ  


ก็เกือบไปแล้วเหมือนกันครับ คราวศึกที่รพะเจ้ามังระส่งแม่ทัพรอบจัดอย่างอะแชหวุ่นกี้ที่เคยโชว์ในสงครามจีนพม่ามาแล้วลงมาตีกรุงธนบุรี ถึงขนาดตีได้เมืองพิษณุโลกได้แล้วนะ แต่พระเจ้ามังระสิ้นพระชนม์เสียก่อนจึงต้องยกทัพกลับ  


ส่วนตัวเห็นว่ามหาสีหสุระหรืออะแซหวุ่นกึ้โชคดีแล้วครับที่ไม่ได้เอาชื่อมาทิ้งที่ไทย ถึงตีพิษณุโลกได้ก็ได้แต่เมืองเปล่า กองทัพพม่าประสบปัญหาขาดเสบียง อีกทั้งรบกับทัพเมืองเหนือมากว่าสี่เดือนย่อมบอบช้ำไม่น้อย ผิดกับทัพหลวงพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มาตั้งรับอยู่ปากน้ำพิงที่ไม่ได้รับความเสียหายมาก่อน อีกทั้งเส้นทางลำเลียงเสบียงยุทธปัจจัยก็ยังอยู่ในมือ ส่วนเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์สองพี่น้องที่ถอยไปทางเพชบูรณ์ก็ละลายกองทัพพม่าที่มหาสีหสุระส่งมาไล่ติดตามจนเกือบเกลี้ยง เหลือหนีตายข้ามโขงไปไม่เท่าไหร่ หมดความได้เปรียบด้านกำลังพลเรียบร้อย และที่สำคัญหัวเมืองล้านนาตอนนั้นมาขึ้นกับกรุงธนบุรีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหัวเมืองล้านนาเป็นฐานเสบียงเหมือนแต่ก่อน ผมยังนึกสงสัยพม่าจะส่งกำลังบำรุงอย่างไรในเมื่อเส้นทางแต่ละเส้นแทบจะถูกปิดตาย แถมทัพเจ้าพระยาสองพี่น้องที่เพชรบูรณ์ก็พร้อมยกกลับมาเกาะติดในอีกไม่ช้า ด้านหน้ามีทัพหลวงกรุงธนบุรีที่ยังสด ทางเหนือมีล้านนาจ่อหลัง แล้วแบบนี้มหาสีหสุระจะยึดกรุงธนบุรีอย่างไรได้

แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นฝ่ายแพ้ ฝ่ายไทยบอกว่าแพ้เพราะเสียพิษณุโลก แต่พม่าหนักกว่าครับ พระเจ้าจิงกูจาด่ามหาสีหสุระเลยว่า “พ่ายแพ้เพราะใช้กลยุทธทางการทหารที่เลว”

 


อ่าครับ ขอบคุณนะครับท่านสำหรับข้อมูล
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jan 2010
ตอบ: 5285
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:32
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
ผมเสียดายช่วงก่อนการเสียกรุงครั้งที่ 2 มาก ผมมองว่าเรามีโอกาสในการพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าไปมากกว่าพม่ามาก แต่ประเทศเราทำตัวเอง เพราะการเมืองเลย
สมัยพระนารายณ์ พระองค์เป็นคนหัวสมัยใหม่ มองการณ์ไกล มีการติดต่อการค้ากับฝรั่งมากมาย สามารถนำเอาเทคโนโลยีของฝรั่งมาใช้ได้
พระยาวิไชเยนทร์ ก็มีบทบาทมากในการพัฒนาประเทศ สุดท้ายเป็นตัวอย่างของคำว่า เก่งได้แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
พระนารายณ์โดนรัฐประหาร พระยาวิไชเยนทร์ก็โดนประหาร
ราชวงบ้านพลูหลวงรัฐประหารมา สุดท้ายก็แย่งชิงอำนาจกันเองอีก
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Love at first sight ~
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 26 Oct 2010
ตอบ: 14814
ที่อยู่: ไม่มีที่ไหนนอนสบายเท่าบ้านเราอีกแล้ววววววววว
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:34
ถูกแบนแล้ว
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Operation Meetinghouse พิมพ์ว่า:
Gorge พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


อ่าครับ ต้องให้เครดิตมังมหานรธาเลยที่ไม่ยอมถอนทัพตามคำร้องขอของแม่ทัพนายกอง สั่งล้อมต่อไม่ให้ฝั่งอยุธยาได้ทำไรไถนา ย้ายทัพหลักไปที่ดอนหนีน้ำ เอาดินและอิฐมาก่อให้พ้นน้ำ ให้ทหารต่อเรือรบจำนวนมากสำหรับเป็นพาหนะ กองทัพพม่าจึงสามารถทำสงครามกับกรุงศรีอยุทธยาต่อมาได้โดยใช้อาศัยการรบทางน้ำเป็นหลัก กองทัพเรือของพม่านั้นสามารถรบชนะกองทัพกรุงศรีอยุทธยาในช่วงหน้าน้ำได้หลายครั้ง

 


เก่งจริงครับแม่ทัพพม่าที่มาบุกตอนเสียกรุงรอบ 2 แล้วเด็ดขาดด้วย พม่าเอาจำนวนคนเข้าว่าเลยอะ จริงๆต้องขอบคุณจีนนะครับที่บุกพม่า ตอนพม่าบุกมาตีกรุงธนบุรี ไม่งั้นมีสิทธิ์เสียกรุงธนบุรีอีกรอบ ถ้ามาถึงได้ไม่น่ารอดอีกรอบ  


ก็เกือบไปแล้วเหมือนกันครับ คราวศึกที่รพะเจ้ามังระส่งแม่ทัพรอบจัดอย่างอะแชหวุ่นกี้ที่เคยโชว์ในสงครามจีนพม่ามาแล้วลงมาตีกรุงธนบุรี ถึงขนาดตีได้เมืองพิษณุโลกได้แล้วนะ แต่พระเจ้ามังระสิ้นพระชนม์เสียก่อนจึงต้องยกทัพกลับ  


ส่วนตัวเห็นว่ามหาสีหสุระหรืออะแซหวุ่นกึ้โชคดีแล้วครับที่ไม่ได้เอาชื่อมาทิ้งที่ไทย ถึงตีพิษณุโลกได้ก็ได้แต่เมืองเปล่า กองทัพพม่าประสบปัญหาขาดเสบียง อีกทั้งรบกับทัพเมืองเหนือมากว่าสี่เดือนย่อมบอบช้ำไม่น้อย ผิดกับทัพหลวงพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มาตั้งรับอยู่ปากน้ำพิงที่ไม่ได้รับความเสียหายมาก่อน อีกทั้งเส้นทางลำเลียงเสบียงยุทธปัจจัยก็ยังอยู่ในมือ ส่วนเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์สองพี่น้องที่ถอยไปทางเพชบูรณ์ก็ละลายกองทัพพม่าที่มหาสีหสุระส่งมาไล่ติดตามจนเกือบเกลี้ยง เหลือหนีตายข้ามโขงไปไม่เท่าไหร่ หมดความได้เปรียบด้านกำลังพลเรียบร้อย และที่สำคัญหัวเมืองล้านนาตอนนั้นมาขึ้นกับกรุงธนบุรีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหัวเมืองล้านนาเป็นฐานเสบียงเหมือนแต่ก่อน ผมยังนึกสงสัยพม่าจะส่งกำลังบำรุงอย่างไรในเมื่อเส้นทางแต่ละเส้นแทบจะถูกปิดตาย แถมทัพเจ้าพระยาสองพี่น้องที่เพชรบูรณ์ก็พร้อมยกกลับมาเกาะติดในอีกไม่ช้า ด้านหน้ามีทัพหลวงกรุงธนบุรีที่ยังสด ทางเหนือมีล้านนาจ่อหลัง แล้วแบบนี้มหาสีหสุระจะยึดกรุงธนบุรีอย่างไรได้

แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นฝ่ายแพ้ ฝ่ายไทยบอกว่าแพ้เพราะเสียพิษณุโลก แต่พม่าหนักกว่าครับ พระเจ้าจิงกูจาด่ามหาสีหสุระเลยว่า “พ่ายแพ้เพราะใช้กลยุทธทางการทหารที่เลว”

 


อะแซหวุ่นกึ้แกมาทางระแหงแล้วมีเนเมียวสีหบดีค่อยก่อกวนอยู่บนเชียงใหม่ ทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทยกขึ้นไปรบข้างบนกับเนเมียวสีหบดีแต่ยังโชคดีที่ท่านไม่ยกตามเนเมียวสีหบดีไปเพราะถ้าท่านตามไปทัพของท่านจะถูกตัดเพราะอะแซหวุ่นกึ้จะยึดพิษณุโลกได้ นึกภาพตามนะครับฝั่งกรุงธนยกทัพขึ้นไปหนุนพิษณุโลกตั้งทัพเรียงต่อกันเป็นชั้นๆตั้งแต่ท้ายเมืองพิษณุโลกจนถึงกรุงธน ทัพอะแซหวุ่นกึ้แกมีมากกว่าแกเลยไม่ได้ล้อมเมืองพิษณุโลกอย่างเดียวแกแบ่งกำลังลงมาตีตัดทัพกรุงธนที่ต่อติดเป็นชั้นๆ พิษณุโลกช่วงนั้นในเมืองขาดสะเบียงหนักอยุ่แต่แรกแล้วยิ่งมาโดนอะแซหวุ่นกึ้แกมาตีตัดท้ายเมืองทำให้สายส่งกำลังบำรุงทัพกรุงธนขาด ทำให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทท่านต้องทิ้งเมือง อะแซหวุ่นกึ้แกได้เมืองพิษณุโลกแกแค่ต่อเรือแล้วก็ใหลทัพลงมาแปบเดียวก็ถึงธนบุรีแล้วครับเพราะกำลังที่เราเอาไปรบกับแกที่เมืองพิษณุโลกเป็นกำลังส่วนใหญ่ที่เรามีแต่เราก็ต้านแกไม่อยู่ตรงนี้ก็เท่ากับว่าแพ้แล้ว  


ถ้าพระเจ้ามังระไม่สวรรคตพอดี

แบบนี้ก็สุ่มเสี่ยงจะเสียกรุงธนจริงๆแหะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:35
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Contingency พิมพ์ว่า:
Spoil
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Contingency พิมพ์ว่า:
Rosicky10 พิมพ์ว่า:
มีครั้งไหนที่ไปตีพม่าเองบ้างครับ

ทำไมต้องรอให้มันมาตีตลอด ถ้าทัพแข็งแรงจริงไม่ตียึดกลับบ้าง
 


ปัจจัยหลักมองว่า ถึงชนะได้ แต่คุมยากมาก
หัวเมืองห้าวๆทั้งนั้น แล้วไกลจากศูนย์อำนาจแบบนี้ ถ้าแข็งเมืองที กว่าจะแต่งทัพมาแก้ทีก็ลำบาก

 


สมมติถ้ามีพระองค์ใดไปตีได้พม่าจริง ๆ คงต้องย้ายเหมือนหลวงไปอยู่ที่หงสาวดีแหล่ะครับ สามารถดูแลได้ทั้งฝั่งสยามและพุกาม แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยอยู่ดี  
 



มองตามแนวคิด ยุคนั้น คงไม่น่าจะทำเท่าไหร่
ย้ายเมืองหลวงไปที่ไกลมากๆ โดยที่เมืองเก่ายังสภาพดีอยู่ เพื่อมาปกครองคนต่างภาษา

ข้อน่าคิดต่อมา คือ กำลังพลจะพอแค่ไหน ไหนการคุมทั้ง 2 เมืองใหญ่  


ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าตีพุกามได้หมดแต่กษัตริย์ไม่ไปครองเหมืองเองนี่คุมยากแน่ครับ เพราะต่างเชื้อชาติต่างภาษานี่แหล่ะกษัตริย์ถึงต้องไปครองเอง เพราะแค่ส่งอุปราชหรืออนุชาหรือแม่ทัพไปไม่น่าจะเอาอยู่
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:36
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Operation Meetinghouse พิมพ์ว่า:
Gorge พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


อ่าครับ ต้องให้เครดิตมังมหานรธาเลยที่ไม่ยอมถอนทัพตามคำร้องขอของแม่ทัพนายกอง สั่งล้อมต่อไม่ให้ฝั่งอยุธยาได้ทำไรไถนา ย้ายทัพหลักไปที่ดอนหนีน้ำ เอาดินและอิฐมาก่อให้พ้นน้ำ ให้ทหารต่อเรือรบจำนวนมากสำหรับเป็นพาหนะ กองทัพพม่าจึงสามารถทำสงครามกับกรุงศรีอยุทธยาต่อมาได้โดยใช้อาศัยการรบทางน้ำเป็นหลัก กองทัพเรือของพม่านั้นสามารถรบชนะกองทัพกรุงศรีอยุทธยาในช่วงหน้าน้ำได้หลายครั้ง

 


เก่งจริงครับแม่ทัพพม่าที่มาบุกตอนเสียกรุงรอบ 2 แล้วเด็ดขาดด้วย พม่าเอาจำนวนคนเข้าว่าเลยอะ จริงๆต้องขอบคุณจีนนะครับที่บุกพม่า ตอนพม่าบุกมาตีกรุงธนบุรี ไม่งั้นมีสิทธิ์เสียกรุงธนบุรีอีกรอบ ถ้ามาถึงได้ไม่น่ารอดอีกรอบ  


ก็เกือบไปแล้วเหมือนกันครับ คราวศึกที่รพะเจ้ามังระส่งแม่ทัพรอบจัดอย่างอะแชหวุ่นกี้ที่เคยโชว์ในสงครามจีนพม่ามาแล้วลงมาตีกรุงธนบุรี ถึงขนาดตีได้เมืองพิษณุโลกได้แล้วนะ แต่พระเจ้ามังระสิ้นพระชนม์เสียก่อนจึงต้องยกทัพกลับ  


ส่วนตัวเห็นว่ามหาสีหสุระหรืออะแซหวุ่นกึ้โชคดีแล้วครับที่ไม่ได้เอาชื่อมาทิ้งที่ไทย ถึงตีพิษณุโลกได้ก็ได้แต่เมืองเปล่า กองทัพพม่าประสบปัญหาขาดเสบียง อีกทั้งรบกับทัพเมืองเหนือมากว่าสี่เดือนย่อมบอบช้ำไม่น้อย ผิดกับทัพหลวงพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มาตั้งรับอยู่ปากน้ำพิงที่ไม่ได้รับความเสียหายมาก่อน อีกทั้งเส้นทางลำเลียงเสบียงยุทธปัจจัยก็ยังอยู่ในมือ ส่วนเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์สองพี่น้องที่ถอยไปทางเพชบูรณ์ก็ละลายกองทัพพม่าที่มหาสีหสุระส่งมาไล่ติดตามจนเกือบเกลี้ยง เหลือหนีตายข้ามโขงไปไม่เท่าไหร่ หมดความได้เปรียบด้านกำลังพลเรียบร้อย และที่สำคัญหัวเมืองล้านนาตอนนั้นมาขึ้นกับกรุงธนบุรีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหัวเมืองล้านนาเป็นฐานเสบียงเหมือนแต่ก่อน ผมยังนึกสงสัยพม่าจะส่งกำลังบำรุงอย่างไรในเมื่อเส้นทางแต่ละเส้นแทบจะถูกปิดตาย แถมทัพเจ้าพระยาสองพี่น้องที่เพชรบูรณ์ก็พร้อมยกกลับมาเกาะติดในอีกไม่ช้า ด้านหน้ามีทัพหลวงกรุงธนบุรีที่ยังสด ทางเหนือมีล้านนาจ่อหลัง แล้วแบบนี้มหาสีหสุระจะยึดกรุงธนบุรีอย่างไรได้

แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นฝ่ายแพ้ ฝ่ายไทยบอกว่าแพ้เพราะเสียพิษณุโลก แต่พม่าหนักกว่าครับ พระเจ้าจิงกูจาด่ามหาสีหสุระเลยว่า “พ่ายแพ้เพราะใช้กลยุทธทางการทหารที่เลว”

 


อะแซหวุ่นกึ้แกมาทางระแหงแล้วมีเนเมียวสีหบดีค่อยก่อกวนอยู่บนเชียงใหม่ ทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทยกขึ้นไปรบข้างบนกับเนเมียวสีหบดีแต่ยังโชคดีที่ท่านไม่ยกตามเนเมียวสีหบดีไปเพราะถ้าท่านตามไปทัพของท่านจะถูกตัดเพราะอะแซหวุ่นกึ้จะยึดพิษณุโลกได้ นึกภาพตามนะครับฝั่งกรุงธนยกทัพขึ้นไปหนุนพิษณุโลกตั้งทัพเรียงต่อกันเป็นชั้นๆตั้งแต่ท้ายเมืองพิษณุโลกจนถึงกรุงธน ทัพอะแซหวุ่นกึ้แกมีมากกว่าแกเลยไม่ได้ล้อมเมืองพิษณุโลกอย่างเดียวแกแบ่งกำลังลงมาตีตัดทัพกรุงธนที่ต่อติดเป็นชั้นๆ พิษณุโลกช่วงนั้นในเมืองขาดสะเบียงหนักอยุ่แต่แรกแล้วยิ่งมาโดนอะแซหวุ่นกึ้แกมาตีตัดท้ายเมืองทำให้สายส่งกำลังบำรุงทัพกรุงธนขาด ทำให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทท่านต้องทิ้งเมือง อะแซหวุ่นกึ้แกได้เมืองพิษณุโลกแกแค่ต่อเรือแล้วก็ใหลทัพลงมาแปบเดียวก็ถึงธนบุรีแล้วครับเพราะกำลังที่เราเอาไปรบกับแกที่เมืองพิษณุโลกเป็นกำลังส่วนใหญ่ที่เรามีแต่เราก็ต้านแกไม่อยู่ตรงนี้ก็เท่ากับว่าแพ้แล้ว  


ขอบคุณนะครับสำหรับความคิดเห็น อ่านเพลินเลยผม ฮ่าา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: Manchester United
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8038
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:37
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
ครั้ง1พม่าแก้น้ำหลากไม่ได้ เลยใช้ไส้ศึก ครั้ง2พม่าแก้น้ำหลากได้ แถมมีไส้ศึกอีก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 5011
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 08, 2020 01:15
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Spoil
Oichi7 พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  

พอจะมีหนังสือหรือแหล่งข้อมูลให้อ่านไหมครับ เริ่มอยากรู้ความเป็นมาของบ้านเกิดเราแบบจริงจังแล้วครับ  
 


ผมชอบฟังที่ อ.วีระ กับ อ.สุเนตรคุยกันอะครับ

Timeline เรียงตามนี้ครับฟังหมดน่าจะหมดวันพอดี














5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 1201
ที่อยู่: หัวเมืองเหนือ
โพสเมื่อ: Wed Apr 08, 2020 08:56
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
ไอ้หน้าแมว!! พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวผมให้ครัั้งที่2นะ แต่เอาจริงๆก็ยากทั้ง2ครั้งแหละ

แต่คือครั้งที่2นี้พม่ากะเอาให้ราบไม่ให้ผุดให้เกิดอะ

ส่งทั้งเนเมียวทั้งมหานรธาตีโอบทั้งเหนือทั้งใต้เลย

แต่เรายื้อมาจนฤดูน้ำหลากนี้ก็เก่งแล้วนะ

แต่อย่างที่บอกพม่ารอบนี้กะเอาตาย

เลยยื้อผ่านช่วงน้ำหลากได้

อีกอย่างประสบการณ์การทำศึกผมว่า

ฝ่ายเรามีประสบการณ์ทำศึกน้อยไปนะถ้าเทียบกับสมัยเสียกรุงครั้งแรก  


อ่าครับ การที่มังมหานรทธาตายไปแล้วพระเจ้ามังระไม่ส่งแม่ทัพมาแทน กลับให้เนเมียวสีหบดีได้คุมทั้งสองทัพนี่ถือว่าส่งผลเสียต่อกรุงศรีมาก ๆ เพราะตอนแรกทัพพม่าทั้งสองนั้นแข่งกัน กระทบกระทั่งกัน คานอำนาจกัน แค่พอมารวมเป็นทัพเดียวแล้วเรื่องการเมืองพวกนี้ก็หมดไปมุ่งหน้าแต่ตีกรุงศรีฯอย่างเดียวเลย  


บังมาหาอรอุมาเค้าเป็นไรตายอ่ะคับ เก่งขนาดนั้นอายุสั้นอีกแล้วหรอ?
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: Emirates Stadium
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Oct 2008
ตอบ: 8845
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 08, 2020 10:03
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Oichi7 พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  

พอจะมีหนังสือหรือแหล่งข้อมูลให้อ่านไหมครับ เริ่มอยากรู้ความเป็นมาของบ้านเกิดเราแบบจริงจังแล้วครับ  


แนะนำให้หาบันทึกจากพวกชาติตะวันตกอ่านครับ หรือไปอ่านของพม่าร่วมด้วยก็ได้ เพราะประวัติศาสตร์ไทยที่เรียนในหนังสือหรือชั้นเรียนนี่ใส่สีตีไข่ซะอย่างเยอะ ของผมชอบอ่านพวกประวัติศาสตร์อยู่และเริ่มจากตามเพจประวัติศาสตร์ฮาเฮก่อนครับในเฟซ แล้วมันจะมีเพจประวัติศาสตร์อื่นๆ ที่เค้าบางทีแชร์มาก็ตามๆไปไลค์ต่อ

เคยสงสัยว่าตอนพี่มากจากตำนานแม่นาคที่ไปรบหนะ มันช่วง ร.4 แล้ว ไปรบกับพม่า นี่คือศึกอะไร เพราะที่เรียนๆมันก็แทบจะไม่มีศึกกับพม่าตั้งแต่ ร.3 ละ สุดท้ายก็ได้เพจพวกนี้แหละมาเฉลยว่าไปรบที่เชียงตุงมั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย DFB_Crazydays เมื่อ Wed Apr 08, 2020 10:06, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 12, 2020 17:32
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
ก็ว่าไป
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel