ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jul 2006
ตอบ: 34061
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:16
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
อยากรู้ ต่างประเทศมีหนังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย ที่ไม่ได้มาจากไทยสร้างบ้างป่ะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:20
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
akatsukiaut พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 1 บุเรงนองแบกราชวงศ์ตองอูยุคต้น เหมือนตัวอีดิทไปที่ไหนก็รบชนะ พอหมดบุเรงนองไม่กี่ปีอาณาจักรก็แตก เหมือนบาร์ซ่าให้เมสซี่(เมสซี่)แบกคนเดียว เราแพ้ตัวเทพ

ครั้งที่ 2 สมัยคองบองนี้เหมือนฟาร์มเวลมาเต็มที่ไล่ตีเหนือ-ใต้รวมหัวเมืองวางระบบปกครอง ตบแปดกองธงจีนได้ สเกลทัพใหญ่ขึ้น เหมือนทีมชาติสเปนที่ยุคพีค เจออย่างอังกฤษ(อยุธยา)ไม่ใช่คู่แข่งต้องไปตบรุ่นใหญ่อย่างบราซิล(ชิง) เยอรมัน(อังกฤษ) ไรประมาณนี้ เราแพ้ทีมเทพ  


เห็นภาพเลยครับ เข้าใจเปรียบเทียบนะท่าน ฮ่าา

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:24
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
ACTART พิมพ์ว่า:
อยากรู้ ต่างประเทศมีหนังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย ที่ไม่ได้มาจากไทยสร้างบ้างป่ะ  


อันนี้ไม่ทราบครับ แต่ถ้าเป็นหนังต่างประเทศที่ไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยนี่พอรู้บ้าง นับไม่ถ้วน ฮ่าา (หยอก ๆ)
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 4531
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:25
การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


เสียกรุงครั้งที่สองนี่ผมเห็นใจพระเจ้าเอกทัศน์เลยครับ ถูกแต่งเสียจนกลายเป็นคนอ่อนแอไม่เอาไหน กลยุทธเพื่อจะกดข่มให้ต่ำลงเพื่อให้คนอื่นสูงขึ้น แต่จะกดพระเจ้าตากสินคุณูปการของพระองค์ท่านก็ยิ่งใหญ่เสียจนไม่รู้จะกดอย่างไร หวยจึงไปตกอยู่ที่พระเจ้าเอกทัศน์

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


AVB Flooring พื้น SPC นำเข้า ราคาขายส่ง
ออนไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Aug 2006
ตอบ: 1363
ที่อยู่: 0 ซอยพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:26
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
คำถามท่านนี่แหละ โจทย์ยาก 5555

การเสียกรุงครั้งที่ 1 มูลเหตุเริ่มต้นมาจากการรบในพม่าตั้งแต่สมัยพระเจ้าตเบงชเวตี้ ที่มีการศึกภายในพม่าเอง จึงทำให้เกิดแม่ทัพนายกองที่ชาญศึกมากมาย ต่อมาเมื่อบุเรงนองครองอำนาจแล้วแผ่ขยายอำนาจเข้ามาในภูมิภาคแถบนี้ เริ่มต้นจากล้านนาเอง อโยธยา และล้านช้าง จึงมีทั้งไพร่พลและแม่ทัพนายกองที่มีประสบการณ์จำนวนมาก ซึ่งระหว่างพม่าทำศึกสงครามกันเองภายใน อโยธยาสมัยนั้นก็มีศึกภายในเองเช่นกัน (แต่ไม่ใช่สงคราม) ต้นเหตุมาจากราชวงศ์ต่างๆ ภายในอโยธยา อันได้แก่ ราชวงศ์อู่ทอง พระร่วง สุพรรณภูมิ และศรีโศกราช (นครศรีธรรมราช) (1) จนเกิดเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์กับขุนวรวงศาธิราชในสมัยพระชัยราชา (2) นำไปสู่การขึ้นสู่บัลลังก์ของพระเฑียรราชาเป็นพระมหาจักรพรรดิ ขุนพิเรนทรเทพผู้ร่วมก่อการและเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงได้ขึ้นเป็นพระมหาธรรมราชา ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เป็นคู่เขยกันตามธรรมเนียมในสมัยนั้น ซึ่งข้อขัดแย้งของคู่เขย (3) (4) นี้เองที่เป็นเหตุให้พระมหาธรรมราชาไปสวามิภักดิ์กับบุเรงนอง กลายเป็นศึกภายระหว่างอาณาจักรและศึกภายในครอบครัวมัดรวมกัน เมื่อเป็นแบบนี้ พระมหินทร์รบยังไงก็แพ้ เพราะพระมหาธรรมราชาวางไส้ศึกอยู่ภายใน พระยาจักรีที่ถูกตราหน้าว่าทรยศก็เป็นแค่แพะรับบาปไปเพียงผู้เดียวในประวัติศาตร์ เหตุเบื้องหลังที่แท้จริงแล้วกลับเป็นการแย่งอำนาจกันภายในระหว่างพระมหาจักรพรรดิและมหินทร์กับพระมหาธรรมราชา ซึ่งพระมหาธรรมราชาก็ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ด้วยอาศัยผลประโยชน์ร่วมกับบุเรงนอง

(1) https://pantip.com/topic/32425181
(2) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C
(3) https://thepeople.co/van-vliet-suwat-mother-in-law-okya-phitsanulok-ayutthaya-pegu-war/
(4) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4

การเสียกรุงครั้งที่ 2 มาจากความอ่อนแอของอโยธยาเอง เนื่องมาจากการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างพระเจ้าเอกทัศน์และพระเจ้าอุทมพร สองพี่น้อง ที่แต่ละคนก็มีข้าราชบริพารของตนเอง ปัจจัยภายในที่เป็นจุดอ่อนของอโยธยาขณะนั้นก็คือ การว่างเว้นจากศึกสงครามเป็นเวลานานทำให้ผู้นำระดับสูงขาดประสบการณ์การรบ และการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายใน แต่มุมมองส่วนตัวมองว่าเหตุหลักที่ทำให้อโยธยาพ่ายแพ้ มาจากยุทธศาสตร์ตั้งรับในเมืองแล้วรอน้ำหลาก ซึ่งก็มีเหตุจากที่ทัพอโยธยาพ่ายต่อทัพพม่าในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการต่อต้านและการรบในบ้างคร้้งก็มีกำลังพลมากกว่าทัพพม่า แต่ก็เป็นไพร่ที่เกณฑ์มารบ ได้เปรียบด้านจำนวนแต่ผู้นำการรบก็ไม่มีประสบการณ์ เมื่อรบแพ้ก็ขาดขวัญกำลังใจ จำนวนไพร่ที่เกณฑ์ได้หลังศึกอลองพญาเองก็เกณฑ์ได้ไม่มา จึงเลือกใช้วิธีการตั้งรับซึ่งเคยใช้ได้ผลมาก่อน แต่พม่าปรับยุทธวิธีตั้งทัพในที่สูงจนน้ำหลากไม่มีผล การล้อมเมืองจึงดำเนินการต่อและนำไปสูงการเสียกรุงครั้งที่สอง อีกประเด็นหนึ่งก็คือ คนไทยในขณะนั้นเองก็ร่วมมือกับพม่า ส่วนหนึ่งก็คือถูกเกณฑ์มาจากหัวเมืองที่ถูกตีแตก บ้างก็ด้วยต้องการผลประโยชน์จากการปล้นอโยธยา กล่าวโดยสรุป คือ รบแพ้เพราะปัญหาโครงสร้างภายในของราชวงศ์บ้านพลูหลวงเอง ทำให้อ่อนแอกว่าพม่าในขณะนั้น ทั้งที่ทัพพม่าที่มาในตอนนั้นไม่ใช่ทัพใหญ่ มังระไม่ได้มาเอง แม่ทัพใหญ่มหาสีหสุระ (อะแซหวุ่นกี้) ก็คุมทัพยันอยู่กับกับราชวงศ์ชิงทางตอนเหนือ

(5) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2
(6) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87
(7) https://www.silpa-mag.com/history/article_8039

เมื่อเปรียบเทียบกันด้วยการนึกสภาพตัวเองไปเป็นพระมหินทร์กับพระเจ้าเอกทัศน์ เอาแบบทะลุมิติไปเป็นเลย ผมมองว่าโจทย์พระมหินทร์ยากกว่า เพราะรบทั้งศึกในและศึกนอก ศัตรูภายมีทั้งภายนอกและภายใน โดยศัตรูภายในเป็นใครที่เราไม่รู้ แถมเป็นญาติสนิทที่เราไว้ใจ ไม่รู้เขา แต่เขารู้เราแบบกระจ่างแจ้ง แบบนี้รบไปก็มีแต่แพ้กับแพ้ (แต่ถ้าทะลุมิติไปแบบรู้ประวัติศาสตร์ด้วย อันนี้ก็อีกเรื่อง)

ส่วนพระเจ้าเอกทัศน์ ถ้าทะลุมิติไปตอนเพิ่งขึ้นครองราชย์ ยังพอแก้ไขได้ เพราะจะเห็นได้ว่าบรรดาขุนนางและแม่ทัพนายกองสมัยกรุงธนบุรีกับต้นรัตนโกสินทร์ต่างก็เป็นขุนนางในอโยธยาตอนนั้นทั้งสิ้น แต่ก็กอบกู้เอกราชและรบชนะพม่าได้หลายต่อหลายครั้ง ทั้งๆที่ในสมัยธนบุรีและต้นรัตนโกสินทร์ กำลังคนของเราเป็นรองพม่ามาก ในขณะที่ตอนนั้นทั้งกำลังคนและเสบียงอาหารก็อุดมสมบูรณ์ แต่ถ้าทะลุไปตอนเริ่มศึกมังระแล้วก็ตัวใครตัวมัน เพราะตอนนั้นเตรียมตัวอะไรก็ไม่ทันแล้ว
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ื❤️Niya❀janrybnk48❀❤️my january & Niya.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 11991
ที่อยู่: Rivendell
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:34
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
ACTART พิมพ์ว่า:
อยากรู้ ต่างประเทศมีหนังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย ที่ไม่ได้มาจากไทยสร้างบ้างป่ะ  


Anna and the King
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เสาหลักเจ้าหญิง NIYA BNK48
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:47
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
anutarap พิมพ์ว่า:
คำถามท่านนี่แหละ โจทย์ยาก 5555

การเสียกรุงครั้งที่ 1 มูลเหตุเริ่มต้นมาจากการรบในพม่าตั้งแต่สมัยพระเจ้าตเบงชเวตี้ ที่มีการศึกภายในพม่าเอง จึงทำให้เกิดแม่ทัพนายกองที่ชาญศึกมากมาย ต่อมาเมื่อบุเรงนองครองอำนาจแล้วแผ่ขยายอำนาจเข้ามาในภูมิภาคแถบนี้ เริ่มต้นจากล้านนาเอง อโยธยา และล้านช้าง จึงมีทั้งไพร่พลและแม่ทัพนายกองที่มีประสบการณ์จำนวนมาก ซึ่งระหว่างพม่าทำศึกสงครามกันเองภายใน อโยธยาสมัยนั้นก็มีศึกภายในเองเช่นกัน (แต่ไม่ใช่สงคราม) ต้นเหตุมาจากราชวงศ์ต่างๆ ภายในอโยธยา อันได้แก่ ราชวงศ์อู่ทอง พระร่วง สุพรรณภูมิ และศรีโศกราช (นครศรีธรรมราช) (1) จนเกิดเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์กับขุนวรวงศาธิราชในสมัยพระชัยราชา (2) นำไปสู่การขึ้นสู่บัลลังก์ของพระเฑียรราชาเป็นพระมหาจักรพรรดิ ขุนพิเรนทรเทพผู้ร่วมก่อการและเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงได้ขึ้นเป็นพระมหาธรรมราชา ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เป็นคู่เขยกันตามธรรมเนียมในสมัยนั้น ซึ่งข้อขัดแย้งของคู่เขย (3) (4) นี้เองที่เป็นเหตุให้พระมหาธรรมราชาไปสวามิภักดิ์กับบุเรงนอง กลายเป็นศึกภายระหว่างอาณาจักรและศึกภายในครอบครัวมัดรวมกัน เมื่อเป็นแบบนี้ พระมหินทร์รบยังไงก็แพ้ เพราะพระมหาธรรมราชาวางไส้ศึกอยู่ภายใน พระยาจักรีที่ถูกตราหน้าว่าทรยศก็เป็นแค่แพะรับบาปไปเพียงผู้เดียวในประวัติศาตร์ เหตุเบื้องหลังที่แท้จริงแล้วกลับเป็นการแย่งอำนาจกันภายในระหว่างพระมหาจักรพรรดิและมหินทร์กับพระมหาธรรมราชา ซึ่งพระมหาธรรมราชาก็ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ด้วยอาศัยผลประโยชน์ร่วมกับบุเรงนอง

(1) https://pantip.com/topic/32425181
(2) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C
(3) https://thepeople.co/van-vliet-suwat-mother-in-law-okya-phitsanulok-ayutthaya-pegu-war/
(4) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4

การเสียกรุงครั้งที่ 2 มาจากความอ่อนแอของอโยธยาเอง เนื่องมาจากการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างพระเจ้าเอกทัศน์และพระเจ้าอุทมพร สองพี่น้อง ที่แต่ละคนก็มีข้าราชบริพารของตนเอง ปัจจัยภายในที่เป็นจุดอ่อนของอโยธยาขณะนั้นก็คือ การว่างเว้นจากศึกสงครามเป็นเวลานานทำให้ผู้นำระดับสูงขาดประสบการณ์การรบ และการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายใน แต่มุมมองส่วนตัวมองว่าเหตุหลักที่ทำให้อโยธยาพ่ายแพ้ มาจากยุทธศาสตร์ตั้งรับในเมืองแล้วรอน้ำหลาก ซึ่งก็มีเหตุจากที่ทัพอโยธยาพ่ายต่อทัพพม่าในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการต่อต้านและการรบในบ้างคร้้งก็มีกำลังพลมากกว่าทัพพม่า แต่ก็เป็นไพร่ที่เกณฑ์มารบ ได้เปรียบด้านจำนวนแต่ผู้นำการรบก็ไม่มีประสบการณ์ เมื่อรบแพ้ก็ขาดขวัญกำลังใจ จำนวนไพร่ที่เกณฑ์ได้หลังศึกอลองพญาเองก็เกณฑ์ได้ไม่มา จึงเลือกใช้วิธีการตั้งรับซึ่งเคยใช้ได้ผลมาก่อน แต่พม่าปรับยุทธวิธีตั้งทัพในที่สูงจนน้ำหลากไม่มีผล การล้อมเมืองจึงดำเนินการต่อและนำไปสูงการเสียกรุงครั้งที่สอง อีกประเด็นหนึ่งก็คือ คนไทยในขณะนั้นเองก็ร่วมมือกับพม่า ส่วนหนึ่งก็คือถูกเกณฑ์มาจากหัวเมืองที่ถูกตีแตก บ้างก็ด้วยต้องการผลประโยชน์จากการปล้นอโยธยา กล่าวโดยสรุป คือ รบแพ้เพราะปัญหาโครงสร้างภายในของราชวงศ์บ้านพลูหลวงเอง ทำให้อ่อนแอกว่าพม่าในขณะนั้น ทั้งที่ทัพพม่าที่มาในตอนนั้นไม่ใช่ทัพใหญ่ มังระไม่ได้มาเอง แม่ทัพใหญ่มหาสีหสุระ (อะแซหวุ่นกี้) ก็คุมทัพยันอยู่กับกับราชวงศ์ชิงทางตอนเหนือ

(5) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2
(6) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87
(7) https://www.silpa-mag.com/history/article_8039

เมื่อเปรียบเทียบกันด้วยการนึกสภาพตัวเองไปเป็นพระมหินทร์กับพระเจ้าเอกทัศน์ เอาแบบทะลุมิติไปเป็นเลย ผมมองว่าโจทย์พระมหินทร์ยากกว่า เพราะรบทั้งศึกในและศึกนอก ศัตรูภายมีทั้งภายนอกและภายใน โดยศัตรูภายในเป็นใครที่เราไม่รู้ แถมเป็นญาติสนิทที่เราไว้ใจ ไม่รู้เขา แต่เขารู้เราแบบกระจ่างแจ้ง แบบนี้รบไปก็มีแต่แพ้กับแพ้ (แต่ถ้าทะลุมิติไปแบบรู้ประวัติศาสตร์ด้วย อันนี้ก็อีกเรื่อง)

ส่วนพระเจ้าเอกทัศน์ ถ้าทะลุมิติไปตอนเพิ่งขึ้นครองราชย์ ยังพอแก้ไขได้ เพราะจะเห็นได้ว่าบรรดาขุนนางและแม่ทัพนายกองสมัยกรุงธนบุรีกับต้นรัตนโกสินทร์ต่างก็เป็นขุนนางในอโยธยาตอนนั้นทั้งสิ้น แต่ก็กอบกู้เอกราชและรบชนะพม่าได้หลายต่อหลายครั้ง ทั้งๆที่ในสมัยธนบุรีและต้นรัตนโกสินทร์ กำลังคนของเราเป็นรองพม่ามาก ในขณะที่ตอนนั้นทั้งกำลังคนและเสบียงอาหารก็อุดมสมบูรณ์ แต่ถ้าทะลุไปตอนเริ่มศึกมังระแล้วก็ตัวใครตัวมัน เพราะตอนนั้นเตรียมตัวอะไรก็ไม่ทันแล้ว  


ฮ่าา ครับ ขอบคุณที่มาตอบนะครับท่าน อ่านเพลิน ๆ ดี
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออนไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 5022
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:47
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Spoil
babyboom พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


เสียกรุงครั้งที่สองนี่ผมเห็นใจพระเจ้าเอกทัศน์เลยครับ ถูกแต่งเสียจนกลายเป็นคนอ่อนแอไม่เอาไหน กลยุทธเพื่อจะกดข่มให้ต่ำลงเพื่อให้คนอื่นสูงขึ้น แต่จะกดพระเจ้าตากสินคุณูปการของพระองค์ท่านก็ยิ่งใหญ่เสียจนไม่รู้จะกดอย่างไร หวยจึงไปตกอยู่ที่พระเจ้าเอกทัศน์

 
 


พระเจ้าตากสินก็โดนครับ แต่ไม่ได้โดนเรื่องรบไม่เก่ง เพราะเป็นคนฟื่นฟูบ้านเมืองมาจากครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 เลยโดนเรื่องอื่นแทน ผมขัดใจจริงๆเลยให้ตายสิ
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:49
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
babyboom พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


เสียกรุงครั้งที่สองนี่ผมเห็นใจพระเจ้าเอกทัศน์เลยครับ ถูกแต่งเสียจนกลายเป็นคนอ่อนแอไม่เอาไหน กลยุทธเพื่อจะกดข่มให้ต่ำลงเพื่อให้คนอื่นสูงขึ้น แต่จะกดพระเจ้าตากสินคุณูปการของพระองค์ท่านก็ยิ่งใหญ่เสียจนไม่รู้จะกดอย่างไร หวยจึงไปตกอยู่ที่พระเจ้าเอกทัศน์

 


เห็นด้วยครับ เรื่องที่สั่งไม่ให้ยิงปืนใหญ่เวลาพม่าบุกเพราะกลัวสนมตกใจนี่ไร้สาระมาก ดิสเครดิตพระองค์เกินไป
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 808
ที่อยู่: บางใหญ่ นนทบุรี
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:51
การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  

พอจะมีหนังสือหรือแหล่งข้อมูลให้อ่านไหมครับ เริ่มอยากรู้ความเป็นมาของบ้านเกิดเราแบบจริงจังแล้วครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ตีลูกให้ถึงดวงจันทร์ ถึงพลาดก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 9183
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:52
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Rosicky10 พิมพ์ว่า:
มีครั้งไหนที่ไปตีพม่าเองบ้างครับ

ทำไมต้องรอให้มันมาตีตลอด ถ้าทัพแข็งแรงจริงไม่ตียึดกลับบ้าง
 


ปัจจัยหลักมองว่า ถึงชนะได้ แต่คุมยากมาก
หัวเมืองห้าวๆทั้งนั้น แล้วไกลจากศูนย์อำนาจแบบนี้ ถ้าแข็งเมืองที กว่าจะแต่งทัพมาแก้ทีก็ลำบาก

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:52
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Nomeartor พิมพ์ว่า:
Spoil
babyboom พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


เสียกรุงครั้งที่สองนี่ผมเห็นใจพระเจ้าเอกทัศน์เลยครับ ถูกแต่งเสียจนกลายเป็นคนอ่อนแอไม่เอาไหน กลยุทธเพื่อจะกดข่มให้ต่ำลงเพื่อให้คนอื่นสูงขึ้น แต่จะกดพระเจ้าตากสินคุณูปการของพระองค์ท่านก็ยิ่งใหญ่เสียจนไม่รู้จะกดอย่างไร หวยจึงไปตกอยู่ที่พระเจ้าเอกทัศน์

 
 


พระเจ้าตากสินก็โดนครับ แต่ไม่ได้โดนเรื่องรบไม่เก่ง เพราะเป็นคนฟื่นฟูบ้านเมืองมาจากครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 เลยโดนเรื่องอื่นแทน ผมขัดใจจริงๆเลยให้ตายสิ  


เห็นด้วยครับ เท่าที่ศึกษามาเจ้าตากนี่พระองค์ถูกกล่าวหาดิสเครดิตเรื่องที่ไม่ยอมยกเชื้อพระวงศ์บ้านพลูหลวงเก่าครองสยามดังแต่เดิม บางคนยกไปถึงขนาดที่ว่าราชวงศ์จีนไม่ยอมรับเจ้าตากเพราะปล้นราชสมบัติมา คือแบบเวอร์มาก คือราชวงศ์ชิงก็ปล้นราชสมบัติชาวฮั่นมาเหมือนกันมิใช่หรือ ฮ่าา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:54
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Contingency พิมพ์ว่า:
Rosicky10 พิมพ์ว่า:
มีครั้งไหนที่ไปตีพม่าเองบ้างครับ

ทำไมต้องรอให้มันมาตีตลอด ถ้าทัพแข็งแรงจริงไม่ตียึดกลับบ้าง
 


ปัจจัยหลักมองว่า ถึงชนะได้ แต่คุมยากมาก
หัวเมืองห้าวๆทั้งนั้น แล้วไกลจากศูนย์อำนาจแบบนี้ ถ้าแข็งเมืองที กว่าจะแต่งทัพมาแก้ทีก็ลำบาก

 


สมมติถ้ามีพระองค์ใดไปตีได้พม่าจริง ๆ คงต้องย้ายเหมือนหลวงไปอยู่ที่หงสาวดีแหล่ะครับ สามารถดูแลได้ทั้งฝั่งสยามและพุกาม แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยอยู่ดี
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 2900
ที่อยู่: หมู่บ้านอัญชลี บ้านเลขที่ 9/12 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 22:57
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
Oichi7 พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  

พอจะมีหนังสือหรือแหล่งข้อมูลให้อ่านไหมครับ เริ่มอยากรู้ความเป็นมาของบ้านเกิดเราแบบจริงจังแล้วครับ  


ส่วนตัวผมศึกษาข้อมูลจากคุณศรีสรรเพชญ์ในพันทิพครับ แกรวบรวมหลักฐานจากหลาย ๆ ที่มาสรุปให้อ่านตลอด
*เพิ่ม แกทำเพจชื่อ "วิพากษ์ประวัติศาสตร์" อยู่ด้วยครับ ความรู้เน้น ๆ เลย
แก้ไขล่าสุดโดย tonnsupabchonn เมื่อ Tue Apr 07, 2020 22:57, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
LOVE INTER / LOVE DEXTER / LOVE DREAM THEATER
https://www.facebook.com/GreanNerazzurri/


ออนไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Dec 2005
ตอบ: 631
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 07, 2020 23:05
[RE: การเสียกรุงศรีอยุธยาครับแรก กับ ครั้งที่สอง?]
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
tonnsupabchonn พิมพ์ว่า:
Nomeartor พิมพ์ว่า:
ครั้งที่ 2 ยากกว่าเห็นๆเลยครับ จริงๆครั้งแรกตามพงศาวดารพม่า ถือว่าเราเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2106 ที่เสียช้างเผือกให้บุเรงนองไปแล้ว และ พม่าเอาตัวพระมหาจักรพรรดิไปอยู่ที่พม่าด้วยแล้วพระมหาจักรพรรดิบวชแล้วหนีกลับอยุธยาทำให้ตอนปี 2112 ต้องกลับมาบุกอยุธาอีกครั้งนั่นถือว่าเป็นการมาปราบกบฎอยุธยาของพม่าเสียมากกว่า ครั้งแรกถ้าไม่มีคนเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาผมว่าอยุธยายันอยู่

ส่วนครั้งที่ 2 เราเจอแผนพม่าที่เหนือคาดคือน้ำหลากไม่ถอย ปกติถ้าถึงฤดูน้ำหลากมาแล้วพม่าจะต้องจำยอมถอยทัพกลับไปทุกครั้งแต่รอบนี้เจอ formation ใหม่ของพม่า พอน้ำหลากพม่าไม่ถอยเสบียงในอยุธยาก็เริ่มหมดออกไปเก็บเกี่ยวพืชผลข้างนอกก็ไม่ได้เพราะพม่าล้อมไว้หมดแล้ว คนในพระนครก็เริ่มอดอยากล้มตายรอวันแพ้ ไม่งั้น พระเจ้าตากสินคงไม่ต้องฝ่าแนบรบบุกออกไปหรอกถ้าอยู่ในเมืองแล้วรอด


ปล.อีกเรื่องการเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่ใช่เพราะบ้านเมืองเราอ่อนแอนะครับตามประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ชำระในสมัยหลังส่วนใหญ่บอกว่า อยุธยาไม่เคยเสื่อม บ้านเมืองเจริญมาตลอดที่เป็นราชธานี แต่พอประวัติศาสตร์ที่ชำระสมัยหลังต้องสร้างตัวร้ายในประวัติศาสตร์ขึ้นมาเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันเห็นภาพว่ามีคนไม่ดี ผู้นำอ่อนแอ เราเลยต้องแพ้ให้กับพม่า ซึ่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงทั้งหมดตั้งแต่ พระเพทราชาต้นราชวงศ์ลงมาคือเหยื่อของการชำระประวัติศาสตร์ทั้งนั้นครับ  


อ่าครับ ต้องให้เครดิตมังมหานรธาเลยที่ไม่ยอมถอนทัพตามคำร้องขอของแม่ทัพนายกอง สั่งล้อมต่อไม่ให้ฝั่งอยุธยาได้ทำไรไถนา ย้ายทัพหลักไปที่ดอนหนีน้ำ เอาดินและอิฐมาก่อให้พ้นน้ำ ให้ทหารต่อเรือรบจำนวนมากสำหรับเป็นพาหนะ กองทัพพม่าจึงสามารถทำสงครามกับกรุงศรีอยุทธยาต่อมาได้โดยใช้อาศัยการรบทางน้ำเป็นหลัก กองทัพเรือของพม่านั้นสามารถรบชนะกองทัพกรุงศรีอยุทธยาในช่วงหน้าน้ำได้หลายครั้ง

 


เก่งจริงครับแม่ทัพพม่าที่มาบุกตอนเสียกรุงรอบ 2 แล้วเด็ดขาดด้วย พม่าเอาจำนวนคนเข้าว่าเลยอะ จริงๆต้องขอบคุณจีนนะครับที่บุกพม่า ตอนพม่าบุกมาตีกรุงธนบุรี ไม่งั้นมีสิทธิ์เสียกรุงธนบุรีอีกรอบ ถ้ามาถึงได้ไม่น่ารอดอีกรอบ  


ก็เกือบไปแล้วเหมือนกันครับ คราวศึกที่รพะเจ้ามังระส่งแม่ทัพรอบจัดอย่างอะแชหวุ่นกี้ที่เคยโชว์ในสงครามจีนพม่ามาแล้วลงมาตีกรุงธนบุรี ถึงขนาดตีได้เมืองพิษณุโลกได้แล้วนะ แต่พระเจ้ามังระสิ้นพระชนม์เสียก่อนจึงต้องยกทัพกลับ  


ส่วนตัวเห็นว่ามหาสีหสุระหรืออะแซหวุ่นกึ้โชคดีแล้วครับที่ไม่ได้เอาชื่อมาทิ้งที่ไทย ถึงตีพิษณุโลกได้ก็ได้แต่เมืองเปล่า กองทัพพม่าประสบปัญหาขาดเสบียง อีกทั้งรบกับทัพเมืองเหนือมากว่าสี่เดือนย่อมบอบช้ำไม่น้อย ผิดกับทัพหลวงพระเจ้ากรุงธนบุรีที่มาตั้งรับอยู่ปากน้ำพิงที่ไม่ได้รับความเสียหายมาก่อน อีกทั้งเส้นทางลำเลียงเสบียงยุทธปัจจัยก็ยังอยู่ในมือ ส่วนเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์สองพี่น้องที่ถอยไปทางเพชบูรณ์ก็ละลายกองทัพพม่าที่มหาสีหสุระส่งมาไล่ติดตามจนเกือบเกลี้ยง เหลือหนีตายข้ามโขงไปไม่เท่าไหร่ หมดความได้เปรียบด้านกำลังพลเรียบร้อย และที่สำคัญหัวเมืองล้านนาตอนนั้นมาขึ้นกับกรุงธนบุรีเรียบร้อยแล้ว ไม่มีหัวเมืองล้านนาเป็นฐานเสบียงเหมือนแต่ก่อน ผมยังนึกสงสัยพม่าจะส่งกำลังบำรุงอย่างไรในเมื่อเส้นทางแต่ละเส้นแทบจะถูกปิดตาย แถมทัพเจ้าพระยาสองพี่น้องที่เพชรบูรณ์ก็พร้อมยกกลับมาเกาะติดในอีกไม่ช้า ด้านหน้ามีทัพหลวงกรุงธนบุรีที่ยังสด ทางเหนือมีล้านนาจ่อหลัง แล้วแบบนี้มหาสีหสุระจะยึดกรุงธนบุรีอย่างไรได้

แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าตนเป็นฝ่ายแพ้ ฝ่ายไทยบอกว่าแพ้เพราะเสียพิษณุโลก แต่พม่าหนักกว่าครับ พระเจ้าจิงกูจาด่ามหาสีหสุระเลยว่า “พ่ายแพ้เพราะใช้กลยุทธทางการทหารที่เลว”

แก้ไขล่าสุดโดย Gorge เมื่อ Tue Apr 07, 2020 23:11, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel