สุดท้ายเชื่อว่าการตัดสินใจอยู่ที่การประชุมของยูฟ่าและตัวแทนลีค
เริ่มด้วยผมขอออกตัวก่อนนะครับว่าที่ผมเขียนมาทั้งหมดปราศจากอคติกับทีมไหนทั้งสิ้นแต่แค่อยากจะวิเคราะห์จากการเช็คแหล่งข่าวรอบตัวที่อยู่ในแวดวงธุรกิจว่า กรณีเลวร้ายสุดของผลกระทบของโคโรน่าไวรัสคืออะไรบ้าง
สถานการณ์ตอนนี้กลายเป็นเริ่มใกล้เคียงกับที่ผมเคยประเมินไว้เมื่อประมาณ2-3อาทิตย์ก่อนแล้ว (มีคุยกับพี่คนป่าฮาเฮไว้)
หวังว่าจะไม่ถึงกรณีเลวร้ายที่อย่างที่ประเมินไว้
- Outbreak จนคนติดเชื้อขึ้นไประดับเกินล้านคนภายในปีนี้
- เศรษฐกิจพังยับชะลอตัวทั้งโลก (สัญญาตอนนี้หนักมากดูได้จากตลาดหุ้นเลยเอาแค่ที่ไทยถึงกับต้อง circuit breaker 2วันติด ตั้งแต่เมื่อวาน และ วันนี้เปิดตลาดมาแค่ 1 นาทีร่วงไปอีก10% )
- แต่ละประเทศต้องปิดประเทศ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแหลกเป็นเสี่ยง (โรงแรม เครื่องบิน)
- เงินฝืดเคืองกระทบไปสู่อุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ และ ธนาคาร
สัญญานออกมาตั้งแต่ 2อาทิตย์ที่แล้วในแบบท่ีแทบไม่เคยมีเลยมาก่อนคือ
ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลงดอกเบี้ยทีเดียวถึง0.5% ปกติจะลงทีละ0.25%
แถมเป็นการลงแบบวิสามัญคือคำสั่งด่วนพิเศษ นอกวาระกำหนดประชุมด้วย และกำลังจะมีวาระประชุมกลางเดือนนี้ซึ่งนักการเงินคาดการว่าจะลงดอกเบี้ยอีกรอบแสดงว่าประเมินเศรษฐกิจโลกแล้วว่าวิกฤติจริง
มูลละค่าตลาดหุ้นที่เสียหายกันไปทั่วโลก ตกหนักอย่างไม่น่าเชื่อชนิดที่ว่ามหาศาลจนประเมินแทบไม่ได้เลยทีเดียว
และ ณ ตอนนี้ตัวเลขยังแค่นี้แต่ถ้าถึงกรณีที่เลวร้ายที่สุดอย่างที่ผมกังวลไว้คือเกินล้าน
เท่ากับอันนั้นคือ world shutdown ของแท้ ใครมีงานก็กอดกันไว้ดีๆนะครับ ผมเชื่อว่าแต่ละบริษัทมีการลดคนเยอะแน่นอน
เกริ่นให้เห็นสเกลความเสียหายกันแล้วกลับมาว่ากันที่เรื่องกีฬาครับ
ผมเชื่อว่า โอลิมปิค และ ยูโร2020 จะต้องยกเลิกค่อนข้างแน่
ส่วนฟุตบอลสโมสรในยุโรปอันเป็นที่รักของเราทุกคนที่ทำให้เรามารวมอยู่ในเว็บแห่งนี้
ผมเชื่อว่าแต่ละลีคแต่ประเทศจะไม่สามารถหาทางออกกันได้ด้วยตัวเอง เรื่องนี้ผมคิดไว้ตั้งแต่ ประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้วตามใน Spoil นี้ครับ
เพราะว่าการตัดสินใจในมาตรการของแต่ละลีคโดยลำพังมันจะส่งผลโยงใยกับฟุตบอลสโมสรยุโรปทั้งหมดครับ ผมคิดว่ายูฟ่าต้องเป็นผู้ยื่นข้อเสนอท่ีเท่าเทียมกันให้กับทุกลีคในการฝ่าวิกฤตปัญหาครั้ง แต่ละลีคตอนนี้ผมว่าทำแค่แก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น
ดังนั้นผู้ที่จะชี้ชะตาในหลักการระยะยาวที่ต้องชัดเจนที่สุดคือ ยูฟ่าเท่านั้น
ทีนี้ผมมาลองจินตนาการว่าถ้าเราเป็นผู้บริหารยูฟ่าที่ต้องดูแลฟุตบอลทั้งทวีป ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศนึง เมื่อต้องมาพิจารนาว่าถ้าเกิดไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้จะกำหนดแนวทางเรื่องนี้ เพื่อให้หลักการแต่ละลีคไปใช้ จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประโยชน์เรื่องหลัก มีอยู่ 4 เรื่อง
- แชมป์ของลีค
- ทีมที่ได้ไปฟุตบอลยุโรป
- ทีมตกชั้นขึ้นชั้น
- เงินรางวัลที่จะได้รับ
ย้ำนะครับว่าตอนนี้เรากำลังคิดแทนยูฟ่า ไม่ได้สวมหมวกองเชียร์ทีมใดทีมนึง หรือ ลีคใดลีคหนึ่งในการตัดสินใจแต่ละเรื่อง
แชมป์ของลีคของทุกประเทศ มีหลายลีคที่คะแนนเบียดสูสี (บุนเดส กัลโช่) มีหลายลีคที่คะแนนทิ้งค่อนข้างขาด (พรีเมียร์ ลีคเอิง) แล้วยูฟ่าจะตัดสินใจยังไงดีละที่ทำให้ทีมที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกประเทศพอใจ?
อันดับไปยุโรปทั้ง ucl และยูโรป้า อันนี้คะแนนเบียดยิ่งกว่าแล้วยูฟ่าจะตัดสินใจยังไงดีละที่ทำให้ทีมที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกประเทศพอใจ?
ทีมตกชั้นขึ้นชั้น อันนี้ก็คะแนนเบียดมากเช่นกันแถมผลประโยชน์เม็ดเงินที่เสียหายคือมากกว่าได้หรือไม่ได้ไป ucl ด้วยซ้ำ
เงินรางวัลที่จะได้รับ อันนี้ผมว่าในวิกฤติแบบนี้มันมีแนวทางทำให้เท่าเทียมกันอยู่ถ้าต้องยุติลีคจริงๆ
ถ้าเราเป็นยูฟ่า ซึ่งเป็นองค์กรกลาง หนทางที่เท่าเทียมในการตัดสิน ให้กับสมาชิกส่วนใหญ่โดยส่วนใหญ่รับในความเห็นผมค่อนข้างรุนแรงแต่ทุกทีมส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเท่ากันหมดคือ
- ทุกประเทศไม่มีแชมป์
- ยกเลิกรายการแข่งขันฟุตบอลยุโรปทั้ง2รายการในปีหน้า แล้วค่อยกลับมาเตะกันในอีกปีถัดไป ค่อยมาเลือกอันดับจากปีหน้า
- ไม่มีทีมตกชั้นขึ้นชั้น
- เงินรางวัลในแต่ละลีคหารเฉลี่ยให้ได้รับเท่ากันทุกทีม
หรือแนวทางที่ผมคิดว่าทุกทีมเสียประโยชน์ และ ได้ประโยชน์ใกล้เคียงกันเกือบทั้งหมดคือ set zero
อย่างที่ผมขอย้ำนะครับว่าเป็นการสมมุติฐานโดยปราศจากอคติใดๆ เพราะผม respect ลิเวอร์พูลชุดนี้ว่าคู่ควรเป็นแชมป์และเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และแฟนลิเวอร์พูลในนี้น่าจะทราบว่าผมไม่เคยไปเปิดวอร์อะไรด้วย ผมเสียดายด้วยซ้ำเพราะผมโฟกัสแต่ที่ทีมยูไนเต็ดเอง และ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงโมเมนตัมที่ดี ผมหวังว่าจะบี้จนถึงที่3ด้วยซ้ำ รวมถึงยูโรป้ากับเอฟเอ ถ้าดวงจับสลากเข้ารอบก็มีลุ้นถึงรอบชิงได้เลย
แต่ผมแค่ลองมานั่งคิดในมุมว่าถ้าเราเป็นยูฟ่าเราไม่สามารถตัดสินแยกเป็นแต่ละมาตรฐานในแต่ละลีคได้ ต้องมองภาพรวมที่กว้างและครอบคลุมกับจำนวนสมาชิกทุกประเทศให้มากที่สุด
ผมว่าแนวทางนี้จะทำให้สมาชิกส่วนใหญ่โอเคที่สุดมีจำนวนผู้ที่เสียประโยชน์น้อยที่สุด (ทีมแชมป์ และ ทีมที่จะขึ้นชั้นในลีครองแต่ละประเทศ)
ส่วนไอเดียในการเลื่อนเตะแล้วกลับมาเตะต่อใหม่ที่เห็นเพื่อนสมาชิกเสนอก็น่าสนใจครับ แต่ผมแค่ลองนั่งคิดตามแล้วมันปฏิบัติยากนิดนึงตรง
ถ้าสมมุติว่า เกิดสถานะการณ์ไวรัสนี้ยังเลวร้ายและควบคุมไม่ได้ในระยะเวลา1ปี พอกลับมาเตะต่อจากนี้อีก9-10นัดแล้วค่อยตัดสิน ผมว่าความต่อเนื่องและฟิลลิ่งมันจะไม่ใช่แล้ว
ส่วนกรณีรูปแบบที่ผมลองคิดคือมันใช้ได้กับว่าต่อให้ไวรัสยังระบาดไป1-2ปี แล้วกลับมาเตะความรู้สึกมันก็คือฤดูกาลใหม่แล้วครับช่วงที่ปิดไปมันก็เหมือนการปิดเทอมปิดฤดูกาลไปยาวๆ
ยังก็ตามอันนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์โดยส่วนตัวนะครับว่าจะเป็นทางออกที่อาจจะทำให้ยูฟ่าเจรจากับตัวแทนแต่ละประเทศได้ง่ายที่สุด ไม่งั้นผมคิดว่ารูปแบบอื่นจะเจรจากันลงตัวค่อนข้างยากมากเลย แต่ต้องรอดูกันไปครับว่าหลังประชุมอาทิตย์หน้าจะออกมาแนวไหน
ทั้งนี้ที่เขียนมาทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาจะทำให้แฟนทีมไหนหรือลีคไหนขุ่นข้องใจนะครับ ถ้ามีตรงไหนที่อ่านแล้วไม่พอใจขออภัยมา ณ. ทีนี้ด้วยครับ