[RE: อึดอัดเหมือนเราเสียตัวตนไปเมื่อคุยกับคนนี้]
PrettyBoy พิมพ์ว่า:
ผมคุยอยู่กับผู้หญิงคนนึง แต่ผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ผมกลับพยายามทำดีกับเธอทุกอย่าง มากจนผมรู้สึกอึดอัดและไม่ชอบตัวเอง
แถมผมยังหลงจนแบบวันๆอยู่ไม่ได้ มันร้อนใจตลอด อยากรู้ อยากคุยด้วย แต่พอช่วงไหนคิดได้ก็จะรู้สึกว่า นี่มันไม่ใช่ตัวเราเลย ทำไมถึงผูกกับคนๆนึงมากขนาดนี้ ทั้งๆที่เค้าก็ยังไม่ได้ชัดเจนกับเรามากเท่าไหร่ แถมน่าจะมีตัวเลือกเยอะมากซะด้วย เพราะแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้ผมสับสนไปหมด บางทีเธอก็เหมือนสนใจ แต่เดี๋ยวก็มาๆหายๆ
มองด้วยเหตุผลก็รู้เลยว่าเราต้องถอย ให้ตัวเองเป็นแบบนี้ไปไม่ได้แน่ มันทรมาน และผมรู้สึกทุเรศตัวเองที่กลายเป้นแบบนี้ ทั้งคิดมาก ทั้งพยายามตามติดเค้า แถมอยู่คนเดียวก็เพ้อเจ้อสารพัด เป็นอะไรแทบทั้งหมดที่ผู้ชายไม่ควรเป็น
แต่ถึงจะรู้ก็กลับทำไม่ได้สักที พยายามหักดิบไม่ว่ารูปแบบไหน สุดม้ายมันก็ร้อนใจทนไม่ไหว จนกลับไปยอมเธอเหมือนเดิม
ใครที่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มายังไงช่วยแนะนำผมทีครับ จะขอบคุณมากเลย ทุกวันนี้เหมือนเป็นบ้า คือไม่รู้จะถามใคร
คุ้นๆเหมือนเคยอ่านเจอ มันคือความผิดพลาดของสมอง เรียกว่า cognitive dissonance
เจอแบบนี้สมองเราจะโดนหลอกว่านี้คือความรัก ตัดไม่ขาด
ลองอ่านอันนี้เผื่อช่วยได้
6 เหตุผลที่ควร “ปล่อย” คนที่ไม่สำคัญในชีวิตของคุณไป
โดย กมลชนก ปานใจ
ใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น คนรักเก่า เพื่อน หรือคนรอบตัวคุณ ในช่วงแรกความสัมพันธ์กับคนเหล่านี้ อาจจะดูตื่นเต้น สนุกสนาน และหอมหวาน เพราะมีแต่สิ่งดีๆ ให้กัน หรือโชว์กันแต่ด้านดีงาม แต่เมื่อนานไป คุณเริ่มเรียนรู้ และเริ่มรู้จักตัวตนและความเป็นจริงของพวกเขามากขึ้น บางทีการยังคบกับคนเหล่านั้นอาจเป็นภัยต่อตัวคุณ บั่นทอนความสุขที่พึงมี และมีผลแย่ๆ ต่อความคิดคุณมากเกินไป มาดูกันว่าเหตุผลอะไรบ้าง ที่คุณควร “ปล่อย” คนที่ไม่สำคัญในชีวิตของคุณเหล่านี้ไป
1. ถ้ามันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เมื่อคุณใช้ชีวิตและเติบโตมาถึงจุดหนึ่ง คุณก็ตระหนักว่าตัวเองต้องการสิ่งที่แตกต่างไป คนสองคนเริ่มมีจุดประสงค์ที่ต่างไป อาจมาจากหน้าที่การงาน มาจากสภาพแวดล้อม มาจากความต้องการในชีวิต หรือประสบการณ์ที่ต่างไป เริ่มไม่เข้าใจกัน และความสัมพันธ์อาจแย่จนถึงขนาดที่ต่อกันไม่ติด
2. ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์และความเชื่อใจอีกต่อไปแล้ว
ถ้าคุณรู้อยู่เต็มอกว่าคุณไม่สามารถเชื่อใจเขาหรือเธอได้อีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณได้ยินคำขอโทษและจะปรับปรุงตัวหลายครั้ง แต่มันไม่เคยเป็นจริง ความไว้วางใจและความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของมิตรภาพและความสัมพันธ์ ถ้าคนที่คุณคบยังไม่สามารถทำให้คุณไว้ใจได้ ถึงเวลาที่ต้องหันหลังให้พวกเขา
3. ถ้ามิตรภาพหรือความสัมพันธ์ทำให้คุณรู้สึกแย่หรือทำร้ายความรู้สึก
ถ้ามิตรภาพหรือความสัมพันธ์มันทำให้คุณไม่มีความสุขหรือเศร้าหมอง ถึงเวลาอำลาคนเหล่านั้น ถ้าพวกเขาทำให้คุณรู้สึกแย่ ทำให้คุณอับอายต่อหน้าคนอื่น แข่งขันกับคุณตลอดเวลา นั่นแปลว่าถึงเวลาที่จะลบคนเหล่านี้ออกจากชีวิตให้เร็วที่สุด เคารพตัวเองให้มากพอที่จะก้าวเดินต่อไป
4. ถ้าคุณเป็นคนเดียวที่รู้สึกว่าทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียว
มันสะท้อนให้เห็นถึง “คุณค่าในตัวคุณ” มันไม่คุ้มที่จะทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป ถึงเวลาที่ต้องปล่อยคนเหล่านั้นไปซะ แล้วอยู่กับคนที่เห็นค่าของการทุ่มเทของคุณ อย่างน้อยๆ ก็คือตัวคุณเอง
5. ถ้าพบว่าคนในความสัมพันธ์ไม่มีการสนับสนุนคุณเลย
เช่น “แน่ใจเหรอว่าจะทำเรื่องแบบนี้ ผมว่าคุณไม่เก่งหรอกนะ คุณไม่น่าจะทำได้” สิ่งที่สำคัญที่สุด คืออยู่ใกล้คนที่พร้อมที่จะสนับสนุนคุณ หาวิธีที่จะช่วยให้คุณไปสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ได้เร็วขึ้น ผลักดันและเชื่อมั่นในตัวคุณ ซึ่งบางทีพวกเขาอาจเชื่อในตัวคุณมากกว่าที่คุณเชื่อตัวเองด้วยซ้ำ
6. ถ้าคุณไม่มีความเห็นอะไรตรงกันเลย
แค่ฟังเพลงก็ยังทนฟังเพลงของเขาไม่ได้ หรือเขาต้องรีบปิดเพลงของคุณ หนังที่คุณชอบเขาก็เกลียดมาก การเที่ยวด้วยกันเขาก็ทำกิจกรรมที่คุณไม่เคยชอบ และเขาก็ทนทำกิจกรรมที่คุณชอบไม่ได้เช่นกัน เรื่องเล็กๆ แค่นี้มันคือสัญญาณที่บอกว่าเรื่องใหญ่ๆ มันจะไม่เวิร์ค
ถ้าคุณไม่สามารถยอมรับอะไรได้ มันก็ถึงเวลาที่ต้องเดินจากมา ในหลายความสัมพันธ์หรือมิตรภาพมาจากความต่างกันสุดขั้วและยังสามารถไปกันต่อได้ในบางเรื่อง แต่ถ้าคุณพยายามค้นหาในความต่างแล้ว แต่มันไม่รู้สึกเป็นสุขที่จะยอมรับความต่างเหล่านั้น และดูเหมือนว่าทั้งคู่ไม่ยอมปรับตัวเข้าหากัน ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินจากมาแล้วจริงๆ ค่ะ จงปล่อยพวกเขาไปและกล้าพอที่จะตัดพวกเขาออกจากชีวิต เพื่อเริ่มชีวิตที่คุณนับถือตัวเองได้และมีความสุขจริงๆ ซักที