ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
นายกฯซ็อคเกอร์ซัค
Status: IG : benfreekick /// YT : เที่ยวนอกถ้ำ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2005
ตอบ: 5169
ที่อยู่: เซิร์ฟเวอร์ซอคเกอร์ซัค
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:29
WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ยาวมากครับ ถ้าไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆสรุปให้ว่าผมเจ็บเมื่อ 2 ปีก่อนตอนนี้กลับมาเตะบอลเบาได้แล้ว แค่นี้ครับ

Spoil
เดือนพฤศจิกายน 2017 อาจเป็นวันธรรมดาวันนึงที่เชื่อว่าให้เราลองนึกย้อนกลับไปอาจจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ณ เวลานั้น

แต่ผมจำได้ไม่ลืม มันเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนมุมมองต่อการใช้ชีวิต เปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างนับจากนั้นเป็นต้นมา

การเตะบอลอันเป็นกิจวัตรในช่วงทุ่มสองทุ่มของผมดำเนินไปตามปกติ จังหวะทำชิ่ง 1-2 ถูกส่งมาโด่งเกินไป บอลกำลังจะล้นเลยเส้นข้าง ยังไงก็ไม่น่าทันแต่ด้วยความเสียดายเพราะเกี่ยวลงมาได้ก็คือหลุดไปยิงประตูเลย

ว่าแล้วก็วิ่งเต็มสูบพร้อมก็กระโดดกลางอากาศยื่นขาขวาไปเกี่ยวบอลแบบสุดๆ เกี่ยวได้ตามที่ตั้งใจไว้แต่ด้วยการฝืนนี้เองทำให้ balance เสีย ตัวเอียงไปทางขวาตัวเองเล็กน้อย และตอน landing ไม่ทันได้ตั้งตัวไม่รู้เลยว่าขาซ้ายจะลงตอนไหนลงท่าไหน เอาเป็นว่าสุดท้ายขาปักพื้นโดยที่ตัวเอียง

มันคือท่า landing ต้องห้ามในการเล่นกีฬา เพราะมันไม่ต่างอะไรกับคุณเอาไม้ไผ่ที่แระแทกมันลงบนพื้นปูนด้วยองศาที่เอียงเล็กน้อยอย่างแรง กึก!

ตอนเสี้ยววินาทีที่ landing ตาผมมองพื้นเพื่อเตรียมรับการลงตามแรงโน้มถ่วง และได้เห็น ขา+เข่า ตัวเองกระแทกเต็มๆตา ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากตั้งแต่วิ่งไปเอาบอล > กระโดด > แลนดิ้ง ใช้เวลาไม่น่าเกิน 3 วินาที

ผมทิ้งตัวลงไปนอนตามสัญชาตญาณ พร้อมดิ้นโอดโอยกับคำสบถ “โอ้ย สัส” เพื่อนๆน้องๆในสนามนึกว่าผมแกล้งเจ็บ เพราะผมชอบพุ่งล้มเอาฟาว์ลบ่อยๆ แกล้งพ่อง

เอ็นไขว้หน้าขาดทันที!! แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเอ็นขาด นึกว่าแค่เจ็บเพราะล้มผิดท่า เตะบอลมา 30 ปีเจ็บหนักสุดก็แค่ข้อเท้าพลิก แต่นี่เป็นการเจ็บแบบใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

กลับบ้านนั่งพักควบคุมสติราว 3-4 ทุ่มอาบน้ำแบกตัวเองไปหาหมอแถวแจ้งวัฒนะเพื่อ X-ray คนของโรงพยาบาลมาเข็นวีลแชร์ให้ราวกับเป็นราชา

เคราะห์ดี...ผลเอ็กซ์เรย์ระบุกระดูกอยู่ครบดี แต่การ X-ray มันไม่สามารถเจาะไปถึงเส้นเอ็นได้ แต่พอรู้ว่ากระดูกไม่เป็นอะไรมากก็ใจชื้น

ตอนรับยา(ช่อง 2)...พนักงานเข็นวีลแชร์มาที่หน้าเคาเตอร์เพื่อรอเรียกคิว(แล้วเค้าก็จากไป) พอเรียกชื่อ จำได้ว่าคนข้างๆที่นั่งอยู่ทำท่าจะลุกไปหยิบให้(น่าจะสงสารนึกว่าพิการ) แต่เรารีบชิงลุกเดินลากขาไปรับอย่างทุกลักทุกเล อารมณ์ประมาณไม่อยากเป็นภาระของสังคม

ผ่านไปสัปดาห์นึงอาการดีขึ้นเรื่อยๆ วันนึงไปรษณีย์มากดกริ่ง ตอนนั้นฉี่อยู่ พอได้ยินเสียงกริ่งครั้งที่สองก็รีบวิ่งพรวดพราด(เดี๋ยวได้ใบขาวเสียเวลาไปเอาอีก) พอเซ็นชื่อเสร็จ อ้าวลืมตัว กูเจ็บอยู่นะ เอ๊ะ แปลกๆ

แต่วันสองวันต่อมา ในขณะที่ผมกำลังยกถังน้ำเพื่อเอามาเปลี่ยนถ่ายตู้ปลา ผมลืมตัว ผมยกถังด้วยมือซ้ายซึ่งแน่นอนผมต้องเกร็งขาซ้ายข้างเดียว ขาขวายกขึ้นเพื่อหมุนตัว

โครม ล้ม!!

เจ็บเข่าที่เดิม ไม่ปกติแล้ว...

รีบโทรนัดหมอกระดูก เพื่อทำการตรวจเช็ก เราไปหาหมอพร้อมข้อมูลจาก google หมอถามอาการนั่นนู่นนี่ ให้เรากระโดดให้แกดู ซึ่งจากที่แกตรวจ เค้าไม่คิดว่าขาด แต่เราไม่สบายใจจึงขอนัดสแกน MRI เพื่อที่จะได้รู้ว่ามันขาดหรือไม่ขาด เพราะอาการมันไม่ปกติ

ระว่างคุย หมอบอกหมอชอบคนไข้อย่างคุณมาก มีการเตรียมข้อมูลแลกเปลี่ยนคุยกับหมออย่างเมามัน ซึ่งผมอยากบอกหมอว่าผมเข้าทุกลิงค์ทุกหน้าของ google มาหมดละค้าบบ

MRI ค่าเสียหาย 10,000 บาท รอผลอาทิตย์สองอาทิตย์ หมอเรียกไปพบ ใจเต้นระทึก

แกบอกหมอข้างบนอ่านฟิลม์แล้ว ACL (เอ็นไขว้หน้า) ขาด complete เลยนะแต่ตัวแกเองอ่ะไม่เชื่อว่าขาด เพราะอาการผมดีเกินกว่าจะขาด ในเมื่อสกอร์ออกมาเป็น 1-1 แกก็เลยโทรไปให้หมออีกคนช่วยอ่านค่าฟิลม์เพื่อตัดสินชัย

ไม่ถึง 5 นาที หมอคนนี้โทรลงมาบอก ACL แค่ฉีกยังไม่ขาดออกจากกัน ยังมีโอกาส ”สมานเอง” อีกซักครึ่งปี หมอคนนี้ก็เลยให้ผมพักรักษาตัวค่อยๆดูอาการ ซึ่งแกบอกว่าที่ผมสามารถกระโดดหรือวิ่ง หรือทำอะไรได้เพราะกล้ามเนื้อต้นขาผมแข็งแรงมากช่วยพยุงเข่าเอาไว้นั่นเอง

7 เดือนผ่านไปผมก็ใช้ชีวิตปกติ ตอนนั้นยังไม่ได้บ้าเที่ยว ผมสังเกตตัวเอง ผมรู้สึกได้ว่าการเดินเป็นเส้นตรง วิ่งตรงๆอ่ะได้ แถมผมกระโดดขาเดียวได้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าจะไปเตะบอลมันต้องมีการหมุนตัว พลิกตัว ซึ่งเข่าจะทำงานหนักมาก ยังไงก็ไม่มีทางเล่นได้แน่นอน

เพื่อนผมหวังดี เห็นหายจากวงการไปนาน เลยพาไปหาหมอนวด (ไม่ใช่แถวรัชดา) ฉายาแกหมอเทวดา โอ้ยเจ็บฉิบหาย นวดแบบยกขาขึ้นฟ้าดันเข้าหาตัวทิ้งน้ำหนัก บิดจนเราบอกว่าไม่ไหวแล้วพอเหอะ เจ็บจนน้ำตาไหล แล้วแกก็โม้ว่าไปผ่าตัดทำไมให้มันฟันเงินเรา เนี่ยนวดเสร็จไปเตะบอลได้เลย เชื่อผม อ่ะเสร็จจ่ายไป 400

ผมเข้าใจแล้วว่าเวลาคนสิ้นหวังจากอะไร ก็จะหาที่พึ่งสุดท้ายกันทั้งนั้น ผมที่เคยต่อต้านสิ่งงมงาย พวกกินน้ำจากส้วม, ไหว้เจล ,ขูดต้นตะเคียนหาเลข กลับมาหาหมอเทวดาซะงั้น

เอ้าๆนวดเสร็จ อีกวันผมลองไปทดสอบเตะบอลโดยใส่สนับเข่าช่วยเพราะตอนนั้นรู้ตัวว่าสภาพเข่าไม่ดีเท่าไหร่ ตอนเดินลงไปเล่นชำเลืองจุดเกิดเหตุ บอกเลยครับว่าเสียววาบ ผมลงไปเล่น 5 นาทีเจอกองหน้าล็อกไปล็อกมาบอกเลยว่าสเต็ปขาผมตามไม่ทันเพราะมันต้องหยุดหมุนตัวตามตลอด เข่าผมเจ็บ จนขอตัวไปยืนเป็นประตู

เป็นประตูก็นึกว่าไม่มีอะไร พอลูกลอยโด่งมา ผมกระโดดไปรับ ลืมตัวเอาขาซ้ายลงข้างเดียว ก็พับสิครับ!!

อาการเจ็บแบบเดิมมาเลย ปวดมาก ในใจก็โมโหทำไมผ่าน 7 เดือนมันไม่ดีขึ้นเลยเหรอ เอ็นเชื่อมกันได้แล้วมั๊งป่านนี้

ก็เลยเอาวะ อยากรู้ว่าเป็นอะไรจะได้รักษาให้มันถูกต้องไปเลย บึ่งรถไปโรงพยาบาลแถวงามวงศ์วาน พร้อมถือฟิลม์จากโรงพยาบาลแรกไปด้วย หมอจับนอนเตียงเลยครับ พร้อมเขย่าหัวเข่า 2-3 ที

แกบอกเรียบร้อย ขาดนะครับ พร้อมถือฟิลม์มาให้แกอ่านก็บอกขาด 100%

ภาพแรกที่เข้าหัวมาเลยคือ หมอโรงพยาบาลแรกไม่เคยจับผมนอนแล้วเขย่าหัวเข่าเหมือนคนนี้เลย แปลกจริงแฮะ

นั่นแปลว่าผมเสียเวลาไปเกือบปีสินะ!!

แต่ผมยังไม่ปักใจ เพราะ 2 โรงพยาบาลต่างบอกกันไปคนละทิศละทางแบบนี้ ผมจึงต้องหาโรงพยาบาลที่ 3 เพื่อให้มันเอกฉันท์ จบๆไป

และคราวนี้ต้องกับหมอระดับประเทศเท่านั้น ผมเซิรซ์หาในกูเกิ้ลจนได้ชื่อ อาจารย์ ชนินท์ ล่ำซำ

นักบอล ACL ขาด วิ่งโร่มาหาแกกันทุกคน แกยืนหนึ่งในเรื่องเข่า เคยเป็นแพทย์ประจำทีมชาติไทยลุยฟุตบอล เอเชี่ยน เกมส์ มาแล้วด้วย การันได้ว่าคำตอบจากปากแกถืออันเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งในใจผมอ่ะคิดว่าขาดแน่ๆเพราะถ้ามันไม่ขาดป่านนี้น่าจะดีขึ้นบ้างแล้ว

แกเคยประจำที่ศิริราช แต่ย้ายมาธนบุรี 1 โอ้โห คิวเยอะมากมาย มีทั้งคนเพิ่่งผ่ามาไม่นาน คนที่ผ่ามาหลายเดือน คนที่ยังไม่ผ่า ถึงคิวผมแกก็จับนอนเขย่าๆหัวเข่าเหมือนรพ.ที่แล้ว ซึ่งคำที่หลุดจากปากแกก็คือขาดแล้วนะ หลวมเชียว

จากนั้นแกก็บอกว่าถ้าผ่าที่ธนบุรีแสนกว่า ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินนัดผ่าได้เลย แต่ถ้าฐานะทางบ้านไม่ดี ให้โทรติดต่อคนนี้แผนกนี้ที่รพ. ศิริราช ค่าใช้จ่ายไม่เกินแสน แล้วแต่ว่าหมอนรองกระดูกฉีกด้วยไหม

คือต้องบอกก่อนว่าการที่เอ็นไขว้ขาดเราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกตินะครับ เดินเหิน วิ่งเป็นเส้นตรง (อาจมีผลในระยะยาวคือหมอนรองกระดูกที่เป็นเหมือนโช๊ค อัพ คอยรองรับการกระแทกของกระดูกจะเสื่อมไว) แต่ถ้าอยากกลับมาเล่นกีฬา(ซึ่งต้องใช่เข่าเปลี่ยนทิศทาง)มันต้องผ่าสถานเดียว ซึ่งตัวผมเองยังไม่เตรียมใจเลิกเล่นบอลในวัยนี้ ผมเตะมา 30 ปีผมเชื่อว่าสภาพร่างกายผมยังเล่นได้อีกหลายปี

ทำให้ผมตัดสินใจไม่ยากเลยครับ ศิริราชแน่นอน ราคาถูกกว่าแต่ต้องเดินเรื่องหลายสเต็ปหน่อย ทั้งนัดตรวจเลือด จองห้องพัก นัดวันผ่า เรียกว่าผมไป 2-3 หนจนได้เห็นสภาพของ รพ. แล้วก็รู้สึกสลดหดหู่ คนป่วยเยอะมากเดินกันเหมือนงานโอท็อป ตามทางมีเตียงคนป่วยซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแก่วางระเกะระกะมีญาติมาเฝ้าไข้ เข็นผ่านไปผ่านมา

ผมเดินเรื่องเดือนสิงหาคม 2018 คิวผ่าตัดว่างพฤศจิกายน แต่ผมบอกว่าขอผ่าปีใหม่ 2019 เลยเพราะผมตั้งใจทิ้งทวนอยากแบกเป้เดินทางท่องเที่ยวในช่วง กันยายน - ธันวาคม

จากนั้นผมก็วางแผนเที่ยวคนเดียว เอาใกล้ๆกรุงเทพก่อน

- ผมตัดสินใจเลือกนั่งรถไฟไปลพบุรีจนได้เพื่อนสาวฝรั่งที่นอนอยู่ในโบราณสถาน แล้ววานให้ผมช่วยถ่ายรูปให้ ก่อนคุยกันอยู่พักนึงจนรู้ว่าเป็นคนอาร์เจนฯ ไปทำงานที่อังกฤษ เป็นครูสอนเต้น แล้วบังเอิ๊ญเกิดปีเดียวกันกับผมซะอีก ก็เลย keep connection กันมา

- จากนั้นผมชอบความสงบก็เลยแบกเป้ 2 ใบขึ้นเครื่องแล้วไปต่อรถนั่งรถสองแถวเข้าเชียงคาน ได้คุยกับพี่คนนึงที่เล่นกีตาร์ที่ถนนคนเดิน แกแนะนำให้ไปถ่ายรูปที่ภูทอกซึ่งผมไปแล้วแต่คนเยอะมาก แต่ที่ๆแกบอกไม่มีคนเลยแถมสวยกว่าด้วย เป็นอีกความบังเอิญที่โชคดีจริงๆที่แกอยู่ดีๆก็หยุดเล่นกีตาร์แล้วคุยกับผม

- ไม่ถึงเดือนผมไปขึ้นดอยแม่สลอง และ ดอยสะโง้ ที่เชียงราย ได้คุยกับเจ้าของที่พักทั้ง 3 คนซึ่งเป็นชาวเขาแต่ถีบตัวเองมาเป็นผู้ให้บริการ ได้ฟังการระบายความอัดอั้นตันใจของคนทำธุรกิจ

- เวลาเหลือไม่มาก ผมเลือกไปเกาะยาวน้อย เกาะที่สงบ ขี่มอไซค์รอบเกาะ และต้องเช่าเรือเหมาลำคนเดียวไปตระเวณตาม 5 เกาะ ลุงป้าเจ้าของที่พักใจดีดูแลผมราวกับลูกหลาน

- ก่อนที่จะทิ้งทวนสัมผัสกับทะเลหมอกที่พังงา ซึ่งเป็นที่สุดท้ายจนผมรู้สึกเสียดายว่าเวลาแห่งความสนุกได้จบลงแล้ว

การที่เรา solo travel คำถามยอดฮิตจากคนที่เจอในจังหวัดนั้นๆคือ “มาคนเดียวเหรอ” แรกๆเราก็ตอบแบบเขินๆ พอเจอถามบ่อยๆทีนี้ตอบเหมือนๆกันหมดคือ “เพื่อนไม่ว่าง” บทสนทนาตรงนี้มันจะได้จบไวๆเพราะเราเน้นไปแต่วันธรรมดา เพื่อนไม่ว่างเป็นเรื่องปกติ คนเที่ยวจะน้อยมาก อย่างไปเชียงคาน ที่พักมีผมคนเดียวถึงขนาดพนักงานบอกฝากล็อกประตูหลังกลับจากถนนคนเดินให้ด้วยเพราะเค้าจะกลับบ้านแล้ว ฮา

หรือขึ้นเขา “บ้านในหมอก” ที่พังงา ก็มีผมคนเดียว จนเจ้าของที่พักขอค่าปั่นไฟเพิ่ม(แบบอ้อมๆ 555) แล้วก็นั่งกินข้าวกับพื้นคุยกันเหมือนสนิทกันมาแต่ชาติปางไหน

ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่ผมอยากสานต่อก่อนขึ้นเขียง และ พักรักษาตัว

ผมเลือกวันผ่าเป็นวันพฤหัสที่ 5 มกราคม เพราะเช็กโปรแกรมแล้ววันพุธที่ 4 แมนฯซิตี้ เจอ ลิเวอร์พูล กะว่าดูเสร็จอีกวันมานอนโรงบาลเลย แต่แหม่ ชีวิตมันซวยไม่สิ้นสุด บอลเลื่อนมาเตะวันพฤหัสเฉ้ยยยย ก็เลยดูบอลคาเตียง แถมแพ้อีก นอนแป๊บเดียวเช้ามารอขี้นเขียง

ในชีวิตนี้ผมไม่เคยนอนโรงพยาบาลมาก่อน เต็มที่มาตรวจแล้วกลับ ในระหว่างที่พยาบาลเข็นเตียงพาผมไปที่ห้องผ่าตัด หัวใจเต้นระทึก แว่นห้ามใส่ คอนแท็คห้ามใส่ ผมเลยมองไม่เห็นหน้าใครเลย ตลอดทางที่เตียงถูกเข็นมีแต่ความมัวและความกลัว!! พี่ที่เข็นเตียงผมชวนคุยเพื่อลดความเครียด ช่วยได้นิดหน่อย ใจไปหมดแล้วตอนนั้น

เมื่อถึงตอนผ่า ม่านถูกปิดมาครึ่งตัวเพื่อไม่ให้คนไข้เห็นความสยอง ผมถูกบล็อกหลังไปเรียบร้อย ดังนั้นท่อนล่างผมจึงไม่มีความรู้สึก ผมรู้แค่ว่ามีเสียงโป๊กๆ เสียงสว่าน ผมสงสัยจึงถามพยาบาลสาวว่านี่เริ่มผ่าแล้วเหรอครับ จนคำตอบว่าใช่นั่นแหละ ผมจึงหลับตาภาวนาให้ทุกอย่างรีบๆจบลงซักที

ผมไม่แน่ใจว่าใช้เวลานานแค่ไหนอาจจะชั่วโมงกว่า ชั่วโมงครึ่ง สองชั่วโมงแต่หลังผ่าเตียงที่ผมนอนถูกเข็นมาเรียงอยู่กับผู้ป่วยคนอื่นด้านนอกห้อง เพื่อรอเวลานำกลับขึ้นไปยังห้องพักข้างบน

ในระหว่างนั้นผมรู้สึกถึงความผิดปกติ ตัวผมสั่นเพราะหนาว เป็นเอฟเฟคจากการถูกบล็อกหลัง ตัวสั่นเหมือนเข้าทรง ผ้าห่มไฟฟ้าที่พยาบาลเอามาคลุมตัวผมไม่ช่วยให้อาการสั่นนี้หยุดแต่อย่างใด

ความเลวร้ายหลังผ่าตัดไม่ใช่อาการเจ็บแผลหลังยาชาหมด เจ็บแผลเป็นอะไรที่พอทนได้สำหรับนักกีฬา แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือการฉี่ไม่ออกเพราะฤทธิ์ยาชานี่แหละครับ

แล้วยาชาที่บล็อกหลังนี่อยู่โคตรนานครับบอกเลย ผ่าก่อนเที่ยง ยาชากว่าจะหมดยาวไปจนถึงตีห้าหกโมงนู่นเลย!!

ผมทำการบ้านมาก่อนเลยพยายามไม่กินน้ำตั้งแต่เมื่อคืน เพราะทุกคนที่เคยผ่าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “การสวนฉี่” เจ็บกว่าผ่าอีก!!

ผมพยามเบ่งฉี่แต่มันทำไม่ได้ครับ ท่อนล่างไม่รู้สึก รู้แค่ว่าปวดท้องน้อยมาก ผมฉี่หนสุดท้ายตอน 10 โมงเช้า จนบัดนี้เที่ยงคืนยังไม่ได้ฉี่ พยายามเบ่งเท่าไหร่ก็ไม่ออก จนพยาบาลสาวเดินมาถามว่าเดี๋ยวซักพักไม่ฉี่ขออนุญาตสวนนะคะ

ล่กเลยผม คือเป็นคนขี้อาย หน้าบางเกินกว่าจะให้คนแปลกหน้ามาเปิดหำแล้วเอาสายอะไรมาสวน แล้วตอนดึงสายหลังแหย่เข้าไป ผมอ่านจากรีวิวมีคนนึงบอกเจ็บจนน้ำตาไหล ผมเลยไม่นอนครับ เบ่งฉี่ตั้งแต่เที่ยงคืนยันตี 5 เพื่อเอาชนะมันให้ได้ พยายามแล้วพยายามเล่า จนในที่สุดก็ไหลเป็นน้ำตกผ่านคอมฟอร์ทร้อยจนเกือบล้น

หลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที พยาบาลสาวเดินมาพร้อมสายพร้อมสวน ผมบอกออกแล้วครับ เสียใจด้วย คุณอดเห็นหำผมแล้ว

ผมเคยนึกน้อยใจว่าทำไมต้องเป็นเรา เตะบอลระวังตัวเองมาตลอด การเข้าบอลหนักๆก็พยายามเลี่ยง เพราะชนะไปก็ไม่ได้ถ้วย ไม่มีเงินอะไร เตะเสร็จแยกย้าย แล้วมาเจ็บหนักแบบนี้ก็โกรธในโชคชะตา

แต่ในทางกลับกันมันก็มีเรื่องราวดีๆ ทำให้ผมรู้ว่าพี่ชาย น้องสาว พ่อแม่ ก็คือคนที่พร้อมช่วยเราเสมอ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม คนที่เราเคยทุ่มเททุ่มใจให้สุดท้ายถึงวันนึงเราอาจไม่ใช่คนแรกของเค้าก็ได้

วันที่ผมจองห้องผ่าตัด เค้ามีกฏว่าถ้าไม่มีคนเฝ้าไข้จะไม่ให้ผ่า เพราะต้องมีคนดูแล จะมาฉายเดี่ยวแบบ solo travel มันไม่ได้ ผมก็คิดๆว่าจะเอาใครดี ผมเองก็เกรงใจถ้าพี่ชาย หรือ น้องสาวต้องลางาน สุดท้ายพี่ชายบอกไม่มีปัญหามาเฝ้าคอยดูแลแถมต้องคอยยกคอมฟอร์ท 100 ไปเทและต้องล้างอีกซึ่งมันก็ไม่ใช่งานสะอาดเท่าไหร่อ่ะนะ

น้องสาวก็มารับวันที่กลับบ้าน พ่อก็คอยส่งข่าวให้กำลังใจ รวมถึงแม่ที่ซึ่งวันที่ผมกลับมาอยู่บ้านแล้ว แม่จะคอยขี่จักรยานเอาข้าวเอาน้ำมาส่ง มาล้างจาน รดน้ำต้นไม้ให้ทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพราะผมยังเดินไม่ได้

ผมจำได้ว่าวันแรกที่กลับบ้าน ตอนดึกผมจะไปเวฟน้ำเต้าหู้กิน ผมต้องไปนั่งกินหน้าไมโคเวฟเพราะถือมากินหน้าบ้านหน้าคอมไม่ได้ ถือยังไงล่ะ 2 มือต้องใช้ไม้เท้า อาบน้ำก็ต้องเขย่งดึ๊บๆ แถมต้องระวังลื่นเดี๋ยวหัวฟาดทีขึ้นอืดแน่ๆ ที่บ้านก็ถามว่าให้ไปนอนด้วยไหมแต่ผมชินกับชีวิตคนเดียวมา 5-6 ปีแล้วก็เลยบอกแค่นี้สบ๊าย!!

จนอีกวันผมเกิดไอเดียคือผมใช้เก้าอี้ทำงานร่อนไปทั่วบ้านแทนการใช้ไม้เท้า เรียกว่ามันคือวีลแชร์ DIY ผมร่อนด้วยเก้าอี้อยู่ 2 อาทิตย์จนพอเดินได้ (แต่เดินแบบลากขา) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หมอนัดไปตัดไหมก่อนให้ผมเริ่มหาฟิตเนสแถวบ้านปั่นจักรยานเพื่อสร้างกล้ามเนื้อทันที หมอบอกผมฟื้นไว บางคนเดือนนึงยังใช้ไม้เท้าอยู่เลย

นอกจากพ่อแม่พี่น้องแล้ว คนที่เข้ามาในชีวิตอีกคนเป็น “นางฟ้า” ที่บังเอิญได้เห็นรูปการผ่าตัดผ่าน story ใน IG จนทักมาถามไถ่ว่าไปโดนตัวไหนมา ทั้งๆที่ก็รู้จักกันมา 10 ปีไม่เคยคุยเป็นเรื่องเป็นราวผ่านช่องทางใดๆ

มานั่งนึกๆดูถ้าผมไม่เจ็บไม่ผ่าตัด ยังไงก็ไม่มีวันได้คุยกันหรือได้พบเจอ เพราะมันไม่มีเหตุอะไรให้เรา 2 คนพี่น้องต้องมาคุยกัน ด้วยความที่เคมีเข้ากันผมจึงได้รับ “กำลังใจ” มาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ร่วม 10 เดือนแล้ว

จากกำลังใจที่ได้ผ่านการ chat เกือบทุกวัน ทำให้ปี 2019 ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นที่น่าเบื่อน่าเศร้าที่สุดกลายเป็นปีที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนติดจรวด

การได้รู้ความเป็นไปของชีวิตคนๆนึง ได้เห็นมุมมองต่างๆ ได้ไปผจญภัยท่องเที่ยวในที่ๆเราไม่เคยไปและได้ลองทำอะไรใหม่ๆโดยทีชีวิตนี้ไม่เคยได้ทำล้วนแล้วมาจากความชอบที่เหมือนๆกัน

ทัศนะคติการใช้ชีวิตของผมหลัง ผ่าตัด เปลี่ยนไป ผมรู้สึกว่าการที่คนเราเดินเหินไปไหนมาไหนได้ ไม่เจ็บไม่ป่วยมันคือที่สุดของแจ้แล้ว

การไม่เป็นภาระคนรอบข้าง สามารถทำอะไรเองได้ มันคือสิ่งที่สุดวิเศษจริงๆ การที่เราไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่นมันหมายถึงเราจะมีปัญหากับชีวิตน้อยลง คนเกลียดเอยศัตรูเอยก็จะไม่เพิ่มไปมากกว่าเดิม มีเวลาได้ทำอะไรกับตัวเองมากขึ้น มันคือความสุขที่ผมไม่รู้จะอธิบายให้พวกคุณฟังยังไงดี

จากการไปหาหมออย่างต่อเนื่องจนหมอเลิกนัด (เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา) การกายภาพตามหมอสั่ง การปั่นจักรยานเกือบปี วันนี้ผมกลับมาเตะบอลได้แล้ว (แต่ยังปั่นจักรยาน ทำสคว้อดเพิ่มกล้ามเนื้อหัวเข่าเหมือนเดิม) อาจจะเล่นบอลหนักๆยังไม่ได้และต้องระวังเรื่องท่าต้องห้าม แต่ความรู้สึกเก่าๆหวนกลับมาอีกครั้ง ชีวิตที่ขาดฟุตบอลมันช่างแสนทรมานเหลือเกิน

ผมมานั่งคิดดูตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่า ”ดี” หรือ ”ไม่ดี” ได้นำพาเราไปยังอีกจุดนึงของชีวิต ราวกับว่าเราขีดเส้นแยกจากจุดเดิมออกมา ถ้าไม่เจ็บ...เส้นชีวิตผมน่าจะเดินไปอีกทาง ความคิดมุมมองอะไรหลายๆอย่างน่าจะย่ำอยู่กับที่

ทำให้ผมนึกถึงคำพูดท่อนหนึ่งในสุนทรพจน์ของ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ล่วงลับที่กล่าวไว้ในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเมื่อปี 2005 เอาไว้ว่า

“คุณไม่สามารถเชื่อมต่อจุดเหตุการณ์ด้วยการมองไปในอนาคตข้างหน้าได้ แต่สามารถเชื่อมต่อด้วยการมองย้อนกลับไปได้ และเมื่อคุณรู้เช่นนี้แล้ว คุณก็จะเชื่อมั่นว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จุดต่างๆเล่านี้จะสามารถเชื่อมต่อกันได้เองในอนาคต”

นั่นหมายความว่า นับจากนี้ถ้ามีเหตุการณ์แย่ๆอะไรเกิดขึ้นอีก มันอาจกำลังเป็นจุดเชื่อมต่อและนำพาชีวิตเราเดินทางไปพบเจอสิ่งดีๆในเส้นทางใหม่ หาใช่เรื่องเลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ร่ำไป

แด่ การผ่าตัด, พ่อแม่พี่น้อง และนางฟ้า...
 
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Thu Nov 14, 2019 00:09, ทั้งหมด 1 ครั้ง
194
0
หากโดน 330 เรื้อน จะถูกแบน
รักปัญคนเดียว24ชม. , popoing , MercQ , Eternal-M , ปราณบุปผา , twentyfourseven , จึ๊กกะดึ๋ย , NOONN , สมศรีหมีสดใส , Mr.Man1992 , PostRock , Radiant , -moialtisnak- , Mcsiri , CaptainMudryk , ByeBye , kitpokkrong , Badz , เชียร์ปืนจนเหี่ยว , EssentiaL , กระดกบอลข้ามหัว , termotee , tonowen , AZALODIN , rushrain , Amo3b4 , Elizx , NeEM , Doghell , สแมว , ArmY_United , CLASSI9C , itoonggy , SoupEliteTroop , SYNB , คนเหงา2018 , พ่อหมีย์ No.1 , ShutUpPlz , KIATTISAK , Riyah , CallMeLight , iceberg_of_highbury , สุดยอดครับทุกท่าน , JummaTaeng , Lolitas , LannaBoy , เช็ดครก , SoLife , ติ่งโล้น , benjiz , ichimaru41 , Mirt3838 , KR!T , Taker , Favorites , Ar_Ra_Earth , MyMario , น้า , nullspace , บ๊อกบ๊อกโบลท์ , Son Of Darkness , golf_gunner_69 , ศาสตราจารย์ , JuDaSOni , Lord Snow , Q-plint , OkP , jiroh , share , 1ดาบปราบ2 , dajan , P13T , tong100g , fromfee , MidFieldz- , Quantum13 , Boy_Thekop , Qseries1 , guwin , เกรียนเมพในตำนาน , DBeak , paruang , SlayerMetal , ApachE1892 , ด้วยรักและหื่นกาม , hellotommi , PGM , Reuter , haha2555 , GoT_KOt133 , Mr.Es , MichaelBuble , innocenceXXX , sukiojenny , acrylicz , NickValensi , JoOz , ReiNDeaR , chula chula , LOVEMISA , fallinz , Knight , Rockstars , Balast , PocketPC , MI4D , fbas , JameMiie , MiGrEaN , balezebub , ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ , Tire Kokans , bestengkub , @PHAROH@ , mQQ , Naiz , Gig , techmode69 , เมทัล , น้องหม่อน , Toffee Nut Latte , MattriiiX , tomae , Oattella , brrless , batihgoal , kALuMMa , holm_744 , fw_converse , Monster`Candy , sportmanu , Argetlam , froamps , Bushi , อ่านแล้วยิ้มด้วยนะ , Kagawa@7 , puslelee , FatX , pg-yuki , Surawutk , เธอที่รัก , MANGJUI16 , Zantos_Jr , zexel , เรียกกูว่าสิงห์ใหญ่ , chocolate14 , SamingBP , TiTiCaCa , number1_mourinho , gopkop , Hajikung , HellAngel , eatsleep , iTer , DickeY , FredRed , JSC1989 , Nainvar , sirarmania , elementmaster , Munez7 , l3al3yl3ull , yeneakrn , potdemo , DarthKaiser , mrT , DevilZa , SudsoiFC , Mr.White , e-ta-bar , Santa_Anna , batmad , หัวใจผัดกะเพรา , okey116 , Kris Pinto , APOSTROPHY , TheKopHero , jimthekop , I am LiverBirD , forlanaldo , Super Pippo-X , aiba , マイメロディ , Swordpig , chamni69 , vTheKop , Mandj , สมป่อง_za , Siyaknight , fear-seven , kasapa , Internet Boi , shinechenko , Pong Ji-Sung
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 41333
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:33
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
อ่านจบแล้ว

อ่านแค่สรุป
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: HANNI.NWJNS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 9458
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:36
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
เป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ท้อแท้ได้เลยคับ WM
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 4882
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:38
ถูกแบนแล้ว
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
ได้สกิลพุ่งล้มมาจากใครครับ หยอกๆ หายดีก็ดีใจด้วยครัช
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 7081
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:44
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
อ้างอิงจาก:
- ผมตัดสินใจเลือกนั่งรถไฟไปลพบุรีจนได้เพื่อนสาวฝรั่งที่นอนอยู่ในโบราณสถาน แล้ววานให้ผมช่วยถ่ายรูปให้ ก่อนคุยกันอยู่พักนึงจนรู้ว่าเป็นคนอาร์เจนฯ ไปทำงานที่อังกฤษ เป็นครูสอนเต้น แล้วบังเอิ๊ญเกิดปีเดียวกันกับผมซะอีก ก็เลย keep connection กันมา  


เชื่อว่าคนส่วนใหญ่อ่านถึงจุดนี้แล้วอยากรู้เรื่องแล้วต่อไป

Spoil
ถกเกงรอแล้ว  
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เลิกคิดไปเองเถอะ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: 21.30 - 04.00
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Nov 2006
ตอบ: 11132
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:45
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
สุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง วันทุกวันจะกลายเป็นวันที่ดี เมื่อเทียบกับตอนป่วย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
โค้ช T-License
Status: i believe in destiny
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 13973
ที่อยู่: Anfield Road
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:46
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
พูดถึงเรื่องนี้ ผมก็มีปัญหาเหมือนกันที่หัวเข่า ผมไปช่วยตากับยายเก็บมะปราง ใส่ตะกร้าแบกจากในสวนไปใว้หน้าบ้านคนเดียว ทั้งหมดตันครึ่ง

แล้วหัวเข่าผมก็เดี้ยงเลย อาการมันแบบถ้ายืนปกติไม่มีปัญหา แต่ถ้ายกเข่าจะเดินปุ๊ปมันจะเสียวแปร๊บตรงหัวเข่าเลย เป็นอยู่ประมาน 2 อาทิตได้ กว่าจะเริ่มเบา แต่ก็ไม่ไปหาหมอนะ ทายาเอา ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ถ้าไปยกของหนักๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Mr.Man1992 เมื่อ Wed Nov 13, 2019 21:47, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2298
ที่อยู่: Bangkok Metropolis
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:49
ถูกแบนแล้ว
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]

”ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” สุภาษิตนี้คงใช้ได้ดีในสังคมปัจจุบัน เพราะความเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บของคนไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น ใครที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บถามหา จึงถือว่าเป็นคนที่โชคดีที่สุด นับเป็นคนที่มีสุขภาพดีและแข็งแรง สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: เงียบไมละหนู
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 15815
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:51
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
เอ้ออ เขียนดีอ่านเพลินครับ

คิดถึงชีวิตช่วงเด็กๆที่ได้ไปเตะบอลกับเพื่อนมากๆเหมือนกัน

ตอนนี้ไม่เอื้อทั้งร่างกายและเวลา
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Jul 2008
ตอบ: 9371
ที่อยู่: Sir Matt Busby Way, Old Trafford, Manchester, M16 0RA
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:57
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
อ่านมาทั้งหมด น่ากลัวกว่าผ่าเข่าคือสวนฉี่นี่แหละ


1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Aug 2008
ตอบ: 1090
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:57
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
ตอนนั้นจำได้คุณมาถามไว้ในนี้
ผมตอบไปว่า ( สงสัย ) เอ็นไขว้ ขาดแน่ๆ
ดีใจที่คุณหายดี
(ผ่านการผ่าจาก อ.ชนินทร์ เหมือนกันครับ )
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 41333
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 22:02
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
ดาร์เรน เฟรชเชอร์ พิมพ์ว่า:
อ่านมาทั้งหมด น่ากลัวกว่าผ่าเข่าคือสวนฉี่นี่แหละ


 

อันนี้จริง ผมโคตรกลัว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Jul 2010
ตอบ: 2592
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 22:07
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ

ขอให้โชคดี กับความรักนะคร้าบ
แก้ไขล่าสุดโดย SoupEliteTroop เมื่อ Wed Nov 13, 2019 22:10, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Sep 2008
ตอบ: 6389
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 22:08
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
ผมรู้นะว่านางฟ้าที่พี่เอ่ย คือใคร ผมรู้ของผมเองนะจากการสังเกตุเพราะผมเป็นเฟรนด์เฟสน้องเค้าอยู่
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 1093
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 22:10
[RE: WM ... วันนี้(และเวลานี้) เมื่อ 2 ปีที่แล้ว]
โอ้โห อ่านจบแล้วชอบมากเลยครับ อ่านเพลิน รวมถึงได้แง่มุมดีๆด้วยครับ

ขอให้สุขภาพแข็งแรง ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel