ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 24846
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2019 22:29
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ทำบุญมี 3 วิธีครับ คือ
1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา

ตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญตักบาตรเท่าไร แต่ผมเน้นถือศีล 5 ซึ่งมันได้บุญเหมือนกัน
แต่เมื่อพ่อแม่ผมให้ทำบุญตักบาตร ใส่ซองผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ผมก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะหวังได้บุญ แต่ทำเพื่อให้พ่อแม่สบายใจครับ

และที่ทำบุญผมไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์ แต่หวังนิพพาน

ผมจะบอกท่านว่าอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่สบายใจทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่ได้ลำบากอะไรมาก เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน

ตอบโคตรหล่อสึดๆ

ป.ล.ที่พ่อแม่อยากให้เราทำบุญ เพราะเป็นห่วงเรานั่นแหละอยากให้มีบุญกุศลติดตัวเรา มีชีวตที่ดี เจริญก้าวหน้า  



ถือศีล ๕ นี่มันตอไม้ครับ เสมอตัว ไม่ได้ทำอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าจะบอกว่าถือศีล ๕ แล้วหวังนิพพานนี่ อันนี้คงยาก นอกจากจะทำบุญด้วยการภาวนา  

ขอโทษครับที่ผมพูดไม่เคลียร์
ที่ผมเข้าใจคือ การถือศีล 5 เป็นพื้นฐานในการไปสู่นิพพานครับ เป็นปัจจัยหนึ่งไปสู่นิพพาน
ความตั้งใจจริงๆของผม คือ เป็นพระโสดาบันในชาตินี้ และถึงนิพพานในอนาคตครับ
ตามที่ผมเข้าใจ คือ ละสังโยช 3 ให้ได้ โดยมีศีล 5 เป็นพื้นฐานครับ  
 


อนุโมทนาในความตั้งใจครับ
ท่านภาวนาอย่างไรเพื่อให้ละสังโยชน์ ๓ ได้ครับ ?  

ผมไม่ได้ภาวนาเลยครับ ถือศีล 5 อย่างเดียว

วิธีละสังโยชน์ 3 ที่ผมเข้าใจ คือ
1.ภาวนาให้จิตเข้าถึงไตรลักษณ์
2.ศรัทธาพระรัตนตรัย
3.ถือศีลให้บริสุทธิ์

ผมขอถามท่านกลับ เรื่องวิธีปฏิบัติเพื่อละสังโยชน์ 3 เพื่อเป็นพระโสดาบันครับ ผมอยากรู้วิธีปฏิบัติแบบ 1 2 3 4 ... ต้องทำยังไงบ้างครับ หรือท่านใดรู้ช่วยตอบด้วยครับ  
 


ตั้งใจดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ต้องตั้งใจศึกษาแนวทางมากกว่านี้หน่อยครับ
คำตอบ ก็อยู่ในสิ่งที่ท่านเขียนมาแล้วไงครับ ท่านไม่ได้ภาวนาเลย แต่แนวทางที่ท่านทราบคือต้องภาวนา แล้วมันจะไปละสังโยชน์ได้ไงอะครับถ้าไม่ภาวนา ผมล่ะงงใจ
 

ต้องทำยังไงครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ต้องวิปัสนากรรมฐาน สมถะกรรมฐาน ถือศีล 5 หรืออะไรยังไง ผมอยากรู้จริงๆ เอาเป็นแบบ ต้องทำยังไงข้อ 1 2 3 4
ผมยังศึกษาไม่มากพอจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2019 22:52
ถูกแบนแล้ว
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ทำบุญมี 3 วิธีครับ คือ
1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา

ตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญตักบาตรเท่าไร แต่ผมเน้นถือศีล 5 ซึ่งมันได้บุญเหมือนกัน
แต่เมื่อพ่อแม่ผมให้ทำบุญตักบาตร ใส่ซองผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ผมก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะหวังได้บุญ แต่ทำเพื่อให้พ่อแม่สบายใจครับ

และที่ทำบุญผมไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์ แต่หวังนิพพาน

ผมจะบอกท่านว่าอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่สบายใจทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่ได้ลำบากอะไรมาก เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน

ตอบโคตรหล่อสึดๆ

ป.ล.ที่พ่อแม่อยากให้เราทำบุญ เพราะเป็นห่วงเรานั่นแหละอยากให้มีบุญกุศลติดตัวเรา มีชีวตที่ดี เจริญก้าวหน้า  



ถือศีล ๕ นี่มันตอไม้ครับ เสมอตัว ไม่ได้ทำอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าจะบอกว่าถือศีล ๕ แล้วหวังนิพพานนี่ อันนี้คงยาก นอกจากจะทำบุญด้วยการภาวนา  

ขอโทษครับที่ผมพูดไม่เคลียร์
ที่ผมเข้าใจคือ การถือศีล 5 เป็นพื้นฐานในการไปสู่นิพพานครับ เป็นปัจจัยหนึ่งไปสู่นิพพาน
ความตั้งใจจริงๆของผม คือ เป็นพระโสดาบันในชาตินี้ และถึงนิพพานในอนาคตครับ
ตามที่ผมเข้าใจ คือ ละสังโยช 3 ให้ได้ โดยมีศีล 5 เป็นพื้นฐานครับ  
 


อนุโมทนาในความตั้งใจครับ
ท่านภาวนาอย่างไรเพื่อให้ละสังโยชน์ ๓ ได้ครับ ?  

ผมไม่ได้ภาวนาเลยครับ ถือศีล 5 อย่างเดียว

วิธีละสังโยชน์ 3 ที่ผมเข้าใจ คือ
1.ภาวนาให้จิตเข้าถึงไตรลักษณ์
2.ศรัทธาพระรัตนตรัย
3.ถือศีลให้บริสุทธิ์

ผมขอถามท่านกลับ เรื่องวิธีปฏิบัติเพื่อละสังโยชน์ 3 เพื่อเป็นพระโสดาบันครับ ผมอยากรู้วิธีปฏิบัติแบบ 1 2 3 4 ... ต้องทำยังไงบ้างครับ หรือท่านใดรู้ช่วยตอบด้วยครับ  
 


ตั้งใจดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ต้องตั้งใจศึกษาแนวทางมากกว่านี้หน่อยครับ
คำตอบ ก็อยู่ในสิ่งที่ท่านเขียนมาแล้วไงครับ ท่านไม่ได้ภาวนาเลย แต่แนวทางที่ท่านทราบคือต้องภาวนา แล้วมันจะไปละสังโยชน์ได้ไงอะครับถ้าไม่ภาวนา ผมล่ะงงใจ
 

ต้องทำยังไงครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ต้องวิปัสนากรรมฐาน สมถะกรรมฐาน ถือศีล 5 หรืออะไรยังไง ผมอยากรู้จริงๆ เอาเป็นแบบ ต้องทำยังไงข้อ 1 2 3 4
ผมยังศึกษาไม่มากพอจริงๆ  
 


จริงๆแล้ว ข้อ 2 กับ 3 คนทั่วไปที่ยังละสังโยชน์ไม่ได้ ทำไม่ได้ 100% หรอกครับ ต่อให้บอกว่ากูศรัทธาศาสนาพุทธขนาดไหน มันต้องมีความเคลือบแคลงในใจอยู่สัก 1-2% ไหนจะเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ต่างๆมากมาย แต่ดันไปอยู่ในพระไตรปิฎก ยิ่งถือศีลให้บริสุทธิ์นี่ คนเราพร้อมจะผิดศีลได้ทุกเมื่อถ้าจวนตัว ต้องละสังโยชน์ได้ ถึงจะถึงขั้นที่เรียกว่า ยอมตาย หรือยอมชีวิตพัง ดีกว่าผิดศีล

สำหรับคนเพิ่งหัด ลืมคำว่าวิปัสสนาไปเลยครับ ไปทำสมาธิให้ได้ก่อน (ซึ่งแม่งยากมากๆ สำหรับคนที่ชาติก่อนทำมาเยอะอาจจะง่าย แต่ก็ไม่ง่าย ต้องอาศัยความต่อเนื่องแบบไม่กดดันแต่กัดไม่ปล่อย ผมเองก็ยังทำไม่ได้ แต่เห็นความก้าวหน้าในการทำสมาธิ เจอสภาวะบางอย่าง ที่พอไปเปรียบเทียบกับคนทำได้ เขาก็ผ่านสภาวะแบบเดียวกันมา ก็มีกำลังใจทำต่อ)

ส่วนถ้าใครมาชวนไปวิปัสสนากรรมฐาน แล้วคุณไปกับเขา ก็ บ๊ายบายครับ ตัวใครตัวมัน
แก้ไขล่าสุดโดย armeros เมื่อ Thu Oct 24, 2019 22:54, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Dec 2009
ตอบ: 644
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2019 23:27
การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ทำบุญมี 3 วิธีครับ คือ
1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา

ตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญตักบาตรเท่าไร แต่ผมเน้นถือศีล 5 ซึ่งมันได้บุญเหมือนกัน
แต่เมื่อพ่อแม่ผมให้ทำบุญตักบาตร ใส่ซองผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ผมก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะหวังได้บุญ แต่ทำเพื่อให้พ่อแม่สบายใจครับ

และที่ทำบุญผมไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์ แต่หวังนิพพาน

ผมจะบอกท่านว่าอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่สบายใจทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่ได้ลำบากอะไรมาก เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน

ตอบโคตรหล่อสึดๆ

ป.ล.ที่พ่อแม่อยากให้เราทำบุญ เพราะเป็นห่วงเรานั่นแหละอยากให้มีบุญกุศลติดตัวเรา มีชีวตที่ดี เจริญก้าวหน้า  



ถือศีล ๕ นี่มันตอไม้ครับ เสมอตัว ไม่ได้ทำอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าจะบอกว่าถือศีล ๕ แล้วหวังนิพพานนี่ อันนี้คงยาก นอกจากจะทำบุญด้วยการภาวนา  

ขอโทษครับที่ผมพูดไม่เคลียร์
ที่ผมเข้าใจคือ การถือศีล 5 เป็นพื้นฐานในการไปสู่นิพพานครับ เป็นปัจจัยหนึ่งไปสู่นิพพาน
ความตั้งใจจริงๆของผม คือ เป็นพระโสดาบันในชาตินี้ และถึงนิพพานในอนาคตครับ
ตามที่ผมเข้าใจ คือ ละสังโยช 3 ให้ได้ โดยมีศีล 5 เป็นพื้นฐานครับ  
 


อนุโมทนาในความตั้งใจครับ
ท่านภาวนาอย่างไรเพื่อให้ละสังโยชน์ ๓ ได้ครับ ?  

ผมไม่ได้ภาวนาเลยครับ ถือศีล 5 อย่างเดียว

วิธีละสังโยชน์ 3 ที่ผมเข้าใจ คือ
1.ภาวนาให้จิตเข้าถึงไตรลักษณ์
2.ศรัทธาพระรัตนตรัย
3.ถือศีลให้บริสุทธิ์

ผมขอถามท่านกลับ เรื่องวิธีปฏิบัติเพื่อละสังโยชน์ 3 เพื่อเป็นพระโสดาบันครับ ผมอยากรู้วิธีปฏิบัติแบบ 1 2 3 4 ... ต้องทำยังไงบ้างครับ หรือท่านใดรู้ช่วยตอบด้วยครับ  
 


ตั้งใจดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ต้องตั้งใจศึกษาแนวทางมากกว่านี้หน่อยครับ
คำตอบ ก็อยู่ในสิ่งที่ท่านเขียนมาแล้วไงครับ ท่านไม่ได้ภาวนาเลย แต่แนวทางที่ท่านทราบคือต้องภาวนา แล้วมันจะไปละสังโยชน์ได้ไงอะครับถ้าไม่ภาวนา ผมล่ะงงใจ
 

ต้องทำยังไงครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ต้องวิปัสนากรรมฐาน สมถะกรรมฐาน ถือศีล 5 หรืออะไรยังไง ผมอยากรู้จริงๆ เอาเป็นแบบ ต้องทำยังไงข้อ 1 2 3 4
ผมยังศึกษาไม่มากพอจริงๆ  


สังโยชน์ 10 แค่จบ สักกายทิฏฐิ ตัวเดียวก็พอ แล้วครับ มันคือความเห็นเป็นตัวเป็นตนในสิ่งต่างๆ หรือเรียกว่าหลงรู้ก็ได้ครับ เราเห็นเป็นอะไรต่างๆเพราะเราไปให้ค่าความหมายกับสิ่งนั้นเอง สมมุติเราเรียกสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าส้ม แต่คนอื่นเรียกมันมะนาว สรุปไม่มีใครเรียกถูกหรือผิด เพราะแต่ละคนให้ค่าความเห็นความหมายในสิ่งนั้นแตกต่างกัน มันสมมุติอุปโลกขึ้นมาใช้เฉยๆ ดั้งเดิมแท้มันไม่มีชื่อหรือค่าอะไรตั้งแต่แรก เป็นแค่ธาตุธรรมต่างๆตามธรรมชาติ เราหลงให้ค่าตีความกันเอง

แล้วถามว่างั้นเงินก็ไม่ต้องใช้เลยดิ เอาไปแจกให้หมด

อันนี้ไว้อุปโลกสมมุติไว้ใช้มีได้ ไม่ได้ไปหลงยึดติดหรือจริงจังกับมัน มีแบบพอดีๆ

แล้ว ที่บอกให้ ฝึกสติ สมาธิ ปฏิบัติธรรมล่ะ

ถามว่าเอาอะไรไปฝึก เมื่อมันไม่ใช่อะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรกแค่ธาตุธรรมอุปโลก ที่ทำๆกันอยู่เรียกว่า อัตตาซ้อนธรรม หรือการหลงเอาตัวไปปฏิบัติ ไม่ต้องฝึกก็มีกันอยู่แล้วทุกคน
การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนก็เป็นการปฏิบัติธรรมในตัวอยู่แล้ว ยืน เดิน นั่ง นอน ยืน เคลื่อนไหวต่างไป ก็มีสติ สมาธิ ปัญญาแบบพอดีๆ ไว้เหมาะสมกับงานนั้นๆ

ท่านไม่ได้มาสอนให้เราทำเอานะครับ ท่านสอนให้ปลงให้วางของมันเอง ไม่ต้องเอาตัวไปซ้อนทำ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีแค่ชั่วคราว ถึงจุดหนึ่งมันก็เปลี่ยนแปลงของมันเองอยู่แล้วตามธรรมชาติ

จะไปปฏิบัติให้เป็นโสดาบันนี่เรียกหลงนะครับ ไม่มีใครเป็นอะไรได้จริงหรอกครับ
อริยะก็แค่ชื่อเรียกสมมุติเฉยๆ ไม่ได้มีค่าความหมายเป็นจริงจังเหมือนอย่างโลกๆเค้ากล่าวไว้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
1
หากโดน 39 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: Südtirol ist nicht Italien
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 12224
ที่อยู่: Constantinople Byzantine
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2019 23:28
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
มีคนเชื่อว่า คนที่ไม่มีศาสนาหมายความว่าไม่มีไรยึดเหนี่ยว แต่ก็ไม่จริงเสมอไปครับ เอสโตเนีย หรือเช็ค ที่คนไม่ค่อยนับถือศาสนาอาชญากรรมต่ำมากนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
SjF3vD.gif
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: 2 สุดยอดมิดฟิลด์แห่งยุค
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Oct 2008
ตอบ: 17202
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 24, 2019 23:32
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
ไปทำบุญเพื่อขอพร หวังสิ่งตอบแทนกลับมากันซะมากกว่า 99% สำหรับผมไม่อยากเรียกว่าทำบุญอะ แต่ขอทำความดีช่วยเหลือคนเดือดร้อนจริงๆ ไม่หวังผลตอบแทนกลับมาดีกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Dec 2007
ตอบ: 1086
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 00:16
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
ผมชอบบริจาคกับ รพ./โลงศพครับ
เพราะคิดว่าศพไร้ญาติเขาไม่มีที่พึ่งพิงแล้ววาระสุดท้าย จากที่เคยไปเก็บศพเป็นอาสาสมัคร
แล้วก็รพ.เพราะเห็นว่าคนป่วย รพ.ขาดแคลนสวนทางกับวัด

การบริจาคมันก็ช่วยตัดกิเลสได้เหมือนไปทำบุญแหล่ะครับ
เวลาไปวัดก็เหมือนไปสารภาพบาปไปนั่งตรึกตรองว่าทำอะไรผิด เพราะอะไร นั่งสมาธิสนทนาธรรมฟังชาดกที่หลวงพ่อสอนครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Jul 2010
ตอบ: 3050
ที่อยู่: Germany
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 00:47
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
ไม่ผิด ผมก็ไม่ไป ไปส่งใครต่อใครไปเที่ยวไปทำบุญก็อยู่นอกวัดรอ เสร็จแล้วโทรมาเรียก เดินหาไรกินแถวนั้น ไม่เข้าวัด ไม่ชอบ ไม่สนด้วยเรื่องปลงต่าง ๆ นานา ใครด่าก็ด่ามันกลับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 00:52
ถูกแบนแล้ว
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
bxdekza พิมพ์ว่า:
Spoil
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ทำบุญมี 3 วิธีครับ คือ
1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา

ตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญตักบาตรเท่าไร แต่ผมเน้นถือศีล 5 ซึ่งมันได้บุญเหมือนกัน
แต่เมื่อพ่อแม่ผมให้ทำบุญตักบาตร ใส่ซองผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ผมก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะหวังได้บุญ แต่ทำเพื่อให้พ่อแม่สบายใจครับ

และที่ทำบุญผมไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์ แต่หวังนิพพาน

ผมจะบอกท่านว่าอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่สบายใจทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่ได้ลำบากอะไรมาก เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน

ตอบโคตรหล่อสึดๆ

ป.ล.ที่พ่อแม่อยากให้เราทำบุญ เพราะเป็นห่วงเรานั่นแหละอยากให้มีบุญกุศลติดตัวเรา มีชีวตที่ดี เจริญก้าวหน้า  



ถือศีล ๕ นี่มันตอไม้ครับ เสมอตัว ไม่ได้ทำอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าจะบอกว่าถือศีล ๕ แล้วหวังนิพพานนี่ อันนี้คงยาก นอกจากจะทำบุญด้วยการภาวนา  

ขอโทษครับที่ผมพูดไม่เคลียร์
ที่ผมเข้าใจคือ การถือศีล 5 เป็นพื้นฐานในการไปสู่นิพพานครับ เป็นปัจจัยหนึ่งไปสู่นิพพาน
ความตั้งใจจริงๆของผม คือ เป็นพระโสดาบันในชาตินี้ และถึงนิพพานในอนาคตครับ
ตามที่ผมเข้าใจ คือ ละสังโยช 3 ให้ได้ โดยมีศีล 5 เป็นพื้นฐานครับ  
 


อนุโมทนาในความตั้งใจครับ
ท่านภาวนาอย่างไรเพื่อให้ละสังโยชน์ ๓ ได้ครับ ?  

ผมไม่ได้ภาวนาเลยครับ ถือศีล 5 อย่างเดียว

วิธีละสังโยชน์ 3 ที่ผมเข้าใจ คือ
1.ภาวนาให้จิตเข้าถึงไตรลักษณ์
2.ศรัทธาพระรัตนตรัย
3.ถือศีลให้บริสุทธิ์

ผมขอถามท่านกลับ เรื่องวิธีปฏิบัติเพื่อละสังโยชน์ 3 เพื่อเป็นพระโสดาบันครับ ผมอยากรู้วิธีปฏิบัติแบบ 1 2 3 4 ... ต้องทำยังไงบ้างครับ หรือท่านใดรู้ช่วยตอบด้วยครับ  
 


ตั้งใจดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ต้องตั้งใจศึกษาแนวทางมากกว่านี้หน่อยครับ
คำตอบ ก็อยู่ในสิ่งที่ท่านเขียนมาแล้วไงครับ ท่านไม่ได้ภาวนาเลย แต่แนวทางที่ท่านทราบคือต้องภาวนา แล้วมันจะไปละสังโยชน์ได้ไงอะครับถ้าไม่ภาวนา ผมล่ะงงใจ
 

ต้องทำยังไงครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ต้องวิปัสนากรรมฐาน สมถะกรรมฐาน ถือศีล 5 หรืออะไรยังไง ผมอยากรู้จริงๆ เอาเป็นแบบ ต้องทำยังไงข้อ 1 2 3 4
ผมยังศึกษาไม่มากพอจริงๆ  


สังโยชน์ 10 แค่จบ สักกายทิฏฐิ ตัวเดียวก็พอ แล้วครับ มันคือความเห็นเป็นตัวเป็นตนในสิ่งต่างๆ หรือเรียกว่าหลงรู้ก็ได้ครับ เราเห็นเป็นอะไรต่างๆเพราะเราไปให้ค่าความหมายกับสิ่งนั้นเอง สมมุติเราเรียกสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าส้ม แต่คนอื่นเรียกมันมะนาว สรุปไม่มีใครเรียกถูกหรือผิด เพราะแต่ละคนให้ค่าความเห็นความหมายในสิ่งนั้นแตกต่างกัน มันสมมุติอุปโลกขึ้นมาใช้เฉยๆ ดั้งเดิมแท้มันไม่มีชื่อหรือค่าอะไรตั้งแต่แรก เป็นแค่ธาตุธรรมต่างๆตามธรรมชาติ เราหลงให้ค่าตีความกันเอง

แล้วถามว่างั้นเงินก็ไม่ต้องใช้เลยดิ เอาไปแจกให้หมด

อันนี้ไว้อุปโลกสมมุติไว้ใช้มีได้ ไม่ได้ไปหลงยึดติดหรือจริงจังกับมัน มีแบบพอดีๆ

แล้ว ที่บอกให้ ฝึกสติ สมาธิ ปฏิบัติธรรมล่ะ

ถามว่าเอาอะไรไปฝึก เมื่อมันไม่ใช่อะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรกแค่ธาตุธรรมอุปโลก ที่ทำๆกันอยู่เรียกว่า อัตตาซ้อนธรรม หรือการหลงเอาตัวไปปฏิบัติ ไม่ต้องฝึกก็มีกันอยู่แล้วทุกคน
การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนก็เป็นการปฏิบัติธรรมในตัวอยู่แล้ว ยืน เดิน นั่ง นอน ยืน เคลื่อนไหวต่างไป ก็มีสติ สมาธิ ปัญญาแบบพอดีๆ ไว้เหมาะสมกับงานนั้นๆ

ท่านไม่ได้มาสอนให้เราทำเอานะครับ ท่านสอนให้ปลงให้วางของมันเอง ไม่ต้องเอาตัวไปซ้อนทำ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีแค่ชั่วคราว ถึงจุดหนึ่งมันก็เปลี่ยนแปลงของมันเองอยู่แล้วตามธรรมชาติ

จะไปปฏิบัติให้เป็นโสดาบันนี่เรียกหลงนะครับ ไม่มีใครเป็นอะไรได้จริงหรอกครับ
อริยะก็แค่ชื่อเรียกสมมุติเฉยๆ ไม่ได้มีค่าความหมายเป็นจริงจังเหมือนอย่างโลกๆเค้ากล่าวไว้  
 


พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง แต่การปล่อยวางมันมีวิธีการของมัน ไม่ใช่แค่คิดๆนึกๆเอาก็ปล่อยวาง ไอ้แบบนั้นเห็นเยอะแยะเลย พวกคนบ้าตามถนนไง มันปล่อยวางหมด มันไม่ยึดติดใดๆเลย

อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
 
 


ถ้าท่านจะไปแนวทางนี้ผมก็ไม่ขัดครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 24846
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 01:01
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
armeros พิมพ์ว่า:
bxdekza พิมพ์ว่า:
Spoil
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ทำบุญมี 3 วิธีครับ คือ
1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา

ตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญตักบาตรเท่าไร แต่ผมเน้นถือศีล 5 ซึ่งมันได้บุญเหมือนกัน
แต่เมื่อพ่อแม่ผมให้ทำบุญตักบาตร ใส่ซองผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ผมก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะหวังได้บุญ แต่ทำเพื่อให้พ่อแม่สบายใจครับ

และที่ทำบุญผมไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์ แต่หวังนิพพาน

ผมจะบอกท่านว่าอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่สบายใจทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่ได้ลำบากอะไรมาก เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน

ตอบโคตรหล่อสึดๆ

ป.ล.ที่พ่อแม่อยากให้เราทำบุญ เพราะเป็นห่วงเรานั่นแหละอยากให้มีบุญกุศลติดตัวเรา มีชีวตที่ดี เจริญก้าวหน้า  



ถือศีล ๕ นี่มันตอไม้ครับ เสมอตัว ไม่ได้ทำอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าจะบอกว่าถือศีล ๕ แล้วหวังนิพพานนี่ อันนี้คงยาก นอกจากจะทำบุญด้วยการภาวนา  

ขอโทษครับที่ผมพูดไม่เคลียร์
ที่ผมเข้าใจคือ การถือศีล 5 เป็นพื้นฐานในการไปสู่นิพพานครับ เป็นปัจจัยหนึ่งไปสู่นิพพาน
ความตั้งใจจริงๆของผม คือ เป็นพระโสดาบันในชาตินี้ และถึงนิพพานในอนาคตครับ
ตามที่ผมเข้าใจ คือ ละสังโยช 3 ให้ได้ โดยมีศีล 5 เป็นพื้นฐานครับ  
 


อนุโมทนาในความตั้งใจครับ
ท่านภาวนาอย่างไรเพื่อให้ละสังโยชน์ ๓ ได้ครับ ?  

ผมไม่ได้ภาวนาเลยครับ ถือศีล 5 อย่างเดียว

วิธีละสังโยชน์ 3 ที่ผมเข้าใจ คือ
1.ภาวนาให้จิตเข้าถึงไตรลักษณ์
2.ศรัทธาพระรัตนตรัย
3.ถือศีลให้บริสุทธิ์

ผมขอถามท่านกลับ เรื่องวิธีปฏิบัติเพื่อละสังโยชน์ 3 เพื่อเป็นพระโสดาบันครับ ผมอยากรู้วิธีปฏิบัติแบบ 1 2 3 4 ... ต้องทำยังไงบ้างครับ หรือท่านใดรู้ช่วยตอบด้วยครับ  
 


ตั้งใจดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ต้องตั้งใจศึกษาแนวทางมากกว่านี้หน่อยครับ
คำตอบ ก็อยู่ในสิ่งที่ท่านเขียนมาแล้วไงครับ ท่านไม่ได้ภาวนาเลย แต่แนวทางที่ท่านทราบคือต้องภาวนา แล้วมันจะไปละสังโยชน์ได้ไงอะครับถ้าไม่ภาวนา ผมล่ะงงใจ
 

ต้องทำยังไงครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ต้องวิปัสนากรรมฐาน สมถะกรรมฐาน ถือศีล 5 หรืออะไรยังไง ผมอยากรู้จริงๆ เอาเป็นแบบ ต้องทำยังไงข้อ 1 2 3 4
ผมยังศึกษาไม่มากพอจริงๆ  


สังโยชน์ 10 แค่จบ สักกายทิฏฐิ ตัวเดียวก็พอ แล้วครับ มันคือความเห็นเป็นตัวเป็นตนในสิ่งต่างๆ หรือเรียกว่าหลงรู้ก็ได้ครับ เราเห็นเป็นอะไรต่างๆเพราะเราไปให้ค่าความหมายกับสิ่งนั้นเอง สมมุติเราเรียกสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าส้ม แต่คนอื่นเรียกมันมะนาว สรุปไม่มีใครเรียกถูกหรือผิด เพราะแต่ละคนให้ค่าความเห็นความหมายในสิ่งนั้นแตกต่างกัน มันสมมุติอุปโลกขึ้นมาใช้เฉยๆ ดั้งเดิมแท้มันไม่มีชื่อหรือค่าอะไรตั้งแต่แรก เป็นแค่ธาตุธรรมต่างๆตามธรรมชาติ เราหลงให้ค่าตีความกันเอง

แล้วถามว่างั้นเงินก็ไม่ต้องใช้เลยดิ เอาไปแจกให้หมด

อันนี้ไว้อุปโลกสมมุติไว้ใช้มีได้ ไม่ได้ไปหลงยึดติดหรือจริงจังกับมัน มีแบบพอดีๆ

แล้ว ที่บอกให้ ฝึกสติ สมาธิ ปฏิบัติธรรมล่ะ

ถามว่าเอาอะไรไปฝึก เมื่อมันไม่ใช่อะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรกแค่ธาตุธรรมอุปโลก ที่ทำๆกันอยู่เรียกว่า อัตตาซ้อนธรรม หรือการหลงเอาตัวไปปฏิบัติ ไม่ต้องฝึกก็มีกันอยู่แล้วทุกคน
การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนก็เป็นการปฏิบัติธรรมในตัวอยู่แล้ว ยืน เดิน นั่ง นอน ยืน เคลื่อนไหวต่างไป ก็มีสติ สมาธิ ปัญญาแบบพอดีๆ ไว้เหมาะสมกับงานนั้นๆ

ท่านไม่ได้มาสอนให้เราทำเอานะครับ ท่านสอนให้ปลงให้วางของมันเอง ไม่ต้องเอาตัวไปซ้อนทำ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีแค่ชั่วคราว ถึงจุดหนึ่งมันก็เปลี่ยนแปลงของมันเองอยู่แล้วตามธรรมชาติ

จะไปปฏิบัติให้เป็นโสดาบันนี่เรียกหลงนะครับ ไม่มีใครเป็นอะไรได้จริงหรอกครับ
อริยะก็แค่ชื่อเรียกสมมุติเฉยๆ ไม่ได้มีค่าความหมายเป็นจริงจังเหมือนอย่างโลกๆเค้ากล่าวไว้  
 


พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง แต่การปล่อยวางมันมีวิธีการของมัน ไม่ใช่แค่คิดๆนึกๆเอาก็ปล่อยวาง ไอ้แบบนั้นเห็นเยอะแยะเลย พวกคนบ้าตามถนนไง มันปล่อยวางหมด มันไม่ยึดติดใดๆเลย

อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
Spoil
 
 


ถ้าท่านจะไปแนวทางนี้ผมก็ไม่ขัดครับ  

ไม่ไปครับ ไปทางเดิมนี่แหละ
จะไปศึกษาสมถะกรรมฐาน อานาปานสติเพิ่มก่อน แล้วค่อยๆฝึกปฏิบัติไป
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Sep 2009
ตอบ: 6712
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 05:02
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
ผมก็ไปไม่อ่ะวัด ไม่ทำบุญด้วย ไม่บวช ไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ทุกวันนี้ไม่ทำผิดต่อคนอื่น ไม่ทำใครเดือดร้อน ก็พอแล้ว ไม่ได้หวังได้บุญหรือกลัวบาปไรเลย เพราะสิ่งดีๆที่มำมันเป็นพื่นฐานของมนุษย์ที่ต้องทำให้กันอ่ะ แค่นั้นเอง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ARSENAL

ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 3236
ที่อยู่: Somewhere
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 07:32
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
คนรอบตัว หาที่ความคิดเหมือนๆเราครับ

ถ้าเลือกไม่ได้ ก็อย่าไปสนใจขี้ปากเขา ก็แค่นั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
.
~ OLD ENGLISH MASTIFF ~
.
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Dec 2009
ตอบ: 2616
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 08:36
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
tk13ozth พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ทำบุญมี 3 วิธีครับ คือ
1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา

ตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญตักบาตรเท่าไร แต่ผมเน้นถือศีล 5 ซึ่งมันได้บุญเหมือนกัน
แต่เมื่อพ่อแม่ผมให้ทำบุญตักบาตร ใส่ซองผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ผมก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะหวังได้บุญ แต่ทำเพื่อให้พ่อแม่สบายใจครับ

และที่ทำบุญผมไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์ แต่หวังนิพพาน

ผมจะบอกท่านว่าอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่สบายใจทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่ได้ลำบากอะไรมาก เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน

ตอบโคตรหล่อสึดๆ

ป.ล.ที่พ่อแม่อยากให้เราทำบุญ เพราะเป็นห่วงเรานั่นแหละอยากให้มีบุญกุศลติดตัวเรา มีชีวตที่ดี เจริญก้าวหน้า  

10 วิธีหรือเปล่าพี่ทิด ที่เขาเรียกว่า บุญกริยาวัตถุ10 ประการ
ข้อแรกเลย ง่ายสุด ไม่ยุ่งยากเหมาะกับคนไทยคือการให้ทาน นอกจากนั้นจะยากขึ้นมาหน่อย คนเลยไม่นิยมทำ  


บุญกิริยาวัตถุ10 ย่นแล้วได้3ประการ ถูกแล้วครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Dec 2009
ตอบ: 2616
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 08:48
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
armeros พิมพ์ว่า:
อาร์ท ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ทำบุญมี 3 วิธีครับ คือ
1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา

ตัวผมเองไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญตักบาตรเท่าไร แต่ผมเน้นถือศีล 5 ซึ่งมันได้บุญเหมือนกัน
แต่เมื่อพ่อแม่ผมให้ทำบุญตักบาตร ใส่ซองผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิตร ผมก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะหวังได้บุญ แต่ทำเพื่อให้พ่อแม่สบายใจครับ

และที่ทำบุญผมไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์ แต่หวังนิพพาน

ผมจะบอกท่านว่าอะไรที่ทำแล้วพ่อแม่สบายใจทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่ได้ลำบากอะไรมาก เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน

ตอบโคตรหล่อสึดๆ

ป.ล.ที่พ่อแม่อยากให้เราทำบุญ เพราะเป็นห่วงเรานั่นแหละอยากให้มีบุญกุศลติดตัวเรา มีชีวตที่ดี เจริญก้าวหน้า  


ถือศีล ๕ นี่มันตอไม้ครับ เสมอตัว ไม่ได้ทำอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ถ้าจะบอกว่าถือศีล ๕ แล้วหวังนิพพานนี่ อันนี้คงยาก นอกจากจะทำบุญด้วยการภาวนา  


ผมว่า ศีล๕ นิพพานได้นะครับ เวลารับเสร็จ พระท่านบอกว่า สีเลน นิพฺพุตึ ยนฺติ แปลว่า ถึงความดับ(นิพพาน)ด้วยศีล นะครับ

แต่ยากจริงแหละ เพราะศีล๕มันขั้นพื้นฐาน มันต้องอาศัยการบำเพ็ญเพียร สมาธิ ปัญญา กุศลกรรมที่ทำด้วย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Dec 2009
ตอบ: 2616
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 09:01
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
เรื่องทำบุญนี่ผมว่า คนทำทำผิดกันเยอะ ด้วยเชื่อว่าทำกับพระ ถ้าพระชั่วเราจะไม่ได้บุญ เหมือนเราสนับสนุนพระชั่ว

จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าสอนให้เราทำบุญถวายสงฆ์(สงฆ์ แปลว่า หมู่ คณะ) หมายความว่า ไม่ได้ทำเฉพาะเจาะจงตัวบุคคลว่าทำกับรูปนี้เท่านั้น คือ ทำไว้ในพระศาสนา ที่เราเรียกสังฆทานนั้นละ

แต่ทุกวันนี้พอพูดว่าสังฆทาน ท่านก็จะคิดถึงถังส้มๆ กระติกใบใหญ่ๆ ใส่ยาสีฟัน สบู่ ของใช้พวกนั้น

วิธีคิด ความเข้าใจมันผิดไปหมดแล้วในยุคนี้ เมื่อคิดผิดทานที่ทำก็ไม่บริสุทธิ์ ท่านต้องเข้าใจใหม่ว่าทานเราถวายแก่สงฆ์หาได้เจาะจงผู้หนึ่งผู้ใดไม่ ท่าน(พระ)ผู้รับจะทำอย่างไรเป็นประโยชน์ก็ดีไป เป็นโทษก็เป็นโทษของท่านผู้รับเอง หาเกี่ยวกับเราผู้ให้ไม่ คิดได้เยี่ยงนี้ ท่านผู้ให้ก็ได้กุศลมากกว่าทำกับผู้ด้อยโอกาสมากนัก

ผมก็ทำกับเด็กด้อยโอกาส รพ. ไรแบบนี้นะ ยิ่งถ้าสถานที่พวกนี้มาขอทอดผ้าป่าผ่านวัดผมนิ่งทำนะ เพราะถือว่าได้ทำในพุทธศาสนาด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย santaJL เมื่อ Fri Oct 25, 2019 09:02, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Sep 2009
ตอบ: 4611
ที่อยู่: FrozenStar
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 09:19
[RE: การไม่ไปวัด ทำบุญ มันผิดนักหรือ ?]
ไม่ผิดครับ แต่การเข้าวัดอาจจะทำให้เข้าถึงการทำความดีง่ายกว่าแบบอื่นๆ

ถ้าเข้าใจหลักการของการทำทานแล้ว จะเข้าหรือไม่เข้าวัดก็ได้ครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------

แต่การที่เรามีทิฐิต่อผู้มีอุปการะนั้นมันบาปกว่านะ ถ้าเราไม่อยากเข้าวัด เราก็ต้องแจ้งให้ท่านทราบว่า ทำไมเราไม่อยากจะเข้าวัด

เช่น เราไม่นับถือพระสงฆ์ในวัดนั้น เราไม่สะดวกทำบุญ เราขาดแคลนปัจจัย หรือเราติดธุระอื่น

ถ้าท่านผู้อุปการะเข้าใจประสงค์ของเรา ท่านก็จะไม่บังคับขืนใจให้เราเข้าวัดแน่ๆ แต่เทคนิคในการอธิบายหรือเกลี้ยกล่อมมันแล้วแต่คน แล้วแต่วาระ อันนี้คงแนะนำไม่ได้

----------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าเป็นกรณีของผม ผมอาจจะชวนพ่อแม่ไปที่อื่น เช่น สถานสงเคราะห์ ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel