ส่วนตัวชอบแวนครับ ได้เจอคนหลากหลายสัญชาติดี

เมื่อไปถึงสหรัฐนะครับ อย่าลืมไปเมืองลอนดอนกับปารีสด้วยนะครับ

โคตรน่าเที่ยวเลยครับ

ผมเคยไปเรียนที่ Calgary 4 ปี รัฐ Alberta อยู่ถัดจากแวนคูเวอร์ครับ
เป็นเมืองที่สวย อยู่ในเทือกเขาร๊อกกี้
อีกอย่างเป็นเมืองที่หนาวเช่นกัน มีที่เที่ยวเยอะมากๆ
อาหารการกินหลายๆเมืองในแคนาดา
ก็ไม่ต่างจากอเมริกา มีย่านคนจีน หาของจากเมืองไทยพอได้
เมืองที่ผมอยู่คนจีนเยอะ แต่ที่แวนคูเวอร์หรือโตรอนโต้จะเยอะกว่า
ไชน่าทาวน์จะใหญ่กว่าเยอะ
แคนาดาค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็อย่าประมาท
ยิ่งเมืองใหญ่ๆยิ่งต้องระวัง
ค่าครองชีพแต่ละเมืองอาจไม่เท่ากันเพราะVATแต่ละรัฐอาจไม่เท่ากัน
สมัยที่ผมอยู่ค่าภาษีเมืองผมค่อนข้างต่ำกว่าโตรอนโต้ ไม่รู้ตอนนี้ปรับเท่ากันรึยัง

แคนาดาพื้นที่กว้างมาก อยากเห็นแสงเหนือก็ขึ้นไปตอนบนๆของประเทศ
ก็จะเจอ อยากเห็นน้ำตกใหญ่ๆก็ไนแองการ่า อยากเห็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์กว้าง
ก็ตอนกลางของประเทศ ส่วนแวนคูเวอร์ ผมชอบเข้าไปดูโชว์แก้ผ้า
มีเยอะแยะเลย แวนคูเวอร์ผมว่าน่าจะเหมาะกับคนไทยที่สุด
สภาพอากาศแปรปรวนดี วันเดียวอาจเจอทั้งหิมะ ฝน แดด
สถานที่เที่ยวก็เยอะ ไม่ไกลจากแวนคูเวอร์ก็ข้ามไปเที่ยว victoria
เมืองเก่าสวยๆ นั่งเครื่องกลับเมืองไทยก็ใกล้หน่อย ไม่ต้องต่อเครื่องวุ่นวาย
คร่าวๆครับ

แคนาดาเป็นอะไรที่ประทับใจมาก ถ้าเป็นไปได้ก็ฮยากกลับไปอีก

ฝั่งแวนคูเวอร์คนเอเชียเยอะมากกกกกกกก ค่ะ โดยเฉพาะคนจีน มีไชน่าทาวน์ที่ใหญ่มาก ไม่ต้องกลัวเรื่องอาหารไม่ถูกปากเลย แต่บ้านเมืองเค้าเป็นระเบียบนะ ไม่วุ่นวายแบบจีนซะทีเดียว ฝั่งโตรอนโตเราไม่เคยไป แต่คิดว่าน่าจะเป็น western กว่า

คนก็ค่อนข้างเป็นมิตรนะ คือแบบ ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าคนเดินสวนกันอยู่ๆ ก็ทักขึ้นมา คงเพราะคนเอเชียเยอะด้วย ตอนเราไปโดนคนมาถามว่า คนจีนรึเปล่าทุกวันเลย คนญี่ปุ่นก็มาถามคนญี่ปุ่นรึเปล่าเกือบทุกวัน เคยโดนถามว่าใช่คนไต้หวันมั้ยด้วย สมัยนั้นเกาหลียังไม่บูมไม่งั้นอาจจะโดนถามอีกสัญชาติ -_-;

อากาศดีมากๆ เพื่อนสเปนที่อยู่บ้านใกล้ๆ กันเคยพาไปปิกนิกริมน้ำ คือแบบ แหวกต้นไม้เดินลงขอบทางไปดื้อๆ เลยนะ มันจะมีทางเล็กๆ อยู่ ริมน้ำมันจะเป็น stream แบบมีธารน้ำไหลกับโขดหิน ก็นั่งกันตรงโขดหิน เอาโค้กเอาเบียร์แช่น้ำเย็นๆ กินแซนด์วิช กินไก่ย่างกันแล้วไปเล่นน้ำ สนุกมาก 5555

อาหารการกินราคาสูงเหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ด ไปกินตามร้านส่วนใหญ่จะ $7 up (นี่เมื่อสิบปีก่อนนะ...) แต่ปริมาณเยอะมากๆ แรกๆ เราสั่ง $8 แล้วกินไม่หมด หลังๆ ก็คุยกันว่าจะกินอะไร แล้วสั่งมาแบ่งกับเพื่อนกิน (คนสเปนนิสัยค่อนข้างเหมือนคนไทยนะ พอเรากินไม่หมดมันก็ถามเลยแบบ ทำไมกินน้อยจัง อิ่มแล้วเหรอ พอคราวถัดไปมันก็ถามว่าจะกินไหวเหรอ ไรงั้นเลย) 5555

แต่ถ้าทำอาหารเองนี่เราไม่รู้นะ โฮสต์ไม่ให้แตะเตาเลย (ตอนนั้นเราอายุ 12 -w-') แตะได้แต่ตู้เย็น รู้แต่สตอเบอรี่ถูกและอร่อยมาก กินทุกวันเลย แพ็คละ $1 สมัยนั้นสตอเบอรี่บ้านเราแพงมากค่ะ ยังไม่ได้ถูกเหมือนทุกวันนี้ 5555

จริงๆ ตอนเราไปก็เจอวัยรุ่นเกรียนใส่แนวๆ racism นิดนึง เคยโดนด่าว่า chinese pussy สมัยนั้นกฏหมาย racism ยังไม่เข้มงวดเหมือนทุกวันนี้ด้วย คนจีนจะเจอกันบ่อยๆ แต่กลุ่มเราแก๊งเล่นบาสมีทั้งเด็กแคนาเดี้ยน ทั้งเด็กสเปน สวิส มันก็ไม่กล้ายุ่งอะไรมากอะ เพื่อนเรามันก็ค่อนข้างเอาเรื่องกันด้วย ไฟท์แทนหมด เรายืนเอ๋อ 5555

เอ้อออ ตอนเราไปอยู่มีคนเจอรอยเท้าหมีแถวบ้านด้วยล่ะ -w-'


พูดถึงแล้วอยากกลับไปปปปป คิดถึงไอติมของ Rocky Mountain Chocolate โคตรๆ

ผมเชียร์แคนาดาสุดใจเลย บรรยากาศสงบ ผู้คนส่วนใหญ่ก็นิสัยดี

แต่ถ้าจขกทชอบความทันสมัย ผู้คนพลุกพล่านหน่อยก็ต้องไปอเมริกา

แคนนาดา ยังไม่เคยไป แต่ธรรมชาติเค้าดีแน่นอน

แต่อากาศก็ไม่ใช่เล่นๆเหมือนกันนะ

แล้วชีวิตก็จะสงบกว่าคนเมกาแน่นอน

แต่ประเทศที่เป็นแบบนั้น ถ้าจะไปทำงานหาเงิน ผมว่าก็ไม่เวิคเท่าเมกา

อยู่ที่จุดประสงค์และความต้องการมากกว่าครับ

สำหรับผม จะเงียบสงบ อยู่กับธรรมชาติตลอดผมก็ไม่ค่อยชอบนะ

ไปพักผ่อนซักพักอะโอเค แต่อยู่ตลอดคงไม่ไหว

ขอบใจนะ

อ่านเพลินเลย

แหะๆ เขินเหมือนกัน แต่คิดถึงจริงๆ อยากกลับไปอีก เสียดายที่ขาดการติดต่อกันไปหลายคน หลังจากนั้นเราไปขุดเมล์เก่าๆ บางคนมา แต่เค้าก็ไม่ตอบเมล์แล้ว

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะติดต่อทุกคนสม่ำเสมอเลย

เมาท์อิตาเพื่อนสเปนนิดนึง คือแบบ มันเคยโปรตัวเองว่าชอบอาหารญี่ปุ่นมากๆ! คือสมัยนั้นการ์ตูนญี่ปุ่นเริ่มเข้าไปในฝั่งเมกาจนดังๆ หลายเรื่องค่ะ อย่างดราก้อนบอลกะอินุยาฉะ ไรงี้ แล้ววัยรุ่นหลายคนก็ค่อนข้างจะชอบอะไรญี่ปุ่นๆ

ต่อๆ ทีนี้มันก็พาเราไป Japanese Restaurant ที่นึง ไม่ไกลบ้านเท่าไหร่ แต่แบบ พออ่านเมนูแล้วแบบ... ข้าวหนัาเป็ด เกี๊ยวน้ำ... เอิ่ม ญี่ปุ่นตายละ -_-;

แต่ข้าวหน้าเป็ดร้านนั้นอร่อยนะ จำได้ 55555

จริงๆ ช็อกโกแล็ต Twix สมัยนั้นยังไม่เข้าไทย เราก็กินครั้งแรกที่นี่นะ แรกๆ คือกดตู้หน้าโรงเรียนทุกวันเลย หลังๆ ค้นพบว่า superstore แท่งใหญ่กว่า ราคาถูกกว่า wth มาก -_-;

ที่นั่นมีเลนจักรยานกับเลนรถเมล์แยกเฉพาะด้วย จักรยานค่อนข้างนิยมนะ คนขี่กันเยอะ เค้าบังคับว่าต้องใส่หมวกด้วยเวลาขี่ ไม่งั้นผิดกฏหมายละ แต่สมัยนั้นเราขี่จักรยานไม่เป็น เล่น roller blade อย่างเดียว -w-'

อ้อ ถ้าพักอยู่แถบชานเมืองอย่าเชื่อคนมากเวลาถามทาง แรกๆ เราจำทางกลับบ้านไม่ได้ (คือป้ายรถเมล์จะอยู่ที่ย่านร้านค้าใกล้ๆ บ้าน ต้องเดินอีกที แต่ไม่ไกลมาก) แต่ก็จดที่อยู่ลงกระดาษไว้แล้ว เลยเอากระดาษไปเดินถามคนที่ผ่านไปมา

ปรากฏว่าคนนึงชี้ไปทาง อีกคนก็ชี้ไปอีกทาง ตีกันมั่วเลย แม่มคนท้องที่ก็ไม่รู้ทาง สุดท้ายเด็กข้างบ้านมันขี่จักรยานผ่านมาพอดี รอดตาย -_-

คนที่นั่นค่อนข้างเป็นระเบียบมากค่ะ เวลาข้ามถนน ถ้าเป็นถนนเล็กๆ นอกเมืองหน่อยจะมีปุ่มให้กด คือคนกดแล้วข้ามได้เลยนะ ไม่ต้องรอ รถจะหยุดให้เอง แต่ถ้าเป็นในเมืองสัญญาณไฟจะเปลี่ยนให้คนข้ามทุกๆ 2-3 นาที

ตอนเราอยู่ เราพักตรงทางไป grouse mountain ค่ะ

หัดเล่นไอซ์เสก็ตครั้งแรกก็ที่นี่ เพื่อนสวิสสอน คือเป็นคนสวิสที่ภาษาอังกฤษกากมาก (ยืนยันด้วยการที่คนแคนาเดี้ยนแท้ๆ คุยกับมันไม่รู้เรื่อง/แต่คนสวิสที่อยู่บ้านเดียวกับเราอีกคนนั่นภาษาอังกฤษเทพมาก แต่เค้าโตกว่าเราพอสมควร เลยจะไม่ค่อยมาสุงสิงกับเด็กๆ) คุยกันลำบากจนบางทีต้องเขียนใส่กระดาษเอา แล้วก็พูดน้อยแบบ ขี้อายมากๆ แต่พอเท้าแตะลานไอซ์ ฮีเทพสุดๆ เลย แบบ หล่อขึ้นมาทันที 5555

ไอติมช็อกโกแล็ตของ Rocky Mountain Chocolate อร่อยมากๆ กินทุกวันจนเค้าแถมท็อปปิ้งให้ 555

แล้วแบบ คนที่นั่นเค้าเชื่อใจกันจริงๆ นะ บัตร monthly pass มันจะใช้ได้กับรถเมล์ เรือข้ามฟาก กับ subway ปกติเวลาขึ้นรถเมล์แค่โชว์ให้ดูเค้าก็ให้ผ่านเลย

ทีนี้มีตอนนึงบัตรเราหมดอายุแล้ว คือมันครบเดือน แต่พอโชว์ไปเค้าก็ไม่ได้ตรวจอะไรอะ ให้ผ่านไปเฉยเลย แต่เย็นวันนั้นก็ซื้อบัตรใหม่อะนะ -w-'

พิมพ์มาซะอยากไปอยู่เลยอะ