
สวัสดียามดึกพวกลื้อทั้งหลาย หวังว่ายังไม่หลับน่อ
ถ้ายังไม่หลับก็มาหาความรู้ให้ชวนคิดต่อดีกว่านะ
คํ่านี้ก็เรื่องเกี่ยวกับบทความอันนึงที่เคยเขียนค้างคาในบล็อคตัวเองจนลืมไปเขียนไปแล้ว
(ซึ่งตอนนี้ก็เลิกเป็นบล็อคเกอร์ไปแล้วด้วย เพราะเข้ายากชิบExteen)
ก็เลยเป็นโอกาสที่จะเขียนให้ที่นี้เป็นที่แรกน่อ
อาจจะมีเคลียดและความรู้ในตัวไปด้วย เชิญชมได้เลยน่อ
--------------------------------------------------------
ประเทศจีน หรือ ที่บ้านเค้าเรียกกันว่า จงกั๋ว แต่อั๊วเรียก จุงกั๊ว
เป็นแผ่นดินที่ใหญ่ทุกสุดในเอเชีและใหญ่เป็นอันดับ4ของโลก
นับตั้งแต่อดีตประเทศนี้ก็เป็นมหาอำนาจทุกๆด้านและเป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมของโลก,
สิ่งประดิษฐ์ หรือ คำสอนต่างๆนาๆก็จะเกิดที่จุงกั๊วเป็นที่แรก
(หากนับอียิปต์,เมโสโปเตเมีย หรือ กรีกโบราณก็ไม่ผิดแต่ว่าเจอจุดจบก่อนจุงกั๊วอีกนะ)
แต่ทว่าแผ่นดินนี้มันสุดยอดจริงๆนะเพราะมันมีอำนาจมากๆ
แต่ก็มีคำสาปมากมายให้ถึงขั้นล่มจมได้เช่นกัน.
นับตั้งแต่สมัยยังเป็นสมัยชุนชิวและจ้านกั๋ว จีนนั้นยังไม่เป็น1อันเดียวกัน
ต่างอยากจะเป็นเจ้าของด้วยตัวเองทั้งนั้น แต่ไม่ใช่กับแคว้นฉิน
เกิดความคิด คำสอน หรือลัทธิแปลกๆมากมายบนแผ่นดิน
จนบ้างแค้วนเกิดบางแคว้นดับ แต่พอจ้านกั๋วก็เกิดสงคราม
หลายๆแคว้นก็อยากยิ่งใหญ่แต่ก็ไม่อยากรวมประเทศ
ทางกลับกันแคว้นฉินนั้นกลับอยากยิ่งใหญ่และก็รวมประเทศเป็น1เดียวกัน
พอแคว้นฉินสามารถรวมอาณาจักรได้เป็น1เดียว ก็ได้กำเนิดจักรพรรดิองค์ใหม่ของอาณาจักรคือ ฉินสื่อหวาง
ซึ่ง ณ.ตอนแรกก็เหมือนจะราบลื่นมาด้วยดีไม่ใครต่อต้าน
แต่ตอนหลังเกิดเหตุจักรพรรดิฉินได้ปกครองค่อนข้างเผด็จการใครไม่ยอมหรือกบฎโทษตายถานเดียว
ซึ่งผู้คนที่ถูกแคว้นฉินกระทำหรือสังหารไปนั้นก็เกิดเป็นความแค้นความอาฆาตและการสาปแช่งขึ้น
หลังจากการตายของจักรพรรดิฉิน ก็เกิดเหตุกบฏลุกฮือต่างๆนาๆในประเทศ
จนสุดท้ายอาณาจักรฉินไปไม่รอด ถูกกองทัพเซียงยวี่(ป้าหวาง)และหลิวปั้ง(ฮั่นหวาง)ยึดไป
สุดท้ายพอได้อาณาจักรไปก็เหมือนการแบ่งเค้กล่ะนะ
แต่ปรากฏว่าการแบ่งเค้กไม่ลงตัว จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงตายไปข้าง!!!!
ก็เกิดการแย่งแผ่นดินระหว่าง เซียงยวี่และหลิวปั้ง
ผลการต่อสู้ทุกๆครั้งก็เป็นเซี่ยงยวี่ที่ชนะหลิวปั้ง แต่หลิวปั้งไม่ถูกสังหารแต่อย่างใด
กลับถูกปล่อยตัวทุกๆครั้ง และต่อมาเซี่ยงยวี่แพ้หลิวปั้งบ้าง
แต่หลิวปั้งไม่ปล่อยตัวและประหารโดยทันทีไม่ต้องรอลงอาญาฯ
จนได้เป็นจักรพรรดิในที่สุด หลิวปั้งประกาศตนเป็นจักรพรรดิราชวงฮั่น
การปกครองราชวงศ์ฮั่นเป็นอย่างราบรื่นทุกอย่าง เกิดวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆมากมาย
แม้จะมีการโยกย้ายเมืองหลวงไปบ้างแต่ก็ไม่มีปัญหาใหญ่ใดๆ แต่ทว่า....
เหมือนโชคชะตาให้ราชวงศ์ฮั่นเจอแบบนี้ โดยเกิดเหตุแตกแผ่นดินเป็นสามแค้วน
เว้ย,สู,อู่ หรือ เชาเชา หลิวเป้ย และ ซุนเฉวียน
เกิดความนึกคิดความทะเยอทะยานขึ้นมาในยุคสมัยนี้ทำให้ไม่ปกติสุขอีกต่อไป
แม้ว่าทั้งสามคนจะเป็นผู้นำของแต่ละแคว้นเพื่อเอาแผ่นดินมาครอบครองด้วยตัวเอง
กลับปรากฏว่าไม่มีใครได้มันไปซักคนเดียว กลับเป็นตระกูลนอกสายตาของใครหลายๆคนคือ ตระกูลซือหม่า
พอซือมาเหยียนได้แผ่นดินทั้งหมดเป็นของตนก็ตั้งอาณาจักรจิ้นขึ้นมา
แต่ทว่าปกครองไม่นานก็ต้องล่มสลายไปจากนั้นไม่สงบไปอีกหลายร้อยปี
จนกระทั้ง
จีนกลับมารวมประเทศได้อีกครั้ง และรวมยิ่งใหญ่กว่าเดิม2เท่าในราชวงศ์ถัง
โดยจักรพรรดิถังไท่จง หลี่ซื่อหมิน.การปกครองสมัยนี้นั้นถูกบันทึกว่า
เป็นการปกครองที่ไม่ว่าประเทศไหนๆก็อยากทำให้ได้เป็นเยี่ยงอย่าง
เพราะมันสงบมากจนบ้านไม่ต้องล็อคประตูก็ไม่กลัวมีคนขโมย
ซึ่งหลากหลายอาณาจักรทำไม่ได้แต่อาณาจักรถังทำได้!
แต่ว่าน่าเสียดายกับความยิ่งใหญ่เป็นร้อยๆปีของถังเพราะ
หญิงงามหนึ่งเดียวของอาณาจักร หยางกุ้ยเฟย
จากนั้นการล่มสลายก็เกิดความไม่สงบเปรียบสดั่งคำสาปไปอีกๆร้อยปี จนกระทังเกิดอาณาจักรซ่ง
อาณาจักรซ่งก็ทำการรวมแผ่นดินอีกครั้ง แต่ว่ากลับไม่เคยสงบซักครั้งเดียว
เกิดทั้งกบฏภายในประเทศ และ ศึกกับต่างแคว้นอย่างซีเซี่ย,เหลียว,จินและ มองโกลฯ
ซึ่งไม่เป็นผลดีเป็นอย่างยิ่ง และในไม่นานก็หยุดความมาแรงของอาณาจักรมองโกลไม่ได้
จนอาณาจักรล่มสลายไป
ยุคสมัยต่างประเทศต่างเผ่าครองประเทศจีนบ้างกับราชวงศ์หยวน
โดยคูบิไล หรือเรียกกันว่า กุ๊บไล่ข่าน นั้นเอง กุ๊บไล่ข่านเป็นหัวหน้าเผ่ามองโกลเพียงคนเดียว
ที่สามารถยึดแผ่นดินซ่งได้(จริงๆเจงกีสข่านจะยึดก็ได้แต่กับเป็นพันธมิตรกันล้มจินกันเลยทำไม่ได้)
และประเทศจีน ณ.ตอนนี้ก็ยิ่งใหญ่มากเป็นประวัติการณ์
ได้ทั้งเกาหลีทั้งอาณาจักรเป็นของตน,จีนตอนล่าง(นานเจา),จรดไปถึงทิเบต
โดยตั้งระบบชนชั้นว่ามองโกลเป็นอันดับ1 ต่างเผ่ายกเว้นฮั่นเป็นอันดับ2 ฮั่นอันดับ3
ซึ่งแน่นอนว่าคนทั้งประเทศมันเป็นฮั่นก็ทนไม่ได้แต่ก็ทำไรไม่ได้เพราะมองโกลมันโหดเหี้ยมในสมัยนี้มาก

ต่อมาจูหยวนจางและกองทัพชาวนาก็ได้นำทัพต่อกรมองโกลฯซึ่งหลังยุคกุ๊บไลข่าน
มองโกลอ่อนแอมากๆจนสุดท้ายเป็นอาณาจักรได้ไม่ถึง100ปีก็ต้องกลับไปแผ่นดินตน
ราชวงศ์หมิงทำการรบกับมองโกลมาตลอดไม่ขาดสาย
และกองทัพหมิงก็ต่อกรไปได้ซักระยะก็สงบศึกเพราะมองโกลเกิดการแก่งแย่งภายในกัน
จนไม่มีทัพต่อกรอีกแล้ว ทำให้แผ่นดินสงบไปซัก100ปีได้
แม้คนจีนจะเจอเหตุการณ์เก่าๆไปหลายปีแต่ก็ยังไม่มีใครจดจำมัน ก็ต้องพบกับประวัติศาสตรซํ้ารอยอีกครั้ง
คือคนต่างเผ่าต่างประเทศครองเมืองอีกครั้ง นั้นก็คือราชวงศ์ชิงที่เป็นชาวแมนจูปกครอง
(ชื่อแก็งค์อั๊วเลย)
แต่ก็เกิดกบฏเหมือนเช่นเคยแต่ว่ากลับไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้
จนตอนหลังคนจีนส่วนใหญ่ก็ลืมมันไปเพราะจักรพรรดิชิงยุคหลังเปิดใจมาก
และยังมองเห็นเงาหัวชาวฮั่นอยู่บ้างนั้นก็คือ

จักรพรรดิคังซี และ จักรพรรดิเฉียนหลง
เป็นเพราะสองพระองค์ยึดถือการปกครองอย่างสงบอย่างที่สุด
แม้จะเจ้าสำราญและชอบออกประพาสแบบสามัญชนบ้างแต่ก็รับรู้ปัญหาทุกอย่าง
ทำให้ความสงบสุขนั้นเกิดขึ้นไปอีกนานเป็น100ปี
แต่ทว่าแม้จะไม่มีศึกภายในแต่ก็มีศึกภายนอกกับตะวันตกแทนกับอังกฤษฝรั่งเศสหรือกระทั่งเยอรมันุ
จนเกือบประเทศแตกแต่ก็ผ่านมันมาได้อย่างเจ็บปวดที่สุด
จนสุดท้ายเจอศึกแบบรอบด้านทั้งคนในประเทศและนอกประเทศ
ขนาดแพ้ญี่ปุ่นทั้งที่แต่ก่อนสู้กันไม่เคยจะแพ้ยับเยิน เพราะวิทยาการต่างเกินไป....
ต่อมาการลุกหือประชาชนก็เกิดขึ้นภายใต้การนำของด็อกเตอร์ซุนจงซาน(ซุนยัทเซน)นั้นแหละ
จนแผ่นดินจีนเป็นอิสระจากคนต่างเผ่าต่างแดนอย่างแมนจู
แต่ว่าประเทศจีน ณ.ช่วงนั้นก็บอบชํ่ามากจนไม่เหมือนมหาอำนาจเหมือนสมัยก่อน
กลับเป็นญี่ปุ่นแทนที่ขึ้นเป็นมหาอำนาจเอเชีย
ญี่ปุ่นซึ่งในอดีตนั้นมักถูกมองข้ามไปหลายครั้งหลายคราว
จนกระทั้งปฏิวัตรการปกครองและอุสาหกรรมขึ้นทำให้ญี่ปุ่นเป็นชาติที่ขึ้นแท่นมหาอำนาจ
แทนจีนโดยทันทีและช่วงสงครามโลกครั้งที่2ญี่ปุ่นเข้ามาจีนได้อย่าง่ายดายมาก
เพราะจีนวิทยาการไม่ถึงขั้นทำให้เข้าประเทศโดยง่าย จนเกิดวีรกรรมต่างๆนาๆที่ญี่ปุ่นทำไว้
แต่ว่ากันว่า หากญี่ปุ่นสามารถยึดจีนแผ่นดินใหญ่ไว้ในมือแล้วล่ะก็
ก็จะต้องเข้าอิหรอบเดิมคือต่างแดนปกครองชนชาติฮั่น และเมืองหลวงญี่ปุ่นปัจจุบัน
อาจจะไม่ใช่โตเกียวอีกต่อไป อาจจะเป็นปักกิ่งหรือนานกิ่งเลยก็ได้
หากย้ายมากรุงเป่ยจิง....พระราชวังต้องห้ามก็อาจจะไม่มีสภาพแบบนี้แน่นอน
อาจจะมีศิลปะญี่ปุ่นมาแทรกแซงด้วย
ถ้าหากเมืองหลวงไม่ใช่เป่ยจิงก็อาจจะเป็นนานจิง
และสภาพวังจะเปลี่ยนไปแบบสุดฤทธิ์สุดเดชอย่างที่คาดไม่ถึงก็ได้
อาจจะมาแนวเดียวกับวังในญี่ปุ่นแบบปัจจุบันก็ได้นะ ใครจะรู้
แต่ถึงอย่างนั้นต้องขอบคุณบุรุษผู้หนึ่งที่ทำให้จีนรอดจากการยึดครองจากญี่ปุ่นและไล่ออกประเทศได้