ก็นั่นไงฮะ มันก็เหมือนแกล้ง
เป็นผู้ผู้บริหารใหญ่โต เงินแค่นี้ขี้ผง
แต่มันมากสำหรับคนตัวเล็กตัวน้อย

เข้ามาเซ็นนี่ไม่ทราบว่าเซ็นอะไรเหรอครับ ถ้าเซ็นรับเงิน ผมว่าสลิปโอนเงินมันก็เป็นหลักฐานอยู่แล้ว
ส่วนถ้าจะให้เซ็นอย่างอื่น แลกกับเงินงวดสุดท้ายนี่ใจร้ายมากและผิดด้วย

ค่าจ้างถ้าไม่จ่ายเค้าไปร้องก็น่าจะผิด แต่ผมว่าถ้าตัวเล็กๆความรู้ไม่มีเค้าคงไม่ไปร้องแรงงายหรอก แต่โคตรบาปเลย

ขั้นตอนของแรงงาน เค้าจะไกล่เกลี่ยให้ก่อน ไม่ใช่ว่าไม่จ่ายแล้วจะฟ้องทันทีครับ
ที่ผมแนะนำคือแค่ให้เค้าไปแรงงานเราก็ค่อยจ่าย ทำให้เค้าได้รับเงินช้าขึ้น
ส่วนจะจ่ายเป็นเงินสด ถ้าเค้าไม่ไปแรงงานก็ไม่ต้องจ่าย แค่นั้น
กรณีนี้ผมว่าเค้าไม่น่าจะเข้ามารับหรอกครับ

ถ้าเดิมจ่ายสดอยู่แล้ว การยืนยันว่าจะจ่ายสดเท่านั้นไม่มีนโยบายโอนเงิน ก็ไม่น่าจะผิดป่ะฮะ

ถ้าทิ้งงานไปกะทันหัน มีความเสี่ยงทำให้ส่งงานล่าช้า คนเข้ามาทำแทนไม่รู้จะทำงานได้ตามที่เค้าทำหรือทำงานนั้นเป็นรึเปล่า ควรขอชะลอจ่ายเงินจนกว่าจะส่งมอบงานเสร็จ
ถ้าเกิดความเสียหายเท่าไหร่ ก็ประเมินคิดกับคนที่ออกไปนั้นแหละครับ

ถ้ามีการเซ็นสัญญา ก่อนลาออกต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย30วันครับ

ผมเจอบ่อยลูกน้องทิ้งงาน หรือไม่ก็ลาออกดื้อๆ. ลูกน้องผมเป็นช่างยนต์ เอาอะไรกับมันมากไม่ได้ ปรกติผมจ่ายเงินสดแต่ถ้าเขาโทรมาขอให้โอน ผมโอนจ่ายให้ทุกครั้งนะ. เขาคงมีเรื่องลำบากของเขา ที่ไม่กล้าเจอหน้าผม.

ผมพูดง่ายๆจากคนที่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้แล้วเจ้าของอยากทำอะไรแบบนี้นะ

ผ่านไป 6 เดือนสู้แพ้ในศาลแรงงานนะครับ ศาลแรงงานนี่เอียงเข้าฝั่งพนักงานมากอยู่แล้ว
อ้างเรื่องเอกสารไม่ขึ้นเพราะมันมีสลิปอยู่แล้วเรื่องการโอน ยิ่งบอกว่าปกติจ่ายเงินสดนี่ ศาลคงขำอะ

เอกสารที่จะเซ็น ผมเดาว่าถ้าไม่ใช่เรื่อง NDA ก็คงเป็นเอกสารยอมรับผิดหรือซัมติงอะไรนี่แหละที่ข้างบนเขาอยากได้ ประเด็นคือของพวกนี้ทำๆไปไม่ใช่ความสบายใจบริษัทหรอก อยากกลั่นแกล้งเขามากกว่า

ถ้าจะเอาให้ไม่ผิดใจกับใครก็ให้เขาเข้ามาเซ็นครับแจ้งไปแบบนั้น ถ้าเขาร้องแรงงานแล้วค่อยว่ากันอีกทีนึง ส่วนมากจะไปร้อง ศาลเรียกไกล่เกลี่ย ตอนนั้นก็จ่ายแบบโอนไป (ว่าง่ายๆให้เขาไปรกกับเสียเวลาศาลเล่นนั่นแหละ ) ถ้าบริษัทท่านอยากแกล้งเขาก็ได้มากสุดแค่นั้นแหละ

ปกติจ่าบแบบไหนก็จ่ายแบบนั้น ทำแแบนี้แสดงว่าบริษัทไม่มีระบบโอนเงินแบบบริษัททั่วไปใช่มั้ยครับ

ตอบคำถามด้วยใจสัตย์จริงก่อนดีกว่าครับ

จากโจทย์ของท่าน ประกอบกับขนาด/รูปแบบองค์กร...
1. ด้วยใจจริงของท่าน...เป็นการกลั่นแกล้งมั๊ย
2. ถ้าคิดว่ากลั่นแกล้ง สิ่งที่ทำได้มี 2 อย่าง คือ
- 2.1 เตือนสติผู้บริหาร ซึ่งตรงนี้ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นข้อกฎหมายงัดกันด้วยซ้ำ เพราะมองว่าถ้าคิดจะแกล้ง งัดมาเป็นร้อยมาตรา ก็จะทำ
- 2.2 ทำตามคำสั่งเพื่อเอาตัวรอด ซึ่งรวมถึงการเตือนข้างบนไม่เป็นผล
3. ถ้าไม่คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ก็ทำตามคำสั่งเอาตัวรอดครับ

การทำตามคำสั่งแบบมีหลังพิงรองรับ มีคำสั่งมาชัดเจน(พยานหรือลายลักษณ์อักษร) มันไม่มีผลชัดเจนโดยตรงกับพนักงาน ยกเว้นว่าท่านเป็นเจ้าของ/ผู้บริหารเสียที่ออกคำสั่งเอง ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่งที่จะต้องคิดหนักหน่อยครับ

เบื้องต้นก็ลองทำตามหน้าที่ไปก่อน คือโทรบอกพนักงานให้เข้ามารับเงิน ตัวพนักงานอาจจะโอเคครับ เดี๋ยวเข้าไปเอาก็ได้

แต่ถ้าพนักงานไม่ยอมเข้ามาเอา ก็โทรไปถามแรงงานว่ากรณีนี้ทำยังไงได้บ้าง ซึ่งแรงงานก็น่าจะตอบเข้าข้างพนักงานว่าให้โอนๆไปเถอะ

จากนั้นก็ไปแจ้งนายว่าพนักงานไม่ยอมเข้ามาเอา โทรถามแรงงานแล้วแรงงานบอกว่างี้ๆๆๆ ผมว่าเราโอนเงินให้จบๆไปเลยดีมั้ยครับ จะได้ไม่คาราราซัง มูฟออนแล้วเอาเวลาไปแก้ปัญหาอื่นต่อดีกว่า

ผมว่าไม่คุ้มหรอก ถ้าชื่อบริษัท ไปโผล่ว่ามีปัญหาที่กรมแรงงาน จะโดนเพ่งเล็งเปล่าๆ บริษัทเก่าผม เคยมีปัญหาเรื่องการคิดOT พนักงานกับหัวหน้าเคลียร์กันไม่ได้ให้เรื่องถึงกรมแรงงาน พอมาเคลียร์OTแทนที่จะจบแค่OT เหมือนเข้าทางส่งให้พวกตรวจหมดยับเลย การจดทะเบียนลูกจ้าง การหักตังจากขาดลามาสาย โอ้ว ยับ

ยังไงก็ต้องจ่าย โอนก็คือค่าแรง ยังไงลูกจ้างก็ถูกถ้าขึ้นชื่อว่าลูกจ้าง แทบสู่ไม่ได้

โอนจ่ายได้ก็โอนครับ ถ้าปล่อยไว้นาน ถ้าเกิดมีการฟ้องร้องมันจะเกิดดอกเบี้ยปรับด้วยครับ