https://www.soccersuck.com/boards/topic/2601577
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2600339
จากกระทู้นี้
ตอนนั้นหัวเราะกันใหญ่ วันนี้แมนยูอันดับ 6 ชนะ 3 ติด ใครกันแน่ที่เข้าใจบอลมากกว่ากัน?
จำได้ไหมครับ… ตอนต้นฤดูกาล
ผมพูดไว้ว่า **“อย่าเพิ่งไล่อโมริม ด้วยเหตุผล...”**
แล้วโดนหัวเราะ โดนเย้ย โดนแซะว่า *ติ่งโค้ช*, *โลกสวย*, *ไม่เข้าใจฟุตบอลจริง*
แต่ตอนนี้แมนยูขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ของตาราง
ชนะ 3 นัดติด ฟอร์มเริ่มกลับมา นักเตะเริ่มสู้
ผมเลยอยากถามตรง ๆ ว่า… **ใครกันแน่ที่มองขาดตั้งแต่แรก?**
### ทำไมผม “แบ็คอโมริม” ตั้งแต่วันแรก
เพราะผมรู้ว่า **ปัญหาของแมนยูมันฝังรากลึก**
สิบปีหลังจากยุคเฟอร์กี้ ทีมนี้ไม่ได้ขาดนักเตะดี ไม่ได้ขาดเงิน
แต่ขาด “ระบบ” กับ “วัฒนธรรมความรับผิดชอบ”
Amorim กับ INEOS เข้ามาเพื่อเปลี่ยนสิ่งนั้นทั้งหมด
ไม่ใช่มาโชว์แท็กติกสวยๆ ทำการตลาดปังๆ แต่คือการ **ถอนรากและปลูกใหม่ทั้งสโมสร**
ฤดูกาลก่อนทีมจบ อันดับ 15 หลายคนบอกว่าตกต่ำถึงขั้นทีมท้ายตาราง
แต่พูดกันตรง ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฐานสโมสรแข็งมาก ทั้งแฟนบอล ทั้งรายได้
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ **“การล้างพิษครั้งใหญ่ของแมนยู”**
Sir Jim Radcliffe เข้ามาผ่าตัดตั้งแต่โครงสร้าง ทีมบริหาร ไปจนถึง mindset ของนักเตะ
แฟนบางกลุ่มตอนนั้นก็ด่า INEOS ว่าบริหารไม่เป็น ไปไล่ทีมงานเก่า ยกเลิกธรรมเนียม
แค่ไม่จัดงานคริสต์มาสยังโดนด่าว่าใจร้าย ทั้งที่จริง มันคือการ “รีเซ็ตระบบ”
และวันนี้ก็เห็นแล้วว่า ทุกอย่างที่ INEOS ทำ มีเหตุผล และมีแผน
เงินที่ทีมใช้ซื้อนักเตะเยอะในซัมเมอร์นี้ ไม่ใช่การสุ่ม แต่คือ **การวางรากของยุคใหม่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด**
### ผมก็ไม่ได้ติ่งแผนอโมริม 3-4-3 นะ
แต่ผมเห็น “สิ่งที่อยู่ใต้แผน”
คือพลังของทีมที่เริ่มพัฒนาในทุกด้าน fitness , pressing , mentality
ตอนทีมฟอร์มตก ผมฟังสัมภาษณ์นักเตะหลายคน
ทุกคนพูดเหมือนกันว่า *“เราสู้เพื่อทีม และ เพื่อโค้ช”*
นั่นหมายความว่าไม่มีใคร throw เกมเลย
ปัญหาคือ **พวกเขายังไม่ลงตัว แต่ใจยังอยู่ครบ**
และนัดที่ชนะ Burnley 3-2 ก็คือหลักฐาน
นักเตะมีใจ = ผลงานก็มา
ระบบที่อโมริมวางไว้ เริ่มงอกผลแล้ว
### ทำไมแฟนบอลบางคนถึงยังไม่เข้าใจ
เพราะหลายคนดูบอลเหมือนดู TikTok 30 วินาทีรีบตัดสิน
เห็นแพ้ก็โวย เห็นชนะก็อวย แต่ไม่เคยมอง “กระบวนการ” ที่ทีมสร้างอยู่
ไล่โค้ชตอนนี้ = วนลูปเดิมสิบปีที่ผ่านมา
ทุกครั้งที่ไล่ ทีมก็เริ่มนับหนึ่งใหม่ เสียเวลาอีก 3 ปี
และพอทีมชนะจริง ๆ คนกลุ่มเดิมก็จะเงียบปาก
ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองคือต้นเสียงที่ตะโกนให้ไล่ดังที่สุด
### ผมเคยพูดไว้ว่า
> “แมนยูไม่ได้อยู่ในยุคที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว
> แต่กำลังอยู่ในยุคที่ต้องสร้างผลลัพธ์ให้ยั่งยืน”
และตอนนี้สิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้นจริง
นักเตะเริ่มสู้ ระบบเริ่มเข้าที่ แฟนบอลเริ่มกลับมามีศรัทธาอีกครั้ง
### ⚽️ ตอนเถียงกับแฟนผีด้วยกัน
ผมจำได้ดีว่ามีคนพูดว่า “ปีนี้ได้กลางตารางก็บุญแล้ว” บางคนบอกแค่ Top 10 ก็ดีใจแล้ว
ผมขำเลยครับ — สโมสรระดับแมนยู ที่มีทั้งทุน, โครงสร้าง, และมันสมองระดับโลก
จะพอใจกับแค่อันดับ 10 ได้ยังไง?
ผมพูดตั้งแต่ฤดูกาลก่อนเลยว่า **แมนยูมีสิทธิ์ได้ไป UCL** และถ้าทุกอย่างลงตัว **ลุ้นแชมป์ได้เลย**
ซึ่งเอาจริง ๆ ถ้าไม่ซวยสองนัดแรก ตอนนี้เราน่าจะอยู่ **อันดับ 1 แทน Arsenal ด้วยซ้ำ**
### 3 ประเด็นที่ผมเบื่อสุด ๆ
1. **พวกที่คิดว่าปัญหาทุกอย่างแก้ได้ด้วยการไล่โค้ช**
→ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น สโมสรใหญ่ไม่ต้องมี Director of Football หรอกครับ
เจ็บมากี่ครั้งแล้วกับการไล่โค้ช แล้วก็สร้างวัฒนธรรม นักเตะใหญ่กว่าสโมสร แก๊งบีนๆ พวกคุณที่ไล่ทั้งหมด
ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบทั้งนั้น
2. **พวกที่ดูแต่ผล ไม่ดูพัฒนาการของทีม**
→ การสร้างทีมมันต้องเจ็บก่อนถึงจะยืนได้ ต้องยอมแลกบางอย่างเพื่อบางอย่าง ไม่ใช่ใจร้อนอยากให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการในทันที
3. **พวกที่ด่า INEOS โดยไม่เข้าใจว่าเขากำลังทำอะไรอยู่**
→ คนที่บริหารธุรกิจจนรวยที่สุดในเกาะอังกฤษ เขาไม่ได้มาปั่นทีมเล่น ๆ แน่นอน
แล้วคุณเป็นใคร ไปวิจารณ์การบริหารงานของคนระดับโลก ตัวคุณสำเร็จแค่ไหน นี่เค้าเป็นทั้งแฟนบอล
และเป็นนักบริหารที่เก่ง
ผมไม่ต้องพูดเยอะ เพราะ **ตารางคะแนนมันพูดแทนหมดแล้ว**
ตอนนั้นพวกคุณหัวเราะ วันนี้ “ตารางคะแนน” หัวเราะแทนผม
แมนยูในยุค Amorim กำลังเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง
อาจไม่สวยทุกนัด แต่เป็น “ความจริง” ที่กำลังค่อย ๆ เติบโต
ต่อให้หลังจากนี้จะร่วงด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็ถือว่าผมคิดถูกอยู่ดี
ที่ไม่ควรไล่ Amorim ตอนนี้
**Glory United — Rise from the Roots.**
ทีมนี้ไม่ได้ล้มเหลวหรอกครับ…
มันนแค่กำลังฟื้นจากเถ้าถ่าน.