เห็นด้วยครับ​ ยังไงจ้างมืออาชีพดูแลดีกว่า​ ยิ่งพ่อแม่มีเงินบำนาญนี่ก็สบายเลยเราไม่ต้องออกเพิ่มมาก ผมกับพี่ก็คุยอยู่เหมือนกันถ้า​ พ่อแม่​ ไม่ไหวดูแลตัวเองไม่ได้ก็จะส่งไปอยู่ที่เขารับดูแล​ เขาจะได้มีเพื่อน​ มีกิจกรรม​ทำด้วย​

ก็ให้ช่างมาติดบานพับใส่กุญแจล็อคให้เอาให้ครบเลย มีกี่ตู้หละ ตู้เครื่องปรุงทำอาหาร1 ตู้เย็น1 ตู้เก็บน้ำยา

ทำความสะอาด 1 โดยใช่ลูกกุญแจตัวเดียวไขแม่กุญแจได้ทุกอัน จบปิ๊ง

ก็เอาของที่กินได้มาใส่ขวดแทนให้แกกิน ส่วนเครื่องปรุงเอาไปเก็บ

แม่ผมก็กำลังจะไปถึงจุดนั้นในอีกไม่นาน นี่ก็เตรียมใจไว้แล้ว
.
ตอนนี้แม่ผมมีภาวะติดยานอนหลับ กินวันละ 6 เม็ด พยายามจะขอให้หมอลดยาให้แกอยู่ แล้วก็มีภาวะเก็บตัว มีอาการสมองเสื่อมตามวัยในเบื้องต้น แต่เริ่มมีอาการแปลกๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน เช่น
1. เริ่มมีอาการหลงลืม ความจำเสื่อม สมาธิสั้น อะไรที่บอกไปก็มักจะกลับมาถามซ้ำๆ
.
2. ใจร้อนขึ้นในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น ซักผ้าหาว่าฟองไม่มี ทุกวันนี้ขนาดซักผ้าแค่ 5-10 ผืน แกเล่นใส่ผงซักฟอกต่ำๆ 3 ช้อนพูนๆ ทุกวันนี้บ้านผมซื้อผงซักฟอก แชมพู สบู่เหลว ยาสีฟัน บ่อยมากกกก โดยเฉพาะผงซักฟอกกับสบู่เหลวนี่ ขนาดถุงไซต์ 5 กก. ต้องซื้อแทบจะทุก 2-3 สัปดาห์อ่ะ/เวลาทำกับข้าวก็เปิดไฟแรงสุดตลอด หาว่าน้ำมันไม่ร้อน/เวลาไปทำอาหารกับคนอื่นๆ ในครอบครัว ก็จะทำแบบลวกๆ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเป็นคนที่ละเอียด พิถีพิถันยิ่งกว่าใคร ตอนนี้คือเนื้อก็หั่นชิ้นใหญ่ๆ ให้มันเสร็จๆ หอมก็แกะแบบลวกๆ ผักก็หั่นแบบลวกๆ ทุกคนในครอบครัวรับรู้กันหมดว่าแกไม่ปกติเหมือนเดิมแล้ว
.
3. ติดนอน ถ้าไม่ได้ทำอะไรก็จะขึ้นเตียงนอน เฉพาะตอนกลางวันคือนอนอยู่บนเตียงไม่ต่ำกว่า 3-5 ชม./วัน
.
4. ไม่ดูแลเนื้อดูแลตัว ผมยุ่ง ไม่หวี ออกไปข้างนอกบ้าน ออกไปตลาดก็ออกไปสภาพนั้นแหละ
.
5. แต่อีกภาวะหนึ่งคือจู้จี้ จุกจิก อยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็ก แค่ถามว่ากินข้าวหรือยัง นี่ถามวันละไม่ต่ำกว่า 5 รอบ พอเราตอบว่ากินแล้ว ก็จะมาละ กินกับอะไร กินกับใคร ร้านอยู่ตรงไหน ราคาเท่าไหร่ บลาๆๆๆๆ บางทีถามจนเราปรี๊ดดดด ได้อ่ะ
.
6. ไอ้ความขี้ลืมนี่หลายครั้งละ ทำกับข้าวเสร็จก็เอากับข้าวออกมาทานแบบไม่ปิดแก๊ส กระทะไหม้ไป 2 ใบละ เสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้ เปิดน้ำทิ้งไว้ หรือแม้กระทั่งถ่ายทิ้งไว้ไม่กดชักโครกก็มีให้เห็นเรื่อยๆ
.
ตอนนี้ผมทำใจละ ว่าคงรักษาไม่ได้ละ มีแต่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี

แม่ผมก็มีอาการในระดับนึงล่ะ ไปหาหมออาทิตย์ที่แล้ว หมอต้องการให้ติดเครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจแบบ 24 ชม.เพื่อเช็คว่าแม่เป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะไหม ก็ไปติดนะ แต่ตอน 4 ทุ่มมีอาการบอกคันไม่ไหว มันแสบไปหมด ลามไปถึงคอ จะถอดออก ถ้าไม่ถอดให้จะกระชากออกเองเสียเท่าไหร่ก็ยอม พี่สาวผมต้องยอมถอดให้ เช้าพาไปหาหมอ พยาบาลบอกไม่แน่ใจว่ามันจะวัดผลได้รึเปล่า เพราะมันแค่ 10 กว่าชม.

วันเสาร์จะเดินเข้าไปในสวนจะไปตัดหน่อไม้บอกมีคนสั่งให้ไปส่ง นี่เค้าโทรมาจากกทม.พี่สาวผม หา ไปได้ยังไงพรุ่งนี้จะไปเที่ยวกันนะ แกถึงยอมเลิก แล้วบอกเด่วโทรไปบอกเค้าก่อน(แต่ก็ไม่ได้โทรหรอก) คือ แกติดกับความทรงจำเก่าๆมาจนถึงตอนนี้ เวลาแกขึ้นมาทีเหมือนเด็ก ไม่เอาอะไร โวยวาย ไม่ยอมสักอย่าง พอลงแล้วก็ทำแบบไม่รู้ไม่ชี้

อาทิตย์นี้มีนัดหมอ 2 อย่าง 1. เรื่องสมองขอไปคุยก่อนว่าทำไมมันดูแย่ลง เพราะยาก็กินมาเรื่อยๆ มีโอกาสจะดีขึ้นไหม 2.เรื่องหัวใจดูว่าเช็คผลจากเครื่องวัดได้ไหม เพราะหมออีกท่านต้องการผลตรงนี้เพื่อวินิจฉัยโรค เพราะต้นเรื่องสมองแกมีเลือดไปเลี้ยงไม่เต็มที่บางส่วนมันดำไปเลยในฟิล์ม เส้นเลือดตีบ ทำให้เจออาการแบบนี้

คนที่เหนื่อยคือพี่สาวผม เพราะแกอยู่บ้านด้วยกัน แต่แม่ผมยังดีตรงช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง ทำกับข้าวเองก็ได้ เอาแค่ทางกายภาพคือแข็งแรงปกติ พี่สาวผมแกเกษียณก่อนกำหนดพอสมควรเลยดูแลกันได้ แต่จะสลับมานอนกับผมบ้างให้แกเปลี่ยนบรรยากาศ

สุดท้ายอยากบอกว่าอย่าละเลยอาการเล็กๆน้อยของคนแก่อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เช่น หลงลืม ย้ำยิดย้ำทำ หรืออาการขึ้นๆลงๆแบบไปสุดลงสุด พาไปหาหมอเถอะครับ อาจเจออะไรที่ผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ

เป็นกำลังใจให้ครับ ที่ผ่านมาท่านทำได้ดีแล้ว

จ้างคนดูแลแบบเม้นบนบอกราคาไม่ได้ถูกเลยนะ แต่ถ้าเงินไม่มีปัญหาหรือรายรับเพียงพอก็เห็นด้วยนะ

ท่านอยู่เชียงใหม่ใช่มั้ย
บ้านลลิสาโลด ลองไปถามราคาดูครับ เหมือนมีไป-กลับ ก็ได้
แม่เพื่อนผมก็เป็นอัลฯ เหมือนจะใช้ลักษณะนี้อยู่แต่ไม่ชัวร์ว่าที่นั่นรึเปล่านะ


น้องผมก็เป็นคนพิการทางสมอง
คิดๆ อยู่ถ้าผมซวยเกิดตายก่อนขึ้นมาใครจะดูมันเหมือนกัน
ยังคิดไม่ออกว่าจะทิ้งสมบัติไว้ให้ใครมาดูมันแทน

สวัสดีครับ ผมเพิ่งตื่นครับ ผมขอตอบคำถามที่ท่านถามประมาณนี้ครับ

1.ผมไม่สามารถจ้างคนดูแลได้ครับ เพราะเงินบำนาญที่แม่มีอยู่ ไม่พอจ่ายค่าจ้างครับ ต่อให้คนดูแลคิดเรทค่าแรงขั้นต่ำ 350 บาทก็ตาม โอเคครับ ถ้าผมมีงานประจำผมคงเอาเงินเดือนจากตรงนี้มาจ่ายได้ มันคงพอแน่นอน เพราะแม่ผมมีหนี้เยอะมากก่อนพ่อผมเสียครับ คือต่อให้เอาเงินที่พ่อผมเสีย มาจ่ายหนี้แม่หมด หนี้ก็ยังไม่หมดครับ หนี้แม่ผมประมาณนี้ครับ

ก่อนพ่อผมเสียมีทั้งหมด 3 หนี้คือ หนี้เล็ก 2 หนี้ + 1 หนี้กลาง และ 1 หนี้ก้อนใหญ่จากสหกรณ์
หลังพ่อเสีย เอาเงินที่พ่อเสียมาจ่ายหนี้ เคลียร์หนี้เล็กและกลางหมด เหลือแค่ 1 หนี้ก้อนใหญ่จากสหกรณ์ครับ ต่อให้ผมไม่ซื้อคอมราคาแพง ก็ยังใช้หนี้สหรกณ์ไม่หมดอยู่ดีครับ ยังเหลือเยอะอยู่ดีครับ ก็เลยเอาเงินที่เหลือจากการเคลียร์หนี้เล็กและหนี้กลาง เก็บไว้ใช้จ่ายฉุกเฉินเวลาแม่เป็นอะไรและเอามาซ่อมบ้านส่วนหนึ่งครับ

2.ตอนนี้ผมมีงานชั่วคราวให้ทำครับ เพราะทางญาติเห็นว่าผมไม่ผ่านทดลองงาน และพ่อผมเสียพร้อมกัน ตอนนั้นคืออารมณ์มาล้วนๆเลยครับ ไม่อยากทำอะไรเลยครับ ทางญาติเลยจ้างผมให้ทำบัญชีสวนให้แกครับ ปกติแกจดในสมุดครับ แกอยากได้คนทำบัญชีอิเล็กทรอนิคเอาไว้เก็บสลิปอะไรด้วยอะครับ เหมือนกับว่าจ้างผมดูแลแม่นั้นแหละครับ แต่ค่าจ้างทางญาติจะให้เป็นรายปีครับ โดยให้เป็นส่วนแบ่งจากสวนและค่าทำบัญชีครับ คือผมยอมรับว่ามันไม่ใช่งานประจำ ที่จะมาสร้างอนาคตหรือใช้ดำรงชีวิตได้ อันนี้คือคอมม่อนเซ้น ทุกท่านทราบดีครับ อย่างน้อยผมก็ยังพอมีรายได้บ้างครับ ถึงจะไม่ใช่งานประจำก็ตาม

และจากข้อแรก ผมกลัวอย่างครับ ผมยอมรับว่า ผมไม่ไว้ใจใครให้มาดูแลแม่ผมครับ กลัวอะไรต่างๆนาๆมากๆ แบบทนไม่ไว้มาทำร้ายแม่ โอเคถ้าเป็นพยาบาลอาชีพ ผมไว้ใจครับ แต่ก็นะ ราคาไม่ใช่ถูกๆแน่ แล้วก็จากประสบการณ์เรื่องการซื้อคอมผมที่ผมเคยตั้งกระทู้ไว้ ผมคงไม่เอาเงินส่วนนี้ไปละลายน้ำเล่นแน่ๆ เก็บไว้ใช้ในอนาคตเผื่อแม่ผมเป็นอะไร หรือเก็บไว้เผื่อเป้นทุนไว้ไปทำงานจริงๆจังๆในอนาคตครับ

อันนี้ตัวอย่างที่ญาติผมจ้างทำบัญชีครับ ผมขอเบลอข้อมูลส่วนตัวหน่อยนะครับ







3.อันนี้ขอบคุณครับ ก็ตามที่ท่านว่าไว้เลยครับ

ส่วนเรื่องวุฒิ ผมมีวุฒิต่ำสุดคือปริญญาตรีครับ

อยู่กาญจนบุรีครับผม

ใช่ครับ กินสดๆเลยครับ

อ่านพอออกและเขียนได้ครับ เพิ่งทดสอบไปเมื่อเดือนที่แล้วครับ

งั้นก็เริ่มจากขายมะพร้าวนั่นแหละ เอาของใกล้ตัวที่เรามี/ญาติพี่น้องเรามี

เริ่มตรงนี้ก่อนนะพี่ชาย หาเวลา แวปๆไปสวนบ้าง ค่อยๆเรียนรู้งานไปก่อนในช่วงนี้ที่แม่ยังไม่สบาย
อย่างน้อยก็ถือว่าได้เริ่มนับ 1 ใหม่แล้วพี่ชาย

เจ้าของกระทู้ยังพอมีเงินเหลือสัก 5-10K มั้ยละครับหรืออาจจะไม่ต้องใช้เงินดาวน์เลยก็ได้ ลองคุยกับร้านดูขายดู

ผมแนะนำว่าคุณไปออกมอเตอไซสักคัน ออกมาแล้วก็เอาไปวิ่งวิน หรือวิ่งแกร็บส่งคน ส่งของ ส่งอาหาร ในพื้นที่บ้านนั่นละครับ แล้วแต่สะดวก

จะได้มีเงินรายวันมาอุดค่าใช้จ่ายภายในบ้านแล้วจะได้มีเวลาดูแลแม่ได้ เพราะอาการแม่คุณหนักขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวจะมีค่าใช้จ่ายแฝงมาอีกเยอะมาก เงินบำนาญที่ได้เดือนละ 4000-5000 มันไม่พอค่าใช้จ่ายรายเดือนในอนาคตหรอกครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ ไม่รู้จะช่วยยังไง

สอบถามเพิ่มเติมครับ ที่บอกว่ากินผงชูรส นี่กินแบบไหนหรอครับ ผมงงๆ คือแม่กินเปล่าๆหรอครับ