- เขาไม่รู้เลยว่าใครคือ ตัวเลือกแรกของทีมในตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริง เนื่องจากทั้ง คอเนอร์ แบรดลีย์ และ เจเรมี่ ฟริมปง ยังไม่ดีในสายตาของเขา

- เขายังไม่มีระบบที่เหมาะสมกับผู้เล่นที่เขามีอยู่ในทีมในขณะนี้ การสร้างสรรค์เกมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่! การขาดคนจบสกอร์ นั่นคือสิ่งที่พยายามแก้ไขในเวลานี้

- ในเกมรับดูแย่มาก ทีมต่างๆรู้จุดอ่อนทั้งหมด และรู้ว่าพวกเขาจะทำประตูใส่ ลิเวอร์พูล ยังไง และอยู่ว่า ทำแบบไหนไม่นานพวกเขาก็จะได้ประตูสำเร็จ

- ขาดซึ่งไอเดียจริงๆ อาร์เน่อ ยังไม่รู้เลยว่า เขาจะใช้งาน ฟลอเรียน เวียตซ์ ให้ได้ความสามารถมากที่สุด ใช้งานเขาที่ไหน และใช้งานเขาอย่างไร มันจึงจะเป็นผลดีต่อทีมได้มากทีสุด

- มีปัญหาใหญ่ก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ใช่ ซาลาห์ คนเดิมอีกต่อไป จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ จะเป็นบทบาทในการเล่น หรืออะไรก็ช่าง เขาต้องนำ ซาลาห์ คนเดิมกลับมา และผลกระทบต่อเกมของเขาก็จะกลับมา

- คิดมาดเกินไป ฤดูกาลนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ความคิดมาก และเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวหลักในทีมเสมอ 11 ตัวจริงจนถึงตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน และไอเดียในการเล่น ระบบในการเล่น ต้องเข้าที่เข้าทางได้แล้ว
และแน่นอน นี่เป็นบางส่วนของเรื่องมากมายที่ อาร์เน่อ จะต้องแก้ไขในช่วงพักเบรคทีมชาตินี้
[Source: Greig Hopcroft/AnfieldIndex]

https://www.facebook.com/photo?fbid=1383885777075179&set=a.488715579925541

หมดมุกมากกว่า คือดูพึ่งพาความสามารถนักเตะมากเกินไป พอนักเตะเล่นไม่ออก แทคติกที่วางไว้ก็ไม่ได้ดีพอจะประคองผลการเเข่ง

นึกย้อนกลับไปตอน 5 นัดแรก นักเตะโดนบ่นยับๆ ตอนนี้รู้สึกผิดละ
นักเตะมันสู้เต็มที่แล้ว สู้จนโกงตายได้หลายนัด
พอนักเตะเสกให้ไม่ได้ โค้ชก็อึ้งไปเรย งงเรย ไปต่อไม่ถูก

อย่างกักโปนัดล่าสุดนี่มันสู้จนขาหมดแรงละนะ ผมไม่ได้บ่นแกมาหลายนัดละ และผมไม่ใช่เอฟซีแกด้วย ผมแอนตี้กักโป แอนตี้มานานละ

โค้ชเก่งมั้ยไม่ได้ดูแค่ปีแรกที่ได้แชมป์แต่ดูระยะยาวว่าจะพาทีมรักษามาตรฐานได้ต่อเนื่องขนาดไหน ยิ่งทีมทุ่มงบให้ขนาดนี้แต่ทำทีมห่วยแตกและไร้ทรงคนยิ่งจะค่อนขอดว่าแชมป์เพราะโครงสร้างโค้ชเก่าแถมมีดวงที่คู่แข่งก็พร้อมใจพากันฟอร์มตกหมด

รอดูจะแก้ได้ไหม เวลาที่เจอปัญหาแต่ก็เห็นความพยายามก็เชียร์กันต่อ,ถ้าไม่ไหวก็ต้องไป แต่ขอทีมงานฟิตเนสแกไว้นะชอบมากรูเบนปีเตอ .

ขนาดได้แชมป์ยังโดนเนิฟขนาดนี้ โค้ชที่อันดับต่ำกว่าอีก 18 ทีมจะเหลืออะไร (เว้นเป๊ปไว้คนนึง)

ผมเชื่อว่าเดี๋ยวก็ดีขึ้น ห่างน่อลแต้มเดียวเอง

แผนยังไม่เข้าหัวนักเตะใหม่ ยังไม่รูใจในเรื่องวิธีเพรส และที่สำคัญ นักเตะเก่าดันเล่นแบบเดิม และออกทะเลอีกตังหาก..โดยเฉพาะแนวรุก เลี้ยงตัดเข้าในแล้วยิงทิ้งขว้าง สงสารเวียส อิซัค อิกิติเก้ เอามาเสียของถ้าผู้เล่นเก่ายังเล่นแบบเดิม ทีมอื่นเขาจีบทางได้หมดแล้ว~

มันทั้งสองอย่างนั่นแหละ
ถ้านักเตะเล่นไม่ออก แทคติคดีก็ไม่มีประโยชน์เต็มที่อยู่ดี
การลงไปเล่น แล้วจ่ายบอลไม่ตรงเพื่อนรัวๆ จ่ายเข้าเท้าคู่แข่ง จ่ายเสียตอนสวนกลับ อันนี้เป็นเรื่องฟอร์มส่วนตัวของนักเตะแล้ว ไม่เกี่ยวกับหมดมุก
ซาล่าห์ แมค แบรดลีย์ ฟริมปง โคนาเต้ พวกนี้จ่ายเสียเยอะมาก
มันต้องแก้ทั้งสองอย่างไปควบคู่กัน

ปีที่แล้วนักเตะของคล๊อปมันครบเครื่องจริง เพราะเล่นกันมาก่อนหน้าแล้ว

พอปีนี้อาร์เน่อเริ่มใส่นักเตะของตัวเองลงไปหลายคน เริ่มงานยาก (แม้จะเป็นฝ่ายทีมงานซื้อตัวก็เถอะ ยังไงสล็อตก็ต้องเห็นชอบก่อนซื้ออยู่แล้ว)

ปัญหาอยู่ที่การจบสกอร์ ไม่ต้องไปคิดอะไรให้เยอะ ปวดหัวเปล่าๆ

คนดูยังเห็น ทำไมโค้ชระดับแชมป์พรีเมียร์ลีกทำมไจะไม่รู้

สิ่งที่เห็นในจุดอ่อนคือ ทีมเล่นแย่ที่สุด เวลาถอด โคนาเต้ ออกแล้วถอย กราเฟนแบร์ก ไปยืนเซ็นเตอร์แทน
ไม่มีตัวต้ังเกม จากทีมกำลังบุกดีๆ กลายเป็นตั้งรับจนอ่อนแรงไปเอง

สาเหตุ ส่วนสำคัญคือ การวางแผน ตอนเริ่มพรีซีซั่น ที่ไปวางแผนว่าให้นักเตะค่อยๆฟิตเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่ต้องฟิตสมบูรณ์ตอนเริ่มเปิดฤดูกาล

อันนี้มีส่วนในเกมรุกและเกมรับ ที่ต้องใช้ พละกำลังในแดนกลางอย่างมหาศาล ของลิเวอร์พูล

ตอนนี้ถ้าจะแก้ คงต้องมารอดู อีก 5 นัดถัดไป จนถึงนัดเจอ แมนฯซิตี้ ว่าจะยังเกาะกลุ่มไปได้ตลอดหรือเปล่า

แล้วต้องมาดูการตัดสินใจแบบนี้ มันได้ผลในช่วงบั้นปลายแน่ๆ ใช่หรือไม่

แต่เท่าที่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ คงต้องบอกได้ว่า พลาด หรือ คิดน้อยไป มากกว่า ที่ไปวางแผนแบบนี้ กับ ลีกที่เข้มข้นที่สุดในโลก


ส่วน เวียร์ตซ์ กับ อิซัค หรือ แบ็ค สองข้าง ไม่น่ากังวล เดี๋ยวก็ปรับตัวได้ เล่นถูๆไถๆได้เอง

ส่วนที่ น่ากังวล และกลับมาหลอกหลอน แบบเดิมๆ อีกแล้วคือ เซ็นเตอร์ คู่กลาง

ไม่ได้ประคูง่ายๆ ก็อย่าเสียประตูง่ายๆ เพราะเอาคืนยากมาก

ตอนที่คลอปป์เจอ ก็เรียกว่ากว่าจะยอมรับความจริง เอา แนท ฟิลลิปส์ กับ รีส วิลเลียม ไปยืนเซ็นเตอร์แทน ก็เรียกว่าเกือบจะสายไป ด้วยซ้ำ

สลอท น่าจะเอาตรงนี้เป็นบทเรียนว่า การเอา กราเฟนแบร์ก ไปยืนเซ็นเตอร์ ช่วงท้ายเกม ไม่ต่างจากตอนที่ คลอปป์ เอา เฮนเดอร์สัน หรือ ฟาบินโญ่ ไปยืนเซ็นเตอร์ จนทีมแพ้รัวๆ ต้องไม่ฝืนธรรมชาติ มากเกินไป

แต่ก็เข้าใจได้ คน ดัทช์ คือ คนที่มี อีโก้ ในตัวเองสูง ไม่ยอมเสียหน้าง่ายๆ

ถ้าจะบ่นสล็อท ลองดู อโมริมก่อน

บอลตามหลังทีมต้องการประตู เปลี่ยนตามตำแหน่ง เล่นแผนเดิมจ้าาา

สล็อทยังถอดตัวรับออกเเล้วส่งตัวที่เล่นเกมส์รุกได้ดีลงไป โอกาสก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย เเต่ติดที่ทำไม่ได้มากกว่า

แก้ได้ แต่ปัญหาคือ นักเตะยังเล่นไม่เข้าขารู้ใจกันเลย เราจะเห็นภาพอิซัคยืนโดดเดี่ยวบ่อยๆ เวียตซ์ต้องครองลูกนานกว่าปกติเพื่อมองหาเพื่อนถ้าจะให้มีเพลย์ที่ดีอะนะ บังลากจี้แล้วไปต่อไม่ได้ พวกนี้คือรอเวลาเสียบอลโดนโต้ มันก้ตามมาด้วยหลังรั่ว เกิดเป็นโดมิโนเอฟฟเฟค แล้วมันก็ไปโหลเกลางรับกับหลัง ดูตอนอิกิลงมาต่ำหน่อยแล้วทำชิ่งกับเพื่อน ทีมพอไปรอด มีประตู กดดันคู่แข่งได้ พอเป็นอิซัคที่สถิตข้างหน้ามากขึ้น ทีมเสียสมดุล มีอยู่นัดนึงอิซัคแกไม่ไหว ออกข้างลงต่ำ ไปเรียกเพื่อนมาเล่นร่วม ทำชิ่ง สภาพคือไม่หวแล้ว ไม่รู้เป็นเพราะแทคติกหรือเปล่า ที่ให้ยืนตำแหน่งตายตัวเกินไป พออิซัคทำชิ่งกับเพื่อนได้ มีส่วน บอลมันเดินไปข้างหน้าได้ แกได้ยิงเลย นี่คือแกตั้งใจทำให้เห็นว่าปัญหาอยู่ที่ไหน ต้องยืดหยุ่น แกไม่ต้องปักข้างหน้าก็ได้ เพื่อก็สอดขึ้นไปบ้างก็ได้ ตรงนี้ต้องอาศัยการเล่นร่วมกันอีกพัก เพื่อไม่ให้อิซัคต้องไปชี้นิ้วบอกเพื่อนในแบบในวันนั้น และโซนตรงนั้นมันขยายออกได้

สิ่งสำคัญอย่างแรก หา และตัดสินใจ 11 (อาจ+สำรองไปอีก 3) ตัวแรกให้ดี และให้มันเล่นด้วยกันเยอะๆก่อน เริ่มจากง่ายๆตัวแปรน้อยๆ แล้วเดี๋ยวค่อยเติมตัวอื่นเข้าไป ไม่งั้นทำแบบทุกวันนี้เปลี่ยนมันนัดละ 5 ตัว แล้วมันมั่ว และถ้าในทีมมีซุปตาร์เยอะ ควรใช้แทคติกกรอบกว้างๆแล้วให้อิสระในกรอบ เช่นอิซัคไม่ต้องปัก เวียร์ซสอดไปยิง พวกนี้ทำให้จนคล่อง รู้ใจ แต่ทั้งหมดทั้งมวล ดูทรงแล้วสลอตคงจะใช้เวียตซ์เป็นตัวหลักแน่ ดังนั้นเวียตซ์ต้องมีแรงปะทะ จะมาพลิ้วไม่ได้ เพราะตรงที่มันอยู่จะมี 6-10 เท้ารออยู่ ให้เมสซี่เข้าโซนแบบนี่ 10 ครั้ง รอดไม่เกิน 2 ครั้งอ่ะ นี่ขนาดยอดมนุษย์นะ ไม่มีเวลามองหาช่องจ่ายได้ ถ้าไม่มีการปะทะถ่วงเวลาไว้

อีกเรื่องคืคีย์ของลิเวอร์อยู่ที่ 3 ตัวหน้าหรือ 3 ตัวหลังกองหน้า อยู่ที่ว่า 433 หรือ 4231 ผมเห็นความสมดุลที่เกิดจาก 1ตัวไล่บอล (โซโบ) 1ตัวจี้ (ดิอาส) 1ตัวเพลย์เมคเกอร์(ซาล่าห์) สมัยคลอป ตรงนี้พอเปลี่ยนดิอาสเป็นกัคโป สมดุลเสียไปนิด พอเปลี่ยนโซโบเป็นเวียตซ์ ทีนี้พังเลย ถ้าคิดจะกระจายโหลดงานแต่ละอย่างให้ 3 ตัวนี้ บังก็ต้องวิ่งไล่ชะลอบอลด้วย เวียตซ์ก็ต้องเล่นรับด้วย แล้วต้องมีสักตัวจี้กินตัวด้วย แล้วมีเพลย์เมคเกอร์ 2 ตัวจะกรจายบอลอย่างไร ต้องใช้ความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้นเทียบกับงานแบบตายตัวสมัยคลอป ตรงนี้สลอตต้องไปแก้โจทย์ ไม่ใช่จับวางอย่สงเดียวจนเสียดุล

ปัญหาหลักๆของสล็อตคือไม่เชื่อใจนักเตะมากพอ อย่างที่เราบ่นกันปีที่แล้วที่แกไม่ยอมใช้สำรองเลย ให้เวลาแต่ละคนได้เล่นคือน้อยมากๆ แต่เพราะนักเตะที่เป็นแกนเดิมเล่นกันในระบบเดิม ผลมันเลยออกมาดี

พอมาปีนี้แกได้ซื้อนักเตะที่อยากได้ แต่ปรับระบบเล่นใหม่ กลายเป็นนักเตะใหม่ก็ยังปรับตัวไม่ได้ นักเตะเก่าก็ยังจูนกับเพื่อนไม่ติด ผลก็คือคนที่เคยแบกอย่างโมฟอร์มไม่เหมือนเดิม แมคร่างกายไม่ไหว แบ็คซ้ายขวาฟอร์มไม่ดีทั้งคู่ แกเลยต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นไปเรื่อยๆ ตัวที่เล่นไม่ดีก็ไม่กล้าเปลี่ยน เพราะไม่เชื่อใจสำรองที่แม้จะฟอร์มดีกว่า กลายเป็นนักเตะสับสน ไม่รู้ต้องเล่นแบบไหน วิ่งตรงไหน ไม่รู้ใจกันสักที