..ศาสนาคือเครื่องมือปกครองคนจากยุคเก่า มันก็แค่นั้นแหละครับ ที่เหลือใครอยากนับถืออะไรก็เอาที่ชอบๆ

ื
ชื่อพี่บ่วงครับ เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับคุณไนท์ Gssspoted แก๊งคอเย็นแกอายุเยอะกว่าลุงไนท ประมาณ 35 ส่วนลุงไนท์น่าจะ29-30 มั้ง

หลังๆแกมาทำช่องตัวเองแล้วชวนเพื่อนสนิทชื่อพี่บิ๊กมาทำด้วยกันในชื่อ Bigboung (บิ๊กบ่วง)

เป็นพอดแคสพูดเรื่องสัพเพเหระ เรื่องเหตุบ้านการเมือง เรื่อง18+ เรื่องกระเจี๊ยว เรื่องปรัชญา วาไรตี้มากๆ

รูป Avatar ผม คนที่อ้วนๆขาวๆคือพี่บ่วง คนที่ผมบ๊อบๆผอมๆชื่อพี่บิ๊ก ส่วนอีกคนไม่เกี่ยวเป็นแขกรับเชิญคือ Redremasted

ส่วนตัวผมติดตามช่องนี้เพราะชอบลีการการพูดของพี่บิ๊ก แกเป็นคนดูจะฮาๆแต่ลึกๆเป็นคนมีความรู้ และมีแง่มุมแปลกๆมาเล่าให้ฟังบ่อย

ไปตามได้ครับ ผมชอบมาก โดยเฉพาะตำนาน ป๊อก ป๊อกๆ

ผมไม่รู้ครับ

ผมเลือกไม่จะไม่คุยเรื่องนี้กันเลยครับ สบายใจสุดๆ

วิทยาศาสตร์จะบอกอะไรใหม่ๆให้คนอื่นเชื่อ ตองมีการยืนยังด้วยหลักฐานต่างๆหรือการคำนวที่ยอมรับได้ คนถึงจะเชื่อ ศาสนาบอกคิดไปก็ปวดหัว มึงเชื่อกูเถอะ

อย่างแรกบ่วงตั้งธงว่าพระเจ้าทำอะไรไม่มีเหตุผลก็ได้หรือมีเหตุผลก็ได้
พอมุสลิมเอาเหตุผลมาคุยว่าอะไรสมเหตุสมผลกว่าก็กลับไปหาธงแรก(บรรทัดแรก)
จนต้องมาคุยให้รู้เรื่องว่าทำไมพระเจ้าต้องเป็นไปตามเหตุผล(ที่มนุษย์เข้าใจ)
ตัวเลือกการโต้
1 ทำให้บ่วงยอมรับว่าพระเจ้าต้องเป็นไปตามเหตุผลตรรกะที่ถูกต้องด้วยเหตุผลทางปรัชญา
2 ใช้ประจักษ์พยานที่หน้าเชื่อถือ คือ พระเจ้ามาบอกเอง หรือ ผู้รับสารจากพระเจ้า(มีความน่าเชื่อถือด้วย)
ซึ่งก็ต้องมาพิสูจน์อีกที

ที่มุสลิมโดนเรื่องพระเจ้าบ่อยๆ

ผมว่ามาจากความเคร่งครัดของศาสนา

พุทธ คริสต์ มีความเชื่อเรื่องเหนือจริง แต่ไม่ได้ซีเรียสเท่าอิสลาม

เพราะงั้นเลยดูเหมือนโดนเยอะ

ผมดูรายการป๋าเต็ดตอนที่สัม บังโตกับพี่บอย(bakery) ได้มุมมองเรื่องศาสนาดีมากๆ.....ทั้ง2คนพูดเหมือนกันว่าพระเจ้าของเขาคือที่1.

พระเจ้าน่าจะว่างจัด
ทำมันทุกเรื่องเลย

บ่วงที่มีคำถามกับพระเจ้าทำได้ทุกอย่าง แต่บ่วงไม่จำกัดพลังพระเจ้า พระเจ้าทำได้ทุกอย่างแม้จะย้อนแย้ง


แต่คนนับถือพระเจ้า กลับไปจำกัดพลังของพระเจ้าว่าทำนั้นทำโน้นทำนี้ไม่ได้ แต่ตัวเองก็บอกอยู่ตลอดว่าพลังพระเจ้าเหนือจินตนาการของคน

สุดท้ายคนนับถือพระเจ้านั้นแหละไปแต่งตั้งพลังของพระเจ้าเอง

ผมเชื่อในศาสนาพุทธ แต่เชื่อเพียงแค่เรื่องแก่นพวก ไตรลักษณ์ เพราะมันตรงกับความคิดตัวเองมาตลอด ส่วนเรื่องในคำภีร์ ยังไม่เชื่อ แต่ไม่ได้ฟันธงว่าเป็นไปไม่ได้

และผมคิดว่าแต่ละศาสนา “อาจจะ” พูดถูกทุกศาสนา เพียงแต่เลือกอธิบาย เน้นย้ำในบางสิ่งที่ต่างกัน

“เป็นไปได้ว่า” แต่ละศาสนามีผู้รู้คนนึง แล้วเอาเรื่องที่รู้มาบอกกล่าวคนอื่นๆ สิ่งที่บอกกับคนยุคเก่าอาจจะดูเบียวๆ ดูเพ้อเจ้อสำหรับเรา แต่ผมคิดว่าเค้าอาจจะพยายามเล่าในแบบนึง เพื่อให้คนในยุคที่ยังมองไม่พ้นท้องฟ้าของโลกเข้าใจได้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อาจจะถูกแต่งเติมเพิ่มมาภายหลัง จริงบ้างไม่จริงบ้าง สมเหตุผลบ้าง บ้งๆ บ้าง

จริงๆ แล้ว พระเจ้าอาจจะเป็นตัวแทนของอะไรสักอย่าง ที่ทำหน้าที่ควบคุมความเป็นไปของจักรวาล อาจจะเป็นคนเขียนโปรแกรม แล้วเราอยู่ในแมทริกซ์โดยไม่รู้ตัวก็ได้

ศาสนาอื่นอาจให้ความสำคัญกับคนควบคุม กับสิ่งที่ไกลออกไปเหนือจักรวาล แต่พุทธถึงจะพูดถึงเรื่องจักรวาลบ้าง แต่ให้ความสำคัญกับตัวเราที่เป็นผู้รับรู้ ให้เราตื่นรู้ว่าทุกอย่างไม่ใช่ตัวตน เป็นแค่ธาตุ แค่อะตอมที่ประกอบกันแล้วมำงานไปเรื่อยๆ และบังเอิญมีความรู้สึกนึกคิด

สิ่งหนึ่งที่ย้อนแย้ง คือ คนที่ยึดเหตุผลไปล้อเลียนคนที่ยึดในศรัทธา

ซึ่งถ้าในหลักธรรมระดับเดียวกัน ก็ มาจากความศรัทธาทั้งคู่

ศาสนาต่าง ๆ ในโลกนี้มันเกิดมาเพื่อปฏิวัติแนวคิดของศาสนาดั่งเดิมครับ อย่างพุทธเกิดมาเพื่อปฏิวัติแนวคิดของพราหมณ์-ฮินดู มันเป็นการต่อสู้กันด้านความเชื่อเพื่อช่วงชิงกลุ่มคอมมิวนิตี้

เหตุผลก็คือเหตุผล ผลมาจากเหตุ เหตุทำให้เกิดผล ไม่เกี่ยวกับความศรัทธา

ศรัทธาความเชื่อ มันเอามาใช้ตอบ เรื่องบางอย่างที่มนุษย์(ยัง)พิสูจน์ไม่ได้

ซึ่งคนที่ยึดหลักเหตุ อาจจะเชื่อ หรือไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า เป็นไปได้ทั้งนั้น

ดังนั้นคนที่ยึดหลักเหตุผลจะมีขัดแย้งกับอิสลาม ที่เน้นไปที่พระเจ้ามากๆถึงที่สุด

พวกที่เข้าไปแค่ล้อเลียน ไม่น่าจะเป็นพวกมีเหตุมีผลนะ

เชื่อแล้วทำไมฆ่ากันเพราะศาสนา