Paul Scholes ปรมจารย์ลูกหนังแห่งโรงเรียนลา มาเซีย.... ที่ไม่เคยเหยียบโรงเรียนที่ตนสอนแม้แต่เพียง1ก้าว

ควันหลงอันหนึ่งจากเกมบาร์เซโลนาพบนิวแคสเซิลและงานประกาศรางวัลบัลลงดอร์คือภาพประกอบคำพูดของพอล สโคลส์ อดีตนักเตะในวัยใกล้จะ 51ปี ซึ่งหลายๆคนอาจจะ​รู้จักพอล สโคลส์ในฐานะตำนานนักเตะคนนึงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่เป็นต้นสังกัดตัวจริงของมาร์คัส แรชฟอร์ด และอาจจะเคยได้ยิน ได้ฟัง หรือได้ชมมาบ้างว่านี่คือยอดนักเตะฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์​คนนึงในยุคของเขา และถ้าวัยใกล้กับคนที่กำลังนั่งเขียนอยู่สักหน่อยก็อาจจะได้ชื่นชมฝีเท้าของสโคลซีที่ถูกเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเรียกขานว่าคือนักเตะที่เขาไม่เคยต้องสอนสิ่งใดแกเจ้าตัวแม้เพียงสักครั้งตลอดอาชีพการทำงานอันยาวนานเลย เพราะนี่คือนักเตะมันสมองระดับเพชรที่รู้ว่าต้องทำอะไรในแต่ละวินาทีในสนามของเขาตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งต้องบอกว่านี่คือคำพูดสรรเสริญ​ที่ออกจากปากของกุนซือที่มีประวัติศาตร์การคุมทีมยาวนานร่วมๆ 3 ทศวรรษ​กับทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ผ่านการคุมทีมคว้าแชมป์มาอย่างนับไม่ถ้วน และมีนักเตะระดับดาวค้างฟ้าผ่านมือของเขาจนเหลือคณาได้​ พอจะเอ่ยชื่อก็มีอย่างไรอัน กิกส์ เดวิด เบ็คแคม ฮวน เวรอน การ์ลอส เตเบส และคริสเตียโน โรนัลโดที่คว้าบัลลงดอร์ได้ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีใครคู่ควรกับคำชื่นชมจากป๋าเฟอร์กี้นี้ได้เลยนอกจากมิดฟิลด์ผมแดงร่างเล็กเชื้อสายไอริชคนนี้

ว่าแต่เขามาเกี่ยวข้องกับลา มาเซียได้อย่างไรนะ?

จุดกำเนิดของพอล สโคลส์

พอล สโคลส์เกิดในครอบครัวที่มีเชื้อสายไอร์แลนด์และนอร์ธเทิร์น​ไอร์แลนด์ที่ย้ายมาปักหลักในเมืองแมนเชสเตอร์ตั้งแต่ยังเด็ก เขาเติบโตมากับฟุตบอลระดับเยาวชนกับโรงเรียนในท้องถิ่นจนได้เข้าสู่อคาเดมีของทีมปีศาจแดงในช่วงต้นของวัยรุ่น ในช่วงแรกเริ่มของเขากับเกมลูกหนัง สโคลส์เล่นในตำแหน่งกองหน้ามาตลอดจนถึงช่วงการเดบิวท์กับทีมชุดใหญ่ของแมนยู แต่เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยพรสวรรค์ในศาสตร์ฟุตบอลที่โดดเด่นในด้านความฉลาดทางมิติเวลาและการคาดการณ์​สถานการณ์​ได้ราวกับมองเห็นอนาคต ความเข้าใจเกมอย่างที่ไม่มีใครเปรียบ และความสามารถในการวางลูกบอลให้ตกกระทบบนฟลอหญ้าสู่เป้าหมายได้ดั่งใจนึกไม่ต่างกันไม่ว่าจะในระยะ5หลาหรือ50หลาก็ตาม ทำให้พอลได้กลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แค่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรที่เขาอุทิศทั้งชีวิตการค้าแข้งให้เท่านั้น แต่แม้ในระดับโลก เขาก็คือ1ในกองกลางที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาลเช่นกัน

นอกจากนี้สโคลส์ยังได้รับการยอมรับจากนักเตะระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์อย่างซีเนดีน ซีดานที่บอกว่าสโคลส์คือกองกลางที่สมบูรณ์แบบ อันเดรีย ปีร์โร กองกลางสมองเพชรเจ้าของนิยามตำแหน่ง "เรจิสต้า" ที่ขึ้นชื่อเรื่องไอคิวฟุตบอลก็ยกย่องว่ามันสมองของสโคลส์ทำให้เขาควบคุมทุกอย่างในสนามได้ดั่งใจ หรือแม้แต่เทียรี อองรีก็เรียกสโคลส์ว่ากลางที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก นี่คือตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของลิสต์รายการอันยาวเหยียดของแข้งระดับโลกที่สดุดีในฝีเท้าของนักเตะคนนี้ และแน่นอนว่าลิสต์นั้นก็รวมถึง 2 สุดยอดมันสมองของบาร์ซ่าอย่างเป๊ปกวาดิโอลาร์ที่ยกให้สโคลส์คือกองกลางที่ดีที่สุดแห่งยุคของเขา และชาบี เอร์นันเดซ เจ้าของคำชื่นชมที่ทั้งยกให้สโคลส์เป็นแบบอย่าง เป็นนักเตะกองกลางที่ดีที่สุดในรอบ 20ปี และตบท้ายด้วยประเด็นสุดดราม่าว่า "ถ้าสโคลส์เป็นชาวสเปนคงได้รับการชื่นชมมากกว่านี้มาก" ที่พาทัวร์ไปลงชาบีกันฉ่ำในวันนั้นชนิดบันเทิงกันพอสมควร แต่ประเด็นที่น่าขบคิดตามนั่นก็คือคำถามที่ว่า…

…. ทำไมถึงต้องสเปนล่ะ?

เราเชื่อว่าชาบีไม่ได้จะหมายความว่า พอล สโคลส์ไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควรหรือไม่ถูกยกย่องในเกาะอังกฤษ แต่ชาบีกำลังพูดถึงวัฒนธรรม​ฟุตบอลอันแตกต่างกันของทั้ง 2 ประเทศมากกว่า โดยเฉพาะถ้าเราพูดถึงบริบทฟุตบอลเมื่อ20กว่าปีที่แล้วที่ยังไม่มีใครรู้จักฟุตบอลของเป๊ป กวาดิโอลาร์ อะไรคือติกีตะก้า อะไรคือ Positional play อะไรคือ Deep-lying playmaket คอนเซปป์เหล่านี้ยังไม่ถูกเข้าใจอย่างกว้างขวางหรือถูกยกขึ้นมาศึกษาและให้ความสำคัญในสังคมฟุตบอลอังกฤษเท่าไหร่ จึงไม่แปลกว่าทำไมนิยามคำว่า "ยอดนักเตะ" ที่สโคลส์ได้รับจากแฟนบอลโดยทั่วไปจึงอาจจะถูกจำกัดอยู่ในมิติที่มองเห็นได้อย่างการผ่านบอลที่แม่นยำ การยิงประตูที่รุนแรง หรือแม้แต่การเป็นมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนที่ทุ่มเททุกหยาดเหงื่อให้กับทีม แต่มิติการเป็นมิดฟิลด์ที่คอนโทรลเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นกลับจำกัดวงแคบอยู่ที่เพื่อนร่วมทีมและโค้ชมากกว่า อย่างเช่นเฟอร์กี้ที่ยกให้สโคลส์คือมันสมองที่หลักแหลมที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์​ของแมนยู หรือปีเตอร์ ชไมเคิลที่บอกว่าการอ่านเกมของสโคลส์นั้น "ไร้เทียมทาน"

แต่กับแวดวงฟุตบอลสเปนนั้นจะเข้าใจและให้คุณค่ากับนักเตะในสไตล์นี้มากกว่า ดังที่ครั้งหนึ่งนักเตะอย่างเป๊ป กวาดิโอลาร์ และเฟร์นันโด เรดอนโดเคยถูกแซ่ซ้องว่าคือกลางที่ดีที่สุดของลา ลีกาและเป็นนักเตะระดับท๊อปของโลก

ฉะนั้นมันจึงไม่ใช่ว่าผู้คนที่อังกฤษไม่รู้ว่าสโคลส์เก่งกาจ"แค่ไหน"​ แต่แค่ภาพมันไม่ชัดว่าสโคลส์เก่ง"ยังไง"​กันแน่มากกว่า

และการที่เราพูดว่านักเตะอย่างสโคลส์นั้นได้รับการยกย่องและให้คุณค่าอย่างมากที่สเปนนั้นไม่ใช่การพูดลอยๆ เพราะอย่างน้อยก็มีโรงเรียนฟุตบอลชื่อดังแห่งหนึ่งที่ยกย่องสโคลส์มากถึงขนาดที่ยกมาเป็นแบบอย่างในการเรียนการสอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันให้กับเหล่าแข้งวัยกระเตาะในอคาเดมีทุกระดับชั้นปี วันแล้ว วันเล่าที่ทุกเพลย์การเล่นของสโคลส์ถูกวิเคราะห์และจับใจความสำคัญออกมาเป็นบทเรียนแก่เหล่าเด็กน้อยตาใส จนถึงขนาดที่เด็กๆในอคาเดมีต่างผูกพันกับสโคลส์จนสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าสโคลส์คือหนึ่งในครูฟุตบอลของพวกเขาเช่นเดียวกับตำนานนักเตะของสโมสรอย่างเป๊ป ชาบี อิเนียสตา หรือบุสเกตส์

แน่นอนว่าโรงเรียนที่ว่าก็คือลา มาเซีย

สโคลส์อาจจะไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเขาได้กลายเป็นต้นแบบและไอดอลให้กับนักฟุตบอลของบาร์ซ่ามากมาย และถ้าจะถามว่าพอล สโคลส์นั้นฝังรากลึกในลา มาเซียขนาดไหน ก็ต้องขอเล่าด้วยการเท้าความ​ถึงชาบีและอิเนียสต้า สองกองกลางยุคบาร์ซ่า-และสเปนครองโลก ทั้งสองคนนี้เป็นคู่หูกองกลางที่ดีที่สุดในโลก และทั้งคู่ต่างก็เป็นติ่งของพอล สโคลส์ด้วยเช่นกัน

อย่างที่บอกไปว่าชาบีเองก็ยกให้สโคลส์คือต้นแบบของเขา ส่วนอิเนียสต้าก็อินจนถึงขั้นที่ว่าลูกชายคนแรกของเขาที่ชื่อ "พอล" นั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจจากสโคลส์ รวมถึงเสื้อแข่งตัวที่สโคลส์ใส่ในรูปภาพจากนัดชิง UCL ปี2011 นั้นก็เป็นเสื้อของอิเนียสต้าที่มือไวกว่าใครและได้แลกเสื้อกับพอล สโคลส์ ปล่อยให้รุ่นพี่อย่างชาบี และรุ่นน้องลามาเซียคละรุ่นคนอื่นๆทั้งเมสซี่ เปโดร และบุสเกตส์ต้องยืนหน้าแห้งอดได้เสื้อไอดอลฟุตบอลของพวกเขาไปแขวนบนผนังบ้านอย่างที่อิเนียสต้าผู้สมหวังได้เอาเสื้อของไอดอลของเขาไปขึ้นแขวนโชว์ที่ผนังบ้านอย่างภาคภูมิใจ

เรียกว่าเป็นติ่งสโคลส์กันทั้งโรงเรียน

สโคลส์ในวัยล่วงเลยวันนี้อาจจะมีเพียงชื่อเสียงเก่าๆให้พอดังถึงหูของวัยรุ่นฟุตบอลสมัยใหม่นี้ได้พอได้ยินได้รู้จักชื่อของเขาอยู่บ้างแม้เพียงไม่มาก แต่โปรดรู้เถิดว่า ณ ที่แห่งหนึ่งในแคว้นกาตาลุนญา สโคลส์ยังคงเป็นดั่งอาจารย์ของนักฟุตบอลสมัยใหม่รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่เติบโตขึ้นมาจากอคาเดมีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แม้ชื่อเสียงจะเลือนหายไปตามกาลเวลาในที่แห่งใดก็ตาม แต่ที่ลา มาเซียสโคลส์ก็ยังคงเป็นไอดอลอยู่ไม่เสื่อมคลาย และนั่นคือหนึ่งในสาเหตุที่คำหวานของสโคลส์ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ที่พูดถึงเปดรีและบาร์ซ่ามันถึงทัชใจพวกเรามากอย่างไม่น่าเชื่อจนเป็นแรงบันดาลใจเล็กๆที่ทำให้เราอยากเขียนถึงมิดฟิลด์ร่างเล็กผู้ยิ่งใหญ่คนนี้อีกครั้ง มิใช่เพื่อให้คนจดจำรึคิดถึง แต่เพื่อให้รู้ว่าเขาไม่เคยถูกลืมเลือนแม้เพียงหนึ่งลมหายใจ

แด่พอล สโคลส์ ปรมจารย์ผู้เป็นตำนานและแรงบันดาลใจของลา มาเซียอย่างแท้จริง

ที่มา : บาร์ซ่าเข้าเส้น by แฟนพันธุ์แท้บาร์ซ่า

จะว่าไปนักเตะบาร์ซ่าหลายคนก็พูดถึงสโคลล์จริงแฮะ พวกสเปนน่าจะชอบสไตล์นี้

สุดแล้วคนนี้ กลางเก่งสุดตลอดกาลสำหรับผมเลย ถึงขั้นแขวนสตั๊ดแล้วแต่เซอร์ยังต้องไปขอให้กลับมาช่วยครึ่งฤดูกาล พอกลับมาปุ๊บ ทีมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าทันที

เด๋ว ๆ มันต้องหลังเท้าเป็นหน้ามือสิ

มีบทสัมถาษณ์ต้นฉบับมั้ย เพราะบาซ่ามีกองกลางที่เก่งกว่าสโคลเยอะเเยะ ทำไมต้องสโคล หรือเเฟนบอลสร้างข่าวปั่นอวย

แล้วสงสัย จังว่า เอารูปแบบการเล่น ไปสอนนักเรียน แล้วเค้าต้องขอลิขสิทธิ์ อะไรกันหรือเปล่า

อย่างนี้ ก็แสดงว่าโรงเรียนสอนฟุตบอลนี่เก่งมาก ในการหาแบบอย่างที่ดี มาสอนนักเรียนได้ ในขณะที่ฝังอังกฤษมองไม่ออก เข้าใจว่าเป็นที่นักเตะมีพรสวรรค์สูง ที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

กลางยุคก่อนยกย่องสโคลกันจริงพวกชาบี้ อิเนสต้าพูดถึงสโคลล์กันบ่อยหรือแม้แต่แย่งเอาเสื้อสโคลล์ แต่จะบอกว่าเป็นปรมจารย์แห่งลามาเซียผมว่าไม่ใช่อะ กลางสไตล์สโคลล์ไม่เคยเห็นผุดออกมาจากลามาเซียสักคน ชาบี้ อิเนสต้า บุตเกส ไม่มีเห็นจะเหมือนสักกะคนหรือหลังจากยุค 3หน่อก็ไม่เห็นแบบนั้น ถ้านักเตะสเปนที่คิดว่าสไตล์ใกล้เคียงคือชาบี้ อลอนโซ่ แต่กับกลางบาร์ซ่าเอาจริงๆหลายๆคนก็นึกในหัวออกทันทีว่ากลางฉบับลามาเซีย บาร์ซ่าเป็นยังไงซึ่งไม่ใช่ สโคลล์แน่ๆ

ตอนกลับมา หลังแขวน ลูกวางยาวยังเนี๊ยบเหมือนเดิม จำได้ว่า บางคนอวยว่า จุติใหม่

ที่สุดของการเข้าบอล

เรื่องแต่งมั้ยครับ มันดูเกินจริงไป เหมือนเรื่องโรนัลโด้กับเพื่อนอีกคนนึงแย่งกันเข้าอคาเดมี่ของลิสต์บอน ให้ความรู้สึกฟิลล์กูด บาร์ซ่ามียอดมิดฟิลด์ตั้งมากมายทำไมต้องเอานักเตะที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรมาเป็นต้นแบบ เรื่องยกย่องกันก็เป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องเป็นต้นแบบในอคาเดมี่ฟังแล้วขัดๆยังไงไม่รู้

ไอ้เรื่องถึงขั้นยกให้เป็นปรมจารย์เลยมั้ยอันนี้ไม่แน่ใจว่าข่าวจริงเท็จแค่ไหน

แต่จำได้ว่านักเตะบาซ่าหลายคนชมแกอยู่ ถ้าจำไม่ผิดมี ชาบี้ กับ อิเนียสต้า ก็ไม่แปลกที่จะชื่นชอบเพราะสไตล์ตัวเล็กแต่คุมเกมดีทั้งนั้น

จริงๆถ้าไม่นับเรื่องเข้าบอลโฉ่งฉาง สโคลส์นี่เล่นไม่เหมือนนักเตะอังกฤษเท่าไหร่ ยุคนั้นปกติกลางอังกฤษเน้นพละกำลังเป็นหลัก แต่แกเน้นการอ่านเกมอ่านจังหวะ จ่ายบอลฉลาด

ซึ่งก็ถือว่าหายากมาก ด้วยขนาดตัวที่เล็กแต่เล่นในลีคที่ดุดันขนาดนี้และยืนระยะได้ แถมแกเล่นกลางคู่แผน 442 เลยด้วย ไม่ใช่ 433 ที่มีกลางคนอื่นคอยช่วยหรือยืนเป็นกลางรุก แกยืนคุมคู่กับคีนสบายๆเลย แล้วตอนนั้นต้องปะทะพวก วิเอร่า เจิด แลมพ์ ในอายุที่มากขึ้นนี่สุดยอดมาก

ช่วงยุคสมัยที่แก๊งต่างดาวเติบโต ยังอยู่ในช่วงยิ่งใหญ่ของ แมนยู บาเยิน มาดริด มิลาน
ตอนนั้นบาเซโลน่ายังไม่ค่อยได้ลุ้นกับเขาเท่าไหร่
ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะมีการศึกษาการเล่นแหละ

อยากรู้ใครเป็นคนเอาสโคลมาเป็นโมเดล ตาแหลมมากเลย

ส่วนผมมองว่าแกแกได้แบบมาจากลูกพี่อีกทีนึงเหมือนกัน แต่การจ่ายบองสร้างสรรค์เกมจะแจ๋วกว่า

สโคลเป็นไอดอลของชาบีอิเนสต้าจริง ไม่ใช่ไอดอลของลามาเซีย อันนี้ก็เยอะเกินไป

ทำได้ไร้ที่ติแทบจะทุกอย่าง ยกเว้นการแท็คเกิ้ล
เสียบแต่ละครั้งเหมือนแค่อยากเล่นงานใครซักคน