BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 19433
ที่อยู่: รากมะม่วง
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:35
ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน


จากที่ดูของพม่าน่าจะอีกยาวไกล

ยิ่งตอนดูใน"เถื่อน" ความขัดแย้งมันยาวนานมาก

่ส่วนไทยเราเอาจริงก็มีหลากหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน ตั้งแต่ขอม กลุ่มคน ไท-ไต มีล้านช้างบางส่วน ล้านนาก็ภาคเหนือ ภาคใต้ก็มลายู ไม่นับพวกจีนโพ้นทะเล มีแขกอีก อย่างภาคเหนือก็ยังมีชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆอีกเยอะ แม้บรรพบุรุษดั้งเดิมส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่พม่า เช่น กระเหรี่ยง ไทใหญ่ กลุ่มเหล่านี้ก็สามารถเข้ามาตั้งรกรากได้ ไม่มีปัญหาใดๆๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 21965
ที่อยู่: -
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:39
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
ไทยเลือกเสียเขตแดน แทนการถูกยึดเป็นอาณานิคมโดยตรง
ทำให้มีสิทธิ์เต็มในการกวาดล้างกลุ่มที่เห็นต่าง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Aug 2023
ตอบ: 127
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:39
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
ไทยเราอย่างน้อยก็พูดภาษาเดียวกันนะ ไม่ว่าไทย ล้านนา ล้านช้าง ยันปักใต้ เรียกได้ว่าไม่ได้ห่างกันมาก แต่พม่านี่คนละภาษาคุยกันไม่รู้เรื่องเลยมั้งเนี่ยะ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Sep 2005
ตอบ: 11833
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:41
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
เพราะเรามี...
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 10505
ที่อยู่: WHL...
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:45
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
ไทยเรามันชาติพันธุ์ใกล้เคียงกันหมด พูดไทได้ ลองคิดสภาพคนกทม. เชียงใหม่ คนลาว คนไทใหญ่พม่า ผมว่ามันใกล้เคียงกันนะ ไมไ่ด้เเยกเอกเทศหรือต่างกันขนาดนั้น

หันไปพม่าสิ เเขกมั่ง จีนมั่ง ไทยมั่ง พม่าเดิมมั่ง ยิ่งกว่าโซเวียตหรืออเมริกาอีกเอาจริง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


TOT FC [06] & BUR [25]
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Aug 2021
ตอบ: 6160
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:47
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
กษัตริย์

ไม่เกินจริง ศุนย์รวมจิตใจ
สมัยก่อนคิดกันแบบนี้

ถึงสมัยนึ้อาจจะเพลา ๆ ไปบ้างตามการเวลา
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: Peace is a lie
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 11082
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:53
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
เพราะผู้มีอำนาจมีคุณภาพการตัดสินใจที่ดี ผลลัพธ์เลยมีคุณภาพที่ดีตามไปด้วย

ในกรณีที่การรวมชาติทำได้ง่ายกว่าพม่า

ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าไทยน่าจะเทียบได้กับอเมริกา ที่ยกค่านิยมเป็นหลักไม่ใช่เชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2007
ตอบ: 47638
ที่อยู่: แขนของทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 13:58
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
เพราะไม่ได้แบ่งแยกชัดขนาดนั้นด้วย และอิทธิพลสยามในอดีตก็มีมากพอสมควรในพื้นที่ + กับช่วงสร้างชาติและเปลี่ยนเป็นไทยผมว่ามีความสำคัญมากเหมือนกันทำให้มันเป็นอัตลักษณ์แบบปัจจุบันได้ อันนี้คงต้องยกให้ส่วนนึงเป็นผลงานของจอมพลป.แหละนะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Dec 2024
ตอบ: 577
ที่อยู่: old trafford
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 14:10
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
พันธุกรรมคนป๊อดเยอะ ราชาเลยจับรวมเข่งกันง่ายกว่าเผ่าพันธุ์ที่หัวดื้อ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Feb 2009
ตอบ: 6952
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 14:17
ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน
อำมาตย์ ชนชั้นสูง รวมตัวกันแน่นปึ้ก มายันวันนี้

สร้าง สมมุติก็อด ขึ้นมา ยิ่งใกล้ยิ่งมีพลัง

ลำดับชั้นก็ลดหลั่นมาตามระยะห่าง การธำรงรักษาศูนย์กลางอำนาจ คือ การรักษาอำนาจตัวเองไปในตัว

แต่ก่อนก็มีเจ้าตามภูมิภาคคอยรักษาเสถียรภาพ แต่กำลังทุนศูนย์กลางเหมือนพรรคใหญ่สมัยนี้ ก็ค่อยดูดๆ ให้เสื่อมกำลังลง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: Winter is Coming
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2934
ที่อยู่: Winterfell
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 14:20
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
dHearty พิมพ์ว่า:
ไทยเราอย่างน้อยก็พูดภาษาเดียวกันนะ ไม่ว่าไทย ล้านนา ล้านช้าง ยันปักใต้ เรียกได้ว่าไม่ได้ห่างกันมาก แต่พม่านี่คนละภาษาคุยกันไม่รู้เรื่องเลยมั้งเนี่ยะ  


ไทยวางเเผนรวมชาติมาตั้งเเต่สมัยอยุธยาเเล้วครับ ทางใต้ คนมอญจากภาคกลางอพยพไปอยู่เยอะ พวกเจ้านายสมัยโบราณก็คนจากภาคกลางไปคุมไปเเต่งงานกับคนท้องถิ่น ภาษาสุโขทัยกับภาตใต้ตอนบน ฟังนึกว่าคนบ้านเดียวกัน สำเนียงเป๊ะ คำหลายคำยังออกเสียงคล้ายกันมาก
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 21965
ที่อยู่: -
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 14:40
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
Jason Voorhees พิมพ์ว่า:
พันธุกรรมคนป๊อดเยอะ ราชาเลยจับรวมเข่งกันง่ายกว่าเผ่าพันธุ์ที่หัวดื้อ  

เอาไรมาป๊อด ยุธยาล่อไป 5ราชวงศ์
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Apr 2023
ตอบ: 330
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 15:02
ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน

เรื่องนี้ผมให้เครดิตผู้นำในยุคนั้น
ความจริงคือ ไทยพยายามรวมชาติหลายครั้งแล้ว การละลายชาติพันธุ์ก็หลายรอบ ตั้งแต่สมัย ร.5 ที่เริ่มเปลี่ยนจากนครรัฐ เป็นประเทศ
แต่ที่ได้ผลจริงๆก็คืออยู่ในยุคจอมพล ป. ที่แกครองอำนาจยาวนานและมีแนวคิดในแบบชาตินิยม
ต่างจากพม่าที่ตอนรัฐบาลกลางมีอำนาจแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นรูปธรรมเท่าไหร่

พี่แปลกเป็นคนที่ผลักดันแนวคิดชาตินิยมเชิงรัฐ (state-led nationalism) แบบเข้มข้นและเป็นระบบที่สุดในช่วงก่อน-ระหว่าง-หลังสงครามโลกครั้งที่สองในไทย คือเปลี่ยนจากแนวคิดเรื่องราชอาณาจักร/เชื้อชาติท้องถิ่น ให้เป็น “คนไทย”

1.เปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ประเทศไทย” (1939)
ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองเพื่อเน้นความเป็นชาติว่าประเทศนี้เป็นของ “คนไทย”
*แต่เดิม แถวๆนี้มักเรียกกันว่า คนเมือง คนกรุงเทพ คนลาว(ทางเหนือและอีสาน) คนมลายู

2.รัฐนิยม – บังคับการแต่งกาย การใช้ภาษา มารยาท เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบบเดียว ประมาณ 1939–1942
ประกาศของรัฐบาล (รวมเป็นข้อบังคับทางวัฒนธรรม) ที่สั่งให้ประชาชนปฏิบัติพฤติกรรม วัฒนธรรม การแต่งกาย การใช้ภาษา ฯลฯ เพื่อ “ทำให้คนเป็นคนไทย”
เน้น “ภาษาไทยกลาง” เป็นหนึ่งเดียว
*ข้อนี้สำคัญมากและมันทำให้ภาษาท้องถิ่นหลายภาษาหายไปในช่วงนี้ เนื่องจากการโดนกดดันและห้ามสอน
-ภาษา/อักษรท้องถิ่น เช่น อักษรธรรมล้านนา, อักษรไทยน้อย (อีสาน), อักษรเขมร, มลายูจาวี ถูกกันออกจากระบบโรงเรียนของรัฐ

3.นโยบายภาษาและการศึกษา — ผลักดันให้ภาษาไทยเป็นภาษาแห่งชาติและยกระดับการศึกษาแบบรัฐชาติ ลดบทบาทภาษาจีน/ภาษาอื่น ๆ ในโรงเรียนบางแห่ง และจำกัดกิจกรรมชุมชนของชนกลุ่มน้อยเช่นจีนในเชิงสังคม/การศึกษา (เช่นจำกัดชั่วโมงภาษาจีนในโรงเรียน)
-ยุคนี้ อากงผมโดนเต็มๆ โรงเรียนสอนภาษาจีนที่สอนที่ศาลเจ้ากับเพื่อนๆโดนไล่ปิดหมด ห้ามสอน สอนโดนจับ

4.การใช้โฆษณาชวนเชื่อและสัญลักษณ์ชาติ — รณรงค์เพลงชาติ ธงชาติ การบังคับฟัง/ร้องเพลงชาติในกิจกรรมสาธารณะ บทเพลง/วงดนตรีชาติที่ถูกส่งเสริม และการใช้สื่อที่เอื้อต่อการสร้างความรักชาติแบบรัฐนิยาม.

5. สร้างวัฒนธรรมสมัยใหม่ – ส่งเสริมอาหาร/การแต่งกาย/พฤติกรรมที่รัฐกำหนด เช่น ผัดไทย
6. เสริมกองทัพ – ใช้ความเข้มแข็งทางทหารเป็นฐานสร้างความภาคภูมิใจและเอกภาพชาติ
*ตรงนี้จะโดนเสริมโดยคนที่โค่นล้มแก อย่าง จอมพลสฤษดิ์ , พล.ต.อ. ประภาส, จอมพลถนอม

และมันต่อเนื่องจนหมดสิ้นยุคสมัยของ จอมพล.ป เข้าสู่ช่วงสงครามเย็นและ USA เข้ามามีบทบาทในไทย
ต่อยอดเข้าไปเพิ่มอีก มีกระบวนการสร้างความน่าเชื่อถือของรัฐเพราะต้องการต่อต้านพรรคคอมมี่
และก็อย่างที่ทุกคนเห็นประเทศไทยอย่างทุกวันนี้ก็เริ่มจากตอนนั้นแหละครับ

เป็นไปไม่ได้เลยที่คนเชียงใหม่ คนนครศรีธรรมราช ไม่มีแนวคิดจับอาวุธ มาบุกกรุงเทพแล้วล่ะ
เพราะเรามีศูนย์รวมจิตใจเดียวกัน

ส่วนเรื่องทำไมยังรวม 3 จังหวัดชายแดนใต้ไม่ได้และไม่สามารถล้างวัฒนธรรมต่างจากเหนือ-อีสาน จะเป็นอีกประเด็น

ส่วนประเด็นอื่นลองยกประเทศข้างเคียงเป็นตัวอย่างก็ได้
เรื่องภาษา : มาเลเซีย ก็ยังรวมได้ มีทั้ง จีน มลายู แขกอินเดีย
เรื่องการปกครอง : เวียตนามเหนือใต้ นี่น่าจะหนักกว่าพม่า แต่ด้วยความสามารถของผู้ได้ชัยชนะ ก็รวมได้ไม่ยากหลังอเมริกาออกไป

พวกระบอบเผด็จการ จะดีจะแย่ขึ้นกับความสามาถผู้นำซะส่วนใหญ่
แก้ไขล่าสุดโดย เทนฮวย เมื่อ Mon Sep 22, 2025 19:23, ทั้งหมด 2 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2013
ตอบ: 41887
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 15:36
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
จริงๆ การหลอมรวมเชื้อชาติของไทยนั้น เกิดมาจากยุคช่วงล่าอาณานิคมแล้วครับ ที่เป็นภัยต่ออาณาจักรสยาม เลยเอาคนส่วนกลางไปควบคุม ให้ขึ้นตรงกับอาณาจักร อีกทั้งเอาคนส่วนกลางไปคลุกคลีกับคนพื้นที่ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เนื่องด้วย เจ้าเมืองนั้นยอมรับอำนาจของอาณาจักรสยามด้วย กรุงรัตนโกสินทร์ไม่ใช่จักรวรรดิให้เหมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ สิ่งที่ง่ายด้วยคือ ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ที่เป็นศูนย์กลางของคนในประเทศไทย ทำให้หลอมง่าย มีปราบกบฏบ้างนะตาม ปวศ. สุดท้ายก็ปราบได้ จึงพยายามเข้าไปพัฒนาคนในพื้นที่ ให้อนุญาตเข้ารับราชการ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่มีกลุ่มหนึ่งที่ไทยหลอมรวมได้แม้มีจำนวนเยอะคือ คนไทยเชื้อสายจีน

การเปลี่ยนชื่อประเทศจาก ประเทศสยามเป็นประเทศไทย ก็มีความเสี่ยงนะ เพราะชนกลุ่มอื่นก็ไม่ยอมรับ แต่สุดท้ายก็ยอมรับ เพราะเนื่องด้วยคนส่วนกลางทำไว้ดี ประณีประนอม แล้วคนพื้นที่อื่นในประเทศไทยไม่ได้มีกฏเกณฑ์มากมาย เงื่อนไขไม่เยอะ ก็จึงทำให้ความร่วมมือนั้นเป็นไปได้ด้วยดี เลยถือว่าจะคนส่วนไหนของประเทศไทย ก็คือคนไทย

ในขณะที่พม่าช่วงตกใต้อาณานิคมอังกฤษ ถูกอังกฤษนำชนเผาอื่นที่มีจำนวนคนน้อยเหยียบชาวพม่า แม้จะนับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเหมือนกัน แต่ไม่มีเวลาในการหลอมชาติ จึงทำให้ยังไม่สงบ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 19433
ที่อยู่: รากมะม่วง
โพสเมื่อ: Mon Sep 22, 2025 16:05
[RE: ทำไมไทยถึงรวมชาติได้ง่ายกว่าพม่า ทั้งที่มีหลายชาติพันธุ์เหมือนกัน]
เทนฮวย พิมพ์ว่า:
ความจริงคือ ไทยพยายามรวมชาติหลายครั้งแล้ว การละลายชาติพันธุ์ก็หลายรอบ
สิ่งที่ได้ผลจริงๆก็คืออยู่ในยุคจอมพล ป. ที่แกครองอำนาจยาวนานและมีแนวคิดในแบบชาตินิยม
ต่างจากพม่าที่ตอนรัฐบาลกลางมีอำนาจแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นรูปธรรมเท่าไหร่

พี่แปลกเป็นคนที่ผลักดันแนวคิดชาตินิยมเชิงรัฐ (state-led nationalism) แบบเข้มข้นและเป็นระบบที่สุดในช่วงก่อน-ระหว่าง-หลังสงครามโลกครั้งที่สองในไทย คือเปลี่ยนจากแนวคิดเรื่องราชอาณาจักร/เชื้อชาติท้องถิ่น ให้เป็น “คนไทย”

1.เปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ประเทศไทย” (1939)
ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองเพื่อเน้นความเป็นชาติว่าประเทศนี้เป็นของ “คนไทย”
*แต่เดิม แถวๆนี้มักเรียกกันว่า คนเมือง คนกรุงเทพ คนลาว(ทางเหนือและอีสาน) คนมลายู

2.รัฐนิยม – บังคับการแต่งกาย การใช้ภาษา มารยาท เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบบเดียว ประมาณ 1939–1942
ประกาศของรัฐบาล (รวมเป็นข้อบังคับทางวัฒนธรรม) ที่สั่งให้ประชาชนปฏิบัติพฤติกรรม วัฒนธรรม การแต่งกาย การใช้ภาษา ฯลฯ เพื่อ “ทำให้คนเป็นคนไทย”
เน้น “ภาษาไทยกลาง” เป็นหนึ่งเดียว
*ข้อนี้สำคัญมากและมันทำให้ภาษาท้องถิ่นหลายภาษาหายไปในช่วงนี้ เนื่องจากการโดนกดดันและห้ามสอน
-ภาษา/อักษรท้องถิ่น เช่น อักษรธรรมล้านนา, อักษรไทยน้อย (อีสาน), อักษรเขมร, มลายูจาวี ถูกกันออกจากระบบโรงเรียนของรัฐ

3.นโยบายภาษาและการศึกษา — ผลักดันให้ภาษาไทยเป็นภาษาแห่งชาติและยกระดับการศึกษาแบบรัฐชาติ ลดบทบาทภาษาจีน/ภาษาอื่น ๆ ในโรงเรียนบางแห่ง และจำกัดกิจกรรมชุมชนของชนกลุ่มน้อยเช่นจีนในเชิงสังคม/การศึกษา (เช่นจำกัดชั่วโมงภาษาจีนในโรงเรียน)
-ยุคนี้ อากงผมโดนเต็มๆ โรงเรียนสอนภาษาจีนที่สอนที่ศาลเจ้ากับเพื่อนๆโดนไล่ปิดหมด ห้ามสอน สอนโดนจับ


4.การใช้โฆษณาชวนเชื่อและสัญลักษณ์ชาติ — รณรงค์เพลงชาติ ธงชาติ การบังคับฟัง/ร้องเพลงชาติในกิจกรรมสาธารณะ บทเพลง/วงดนตรีชาติที่ถูกส่งเสริม และการใช้สื่อที่เอื้อต่อการสร้างความรักชาติแบบรัฐนิยาม.

5. สร้างวัฒนธรรมสมัยใหม่ – ส่งเสริมอาหาร/การแต่งกาย/พฤติกรรมที่รัฐกำหนด เช่น ผัดไทย
6. เสริมกองทัพ – ใช้ความเข้มแข็งทางทหารเป็นฐานสร้างความภาคภูมิใจและเอกภาพชาติ
*ตรงนี้จะโดนเสริมโดยคนที่โค่นล้มแก อย่าง จอมพลสฤษดิ์ , พล.ต.อ. ประภาส, จอมพลถนอม

และมันต่อเนื่องจนหมดสิ้นยุคสมัยของ จอมพล.ป เข้าสู่ช่วงสงครามเย็นและ USA เข้ามามีบทบาทในไทย
ต่อยอดเข้าไปเพิ่มอีก มีกระบวนการสร้างความน่าเชื่อถือของรัฐเพราะต้องการต่อต้านพรรคคอมมี่
และก็อย่างที่ทุกคนเห็นประเทศไทยอย่างทุกวันนี้ก็เริ่มจากตอนนั้นแหละครับ

เป็นไปไม่ได้เลยที่คนเชียงใหม่ คนนครศรีธรรมราช ไม่มีแนวคิดจับอาวุธ มาบุกกรุงเทพแล้วล่ะ
เพราะเรามีศูนย์รวมจิตใจเดียวกัน

ส่วนเรื่องทำไมยังรวม 3 จังหวัดชายแดนใต้ไม่ได้และไม่สามารถล้างวัฒนธรรมต่างจากเหนือ-อีสาน จะเป็นอีกประเด็น
 



เพิ่งรู้ไทยมีโรงเรียนสอนภาษาจีนมาตั้งนานแล้วเหรอเนี่ย นึกว่าเพิ่งมีไม่นาน

แต่เข้าใจบริบท ณ ตอนนั้นนะ ส่วนปัจจุบันกลายสิ่งจำเป็นซะงั้น ภาษาที่สอง

เพราะลูกหลานบางครอบครัวหรือผมให้ 80% เลยเอา ต้องไปเรียนภาษาบรรพบุรุษเพื่อต่อยอดในหน้าที่การงาน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel