ถ้าดูหนังซีรีย์มาเยอะจะรู้ว่ามันหม่จำเป็นต้องบอกอีกฝ่ายว่าจะซื้อแล้วนะ งงคนที่บอกว่าผิดที่ซื้อโดยไม่บอกอีกฝ่ายมาก

ทำธุรกิจนะ ไม่ใช่การกุศล มัวแต่มาใสๆเชื่อกันหมดใจ ไม่มีหรอก พี่น้องท้องเดียวกันอย่างดุสิต ยังเล่นกันมาแล้วแบบนี้เลย

ธุรกิจนะ ไม่ได้บำเพ็ญตะบะ ถูก-ผิดกฎหมาย+หลักฐาน สำคัญสุด ไม่ใช่ยกประเด็นศีลธรรม

เลอะเทอะโคตรเอาจริงๆพวกบอกศีลธรรมเจอคนทำผิดกฏหมายใส่แล้วต้องทำยังไงหรอ เดินไปบอกคนที่โกงตัวเองหรอว่สเดี๋ยวจะซื้อหุ้นเพิ่ม คิดว่าทำแบบนี้จะได้ซื้อว่างั้นเหอะ

ถ้าเอาตัววัดศีลธรรมดาตั้ง ออมแพ้แบบยับเยินเลยนะ ออมตลบหลังซื้อหุ้น 4% รอบเดียว แต่ลากออกมาได้ทั้ง ตั้งบริษัทแข่ง มีชื่ออยู่ในทั้งสองบริษัท ออกผลิตภัณฑ์เหมือนกัน คือ โดนศีลธรรมนี้เข้าไป เป็นผมคือตั้งทนายฟ้องแล้ว ยังไงก็ชนะไม่ไกล่เกลี่ยหรอกครับ

คือจบที่ไกล่เกลี่ยนี่เขายังเมตตาพวกมรึงมากนะ


ใดๆคือชอบความขิงใส่ จะซื้อหุ้นฉันเหรอ ได้ 32.5 ล้าน ราคาถูกนะ ให้เท่าๆกับที่ซื้อ 4% มาเลย

แต่อีกฝ่ายเสนอว่า ซื้อที่ 10 ล้าน 52% อ่ะ ออมเลยสวนไปว่า งั้นซื้อ 48% ที่เธอถืออยู่ได้ไหม 10 ล้าน ไม่พอก็ 11 ล้าน

ราคาเท่ากับที่เธอจะขอซื้อฉัน ฉันแถมให้ด้วย

คือฟังแล้วแบบหน้าด้านมากฝั่งนั้น คือถ้าว่าออมเหลี่ยม ฝั่งนั้นแมร่ง เหลี่ยมเลี่ยมทองฝังเพชรอ่ะ หนามากกกกกก

ไม่รู้สิ เท่าที่ตามมา ต่อให้ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่เปิดมา 100% แต่ผมก็อยู่ทีมออมอะ
สิ่งที่ยังไม่เปิดคือ ยังไม่รู้ประวัติ2คนนั้นแบบเคลียๆเลย ทำไมดาราคนดังถึงยี้คู่นั้นกัน

เช่น น้ำชา ที่ชนะคดีพริม ในส่วน Rad1 ที่น้ำชาบอก งูพิษ บลาๆๆ
น้ำชานี่ก็ระดับคนรวยแบบรวยมากๆคนนึง โอกาสจะอยากได้อยากมีถึงขั้นไปโกง ผมว่าก็น้อย น้ำหนักจึงมีมาก
ในส่วนของคิมเบอรี่เอง ก็อยู่ในวงการมานาน ก็ไม่เห็นได้ยินข่าวเสียๆหายๆ
แต่สาออกมาอ้างชื่อแว๊บเดียว คิมถึงขั้นออกมาตอบโต้ในลักษณะค่อนข้างจะแรงเลย
ออมก่อนหน้านี้ ไม่เคยปรึกษาเพื่อนฝูง แต่พอไปปรึกษา ถ้ารู้ถึงพฤติกรรมในอดีต ผมว่ามีส่วนในการเทค4%อะ

อีกอย่างที่เรื่องมันแดงจนเป็นกระแส ผมว่าก็เพราะฝั่งพริม-สานั่นแหละที่เปิดเรื่องนี้ต่อสื่อ
ทั้งๆที่เรื่องราวก็เข้าสู่กระบวนการแบบเต็มรูปแบบแล้ว นั่นก็เพราะคงรู้ว่าในคดีคงจะสู้ไม่ได้
จึงเปิดเรื่องนี้สู่สังคม เล่นบทเหยื่อ อาจจะเพื่อให้ออม-แอม ยอมลดลาวาศอกให้บ้าง เพื่อรักษาชื่อเสียง
แต่กลับไม่รู้ว่าออมเรคคอร์ดจัดให้ เก็บหลักฐานตอกหน้าได้แทบหมด

บอกว่ารักแบรนด์นี้เลยเสนอให้ยุบแบรนด์นี้
เอาจริงๆ เพราะตัวเองไปทำอีกอันรอไว้แล้วรึเปล่า

ถ้าเอาศีลธรรมตั้งแพ้ยับยังไงรึครับ อีกฝั่งโคตรผิดเลยมากกว่า
เว้นท่านฟังฝ่ายเดียว ฝ่ายนั้นผิดตั้งแต่ปลุกบริษัทที่ตายไปแล้วมาใหม่ธุรกิจเดิมแล้วไหมนะครับ

เหลี่ยมหมดนั่นแหละ รู้ตั้งแต่แรกละว่าออมไม่น่าผิด แต่ไม่รู้ว่าพริมไปเหลี่ยมเค้าก่อน สุดท้ายแล้วก็เหลี่ยมกันหมด เพราะออมเองก็ไม่เบา ตะล่อมทำนู่นนี่ อัดคลิปหมด ผมว่าถ้าไม่ใช่ดาราชื่อออม ก็คงคิดว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจแหละ อันนี้ดันมาเกี่่ยวกับดารา แล้วภาพลักษณ์แกมาแบบเรียบร้อยอีก