ผมก็มองว่าทั้งสองทีมไม่ผิดอะไีรตราบใดที่ไม่ทำผิดกฏ

แต่อิซัคที่มีสัญญาอยู่ ถ้าอยากย้ายก็แค่เข้าไปคุย ถ้าเค้าไม่ให้ย้ายแล้วคุณจะทำไรก็คุณมีสัญญาอยู่

แล้วคือตอนนั้นหงส์ก็ถามแล้วด้วยนะว่าจะขายอิซัคมั้ย ถ้าไม่ขายจะไปเอาเอกิติเก้ งงไปหมด 55+

อันนี้จริงคือถ้าแสดงความชัดเจนจริง ๆ ยังไงหงส์ก็เร่งปีดดีลก่อนเอกิติเก้อยู่แล้ว แต่พอหลังปิดดีลเสร็จอันนี้ส่วนตัวสงสัยว่าทำไมอิซัคพึ่งมา action แรง ๆ ตอนนี้ และเห็นก่อนหน้านี้ก็มีความสุขดี

ซึ่งพอเป็นแบบนี้สโมสรเสียเปรียบมากในการเจรจาหากองหน้าคนใหม่แทนอิซัคเพราะทุกทีมรู้หมดแล้วว่ายังไงนิวก็ต้องการซื้อกองหน้าเพราะอิซัคเลือกที่จะไม่ลงเล่นไปแล้วจาก action เดียวของ isak กลายเป็น domino effect ค่อนข้างแรงเลยทีเดียว

จริง ๆ อยากให้คุยกันดี ๆ อยู่ช่วยทีมไปอีก 1 ปี แล้วปีหน้าย้ายในราคาค่าตัวเท่านี้ตามที่ทุกฝ่ายโอเค แบบนี้จะดูสวยงามกว่ามาก ๆ สำหรับตัวของอิซัค

ถ้าเม้นแบบไม่ติดตลกผมเชื่อนะว่าเดี๋ยวหงส์จะยื่นไปอีกรอบนึงซึ่งน่าจะเป็นสถิติแหละ

ก็อยู่ที่ทางนิวฯว่าเขาจะยอมใจอ่อน ตัดปัญหาไปเลยไหม ถ้าไม่ก็รอบนี้คงไม่ตื้อแล้วล่ะ

ในบอร์ดนี้มีคนเข้าใจอะไรผิดค่อนข้างเยอะเลย

ไม่มีแฟนหงส์คนไหนบอกว่าสิ่งที่อีซัคทำมันถูกเลยครับ แต่ให้ทำไงอะ กุทำไรได้ กุไม่ได้บอกให้อีซัคทำแบบนี้สักหน่อย

การมาชี้หน้าด่า มากระแนะกระแหนกัน จะให้ทำไงอะ ไม่ใช่พระอิฐประปูน ก็ต้องด่ากลับเป็นธรรมดา

กวนส้นตีนก็ต้องได้ส้นตีน ถูกแล้วครับ

จากตัวอย่างถ้าบอกว่าจะให้แล้วเบี้ยวส่วนใหญ่ก็งอแงผลักดันขอย้ายกันหมดแหละ

ถ้านักเตะไม่มีหลักฐานก็โดนโจมตีหนักแต่นักเตะมีสิทงอแงแต่ต้องรับผลของการตัดสินใจด้วย

คำว่าไม่สิทสำหรับผมมันหมายถึงเกินเหตุแต่เรื่องนี้ไม่ได้ถึงขนาดนั้นคำว่าสิทมันกำกวมด้วย
้

อิซัคมีสิทธิงอแงทุกอย่าง ที่มันไม่ผิดสัญญาที่เซ็น พอมันมีปัญหาก็ดูสัญญาล้วนๆ

ผมว่าท่านต้องพักการเสพข่าวอิซัคสักหน่อยจะได้ใจร่มๆ คนในนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับเรื่องนี้หรอกปล่อยๆเขาปั่นไป

เราได้แค่รอเวลาไปเรื่อยๆเรื่องนี้คนในนี้เริ่มปั่นให้ร้อนแบบไม่ใช้เหตุผลกันแล้ว ผมเห็นท่านอุ่นๆอยู่หลายมู้

มันจะมีข่าวอันนึงไม่รู้ว่าจริงไหมที่หงส์บอกว่าขายอีซคมาแล้วจะไม่ bid แย่ง เอกิติเก้อ่ะ ถ้าจริงๆจะจบตั้งแต่ตรงนั้นยังได้แค่ต่อรองราคาหน่อย แต่ช่วงนั้นยังมีข่าวว่ายังไงนิวก็ไม่ขายอยู่ ก็เข้าใจมุมนิวนะอารมณ์เหมือนโดนบีบไข่ให้ขายเลยไม่อยากยอม แต่นั่นแหละพอไม่ขายแล้วลิเวอร์ได้เอติเก้ กลายเป็นอิซัคงอแงขึ้นมาเลย มาจากการตัดสินใจของฝั่งสโมสรนั่นแหละที่ประเมินสถานะทีมผิดไป ถ้าข่าวนั้นไม่จริงแต่เปลี่ยนให้นิวเสนอเองยังได้ว่าขายอิซัคแล้วอย่ามา bid แย่งเอกิติเก้ก็ลองได้อยู่ดี ทั้งหมดมันอยู่ฟีลการเจรจาอยู่ดี


ส่วนนักเตะงอแงมันก็เรื่องปกติไม่ใช่เรื่องใหม่ทุกคนก็หวังผลประโยชน์ฝั่งตัวเองอยู่แล้ว ถ้าบอกให้เคารพสัญญา กล้าส่งลงไหมหล่ะนักเตะหมดใจ บางทีมันก็อ้างได้นะว่าลงให้ได้แต่สโมสรไม่ส่งลงเอง

ใช่ครับ ตอนนั้นทุกฝ่ายเชื่อว่า นิวได้อิกิ คือขายอิซัคแน่ๆ พอไม่บิดสู้เฉย ก็แตกสิ ไม่รู้นะ ผมรู้สึกเหมือนนิวแค่ยื่นๆไปงั้น ดีลไปงั้นไม่ได้จริงจัง แค่ถ่วงเวลาเพื่อเก็บอิซัคไว้ อารมณ์แบบ กูยื่นแล้วนะ แต่เค้าไม่มา งั้นมรึงต้องอยู่ต่อ อะไรงี้ ผมเป็นอิซัคคงไม่อยู่เฉยอ่ะ โดนเหลี่ยมแบบนี้ 5555

สิทธิ์ตามความหมายของผมคือ สิทธิ์ที่ทำแล้วถูกมองว่าเป็นฝ่ายถูก หรือมีส่วนถูกอ่ะครับ (อาจจะตีความคนละความหมายกับท่าน)

คือคนจะทำมันคงห้ามไม่ได้แหละ แต่ทำแล้วถามว่าที่ทำถูกต้องมั๊ยกรณีเกิดเป็นคดีความกัน เรื่องนี้ผมให้ผิด 100% อ่ะครับ

timing ของ ISAK กับ เอเจ้นแม่งนรกทุกอย่าง
ถ้าให้ความชัดเจนแบบ official ตั้งแต่ปิดฤดูกาล อาจจะ win-win-win (คนซื้อ คนขาย และนักเตะ)ไปละ

ความเงียบมันไม่ได้ตอบทุกอย่างนะ ความชัดเจนต่างหาก

อยากย้ายก็แค่พูดตรงๆ อย่าง ซอน เฮืองมิน บอกลาสเปอร์สชัดเจน อีก 3-4 วันต่อมาได้ย้ายเลย
นี่เงียบๆ เวลาสัมภาษณ์ก็บอกว่ามีความสุขดี (ผมจำเวลาไม่ได้ แต่ฟังจากอินฟลูฝรั่งเค้า refer ว่าล่าสุดก็โน่น เดือนมีนาคม ยังให้สัมภาษณ์ว่ามีความสุขดีอยู่ ไม่ได้พูดว่าอยากย้ายไรเลย)
นัดสุดท้ายตอนทีมแพ้แต่ได้ไป UCL ออร์นสตรีนก็ยังลงข่าวว่า อิซัคแฮปปี้ที่จะอยู่ต่อแล้ว ทุกอย่างมันดูขัดกันไปหมด เรื่องนี้ออร์นสตรีนก็เหมือนโดนหาว่ามั่ว เจ้าตัวก็ยืนยันว่าตอนนั้นเช็คข่าวดีแล้ว แต่นักเตะบอกว่าบอกHoweไป 2 รอบแล้ว ก็ไม่รู้ใครมั่ว

พรีซีซั่นที่ Austria พรี่ก็ไปกะเค้า ถ่ายโฆษณา ADIDAS พรี่ก็ไปแจม
Elanga ก็บอกว่า Isak ชวนมาเล่นด้วยกัน เออ เอาดิ

นี่ถ้าเป็นหนังฮอลลีวู้ด ผมล่ะนึกว่า Isakโดนเอเยนต์มาเฟียจับน้องสาวและครอบครัวเป็นตัวประกันอยู่ เหมือนโดนสั่งให้พูดไรก็พูด

พรี่แกเงียบมาเป็นปีก็ทำได้ แต่พอเหลือเวลาสิบกว่าวันตลาดจะปิด เหมือนมีคนสั่งมาว่าให้ทำอะไรสักอย่าง โพสต์อะไรสักอย่าง ทำยังไงก็ได้ให้ได้ย้าย แถมเดี๋ยวนิวก็กำลังจะเตะกับหงส์อีก ยิ่งดราม่าไปใหญ่

เรื่องสัญญาปากเปล่า ผมอ่านแล้วเข้าใจว่าเจ๊ Amanda แกหมายถึง "Renewal" หรือต่อสัญญาใหม่ให้นะที่จะเพิ่มค่าเหนื่อย ไม่ได้ใช้คำว่า Upgrade หรือ Improve
ดังนั้นพอไปคุยกับ Paul Mitchell มาก็ไม่แปลกที่จะโดนเบรกไว้ เพราะ ขณะนั้นสัญญายังเหลืออยู่อีก 4ปี!!!
ผมนึกไม่ค่อยออกนะ ว่านักเตะคนไหนที่ได้สัญญาใหม่ตอนสัญญายังเหลือยาวขนาดนั้น

ก็จริง ถ้าอิซัคแสดงตัวแต่แรก ก็อาจจะได้ไปหงส์ตรงๆง่ายๆเลย นิวก็เอาตังไปซื้อเอกิหรือใครก็ว่าไปต่อ คงจะจบสวยกว่าตอนนี้

ผิดที่ราคานี่แหละ จริงๆลิ้วพูลจะเอาสอง