https://www.facebook.com/share/p/19AdKcG8V9/

หนีไปเป็นหมอนอกระบบ หมอความงาม สะบายกว่ารวยกว่า

จำนวนปีที่เรียนไม่น่าเกี่ยว เพราะรันเป็นรุ่นๆ ไม่ขาดสายอยู่แล้ว

แต่ถ้าขาดแคลนจริง วิธีแก้ ก็ต้องผลิตออกมาเยอะ

ตอนรับอะก็ต้องรับเยอะหน่อย อันนี้เข้ายาก จำนวนจำกัดน้อยเกิน

ก็เปิดรับเยอะๆ หมอก็เยอะเอง

หมอขาดแคลนรึเปล่าไม่รู้นะครับ แต่ระบบโรงบาลห่วยแตกมาก

พ่อผมต้องหาหมออายุรกรรม3คน ยาแบบเดียวกันไปนั่งคุยแค่3นาทีเหมือนกัน แจ้งทั้งหมอทั้งพยาบาลคำตอบที่ได้คือ มาตามนัดนะคะ คือตรวจประจำปีคนหนึ่ง คนแก่ล้มครั้งนึงเข้าฉุกเฉินครั้งนึงหมอนัดอีกคนหนึ่ง หมออีกคนคือแกมีอาการอ่อนเพลียเลยพาไปโรงบาลและหมอก็นัดเพิ่ม

ถ้าเป็นอะไรเพิ่มคือเพิ่มหมอมาเรื่อยๆอันนี้แหละตลก แล้วทุกคนนัดทุก3เดือนด้วยนะ

ปัญหาอยู่ที่ระบบรักษาเข้าถึงง่ายและถูก ทำให้คนติดนิสัยป่วยนิดหน่อยก็ไป รพ ทำให้คนไข้ล้น หมอเลยไม่พอ

ที่ขาดแคลนคือหมอตาม รพ ต่างจังหวัด ตามชนบบท

ระบบสาธารณสุขแบบนี้ ยังไงก็เก็บคนไว้ในระบบได้ไม่พอหรอก

งานก็หนัก รายได้ก็ไม่เหมาะสม จริงอยู่ถ้าเทียบกับอาชีพอื่นถือว่าสูง แต่ถ้าคิดตามภาระงานนี่โคตรน้อย

ผ่านไปกี่ปี เงินเดือนเงินค่าเวรก็ไม่ค่อยจะเพิ่ม

งานหนัก หมอรุ่นใหม่ลาออกไปอยู่เอกชน ไปทำความงาม ชีวิตดีกว่า รายได้ดีกว่า ใครมันจะไปอยากอยู่ในระบบ

ที่บอกให้ผลิตเพิ่ม ผลิตเท่าไหร่ก็ไม่พอ ถ้ารักษาไว้ในระบบไม่ได้

เหมือนเติมน้ำในถังที่มีรูรั่วนั่นแหละ

หมอผลิตมาเยอะ แต่ก้ออกนอกเยอะ ลองให้ไปเอกชนดู หมอเตมไปหมด

แต่ในระบบรัฐบาล มีแต่ร่อยหรอทุกวัน ผลิตสู้ถังที่รั่ว จะทันยังไง ไม่อุดรูรั่วล่ะ

ถูก-ดี-เร็ว เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ทั้ง3อย่างพร้อมกัน อย่างมากก็2นะ
ที่คนไทยกำลังทำอยู่ตอนนี้คือ จะเอาทั้ง3อย่าง ซึ่งมันเป็นไปไม่ด้ายยย

ผลิตออกมาเท่าไหร่ก็ลาออกหมดอ่ะครับระบบแบบนี้

ผมว่า รั่ว มันก็มีรั่วอย่างจำกัดนะ

มันถูกครอบไว้ด้วย ดีมาน ซัพพลายนะ

ถ้าออกจากระบบไปแล้วล้นไปหมด ก็ออกยากนะ

เหมือนถ้าบอกไปอยู่เอกชน ถ้าเอกชน เค้ามีเพียงพอแล้ว เค้าก็ไม่จ้างนะ

ถ้าไปเปิดคลินิค ไม่ใช่ว่าสำเร็จเสมอไป ถ้าคู่แข่งเยอะ

ถ้าหมายถึงหมอจริงๆไม่ขาดอ่ะในแต่ละปี แต่ที่ขาดคือหมอในระบบ ระบบ รพ. บ้านเราห่วยแตกมาก จริงงงๆบ้านเราควรให้ความรู้รักษาตนเองขั้นพื้นฐานอย่างมาก ไม่ใช่อะไรก็ไป รพ.อย่างเดียว

หมอที่ขาดคือหมอในระบบโรงพยาบาลรัฐ ส่วนใหญ่พอใช้ทุนหมดหรือจบเฉพาะทางแล้วไปเอกชนหมด โดยหลายๆปีที่ผ่านมาไปเป็นหมอความงามกันหมด ลูกสาวผมกำลังเรียนหมออยู่บอกว่าวันปฐมนิเทศ อธิการบอกทั้งรุ่นขอให้เป็นหมอรักษาคนอย่าไปเป็นหมอความงามเลย

บางทีหมอก็หางานให้ตัวเองนะ ผมเคยข้อเท้าพลิก ไปหาหมอแล้วหมอวัดความดันขึ้นไป 150 (ปกติผม 120-130) หมอให้ยาแก้อักเสบกับคล้ายกล้ามเนื้อมา แถมพ่วงยาควบคุมความดันโลหิตอีก ทั้งที่หลังจากนั้นไปตรวจวัดอีก 2-3 รอบ ยังไม่เกิน 130 สักรอบ ก็เลยงง ว่าจ่ายยามาเพื่ออะไร แล้วมีนัดเรื่องความดันมาเพิ่มด้วย

ขาดแคลนแน่นอน และมันเพิ่มไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนว่าด้วย

ตรงนี้เป็นปัญหาโครงสร้างที่ถ้าจะแก้ ต้องอัดงบประมาณเพิ่มมหาศาล
เพราะนักศึกษาแพทย์1คนมันใช้เงินเยอะ ตอนนี้ก็คงอยู่ที่ใกล้เต็มๆขีดจำกัดอยู่แล้ว
การจะเพิ่มก็ต้อง เพิ่มอาจารย์หมอ เพิ่มเคส เพิ่มเตียง เพิ่มห้อง เพิ่มบุคลากรอื่นๆและสถาที่เครื่องมือตามหมด
ไม่อย่างงั้นก็จะได้หมอที่ไม่มีคุณภาพออกมา มันก็ไม่ได้อีก

ระบบข้างในก็ห่วยแตกยิ่งกว่าที่หลายคนเล่ามาอีก ทั้งเส้นสาย ไส้สนกลใน เละแทบจะทุกภาคส่วน
งานโหลดตั้งแต่พยาบาลไปยันหมอ โรงพยาบาลรัฐใหญ่ๆท้อปๆ วันนึงหมอรับหลัก 150 เคส+-

เรียนปกติก็หนักอยู่แล้ว ไหนจะต่อเฉพาะทาง บางคนไปยันอาจารย์หมอ เรียนปกติก็โหดแล้ว
แต่ต้องทำงานหลังขดหลังแข็ง ได้นอน 5 ชั่วโมงก็น่าจะถือว่าวันนั้นโชคดีแล้ว
แล้วใช้ชีวิตแบบนี้วนไป 6ปี 10ปี 15ปี ผมว่าคนหมดไฟมันก็เยอะอะ

หมอโรงบาลเล็ก เงินเดือนก็น้อย บางที่งานโหลดยิ่งว่าโรงบาลใหญ่ เครื่องไม้เครื่องมือก็แย่
ตำแหน่งก็ไม่มีให้ขึ้น จะต่อเฉพาะทาง จะเป็นอาจารย์ก็ลำบาก จนถึงขั้นไม่ได้
งานแบบนี้ใครจะอยากทำ เงินน้อย งานหนัก โอกาสในอนาคตน้อย คนอยู่จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าสปิริตก็ตามนั้น

ขาดแคลน + ระบบแย่ + งบไม่ถึง แน่นอนคนไข้ก็เกี่ยว มันก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆแบบนี้วนๆไปนั่นแหละ

ขาดบางสาขา ไม่ขาดบางสาขา หมอเป็นอาชีพเดียวใน รพ ที่ทำงานไม่ครบ 8 ชม ในบางแผนก ถ้าเอาทุกคนมาตรวจพร้อมกันหมดได้ clear คนไข้ได้ก่อนเที่ยง ส่วนใหญ่นอนอยู่บ้าน นั่งโต๊ะประชุม หรืออยู่ คลีนิคตัวเองใช้รุ่นน้องอินเทินทำงาน งานมันเลยช้า

ปล. ถ้าไม่ใช่โชนโคตรกันดาร อีสานบ้านนอกจริงๆ หมอเต็ม รพช กันจะหมดแล้ว พวกที่ขาดคือ ศัลยกรรม บางคนยอมเป็นหมอทั่วไปเรื่อยๆ ดีกว่าไปเรียน