วิ่ง7กิโลเมตร ใช้เวลา30นาที
เดิน 7 กิโลเมตรใช้เวลา60นาที

อะไรที่ทำได้บ่อยกว่าใน 1 อาทิตย์ในระยะยาว 1ปี นั่นแหละเบรินเยอะสุด ผ่าม

อันนี้ถามเฉยๆนะครับ ทำได้หรอครับมันโหดมากเลยนะ วิ่ง 7โล 30 นาที <-วิ่งทุกวันนี่กล้ามเนื้อพังหมด

ไปที่คำถาม วิ่งเบิร์นมากกว่าเยอะทุกกรณี เดิน 60นาที เปลืองเวลามากเอาเวลาที่เดินไปวิ่งเหยาะๆไขมันลดด้วย

ตามกฎก็ควรจะใช้พลังงานเท่ากัน สิ่งที่น่าจะไม่เท่าคือ วิธีการเผาพลังงาน

ถ้าเดินช้าๆ ร่างกายเผาไขมันทันก็จะใช้ไขมันเยอะกว่า ถ้าวิ่งเร็ว ร่างกายก็ใช้น้ำตาลแทน สัดส่วนการใช้ไขมันก็น้อยลง

ที่แตกต่างกันอีกก็น่าจะ process การ recover ถ้าวิ่งเร็วๆ ร่างกายต้องใช้ พลังงานเพิ่มในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อบางส่วนด้วย ก็จะมี after burn เพิ่ม

แบบแรก Pace 4 เหลือแต่หัวแน่นอน ถ้ากินไม่เยอะพอ ไปหมด ไขมัน กล้ามเนื้อ ไกลโคเจน

แบบสอง pace 8-9 กำลังดี ไม่เข้มข้นเกินไป โอกาสดึงไขมันมาใช้เยอะกว่าแน่นอน

ตอบไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับร่างกาย ต้องวัดหัวใจ

แต่ถ้าเดา เดาว่าเดิน 7 กิโล 60นาที ได้แคลเยอะกว่า

วิ่ง7กิโลเมตร ใช้เวลา30นาที กับเดิน60นาที คำถามคือหัวใจเต้นอยู่เท่าไหร่

ถ้าวิ่ง 7โล 30นาที คนทั่วไปวิ่งก็เข้า zone4 zone5 แล้วหละมั้ง

ปกติโซนนี้มันจะได้แคลเยอะกว่า zone2 zone3 ประมาณ 20-30% นี่แหละ ถ้าเวลาเท่ากัน

ส่วนเดิน 7 กิโล 60นาที นี่ก็นับว่าเดินเร็วมาก ถ้าไม่ฟิตมากก็เข้า zone2 zone3 ได้

ถ้าอยู่โซนนี้ก็จะเบิร์นแคลมากกว่า วิ่ง7โล30นาที

แต่ถ้าฟิตหน่อย เดินความเร็วนี้แต่เข้า zone1 มันจะกลายเป็นเดิน recovery ไป ก็ดี แต่ได้แคลน้อยหน่อย

ถ้าเดินแบกน้ำหนักไปด้วย Rucking จะเบิร์นเพิ่มมากขึ้นไหมครับ

เคยลองเดินกับวิ่ง 10 โล ใช้เวลาต่างกันสองเท่าตามท่านว่าแหละ

การเผาแคลวิ่ง จะเยอะกว่านิดเดียวแบบไม่เห็นผลมาก

เดิน 7 กิโลเมตรใช้เวลา60นาที นี่ค่อนข้างหนักสำหรับผม ปกติสบายๆนี่ 5 กิโลเมตรใช้เวลา60นาที

สรุปสั้น ๆ: ถ้า “ระยะทางเท่ากัน 7 กม.” การ วิ่ง ใช้พลังงานมากกว่า เดิน ครับ
เหตุผลแบบวิทย์ร่างกาย:
ต้นทุนพลังงานต่อระยะทางโดยประมาณ
วิ่งบนพื้นราบ ≈ 1.0 กิโลแคลอรี/กก./กม. (ค่อนข้างคงที่ตามความเร็ว)
เดินเร็ว ≈ 0.5–0.8 กิโลแคลอรี/กก./กม. (ยิ่งเดินเร็ว ต้นทุนยิ่งสูงขึ้น)
เคสของคุณ: เดิน 7 กม. ใน 60 นาที = ~7 กม./ชม. เป็น “เดินเร็วมาก” ต้นทุนอาจอยู่แถว 0.7–0.8 kcal/กก./กม. แต่โดยรวมยังต่ำกว่าการวิ่ง

คำนวณคร่าว ๆ สำหรับคนน้ำหนัก 70 กก.:
วิ่ง 7 กม.: 1.0 × 70 × 7 ≈ 490 kcal
เดินเร็ว 7 กม.: 0.7 × 70 × 7 ≈ 343 kcal (ถ้าคิด 0.8 จะ ~392 kcal)

ดังนั้นวิ่ง 7 กม. (30 นาที) ใช้พลังงานรวม มากกว่า เดิน 7 กม. (60 นาที) และยังมีผลเผาผลาญหลังออกกำลัง (EPOC) มากกว่านิดหน่อยด้วย

ที่มา GPT

วิ่ง 7 กิโลเมตร (30 นาที)
การวิ่งด้วยความเร็วนี้ (ประมาณ 14 กม./ชม.) ถือว่าค่อนข้างเร็วและใช้พลังงานสูงมาก

แคลอรี่ที่เผาผลาญ: ประมาณ 400 - 600 แคลอรี่ (อาจสูงกว่านี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว)

เดิน 7 กิโลเมตร (60 นาที)
การเดินด้วยความเร็วนี้ (ประมาณ 7 กม./ชม.) ถือเป็นการเดินที่ค่อนข้างเร็ว

แคลอรี่ที่เผาผลาญ: ประมาณ 250 - 350 แคลอรี่ (อาจแตกต่างกันไปตามน้ำหนักตัว)

Geminiงับ

เดิน 7km/h ไม่น่าเรียกกว่าเดิมแล้ว เร็วขนาดนี้วิ่งจ๊อกกิ้งแล้ว

จริงๆคือผมจะเดิน30นาทีแรก แล้ววิ่งเหยาะๆอีก30นาทีหลังครับ

สาย GPT สาย Gemini ต้องระวังหน่อยครับ เพราะคำถามมันไม่รัดกุมมากพอ

อาจจะทำให้การฝึกไปผิดทางได้ โอเคแคลของการวิ่งอาจจะสูงกว่า ตามที่มันบอกก็ได้

แต่นั่นมันระยะสั้น แต่ถ้าวิ่งเร็วแบบนั้น แล้วหัวใจเต้นไป 170 180++

การฝึกแบบนี้วิทยาศาสตร์การกีฬา มันคอนเฟิร์มได้แล้วว่าในระยะยาว มันเป็นการฝึกที่ผิด

เพราะวิ่งแบบนี้จะเสียไมโตรคอนเดรีย ยิ่งวิ่งแบบนี้บ่อย ยิ่งเสีย aerobic base

ถึงจุดนึงมันจะพัฒนาไปต่อไม่ได้

ตามกฎการใช้พลังงาน ควรจะเท่าๆกันนะครับ ระยะทางเท่ากัน มวลเท่ากัน ก็ควรใช้พลังงานโดยรวมเท่ากัน ถ้านับแค่ปริมานพลังงานสำหรับ exercize น่ะนะครับ ไม่นับพวก bmr ที่มันแถมมา 30นาทีนะ คือถ้าต่างก็คงเป็นส่วนต่างที่ต่ำมากๆอ่ะครับ

สิ่งที่อาจจะแตกต่างกันคือแหล่งพลังงานที่เอามาใช้ ร่างกายจะพยายามดึง reserved energy หรือไขมันมาใช้มากขึ้นในเวลาที่ intensity ต่ำ แต่อัตราเผาผลาญก็จะน้อยเพราะความเข้มข้นต่ำ

แต่ถ้าสนแค่แคลอรี่ ก็ตามนั้น