ขอโทษที่โพสต์ซ้ำเรื่องเดิมจากกระทู้ที่ตกไปครับ อันนี้จะเป็นกระทู้สุดท้ายเกี่ยวกับประเด็นนี้ ถ้าผิดมารยาทยินดีรับเรื้อนครับ
ก่อนอื่น ขอย้ำว่า ผมไม่ได้ติดตามคดีตั้งแต่ต้น แต่เพิ่งอ่านข้อมูลที่ได้รับจากในกระทู้ก่อนหน้าและเอกสารคำพิพากษาในช่วง 2–3 วันนี้ หากมีตรงไหนคลาดเคลื่อน รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ด้วยครับ

ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาและข่าว
1. พบเส้นผมประมาณ 40–50 เส้น ในพื้นที่ป่า (กลุ่ม A) อ้างอิงจาก [1 นาทีที่ 48]

2. พบเส้นผม 16 เส้น ในรถจำเลยที่ 1 (กลุ่ม B) [1 นาทีที่ 46–47]

3. ผู้เชี่ยวชาญตรวจพบว่า เส้นผม 2 เส้นในกลุ่ม A และ เส้นผม 1 เส้นในกลุ่ม B มีรอยตัดที่ “เหมือนกัน” [3]
- องศารอยตัดใกล้เคียงกัน (≈ 26 องศา) [2][3]
- หน้าตัด และพื้นผิวด้านข้างก็ใกล้เคียงกัน [3]
- มีร่องรอยการตัดไม่ขาดในครั้งแรก [1 นาทีที่ 49]
- เส้นผม 1 เส้นในรถ ไม่ใช่เส้นเดียวกับ 40–50 เส้นในป่า
แต่ตรวจพบว่า consistent กับ 2 เส้นจาก 40 เส้นในป่า [1 นาทีที่ 45–49]

4. การตรวจใช้เครื่อง Synchrotron (สร้างภาพ 3D ของรอยตัด) แต่การตัดสินว่า “เหมือนกันหรือไม่” อาจยังอาศัยการพิจารณาด้วยสายตาผู้เชี่ยวชาญ (อนุมานจาก [5], [1 นาทีที่ 46])

5. คำพิพากษาสรุปว่า [3]:


ข้อสังเกต / ความเห็นส่วนตัว
1. วิธีการพิจารณาความเหมือนของรอยตัดเป็นแบบ subjective
- คือใช้ “สายตาผู้เชี่ยวชาญ” ตัดสินว่าเหมือนหรือต่าง
- ผู้เชี่ยวชาญ 2 คนสามารถให้ความเห็นต่างกัน
-หรือเมื่อเวลาผ่านไป ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้ความเห็นตรงข้ามกับตนเอง
- แตกต่างจาก DNA หรือผลเลือด ที่เป็นรหัสตัวเลขเชิงวัตถุวิสัย (objective metric)


2. ในต่างประเทศมีรายงานจำนวนมากว่า microscopic hair comparison (การวิเคราะห์เส้นผมด้วยการเปรียบเทียบลักษณะทางกายภาพ เช่นรอยตัด ซึ่งคล้ายกับในคดีนี้) เคยถูกใช้เกินจริงและมีความคลาดเคลื่อนสูง [6][7][8] (ลองค้นคำว่า “hair analysis flaw”)

- มีการทบทวนคดีเก่า พบว่า 11% ของผลวิเคราะห์เส้นผม ขัดแย้งกับผล DNA [6]

- ใน 95% ของคดีที่มีการใช้การวิเคราะห์เส้นผม มีการกล่าวเกินจริงถึงระดับความแม่นยำ [6]

- FBI เองออกมายอมรับในปี 2015 ว่าการวิเคราะห์เส้นผมแบบ microscopic hair comparison ที่ใช้ในคดีต่าง ๆ มี 90% จากคดีทั้งหมดมี error อยู่ (อาจเป็นแค่ข้อสรุปเกินจริงเล็กน้อย) [10][11]

ผมจึงกังวลว่า ระบบยุติธรรมไทยอาจยังยึดแนวทางการตีความหลักฐานเส้นผมเหมือนกับที่ FBI เคยทำก่อนปี 2015 โดยยังไม่ได้อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ — ซึ่งก็หวังว่าจะไม่ใช่เช่นนั้นครับ

3.การใช้ แสงซิงโครตรอน ได้รับการยอมรับจริงระดับโลก แต่ต้องดูว่าใช้ทำอะไร เช่น ตรวจหาสารพิษบางชนิด [4]
-ส่วนการวิเคราะห์รอยตัดผม แม้ละเอียดขึ้น แต่ผมยังไม่พบข้อมูลวิจัยที่ยืนยันว่าแยก “เหตุการณ์เดียวกัน” ได้จริง

4. ผมเห็นว่า คำว่า “ถูกตัดในคราวเดียวกัน” เป็นข้อสรุปที่หนักเกินไป สิ่งที่มั่นใจได้คือ “ถูกตัดด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน” แต่ไม่ควรสรุปถึง “เหตุการณ์เดียวกัน”

ข้อที่ยังไม่มั่นใจ
1. ผมไม่มีพื้นฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์โดยตรง ข้อมูลที่สรุปมาจากคำพิพากษา/ข่าว/อินเทอร์เน็ต อาจมีข้อผิดพลาด
2. หากข้อสังเกตเหล่านี้ชัดเจน ทำไมฝ่ายจำเลยไม่ยกขึ้นแย้ง? อาจมีเหตุผลด้านกฎหมายหรือประเด็นทางวิชาการที่ผมไม่ทราบ
3. Synchrotron กับ Microscopic Hair Analysis ถือเป็นเทคนิคเดียวกันหรือไม่?
- ความเห็นส่วนตัว: Synchrotron แค่ทำให้ภาพคมชัดขึ้น ลดโอกาสพลาด แต่การตัดสินสุดท้ายว่า “เหมือนกันหรือไม่” ก็ยังคงเป็นการ visual inspection ของผู้เชี่ยวชาญ → ยังเป็น subjective

สรุป

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากเส้นผม น่าจะบอกได้เพียงว่า “ถูกตัดด้วยของมีคมลักษณะเดียวกัน”
แต่ยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันเต็มที่ว่า “ถูกตัดในคราวเดียวกัน” อย่างที่ปรากฏในคำพิพากษา

คำถาม:
ข้อสรุปที่ว่า “เส้นผมทั้ง 3 เส้นดังกล่าว จึงถูกตัดในคราวเดียวกัน” สามารถถือเป็น ข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ ได้จริงหรือไม่?

อ้างอิง

ความเห็นผมคดีนี้
1.ไม่มีประจักษ์พยาน
2.พยานวัตถุ(เส้นผม) ไม่ชัดแจ้งมีน้ำหนักให้รับฟังน้อยเพราะยังมีปัญหาในการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ หรือหากพิสูจน์ได้ พยานหลักฐานดังกล่าวก็ไม่สามารถพิสูจน์ถึงการกระทำความผิดของจำเลยได้เพียงลำพัง ต้องอาศัยพยานแวดล้อมอื่นประกอบ
3.โจทก์ร่วมทั้งสองกับจำเลยทั้งสองในคดีนี้ มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน

ดังนี้ ผมจึงเห็นด้วยกับความเห็นแย้งของท่านอธิบดีผู้พิพากษา และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมุกดาหารว่า พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองยังมีข้อสงสัยพอสมควร ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย

ไม่ได้ตาม เเต่หมายถึงแกไปตัดผมมาก่อนลงมือ เเล้วเศษผมเลยไปตกในจุดเกิดเหตุกับบนรถแบบนี้หรอครับ

ผมคิดว่าเค้าชั่งน้ำหนักจากพยานหลายๆอย่างประกอบกัน ไม่ใช่ว่าจากอันนี้อันเดียว

ถ้าอ้างอิงจาก https://www.youtube.com/embed/JsWjHKnjjcY (นาทีประมาณ 45)

ผมอนุมานเอาเองว่า
ตำรวจเชื่อว่าจำเลยทำไปเพราะไสยศาสตร์ โดยตัดผมผู้เสียชีวิตที่ป่า แล้วผม 1 เส้นนั้น ติดตัวของจำเลยแล้วไปตกที่รถครับ

ถ้าเข้าใจผิดท่านอื่นช่วยแก้ให้ได้เลยครับ

ประเด็นนั้นว่า จำเลยผิดหรือไม่ ผมไม่ก้าวล่วงครับ
แต่ผมมีความเห็นว่า เส้นผม 3 เส้นนี้เป็นการตัดในครั้งเดียวกันดูกล่าวเกินวิทยาศาสตร์บอกได้ไปครับ

ถ้าตามที่อ่านข่าว ไม่ได้อ่านคำพิพากษามันยังมีเรื่องอื่นอีก
เช่น การยืนยันพยานบุคคลมีแกคนเดียวที่ไม่มีใครยืนยัน แล้วยังไปขอให้1ในผู้ต้องสงสัยเปลี่ยนเวลาที่เจอกัน

เรื่องที่ไปหลุดว่ารู้ว่าน้องหายไปแล้วอ้างว่ารู้เพราะป้าโทรบอก แต่คือที่บ้านมีโทรศัพท์เครื่องเดียว

ถ้าอยากวิเคราะห์ให้ละเอียด ควรจะไปหาคำพิพากษาฉบับเต็มอ่านให้ครบก่อนครับ การคิดวิเคราะห์จะได้มาจากฐานที่ถูกต้อง อันนี้ไม่ทราบว่าสได้อ่านแล้วมั้ยครับ

ผมอ่านจากอันนี้ครับ
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/212927

แต่ยอมรับว่าข้ามไม่ได้สนใจ part อื่น
ประเด็นคือ ผมไม่ได้สงสัยถ้า จะเอาผิดด้วยหลักฐานอื่น
แต่การใช้เส้นผมระบุเหตุการณ์ จากที่ผมลองอ่านมา ที่อเมริกาเองก็ตระหนักเมื่อปี 2015 ว่า
อาจมีปัญหาครับ

คือกระทู้ผมไม่ได้บอกว่า จำเลยไม่ผิดครับ ผมแค่เสนอว่า หลักฐานเส้นผมอาจมีปัญหา

ทั้งหมดทั้งมวล หลักฐานมันอ่อนจริงๆนั่นแหละครับ

เพราะไม่งั้นตำรวจจะไปแคมป์แบบนั้นเป็นปีๆหรอ

แต่ก็นั่นแหละ เพราะมันอ่อน มันถึงต้องรวมๆมาให้มากที่สุด

ผมคิดว่าศาลกล้าตัดสินออกมาได้ เพราะมันรวมหลายอย่าง

แล้วมันเชื่อมโยงกันได้

รวมถึง ผมเชื่อว่าศาลใช้ไบแอสนิดนึงด้วยเหมือนกัน

เพราะคดีมันเป็นที่สนใจของประเทศ

ถ้าก้ำกึ่ง ตามปกติอาจจะยกประโยชน์ให้จำเลย

แต่คดีนี้จำเป็นต้องทิ้งหลักการนั้นไปก่อน

แยกประเด็นก่อนนะครับ microscopic hair comparison -- ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ คนละอย่างกับ syschrotron ครับ microscopic hair comparison เข้าใจว่าเห็นแค่ลักษณะกายภาพของเส้นผม



------------------------------------------

syschrotron ไม่ได้บอกว่า เป็นเส้นผมลุงพลหรือเป็นเส้นผมน้องชมพู่ แต่เป็นการบอก

- รอยตัดเข้ากันได้

- บอกพวกองค์ประกอบต่าง ๆ เห็นโครงสร้างและการเปลี่ยนแปลงจากการทำเคมี โลหะหนัก สารสัมผัส ฯลฯ ของแต่ละเส้นเข้ากันได้

- สร้างภาพ สร้างสถิติทางเคมีที่สามารถชี้ได้ว่าเส้นเดียวกัน

- (คาดการณ์) อาจจะมีองค์ประกอบทางด้านเคมีอื่น ๆ ในสำนวนที่ใช้เครื่องนี้ ตรงนี้ต้องดูในสำนวน

ใด ๆ แล้ว ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้บอกว่า เป็นเส้นผมลุงพล เส้นผมน้องชมพู่ แค่บอกว่ารายละเอียดต่าง ๆ ที่เครื่องนี้บอก บอกว่าข้อมูลที่ออกมาเป็นเส้นผมชุดเดียวกัน ส่วนการพิสูจน์เรื่องเป็นเส้นผมลุงพล น้องชมพู๋ ผมว่าน่าใช้นิติวิทยาศาสตร์แขนงอื่นที่ชี้ชัดตัวบุคคลได้ 100% เข้าไปประกอบในสำนวนเพื่อพิจารณาคดี เพราะคดีนี้ใช้ผู้เชี่ยวชาญนิติวิทยาศาสตร์หลายแขนง

จริง ๆ เราต้องเห็นสำนวนเห็นตัวเต็มถึงทราบครับ เพราะเท่าที่รู้สำนวนคดีเอกสารเยอะมาก ๆ เยอะชนิดที่เรียกว่าถ้าขึ้นพิจารณาคดีในฎีกา ต้องใช้เวลาเยอะ เพราะเอกสารเยอะมาก ๆ นี่แหละครับ ที่เรารู้ ๆ กันแค่บางส่วนที่เปิดเผยให้สื่อได้มาทำข่าวกัน

----------

จุดตายลุงพลนอกจากเรื่องเส้นผม ก็เรื่องถิ่นที่อยู่ที่พยานหลายปากยืนยันว่าพบเห็นลุงพลในวัน เวลา ใกล้เส้นทางขึ้นภูเขา ก่อนน้องชมพู่หายไป แต่ลุงพลให้ปากคำอีกแบบ แล้วให้การกลับไปกลับมาตลอดเวลา จริง ๆ ผู้ต้องสงสัยมีหลายคน แต่ผู้ต้องสงสัยคนอื่น ๆให้การเรื่องถิ่นที่อยู่ได้ถูก มีพยานพบเห็นยืนยันได้
่
ผมก็เลยอนุมานเอาว่า ถ้าแค่เรื่องเส้นผมเป็นจุดตาย แต่เรื่องอื่นลุงพลแก้ต่างได้ ศาสคงยกฟ้อง คดีที่ไม่มีประจักษ์พยานแบบนี้ โอกาสยกฟ้องสูง ถ้าทนายจำเลยเพียงแค่มีข้อสงสัยยกขึ้นมาได้ให้สิ้นสงสัยไม่ได้

ปล. ผมก็ฟัง ๆ จากข่าวเช่นกันครับ ความรู้ syschrotron ก็รับรู้จากข่าวครับ 55555

ผมสนใจประเด็นนี้ มากกว่า



เส้นผม 2 เส้น จาก กลุ่มA 40-50 เส้น = 2/40 = 5%
เส้นผม 1 เส้น จาก กลุ่มB 16 เส้น = 1/16 = 6.25%
และ
เส้นผม 2 เส้น (จาก 16 เส้น ของ กลุ่ม B ในรถ) ที่ consistent* (*ในบริบทนี้ น่าจะหมายถึง สอดคล้อง) กับ เส้นผมจาก 40 เส้น (กลุ่ม A ในป่า)
แค่สัดส่วนก็น้อยแล้ว แค่ 5-6% จากทั้งหมด ที่มี รอยตัดเหมือนกัน = อีก 94-95% คนละรอย คนละองศา
และ มีแค่ 2/16 = 13% ที่น่าจะเป็นเส้นผมเส้นเดียวกัน (ตีความจากคำว่า consistent)
ถ้าคิด วิเคราะห์จากข้อมูลแค่นี้ น่าจะพออนุมานได้ว่า มีผม > 2 กระจุก ที่ไม่ซ้ำกัน และรอยตัดไม่เหมือนกัน
ดังนั้น การตีความกว่า ถูกตัดคราวเดียวกัน (ทั้งหมด หรือบางส่วน ที่เป็นส่วนน้อย) นี่ยากมากๆ นะ

ก็ขัดใจเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่คิดว่า หลักฐาน และ พยาน แวดล้อมอื่นๆ มันชี้ไปที่ ลุงพล หมด ก็คงเป็นเช่นนั้นจริงๆ (อาจจะ รู้ว่าน้องไปไหน แต่จงใจปล่อยให้หลง/ตายในป่า)

ขอบคุณครับ

ผมแค่คิดเหมือนคุณครับว่า ขัดใจเรื่องการตีความกว่า ถูกตัดคราวเดียวกัน
คือแค่นี้เลย ไม่ได้บอกว่าจำเลยไม่ผิด

ขอบคุณครับ

สร้างภาพ สร้างสถิติทางเคมีที่สามารถชี้ได้ว่าเส้นเดียวกัน
- https://www.youtube.com/embed/JsWjHKnjjcY
นาทีที่ 47 พี่หนุ่มถาม ตำรวตอบว่า ไม่ใช่เส้นเดียวกัน ครับ

บอกว่าข้อมูลที่ออกมาเป็นเส้นผมชุดเดียวกัน
- ตรงนี้แหละครับที่ผมไม่เห็นด้วย
ต่อให้เป็นซิงโครตรอน ตำรวจก็ตอบว่าวิเคราะห์รอยตัด (นาทีที่ 46)
ผมเลยอนุมานว่า เป็นการมองโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งก็ยังเหมือนกับ microscopic hair comparison
ในตัวของ idea เพียงแต่ว่าละเอียดขึ้น ถ้าผมเข้าใจผิดข้อนี้อย่างไร แย้งได้เลยครับ

หลักฐานชิ้นเดียวไม่สามารถเอาผิดได้แน่ๆครับ แต่มันพอที่จะสอบสวนต่อได้ว่า หลักฐานชิ้นนั้นมาจากไหน
ถ้าผู้ต้องสงสัยตอบไม่ได้หรือไม่ตรงกับสภาพที่พิสูจน์ได้ หลักฐานชิ้นนั้นมันก็จะมีน้ำหนักทันทีครับ

ในเมื่อเป็นคดีดัง แถมหลักฐานมันน้อย มันก็ต้องใช้ทุกอย่างแหละครับ รอยเท้า เศษดิน เศษหิน ทุกอย่างที่วิเคราะห์ได้ต้องมาหมด
%จะมาก-น้อย ที่เหลือก็สุดแล้วแต่ศาลจะพิจารณาแหละ

เรื่องคำตัดสินผมก็ไม่ไปก้าวล่วง แต่ผมเห็นคลิปแกร้องไห้ตอนเจอศพ กับพฤติกรรมช่วงหลังแกที่ลั้ลลาเหลือเกิน ผมเชื่อว่าแกทำจริง