ระยะยาวมากๆเลยนะ ถึงจะราคาขึ้น ถ้ามีเงินเย็นไม่รีบร้อนใช้เงินมันก็น่าลงทุนแหละ

ผมว่าจะลดลง ยิ่งคนน้อยลงด้วย

มูลค่า ราคา มีแต่ขึ้นจริงๆครับ


แต่มีคนซื้อตามราคา และมูลค่ามั้ย อันนั้นเป็นคนละเรื่อง


แปลง่ายๆว่า ถ้าคุณไม่ร้อนเงิน ไม่ได้ต้องการจะขาย หรือในละแวกนั้นมีคนต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก ท่านก็ไม่จำเป็นต้องหั่นราคา ลดมูลค่าของทรัพย์สินนั้นมาแปลงเป็นเงินสดครับ


แต่เมื่อเอาไปเป็นหลักทรัพย์ ค้ำประกัน เงินกู้ ท่านก็จะได้ตามมูลค่าจริงที่ประเมินของมัน ซึ่งประเมินทุกปี มันก็จะขึ้นทุกปี

อยู่ทำเลครับที่แพงไม่ใช่ตัวบ้านแต่คือที่ตั้งของบ้าน

แพงที่ทำเลครับ อหังสาในแหล่งเสื่อมโทรม ขายยังไงก็ยาก

พวกตึกแถวติดถนนนี่หนักเลย

ซื้อมือสองมารีโนเวท ปล่อยเช่า ปล่อยขาย พอได้อยู่ แต่ต้องขยันติดตามผล

ราคาหายไป 3 แสน ระยะเวลา 9 ปี ถ้าคิดเรื่องเงินเฟ้ออีกก็น่าจะหายไปราวๅ 6+ แสน

ปีละ 70,000 บาท หรือเดือนละ 6พันบาท

ถ้าไม่ซื้อบ้านแล้วไปเช่า บ้านแบบนี้เดือนนึงน่าจะ 15,000-20,000

ก็เสียเดือนละ 6,000 คิดแล้วก็ยังกำไรนะครับ

ยกเว้นพวกซื้อลงทุน ไม่ได้อยู่เอง กะเก็งกำไรอย่างเดียวไม่ปล่อยเช่าด้วย อันนี้ก็คงขาดทุน

คนลงทุนกับ ที่ดิน

ถ้าเอาทั้งหมดหรือเกินครึ่งของพอร์ต

ถ้าไม่เก๋าจริงนี่ เหงื่อตกแน่นอน

สภาพคล่องค่อนข้างลำบากเลย

คอนโดผมติดรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท

ซื้อมือแรก4ล้าน ทุกวันนี้ยังขายไม่ออกเลย

ราคาขึ้นเป็นเรื่อฃปกติ แต่ขึ้นแล้วคุณขายต่อได้ป่าวล่ะ ประเด็นอยุ่ที่ตรงนี้

สรุป ตึกสาธร ขายได้หรือยังนะครับ

ระยะยาวยังไงก็ขึ้น เพราะเงินมันเฟ้อ

มุมมองผมคือราคาสูงเกินไปแล้วครับ ถ้าไม่ใช่ทำเลทองยังไงคนก็ไม่อยากซื้อ เพราะเงินเฟ้ออาจจะทำให้ราคาสูงขึ้นไปอีก ทำให้ขายยาก ต้องยอมลดราคาลงมาถ้าอยากขายออก คอนโดก็เหมือนกัน

ไปซื้อหมู่บ้าน ไกลๆ 5 ปี 10 ปี สภาพแวดล้อมเหมือนเดิม ราคามันก็ขึ้นแหละ แต่ไม่มีใครซื้อ

แล้วแต่ทำเล เชียงใหม่ที่บ้านผมเขตเทศบาล ไฟฟ้า ประปา เน็ต ครบ แถมด้วยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้วรอด ไม่โดนน้ำท่วม ยังไงก็ราคาขึ้น

บ้านอื่น ๆ ที่โดนน้ำท่วม ราคาตกจากหลักล้านเหลือแสนปลาย ๆ ยังขายไม่ได้เลยครับ

ไม่จริงครับ
ที่ดินก็ราคาตกได้ แม้จะในเมืองก็ตาม เจอกฎหมายผังเมืองกับความคุมอาคารสูงทีเดียว ทำไรต่อไม่ได้เลย

ผมผ่านตรงนั้นมาหมดแล้ว