คือผมสงสัยนะว่าทำไมการฆ่าตัวตาย ถึงเป็นบาปในแทบทุกศาสนา ศานาพุทธผสมพราหมณ์+ผีแบบไทย นี่มองว่าการฆ่าตัวตายจะต้องฆ่าตัวตายซ้ำๆแถมยังไปเกิดเป็นอะไรไม่รู้อีกหลายชาติภพ

คริสต์ บาปมหันต์ เพราะระเมิดเจตจำนงพระเจ้า

อิสลาม บาปใหญ่ (ฮะรอม)มนุษย์ไม่ใช่เจ้าชีวิตตนเองเป็นอัลลอฮ์

ยิว ผิดกฎหมายศาสนา แต่ถ้าป่วยจิตหรือเหตุสุดวิสัยไม่เป็นบาปเต็มขั้น

ของยิวนี่พอมีเหตุผลสุดละ แต่ก็เป็นบาปอยู่ดี ผมเลยสงสัยครับ ถ้าเราป่วยหนักชิบหายเนี่ย ตัวเองก็เจ็บชิบหายแล้ว บางทีเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็ง ขั้นสุดท้าย ติดเตียงลำบากคนที่เรารักคนรอบข้างอีก ทำไมเราจะฆ่าตัวตายไม่ได้ครับ
ทั้งๆที่อยู่ไปก็ทรมาณถ้าพระเจ้าต่างๆมีจริงแล้วจะให้รับกรรมทำไมไม่สร้างให้มนุษย์มีโรคที่มันรักษาได้ทุกโรค หรือไม่เขียนให้คนมัันพอจะมีทางออกจากปัญหาต่างๆครับ เล่นสร้างโรคภัยมาเเล้วให้คนมาทรมานฆ่าตัวตายบาปอีก ไม่เมคเซนต์เลย เคยฟังเรื่องผีไทยที่คนป่วยเป็๋นมะเร็งผูกคอตายในห้อง ปรากฎว่าคนไปอยู่ต่อเจอมาฆ่าตัวตายทุกวันเวลาเดิม ตกลงพวกพระเจ้าต้องการอะไร

พระเจ้าอาจจะไม่ได้ต้องการอะไร

คนแต่งเรื่องบาปบุญสิ ต้องการอะไร

เพื่อให้เหลือคนในศาสนามากที่สุดเพื่อสืบทอดต่อมั้ง สมัยนั้นเขายึดโลกด้วยศาสนากันอะ คนในศาสนามากก็ได้เปรียบ

ไม่มีหรอกบาปบุญ เค้าแค่ไม่อยากให้เราฆ่าตัวตาย เอาเราไว้พัฒนาประเทศไว้รีดภาษีดีกว่า

ผมคิดง่ายๆแบบซิมเปิ้ลเลย เพราะว่าทำให้คนที่ยังอยู่คนที่รักเค้าเสียใจ

เหตุผลที่ศาสนาและจริยธรรมหลายระบบถือว่า “การฆ่าตัวตายเป็นบาป” มีทั้งมิติ **ศาสนา** **จริยธรรม** และ **สังคม** สรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

---

### 1. มิติศาสนา
| ศาสนา | เหตุผลหลัก |
|---|---|
| **พุทธ** | ถือว่าเป็นการ “เบียดเบียนชีวิต” (ปาณาติบาต) ซึ่งเป็นข้อห้ามในศีล 5 การขาดความเคารพต่อชีวิตตนเองทำให้สะสมอกุศลกรรมหนัก |
| **คริสต์** | ชีวิตเป็นของพระเจ้า การฆ่าตัวตายเท่ากับ “ขโมยชีวิตจากพระเจ้า” จึงเป็น “บาปมหันต์” |
| **อิสลาม** | ชีวิตเป็นพระคุณของอัลลอฮ์ ผู้ใดฆ่าตัวตายจะถูกลงโทษในนรกตามหะดิษ |
| **ฮินดู** | ละเมิดหลัก “อาหิมสา” (Ahimsa – ไม่เบียดเบียน) และขัดต่อหน้าที่ธรรม (Dharma) ทำให้วิญญาณต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป |

---

### 2. มิติจริยธรรมและสังคม
- **ทำลายหน้าที่ต่อครอบครัวและสังคม**
ผู้คนส่วนใหญ่มีบทบาท (ลูก พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน) การจากไปสร้างความเจ็บปวดและภาระให้ผู้อื่น
- **ส่งเสริมวัฒนธรรมการหนีปัญหา**
ถ้าสังคมยอมรับการฆ่าตัวตายได้ง่าย อาจเกิด “contagion effect” (การเลียนแบบฆ่าตัวตาย)
- **ผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจ**
ทำให้สูญเสียกำลังคน ค่าใช้จ่ายการช่วยเหลือเพิ่ม

---

### 3. มิติกฎหมาย
- ในหลายประเทศ การพยายามฆ่าตัวตายเคยเป็นความผิด (อาญา) แม้ปัจจุบันจะลดโทษหรือเปลี่ยนเป็นกฎหมายสุขภาพจิต แต่ยังถือว่า “กระทำผิดต่อตนเองและสังคม”

---

### 4. มิติสุขภาพจิต
- องค์การอนามัยโลก (WHO) มองว่าการคิดฆ่าตัวตายมักเกิดจาก **ภาวะสุขภาพจิต** (ซึมเศร้า วิกฤตชีวิต) ไม่ใช่ “การตัดสินใจเสรี” จึงควรได้รับการรักษา ไม่ใช่การประณาม

---

### สรุป
> “การฆ่าตัวตายถูกมองว่าเป็นบาป เพราะละเมิดหลักไม่เบียดเบียนชีวิต (ทั้งตนเองและผู้อื่น) และส่งผลกระทบกว้างไปถึงครอบครัว สังคม และจิตวิญญาณ”

หากคุณหรือใกล้ชิดกำลังเผชิญความทุกข์หนัก ขอให้รีบปรึกษา **สายด่วนสุขภาพจิต 1323** หรือ **รพ.ใกล้บ้าน** ทันทีครับ

ในไทยเหมือนได้ยินว่าการฆ่าตัวตาย คือบาปที่สุดเลยใช่ไหม จริงๆ ก็ งง นะครับ ชีวิตเป็นของเราทำไมถึงบาป
เราพอใจที่จะอยู่ หรือตาย มันควรจบที่การตัดสินใจของเราไหม ฝรั่งฆ่าตัวตายกันเยอะ เค้ามองว่าบาปไหม
หรือจะมองว่ามันคือการทิ้งคนในครอบครัวไว้ข้างหลังเลยบาปหรอ

แล้วอีกเรื่องที่ผมอยากรู้ที่ชอบมีเรื่องผีมาเล่า แบบเวลามีการฆ่าตัวตายไปเป็นผี แล้วจะทำแบบนั้นซ้ำๆ บ่อยๆ ทำไมมันเป็นมาแนวนี้ตลอด 55

มองในเชิงเหตุผลคือเป็นภาระให้คนที่ยังอยู่ โดยเฉพาะคนที่ตายแล้วทิ้งภาระไว้ให้คนอื่น หนี้ ครอบครัว ความรับผิดชอบ ฯลฯ

แต่ถ้าตายโดนธรรมชาติคือมันทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

นึกว่าแค่ของคริสต์นะเอาจริง

รู้จากคอนสแตนติน

จขกท สับสนประเด็น ไอ่ที่คุณยกตัวอย่างมาเค้าเรียกว่า การุณยฆาต ซึ่งหลายๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วถือว่าเป็นเรื่องถูกกฏหมายนะทำได้ อันนี้จริงๆแล้วไม่ถือว่าบาปด้วยซ้ำเพราะมันเป็นเรื่องสุดวิสัยที่จะสู้ต่อไป เช่นเป็น มะเร็ง ระยะสุดท้ายแล้วต้องเจาะคอ ก็ปล่อยให้ไปเลยดีกว่าอย่างนี้

ไอ้หลักศาสนาที่เป็นบาปเค้าหมายถึงว่า ฆ่าตัวตายทั้งๆที่ครบ 32 ต่างหาก อย่างยิวยังบอกเลยว่าถ้าป่วยจิตฆ่าตัวตายก็ไม่ถือว่าเป็นบาป สรุป ถ้าครบ 32 แล้วอยู่ดีๆ ฆ่าตัวตาย เห็นจากพวก อกหักโดดน้ำตาย ธุรกิจเจ๊งฆ่าตัวตาย พวกนี้ต่างหากที่ถือว่าบาปเพราะไม่สู้กับชีวิตที่อุตส่าห์ได้เกินมา อย่าหลงประเด็นครับ

ตั้งแต่ผมดูสารคดีเกี่ยวกับจักรวาล เรื่องศาสนา ความเชื่อต่างๆ ผมปล่อยจอยเลย

พวกนี้มันเป็นกุศโลบาย มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดล่วงหน้าไปในอนาคตได้กุศโลบายบุญบาปมันจึงเกิดมาเพื่อรองรับความคิดนั้น วิธีการที่ง่ายที่สุดในการปกครองมนุษย์คือการใช้ความกลัวเพราะมันไม่ต้องไปนั่งอรรถาธิบายสร้างความเข้าใจอะไรกันมาก เหมือนผู้ใหญ่ที่หลอกเด็ก ๆ ว่าในบ่อน้ำมีผีเมื่อเด็กกลัวเด็กก็จะไม่เข้าใกล้บ่อน้ำซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่มีผีอะไรในบ่อน้ำผู้ใหญ่แค่ไม่ต้องการให้เด็กลงไปในบ่อแล้วอาจจะเกิดอุบัติเหตุจมน้ำตายได้

ถ้าเส้นเวลาเป็นวงกลมก็อาจจะมีการเวียนว่ายตายเกิดมีบุญมีบาปมีกฏมีกติกามีเงื่อนไขในการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป

เป็นกุศโลบายนั่นแหละครับ

เปลืองช่อง