สนุกนะครัยแต่ผมไม่ชอบที่เป็นหนังเปิดซุปใหม่แต่แกเลือกให้คนอื่นเด่นพอกันเหมือนหนัง gotg แนวทางนี้น่าจะเป็นตอนทำ jl มากกว่า

หรือเป็นเพราะกลัวจะเหมือนแซคที่ซุปคนเดียวตบทั้งเรื่องแกเลยเนิฟซุปของแกซะ

คำนี้เลยครับที่อยากจะสื่อ แต่เปิดหัวมาแบบนี้เดี๋ยวจะดราม่ากัน ในนี้แทบจะไม่ชอบแซคอยู่ละ

คำนิยามง่ายๆเรื่องนี้คือ การ์เดี้ยน DC ของ jame gunn แต่การ์เดี้ยนมันสนุกแบบไม่มีอะไรให้บ่นเพราะว่ามันไม่ใช่หนังเดี่ยว และไม่ใช่หนังเปิดจักรวาล เป็นหนังรวมตัวรองก็ว่าได้ (เช่นเดียวกับ suicide squad ที่ผมก็ชอบ) ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ superman น่าจะม่มีไรให้บ่นมาก

ผมเห็นตัวอย่างแล้วผมรอดู straming เลยครับ ไม่คิดว่าจะถูกจริต

ขอบคุณที่ขยายความครับ ท่านจะตีความแบบนั้นก็ไม่ว่ากัน เพราะคนดูเราหนังก็มักได้อะไรต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา

แต่ในฐานะที่ผมติดตามการเมืองระหว่างประเทศแบบทุกวัน(เพราะงานเกี่ยวข้องกับการต้องดูและวิเคราะห์เรื่องพวกนี้) ผมเลยอยากถกเพิ่มเติม เพราะไม่เห็นด้วยกับที่ท่านบอกว่าประเด็นนี้ของหนังเบาหวิวหรือง่อย

สำหรับผม สงครามในเรื่องคือพ้อยต์หลักของหนังเลยครับ หนังมันทั้งเรื่องคือ 2 ชั่วโมงแห่งการ FUCK ISRAEL แบบโจ่งแจ้งชัดเชนที่สุดเท่าที่บล๊อคบัสเตอร์จะกล้าทำละครับ ก่อนหน้านี้ไม่มีสักเรื่องที่กล้าวิจารณ์อิสราเอลชัดและตรงไปตรงมาขนาดนี้มาก่อน ขนาดที่ผมยังอึ้งเลยว่าผ่านคนใหญ่คนโตใน WB มาได้ยังไง

และหนังไม่ได้พูดแค่สงครามนะครับ มันลากไปถึงเรื่องบทบาทสื่อ บทบาทของ public opinion การค้าอาวุธ การแทรกแซงการเมืองของชนชั้นมหาเศรษฐี จักรวรรดินิยม ความกลัวของประชาชน และราคาที่ต้องจ่ายถ้าคุณอยู่ข้างผู้ถูกกดขี่

ฉากรุกรานประเทศในเรื่องคือจุดพีคที่หนังปูมาตั้งแต่ต้น พร้อมกับเชื่อมโยงต่อยอดจากประเด็นย่อยที่ว่าไป

ที่ท่านเห็นว่าเด็กๆรวมตัวกันเยอะ(จริงๆผู้ใหญ่ก็มีเยอะนะครับถ้าดูดีๆ) นั่นเพราะ James Gunn แกตั้งใจจะเปรียบภาพกับสถานการณ์ที่อิสราเอลบุกกาซ่า เพราะประชากรในกาซ่าเกินกว่าครึ่งคือเด็กน้อยนั่นไงครับ หนังเลยอยากให้ภาพออกมาแบบนั้น ไม่ได้จะทำให้มันดูง่อยด้วยการเด็กๆมาช่วยกันสู้รบ

ฉากการรุกรานนี้มันคือการสะท้อนความน่าเศร้าในโลกจริงที่คนธรรมดาโดยเฉพาะเด็กๆอาจจะต้องจำใจต้องลุกขึ้นสู้ต่อต้านกองทัพที่มีอำนาจและเทคโนโลยีสงครามเหนือกว่าลิบลับ ทั้งที่พวกเขาไม่มีอะไรเลย ไม่มีอาวุธ ไม่มีฮีโร่ มีแค่ความหวังลมๆแล้งๆ กับมือเปล่า มีแค่ความกล้า และศรัทธาว่าความยุติธรรมยังพอมีที่ยืนในโลกนี้

ซึ่งมันต่างกับในหนังที่คนในประเทศนั้นยังมีความหวังว่าจะมีฮีโร่อย่างพี่ซุปไปช่วยพวกเขาได้เสมอ

ปล. ขอตอบความเห็นของท่านอีกเรื่องนะครับที่ James Gunn ทำเป็นเล่นในเรื่อง Supergirl เมา คือตัวละคร Supergirl ในเวอร์ชั่นจะถูก adapt จากคอมมิค Woman of Tomorrow ครับ ซึ่งตัว Supergirl เป็นสาวชอบเที่ยวขี้เมาแบบที่เห็นนั่นแหละ

เป็นหนังที่บอกเราว่า DCยุคZackมันดาร์คแค่ภาพจริงๆ
เจอSupเวอร์ชั่นนี้ไป พวกอวยZackเงียบกริบ

ผมรู้สึกว่าปูทางซุปเปอร์แมนแบบนี้มาเพื่อในอนาคตจะเล่นกับการเติบโตของตัวละครได้มากขึ้น แอบคิดว่าเล่าตอนเป็นคล้ากน้อยไปหน่อย

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แล้วในความเป็นจริงพลเมืองจับอาวุธสู้แบบนั้นมั๊ยครับ อันนี้ผมถามเฉยๆนะ พอดีไม่ได้ตามข่าว พอดีเป็นภาพที่เคยเห็นแค่ในการ์ตูน(มังงะ)จริงๆ มันดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ แต่เก็ทเลยจากข้อมูลว่าทำไมทำแบบน้ัน คำว่าง่อยของผมเลยดูเนิร์ฟแกเกินไป

ส่วนตัวผมว่าที่เงียบส่วนนึงน่าจะไม่อยากสวนกระแสชื่นชมมากกว่านะ ในหนัง message เยอะกว่าจริง มิติเยอะกว่าจริง แต่ผมว่ามันก็ดูดาวน์เกรดในบางมิติ อันนี้เป็นความเห็นต่างนะครับ ไม่ได้อยากให้แซะกันไปมา พวกอวยแซคไรบางทีก็ไม่ใช่หรอก แค่เห็นต่างแล้วตีกันมากกว่า ไม่จำเป็นต้องมีติ่งแซค ติ่งกันน์อะไร

ใช่ครับ เรื่องนี้เอาจริงทั้ง sup ทั้งคล้ากก์บทน้อยจนนึกว่าไม่ใช่หนังเดี่ยวตัวเอง

ผมก้อไม่ชอบเลย

ให้ 6/10

ไม่ใช่ไม่ดี แต่แค่ไม่ชอบ

ชอบโทนดาร์ก แบบ Zack version มากกว่า

จริงครับหลับเรื่องแรกเลยในโรง แตะต้องไม่ได้นะเรื่องกองเชียร์เยอะ
บอกมีแววแป๊ก บอกขอหลักฐานรอดูรายได้ละกัน หนังไม่ดีรายได้จะบอกเอง

ผมว่าความเป็นเจมส์กันต์น้อยนะ เน้น play safe เกินไปหน่อย เหมือนกลัวใส่ความเป็นตัวเองไปเยอะแล้วทำหนังเปิดจักรวาลเจ๊ง

มันมีความพยายามจะเล่าจักรวาล DCU ซะเยอะ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบตรงนี้เท่าไหร่ อยากให้โฟกัสเล่าเรื่องแค่ซุปเปอร์แมน ผมอยากรู้จักคลาก เคนท์มากกว่านี้

โดยรวมไปทางชอบนะ ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีเว่อร์ประทับใจอะไรขนาดนั้น 3.5/5

แล้วเห็นมีคนพูดเรื่อง F4 ผมชอบ F4 มากกว่านะ อย่างน้อยมันก็พยายามจะเล่าเรื่องของตัวเอง

ไม่ได้มีภาพการรบอะไรแบบนั้นอย่างในหนังหรอกครับ ไม่มีแบบ 1:1 เพราะหนังมันไม่สามารถใส่รายละเอียดหรือปูบริบทในเวลาที่จำกัดได้ และยังต้องทำให้กำกวมนิดนึงด้วย หนังเลยใช้วิธีโชว์ให้เห็นภาพของประเด็นที่ว่าด้วยการทำฉากออกมาแบบนั้นครับ โชว์ให้ผู้ชมเห็นว่าโบเรเวีย(อิสราเอล)ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดเมกา มีอาวุธครบมือกว่า หาเรื่องหาวิธีการเหตุผลต่างๆนาๆในการรุกรานจาฮานพอร์(ปาเลสไตน์)ที่ประชาชนแทบไม่มีอะไรเลยในการต่อสู้ และไม่มีที่จะหนีแล้ว

*ผมชอบนะกับการออกความเห็นที่ชัดเจนและรู้ตัวว่าเป็นเทสส่วนตัวและเปิดต่อการพูดคุยแบบไม่ต้องมาถ่มถุยกัน แบบนี้ดี จะดีกว่านี้ถ้าอธิบายหลายๆจุดให้เข้าใจประเด็นที่จะสื่อได้ตั่งแต่ลงกระทู้ แต่ผมพอเข้าใจจขกท.ละจากที่อ่านท่านตอบท่านอื่นๆ

- มีอย่างนึงเลยที่อยากถามท่านก่อนว่า อันนี้ได้ไปอ่านหรือฟังในส่วนที่เป็นเพจหรือช่องรีวิวบ้างมั้ย ว่าเขาชมหรือติว่าอะไร เพราะจุดที่ท่านชัดเจนคือบทซุปมันแย่ ซึ่งมันค่อนข้างขัดกับส่วนเดียวกันที่เขาชมกันว่าการนำเสนอซุปเรื่องนี้ถือเป็นจุดเด่นที่ดีที่สุดจุดนึงของหนัง บางทีถ้าท่านไม่เก็ทว่าทำไม อยากให้ลองไปอ่านหรือดูรีวิวที่เชื่อถือได้เพราะส่วนใหญ่ก็อธิบายได้ชัดเจนแล้วว่าทำไม มันอาจมีประโยชน์สำหรับท่าน เพราะเขียนตอบอธิบายในนี้คงไม่เวิคเท่าท่านไปดูหรืออ่านที่ที่เขาอธิบายใว้ดีๆ เผื่อท่านจะเก็ทมากขึ้นว่าอะไรที่เขาอินแล้วท่านไม่อิน เพราะจุดนี้ค่อนข้างสวนทางกันโดยตรง บางทีตรงนี้ท่าน*อาจจะ*อยากเข้าใจว่าทำไมรีวิวหลักๆส่วนใหญ่ถึงให้ว่าจุดนี้เรื่องนี้มันดีที่สุดในซุปช่วงหลังๆมานี้ แต่ถ้าไม่ได้อยากเข้าใจแต่แค่อยากหาเพื่อนที่เห็นตรงกันก็แล้วแต่นะครับ เข้าใจได้

- จุดต่อมาที่ท่านบอกว่าการนำเสนอสงครามในเรื่องมันดูเบาหวิวและง่อยเหมือนดูการ์ตูน ผมก็เข้าใจแหละว่าท่านให้ความสำคัญกับอะไรในการดู รวมถึงตัวอย่างหนังที่ท่านยกมาด้วยทำให้เข้าใจมากขึ้น ในส่วนเดียวกันกับที่ท่านยกมาคือสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมชอบเรื่องนี้นะ เพราะกลับกัน ผมกลับมองถึงหนังที่ท่านยกมาเป็นตัวอย่างว่าพวกนั้นมีความใส่ใจต่อเปลือกในการนำเสนอสูงกว่าและให้ความเป็นการ์ตูนและไม่สมจริงมากกว่าแม้มันจะพยายามโน้มน้าวเราด้วยภาพที่อลังการและดุดันสมจริงก็ตาม มิติและการนำเสนอต่างกันโฟกัสต่างกัน ให้ความอินต่างกัน ไม่แปลกเพราะคนดูให้ความสำคัญกับการสิ่งที่เห็นไม่เหมือนกัน บางทีในการดูเรื่องนี้ท่านอาจจะติดกับดักทางภาพและโทนโดยไม่รู้ตัวอยู่ดี เลยทำให้ไม่อินกับสิ่งที่เขานำเสนอได้ไปในทางเดียวกันเพราะแม้มันจะดูง่อยหรือเบาหวิวในสานตาท่าน มันกลับสะท้อนประเด็นที่หนังต้องการนำเสนอได้อย่างตรงจุดรวมถึงสะท้อนตัวตนของซูเปอร์แมนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ชัดเจนของตนเอง แล้วก็ยังเสนอสภาพโลกDCอันใหม่นี้ได้อย่างวุ่นวายโกลาหลในแบบตัวเองที่ไม่เหมือนโลกที่เราคุ้นเคยหรือแบบที่เราต้องการให้มันเป็น** ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับคำชมและถือเป็นจุดเด่นของหนังจุดหนึ่ง เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ตรงนี้หนังเรื่องนี้ไม่สามารถส่งต่อให้ถึงท่านและหลายๆคนที่อาจยังสลัดภาพจำบางอย่างออกไปไม่ได้ เวลาดูเลยอาจขัดใจ แต่ถ้าถามผมว่าตัวหนังควรแก้จุดนี้ไหม--ผมกลับคิดว่าไม่นะ เพราะมันนำเสนอโลก DC โลกนี้ได้อย่างเหมาะสมแล้ว

- MOS ผมก็ชอบนะ เพราะมันคนละแนวเลย ตอนดูก็อินในแบบของมัน ไม่แปลกที่ใครจะชอบเวอร์ชั่นไหนมากกว่า เพราะผมก็มาชอบซุปเวอร์ชัน 2025 มากกว่า เป็นสิทธิของคนดู ไทป์ทุกคนไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องชอบทุกเรื่องที่ได้คะแนนดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งแซะว่าหนังโอเวอร์เรทบ้างว่าหนังเด็กน้อยบ้างเหมือนบางคน แค่เปิดใจเอามาคุยกันแบบได้แลกเปลี่ยนกันก็ถือว่ามีประโยชน์พอ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและความเข้าใจครับ
- ข้อ 1 ผมไม่ได้มีปัญหากับใครที่อวยเลยครับ ผมยังชมเลยว่าผมมองว่าหนังดี แต่ไม่ตรงจริต ด้วยเหตุผล 1 2 3 4 เลยไม่แน่ใจว่าผมต้องไปอ่านเพจรีวิวอะไรครับ(แต่จริงๆแนะนำได้นะว่าผมต้องไปดูที่ไหน และดูทำไม) คือบางครั้งเรามาดูหนังเราเองก็ไม่สามารถจะไปอ่านอะไรทั้งหมดได้ เราดูหนังแล้วเราก็วิจารณ์ติชมในมุมของเรา มีถูกผิดบ้างครับ แต่ผมไม่ได้อ้างอิง sorce ไหนเลยนะ ผมแค่เข้าใจที่หนังจะสื่อในแบบของตัวเอง เอาจริงๆผมชอบ DC ก็มาจากหนังไม่ได้มาจาการ์ตูนด้วยซ้ำ แต่ก็มองแบบเป็นกลาง ผมไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ
คุณอาจจะชอบเพราะว่าเคยอ่าน comic มาแล้วมันตรงกว่าหนังภาคก่อนๆ แต่สำหรับผมที่ดูหนังแล้วไม่ชอบ ผมว่ามันก็ไม่ผิดนะ เพราะผมดูหนัง หรือว่ามีประเด็นไหนอีกผมไม่เข้าใจที่คุณบอกผมในข้อแรกเท่าไหร่ เอาจริงผมบอกเลยว่าเนี่ยหนังดี แค่เราไม่ชอบเพราะมีเหตุผลของเรา ไม่ว่าใครซักคำ หรือถ้าคำว่าเป็นการ์เดี้ยน DC ก็ขออภัยด้วยครับ ผมว่ามันไม่ใช่คำด่าเลย เพราะการ์เดี้ยนมันดี แค่ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะกับ superman (คหสต.นะ)

- ข้อ 2 ถ้ามองว่ามันสมจริง ผมก็เคารพความเห็นนั้นครับ เพราะผมเห็นละว่ามีหลายคนบอกว่าสมจริงหรือมีเหตุผล ซึ่งผมก็เพิ่งรับรู้เลย เราอาจจะดูหนังที่เค้ายัดๆมา เลยไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง

- ข้อ 3 ก็ตามนั้นครับ เห็นด้วย แล้วมีทั้งสองแบบนะ (แต่ที่ผมเห็นเยอะในนี้เลยคือคนด่าdc ยุคเก่ามากกว่า พาลว่าคนที่ไม่ชอบว่าติ่ง zack ถ้าในเฟชบุคก็อาจจะกลับกัน) ผมว่าไร้สาระครับ เหมือนดูหนังดูการ์ตูนแล้วทะเลาะกัน