[RE: กองทัพภาคที่ 2 รายงาน ที่ภูผี ฝ่ายตรงข้ามตายไป 100 คน]
MarveliuS พิมพ์ว่า:
KJKrono พิมพ์ว่า:
MarveliuS พิมพ์ว่า:
ผม ขึ้น Reply ใหม่ ไม่อยาก ให้ เป็นปิรามิด quote
ถึง คุณ KJKrono ผมขอถาม คุณ ดังนี้
1 ผมอยากรู้ว่า คุณ รู้สึกยังไงกับครอบครัว ประชาชน ที่ตายใน 7-11
2 คุณรู้สึกอย่างไร ที่เขมร อ้างสิทธิ์ ในพื้นที่ทับซ้อน ว่าเป็นแผ่นดินเขา (ย้ำว่าพื้นที่ทับซ้อน)
3 คุณรู้สึกอย่างไร ที่ทหาร เราลาดตระเวณในพื้นที่ ทับซ้อน แล้วโดนกับระเบิดเขมร ขาขาด 2 นาย (ถ้าทหารนั่นเป็นลูกคุณ)
4 คุณจะ สอน ลูกคุณอย่างไร ถ้าไปรบแนวหน้า ว่าอย่ายิง ทหารเขมรนะลูก เขาก็คน ปล่อยให้เขาฆ่าเพื่อนลูก หรือ ฆ่าลูกแทนดีกว่า ไม่งั้นสงครามบานปลาย แบบนี้หรือเปล่าครับ โลกในอุดมคติ ของคุณ?
1.เสียใจและไม่ควรเกิดขึ้น
=(แต่มันเกิดขึ้นไปแล้ว ถ้า มีคนไปยิง คนในครอบครัว คุณตาย คุณจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยครับ พ่อแม่ ลูกเมีย คุณ โดนแรงงานต่างด้าว บุกเข้าไปฆ่าในบ้าน คุณก็แค่บอก ไม่เป็นไร ผมเสียใจ คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรก็ได้ แบบนี้ว่างั้น?)
2.เป็นเรื่องการเมืองและควรเจรจาด้วยการเมือง ยึดประโยชน์ที่ วิน วิน ทั้งสองฝ่าย เป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมือง
= คุณไม่ได้ตามข่าวหรอครับ เขาเจรจา เขาร้องขอ ให้ ถอยทัพ ขอให้ ยุติการยั่วยุ แล้วเขมร มันทำอะไรกับเรา? จริงๆ อยากให้ แรงงานต่างด้าว ไปขอใช้บ้านคุณ ร่วมกับคุณจัง แล้วคุณก็ เจรจา ไปก็แล้วกัน
3.ไม่เป็นลูกผมก็เสียใจ ถ้าเป็นลูกผมยิ่งเสียใจ
= นั่นคือ สิ่งที่คุณ ใช้ในการตอบ ผม หรือคนอื่นตลอด มันไม่ควร เกิดขึ้น เสียใจ เสียใจ และก็ เสียใจ ทั้งๆที่มันไม่ควรเกิดขึ้นเลยไง ถ้า เจรจาแล้ว วิน วิน ทางการเมือง แล้วเขมร มันฟังมั้ยละ ถ้ามันฟังการเจรจา ลูกคุณก็ไม่ควรโดนกับระเบิดไงล่ะครับ
4.ผมคงไม่สอนให้ไม่ยิง และถึงผมสอนให้ไม่ยิง ถ้าเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้าเป็นใครก็สู้ เพราะฉนั้นเรื่องที่คุณ สมมติมา มันไม่เมคเซ็นต์ คุณชอบเอาเรื่องมหภาค มาปนกับเรื่องปักเจก สำหรับผมมันเทียบกันไม่ได้ครับ
= สิ่งที่มันไม่เมคเซ้นส์ คือ ความคิดคุณครับ คุณพร้อม จะเป็นผู้ถูกกระทำ ย่ำยี ด้วยความเต็มใจ เพียง ขอให้ไม่เกิดสงครามโลก แม้ ว่าการที่คุณยอม ถูกกระทำย่ำยี่ มันก็ไม่ได้หลีกเลี่ยง การเกิดสงครามได้แต่อย่างใด เพราะ ถ้าเรายอม แพ้วันนี้ ในช่วงชีวิตคุณอาจไม่เกิดสงครามโลก แต่ ใครจะไปรู้ อีก 200 ปีข้า่งหน้า เขมร อาจจะเคลมแผ่นดิน เราจนไปถึงจังหวัดที่คุณอาศัยอยู่แล้วครับ เพราะ ไอความคิด ปัจเจกบุคคลของคุณ ถ้า ปลูกฝัง ให้ คนในชาติคิดยอม ทุกสิ่งที่รุกราน แบบคุณ
ผมตอบคุณมาหลายคำถามแล้ว ผมถามคุณ 2 คำถาม รบกวนกลับไปตอบหน่อยครับ ไม่มีถูกผิด ผมแค่อยากรู้ความคิดเห็นคุณ
ปล. ข้อความ = ตามด้วยสีแดง คือ ความคิดเห็นต่างที่ผมโต้แย้งคุณ
1.บริบทมันต่างกันคุณก็พยายามจะโยงให้เขมรมาบุกบ้าน มาแทงผมอยู่ได้นะ หุหุ ยกตัวอย่าง เรื่องบุคคลมันมีปัจจัยเรื่องกฏหมายที่ เรื่องระหว่างประเทศไม่มี ส่วนเรื่องระหว่างประเทศมีปัจจัยเรื่องการเมือง ที่เรื่องของบุคคลไม่มี
2.เอาแรงงานต่างด้าวมาบุกบ้านผมอีกแล้ว หุหุ เอาเถอะ การเมืองก็คือการเมืองครับ มันไม่ไว แต่มันสูญเสียน้อยกว่า ยังไงผมเชื่อว่าสุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องจบด้วยการเมือง ไม่ใช่การฆ่ากัน คุณจะเชื่อว่ามันต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างก็แล้วแต่คุณละกันครับ
3.คือคุณถามผมว่าผมรู้สึกอย่างไร ผมตอบคำถามคุณว่า ผมเสียใจ คุณก็ไม่พอใจกับคำตอบผมอีก ผมต้องรู้สึกโกรธแค้นและอยากจะฆ่าคนเขมรเหมือนคุณ คุณถึงจะพอใจถูกไหมครับ??
4.ก็เป็นอีกครั้งที่ปนกันระหว่างเรื่องระหว่างประเทศกับเรื่องปักเจก คือถ้าเป็นเรื่องบุคคล อยุ่ดีๆมีคนวิ่งถือมีดเข้ามา ใครจะไปยอมให้ย่ำยีครับ มันก็ต้องป้องกันตัวอยู่แล้ว เป็นสัญชาติญาณมนุษย์เลย แต่สำหรับเรื่องของประเทศ การกระทบกระทั่งตามชายแดนของแต่ละประเทศเกิดขึ้นบ่อยๆและจบลงด้วยสันติภาพก็มีเยอะแยะไปในโลกนี้ครับ หรือแม้แต่การยั่วยุของฝ่ายนึงแล้วจบลงด้วยการเจรจา มันก็มี ถ้าทุกประเทศในโลกยึดหลักว่าใครยั่วแล้วต้องตอบโต้ให้เด็ดขาดทุกครั้งไป สงครามโลกคงเกิดเป็น 10 เป็น 100 ครั้งไปแล้วครับ เรื่องของประเทศมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเอาอารมณ์มานำครับ
แต่ก็นั่นแหล่ะครับ ถ้าสุดท้ายคุณจะยึดว่า ความโกรธ เกลียด แค้น เป็นทางออกของเรื่องต่างๆในชีวิตคุณผมก็เคารพแนวทางการดำเนินชีวิตของคุณครับ ขอแค่ผมอย่าบังเอิญไปเจอกับคนแบบคุณในชีวิตจริงเลยละกัน แหะๆ ไม่ได้ส่วนตัวนะครับ แค่ไม่อยากเจอคนที่เต็มไปด้วยความโกรธ เกลียด แค้น หน่ะครับ ดึกละครับขอตัวไปนอน ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนครับ