ปีหน้าผมจะแต่งงานแล้วต้องย้ายที่อยู่ ไกลกว่าเดิม (ไปกลับ รวม 60 โลต่อวัน) เดิมใช้รถน้ำมันปกติ

แต่ถ้าใช้ต่อแบกค่าน้ำมันไม่ไหว เดือนละ 6000 เงินเดือนผมแค่ 19k

จากเดิมพักที่บ้านพักพนักงานไม่ต้องจ่ายส่วนนี้เลย

เลยมองหาลูทางใหม่คือการหารถ EV มาขับ (ลดค่าน้ำมัน มาผ่อนรถแทน5555)

ก็ตั้งใจไปมือ 1แหละ มีเงินอยู่ 100K

แต่แอบเผื่อใจว่าถ้าจะจิ้มมือสองพวก BYD มาขับ เขานิยมทำกันไหม

แนะนำหน่อยครับว่า

1.รุ่นไหนดีงบไม่เกิน 600k +- สำหรือมือ 1 หรือ 400k มือสอง

พวกอุปกรณ์เทคโนโลยี(รถยนต์ไฟฟ้า) ปัจจุบันใช้อุปกรณ์
- Surface-mount technology (SMT)
- มีระบบ Software ควบคุม
- มี Chipset Firmware อีก
- อื่นๆ ที่ OEM

เปรียบเทียบง่ายๆ หยิบ iPhone 7 ออกมาดูสภาพ เทียบ iPhone กรณีใช้รถไฟฟ้าอเมริกานะ
รถไฟฟ้าจีนก็หยิบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อจีน เมื่อ 8 ปีที่แล้วออกมาดูสภาพตอนนี้

แต่รถยนต์จะโหดกว่าโทรศัพท์มือถือเยอะมาก ใหญ่กว่า มีแรงสั่นสะเทีอนสูงมากกว่า ความร้อนสะสม ความชื้นสะสม
แล้วอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใช้แบบ Surface-mount technology (SMT) ใช้หุ่นยนต์บัดกรีอุปกร์ เส้นวงจร เล็กมาก เล็กกว่าเส้นผมอีก
อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่สั้นแบบแน่นอน(เจอแรงสะเทือน ความร้อน/ชื้น สะสม) ความคุ้มจะไม่เกิน 5ปี ( ใช้ได้เกินก็คือกำไร และ พังก็จบอะไหล่หาไม่ได้) ส่วนมาก 3ปีก็เริ่มทยอยพังแล้ว และ มันซ่อมไม่ได้ถอดเปลี่ยนอย่างเดียว หากผู้ผลิต(OEM) ไม่ทำอะไหล่ออกมาด้วย ก็จบเลย (Chipset เฉพาะทางหาไม่ได้ต้องมี Firmware อีก) จะหาจากไหนมาเปลี่ยน นี่ระยะแค่ 3-5ปีนะ เกินกว่านี้จบเลยขยะอิเล็กทรอนิกส์

จะไม่ได้ความรู้สึกเหมือนเล่นรถยนต์สันดาปในช่วง รถยุคช่วง ต่ำกว่า2000-2010 ไม่เกิน 2016 ซ่อมสนุกมาก อยู่ได้ 10-20ปี รื้อเล่นได้ทั้งคันหาคนซ่อมง่าย ส่งต่อให้ลูกหลานฝึกหัดขับได้ ตัวอย่าง เช่น Civic FD นางฟ้า รถ 10ปีแล้วแต่ส่วยมาก ในกลุ่ม ก็เหนี่ยวแน่น

เครดิต https://pantip.com/topic/42796049

EV ของใหม่ดีกว่าของเก่า ต้องไปดูว่าจะเอาแบบไหน เพราะตัวเลือกเยอะจริง ในงบไม่เกิน 600k ก็มีหลายตัวเลือก หลาย options อยู่ เรื่องราคาคงลงกว่านี้ไม่เยอะมากแล้ว ยกเว้นเปลี่ยน เทคโนโลยีใหม่ เรื่องแบต

รอดู Yaris Ativ Hybrid ที่จะเปิดตัวเดือนหน้าก่อนไหมฮะ

เงินน้อยยิ่งไม่ควรไปไฟฟ้ามือสอง

byd dolphin เห็นมาเปิดบูทอยู่โลตัสแถวบ้าน ตัวtopราคา599,000฿ นะครับ

ซื้อมาใช้โอเคครับ ถ้าใช้ยาวๆประหยัดก็ได้เยอะอยู่ แต่ถ้าจะขายอีกอาจจะเจ็บตัวหนักหน่อย เพราะเทคโนโลยีมันไปไวจัด แล้วรถจีนก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะมีสต็อคอะไหล่ให้ใช้รึเปล่า

สภาพตลาด EV ในปัจจุบันผมว่ามือ 1 ดีกว่าครับ ได้ราคาถูกกว่ามือ 2 ด้วยมั้ง ถ้ามีเวลารอ ลองรอสิ้นปีนี้ก็ได้ครับคาดว่า BYD ตัวเล็กจะเข้า

BYD Seagull



ส่วนยี่ห้ออื่นๆผมไม่รู้เลยแหะ ปัจจุบันผมก็ใช้ BYD ก็เลยพอจะกล้าพูดครับ รถดีจริง
แต่อะไหล่ก็รอนานจริงครับ

มือสองถูกลง 40-50% น่าจะได้

ทำงานหาเงินก้อนดีก่า

อย่าเพิ่งมือ1 มันจะเป็นหนี้เอา

งบนี้รอดอปลิ้นตัวใหม่ครับ ไม่งั้นไป Atto มือ 2 ตัว 480 โล ก็โอเคอยู่

มือ 1 ได้เอามือ 1
ผมไม่มี data ที่ชัดเจน คิดเอาเองคือไม่นิยมมือสองครับ คือคนซื้อมือสอง รอจังหวะดีๆ ได้รถมือ1 ในราคามือ 2 ด้วยซ้ำ

จริงๆ มีอีกตัวเลือกคือติดแก๊ส ทำไมท่านไม่นับเป็นตัวเลือกเหรอครับ คือรถไฟฟ้าผมขอดูสถานการณ์อีกสัก 3-5 ปี ก่อนดีกว่า ช่วงนี้คลื่นลมไม่สงบไม่เหมาะจะซื้อเลย รับความเสี่ยงไม่ได้จริงๆ

ผมมว่าไม่เหมาะนะครับ

เพราะค่าใช้จ่ายคุณไม่ได้ลดลง

และถ้าไปหวังว่าเราจะคืนทุนตอนผ่อนหมดแล้ว

มันดูมีปัจจัยควบคุมไม่ได้อีกเยอะเลย

อย่างแค่ค่าประกัน ก็แพงกว่ารถน้ำมันเยอะมาก

ค่าซ่อมใหญ่ ที่เรายังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่

สุดท้ายแล้วในระยะ 10 ปี ค่าใช้จ่ายรวมอาจไม่ต่างก็ได้

การซื้อรถไฟฟ้า ผมว่าเราควรเลือกเพราะชอบความสมูท

ชอบที่จอดติดเครื่องเปิดแอร์ได้ อะไรแบบนี้ดีกว่า

เพราะถ้ามันประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง มันจะต้องบูมมากกว่านี้

ตอนนี้แม้แต่ที่จีนเอง ก็เริ่มเปลี่ยนมาพัฒนารถไฮบริดแล้ว

ซื้อของใหม่ กลิ่นใหม่ดีกว่า

รถเดิมติด LPG เป็นอีกทางเลือก

ผมนั่งเช็คราคาพวกมือสอง มันไม่ค่อยถูกเท่าไหรครับ
เพราะคนขายมันยังน้อย ราคามันยังไม่นิ่ง ถ้าเลือกได้ไปมือหนึ่งดีกว่า

แต่ตัวไซส์ประมาณ B seg ตัวเลือก EV เยอะอยู่
Ora good cat,MG4,BYD Dolphin,Aion UT

รถน้ำมันแบรนด์รองช่วงนี้อัดโปรยับๆอยู่ครับ
อย่างนิสสันอัดแพคเกจเช็คระยะฟรี ซูซูกิสวิฟขับฟรี 7 ปี ลองไปดูก่อนก็ได้ พวก B seg , eco car ค่าซ่อมมันไม่ได้โหดร้าย แต่ผมว่าขับจริงๆมันไม่ได้ประหยัดขนาดนั้น มาสด้าสองขับในเมืองพี่ซัดโลละ 2.5 บาท

คือถ้าขับตจว.วิ่งโล่งๆ ค่าน้ำมันอีโค่ผมว่ามีโลละ 2 บาท (15โลลิตร) ไฟฟ้าโลนึงซัก 80ตัง
เดือนนึงขับสองพันโล ประหยัดไป 2400 ปีนึงประหยัดไปซัก 30000 บาท ถ้าขับเยอะกว่าประหยัดเยอะกว่า
ถ้าไม่อยู่ติดมิเตอร์เป็น TOU ก็ยิ่งประหยัดไปอีก เหลือโลนึงซัก 50 ตังมั้ง

ส่วนว่าคุ้มไหม ราคาผ่อนเท่ารถน้ำมัน แต่ไปแพงประกันเฉยๆ ข้อดีอีกอย่างของพวกรถไฟฟ้าตอนนี้คือรับประกันระบบไฟฟ้าค่อนข้างยาว

ส่วนเรื่องซ่อมยาวนี่ดูเคสบายเคสเลย ถ้าไอ้ชิ้นที่เสียมันมีอะไหล่ มันก็เร็ว ถ้าชนหนักโอกาสจอดนอนยาวสูงอยู่