ตัวเราที่ส่งตังให้นี้เหละไปหาหมอได้แค่ยาพาราไม่เกินจริง

มันก็ควรเป็นทางเลือก ไม่ใช่บังคับส่ง เหมือนเล่นกองทุนพ่วงประกันฯ ยิ่งคน 33 ไปส่ง 39 แล้วเงินหาย โครตทุเรศ

ไม่ใช่แค่ระบบประกันสังคมหรอก บำนาญ บำเหน็จ ข้าราชการด้วย

ค่าเงินมันถึงต้อง depreciation ไปเรื่อยๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย fix cost
(ลดมูลค่าของเงินที่ประชาชนได้ไปแล้ว หรือมีสัญญาที่ต้องได้ไปเรื่อยๆ)

จะเร็วจะช้าแค่ไหนก็อยู่ที่ รายได้รัฐ/รายจ่ายรัฐ

ถือว่าช้าไปด้วยซ้ำ บางคนบอกว่ามีโอกาสใน 10 ปี ถ้ายังบริหารแบบนี้อยู่

ถ้าให้ยืดเวลาต้องเก็บเพิ่ม อาจจะขั้นบันไดเงินเดือนน้อยจ่ายน้อย เงินเดือนสูงจ่ายเยอะ กับคนมาบริหารต้องเป็นคนที่สร้างผลตอบแทนได้มากกว่านี้

ตลาดหุ้นไทยหด ผู้บริหารส้นเท้าเอาเงินไปลงทุนกับทรัพยสินสีเทา เหมือนเสี่ยใหญ่คุมเงินคนอื่นแล้วหน้าใหญ่มือเปิป

ถ้าปรับกฏให้ประกันสังคมลงทุนนอกได้ ทุนประกันสังคมไม่น่าจะหดขนาดนี้

คนจ่ายภาษีเท่ามดหมอย จะเอาสวัสดิการเท่าหอยช้าง มันจะไปได้ได้ยังไง

เป็นที่ตอนนี้การบริหารไม่ดี หรือต่อไปคนเข้าประกันสังคมน้อยลงละนี่
ความหวังผมจ่ายเต็มตอนนี้ ให้ครบ 180 เดือน แล้วจะได้รับเงินเดือนตอนเกษียน จะได้สักกี่ปีละแบบนี้
อยากมีอายุถึง 100 ปีซะด้วย

จึงเป็นเหตุขอปรับเกณฑ์เก็บเพิ่ม

แม้ว่ามันควร แต่...ไอ้พวกที่บริหารกากๆ ล่ะ ลอยตัวจากปัญหาเลยนะ

1. ผมยังเห็นควรให้มีระบบประกันสังคมอยู่ใน ระบบสุขภาพประชาชน

2. ผมมองว่าประกันสังคมควรให้ Option การคุ้มครองมากกว่านี้ ไม่ใช่ "บังคับ" คือ

เลือกได้เลยต้องการสงเคราะห์บุตรมั้ย ต้องการคุ้มครองรายได้หรือไม่ เพราะ มองว่าคุณเป็น ประกัน

ก็ทำตัวให้เป็นแบบ Product ประกัน คือ customized ได้หน่อย เกณฑ์ว่าส่งกี่ปีถึงคุ้มครองกำหนดได้ไม่ยาก

3. สิทธิรักษาไม่ควรต่างบัตรทอง ควรทำให้บัตรทองเป็นของคนจนจริงๆซักที บีบคนไม่จนจริง

ให้ต้องมาจ่ายประกันสังคม คุณอยากได้สวัสดิการสุขภาพจากภาครัฐ ก็ต้องส่งประกัน

4. ปลดล็อคเงื่อนไขการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่านี้ ข้อนี้อดีตผู้จัดการกองทุนประกันสังคมเคยบรรยายไว้

ในงานค่ายการเงินแห่งนึง แกบอกเลยว่า อีกไม่เกิน 20 ปี (เมื่อ10ปีก่อน) กองทุนมีสิทธิไม่มีเงินพอจ่าย

เพราะภาระค่าใช้จ่ายสูงมากๆ เทียบกับผลตอบแทน

5. ผมมองว่าควรลดเรื่อง Admin cost ได้แล้ว แต่ละที่คนอย่างเยอะ ตึกอย่างใหญ่ ไปรวมกับศูนย์ราชการ

อื่นๆไม่ได้เลยหรอครับ

ไอการลงทุนแล้วไปลงพวก Asset แปลกๆผมมองว่าไม่ควรอ่ะ

นีีแหละแชร์ลูกโซ่ของจริง แต่ไม่มีใครกล้าพูดตรงๆ

ขอความรู้ครับ ที่ว่าแชร์ลูกโซ่นี่คือยังไง

ปัญหาของประกันสังคมอีกอย่างคือ การใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย โครงการในประกันสังคมแต่ละอย่างราคารโอเวอร์ทั้งนั้น ไหนจะจากที่ปรึกษาต่างๆ แทบทุกกองในส่วนกลางมีการจ้างที่ปรึกษาทั้งสิ้นโดยเฉพาะงานไอที จ้างให้ outsource มานั่งคุม network, system, security, แล้วเจ้าหน้าที่ สปส. เองแทบไม่ทำอะไรเพราะทำไม่เป็น บางโครงการไม่รู้ทำมาทำไมอย่างปฏิทิน แล้วพวกข้าราชการในประกันสังคมหน้าโครตด้านบอกไม่ได้ทำผิดกฎหมาย

อีกอย่างเรื่องแพทย์พวกข้าราชการชอบพูดแต่เรื่องสิทธิการรักษาพยาบาล แต่ไม่เคยพูดถึงเรื่องสิทธิในการรักษาพยาบาลเลย สิทธิต่อให้ดีให้ตาย แต่ถ้าเข้ารับการรักษาไม่ได้จะมีประโยชน์อะไร พอโดนแซะว่าบัตรทองดีกว่าก็ทำมาโกรธ แต่พวกข้าราชการกลับเลือกรักษาที่ไหนก็ได้ตามสะดวก ส่วนคนทำงานอย่างเรา ต้องไปรักษาโรงพยาบาลที่เลือก

ดีที่ได้บอร์ดชุดนี้เข้ามา

เห็นเลข 27 แล้วโล่งใจ เลยวัยเกษียณไปเยอะแล้ว

กองทุนประกันสังคมทั้งในไทย และ เมืองนอกประเทศไฮโซที่เจริญแล้วทั้งหลาย

เจอปัญหานี้เหมือนกันหมด


เพราะ กองทุนพวกนี้ ถูกคิดในยุค 70 ที่ประชากรบนโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเร็ว

แนวคิด มันก็เลย เอาเงินหนุ่มสาว มาหมุนจ่ายคนแก่

สมัยนั้น คนแก่ อายุไม่ยืนเท่าไหร่ 60-70 ก็ตายกันเกือบหมดแล้ว คนหนุ่มสาววัยทำงานก็เยอะ



มายุคนี้ คนหนุ่มสาว มีน้อย คนแก่อายุยืน เกิน 75 ยังเตะปี๊บดังกันเพียบ

เงินมันเลยหมุนไม่ทัน


พวกยุโรป มันเลยยืดระยะการเกษียณอายุคนทำงานออกไป ไม่ใช่เพราะ คนอายุ 60 ยังแข็งแรง

แต่กองทุนไม่มีตังจ่าย เลยยืดการจ่ายเงินเกษียณไป 65 บ้าง 67 บ้าง 70 บ้าง

คนก็ออกมาประท้วงกันวุ่นวาย


แต่ก่อน เกษียณ 60 พอ 70 ตาย กองทุนก็จ่ายบำนาญแค่ 10 ปี

พอมายุคนี้ เกษียณ 60 อายุ 80 ค่อยตาย กองทุนต้องจ่ายบำนาญ 20 ปี