[RE: เพื่อไทยเก่งเศรษฐกิจจริงไหม]
Mr.Horny พิมพ์ว่า:
ChatGPT
ช่วงเฟื่องฟูของ "ทักษิณ" สมัยเป็นนายกฯ (2544–2549)
ในช่วงนี้ ประเทศไทยมีความ “เฟื่องฟู” อย่างมากในเชิงเศรษฐกิจและนโยบายประชานิยม เช่น:
30 บาทรักษาทุกโรค
กองทุนหมู่บ้าน
OTOP
ขยายโครงสร้างพื้นฐาน
การบริหารแบบ CEO / top-down
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะ:
รัฐบาลมีเสถียรภาพสูง: พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์”
นายกฯ มีอำนาจเบ็ดเสร็จ: สามารถสั่งการฝ่ายราชการและข้าราชการประจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่มีวุฒิสภา/องค์กรอิสระที่คานอำนาจอย่างรุนแรงในช่วงแรก
ปัจจุบัน: ทำไมทักษิณ (และพรรคเพื่อไทย) จึง “ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน”
1. โครงสร้างรัฐธรรมนูญ 2560 และองค์กรอิสระ
ส.ว. 250 คนมาจากการแต่งตั้งของ คสช.
องค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช., กกต. มีแนวโน้มสนับสนุนฝ่ายอำนาจเดิม
แม้ชนะเลือกตั้ง ก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ง่าย ๆ
2. ระบบราชการที่ไม่ Responsive
รัฐราชการไทยมีแนวโน้ม “ต้าน” รัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยตรง
รัฐบาลที่ไม่ใช่เครือข่ายอำนาจเดิมมักจะ ถูกบั่นทอนจากภายใน
3. การประนีประนอมเชิงอำนาจ
พรรคเพื่อไทยในปัจจุบันต้อง “จับมือกับพลังประชารัฐ / รวมไทยสร้างชาติ”
ความกล้าตัดสินใจแบบเดิมหายไป เพราะ ต้องรักษาสมดุลในกลุ่มพันธมิตร
4. ทักษิณไม่ได้มีอำนาจแบบเดิม
แม้กลับมาไทย แต่ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง
บทบาทของเขาจำกัดอยู่หลังฉาก
ถูกจับตามองโดยฝ่ายตรงข้ามอย่างเข้มงวด
5. สังคมแบ่งขั้วและความกลัวการรัฐประหาร
หากรัฐบาลเดินนโยบายที่ “กล้าหาญ” เกินไป อาจนำไปสู่การต่อต้านจากกลุ่มอำนาจเดิมหรือแม้กระทั่งการ "เตะตัดขา" แบบไม่เป็นทางการ
สรุปชัด ๆ:
“โครงสร้างทางการเมือง” โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ 2560 และเครือข่ายอำนาจที่ฝังรากลึกในองค์กรอิสระ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แม้แต่พรรคเพื่อไทยหรือทักษิณในยุคนี้ ไม่สามารถสร้างผลงานได้เทียบเท่าอดีต
ในอดีตเขาคือ ผู้นำที่มีอำนาจเต็ม
วันนี้เขาคือ อดีตผู้นำที่ต้องเล่นในเกมของคนอื่น
หากอยากให้เกิด “เฟื่องฟู” แบบเดิมอีกครั้ง โครงสร้างการเมืองต้องถูก เปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง ก่อน
แก่แล้ว ใจไม่กล้าเหมือนสมัยหนุ่มๆแล้ว ยุบพรรคแล้วไปเลี้ยงหลานเถอะ