เก่งระดับนึง ยุคนั้นขาขึ้นของประเทศ แถมรวบรวมคนเก่งมาข้างตัวเองได้เยอะมาก พัฒนาประเทศได้ดี ก็ต้องยอมรับฝีมือช่วงนั้น

แต่ในขาลงของประเทศแบบตอนนี้ คือไม่มีทรงเลย แถมตอนนี้ รายล้อมไปด้วยคนที่เก่งแต่เลีย ไม่มีฝีมือ ผลงานแต่ล่ะกระทรวงที่เพื่อไทยได้ก็ไม่ชัดเจนซักกระทรวง

ดังนั้นวัดกันด้วยสภาพปัจจุบันที่ปัญหาของไทยมันสะสมมานาน แรงงานลดลง เทคโนโลยีเปลี่ยน ทักษิณกับเพื่อไทยไม่สามารถเคลมได้อีกต่อไปแล้วว่าตัวเองเก่ง มีประสบการณ์

ผลงานในอดีตไม่ไปเนริฟเค้าแล้วกัน แต่พูดในภาพปัจจุบัน เพื่อไทยไม่ได้เก่งเศรษฐกิจอีกต่อไปแล้ว

เก่งแต่หาเรื่องแดกงบมากกว่าครับ

ผมยอมรับนะว่าเป็นคนหนึ่งที่กาส้ม แต่อีกใจก็คิด ว่า ทักษิณ จะแก้เศรษฐกิจให้ดีขึ้นแต่ พอมาเป็นแบบนี้ได้ข้อสรุปเลยว่า ทักษิณ หมดแล้วจริง ขนาดตัวแทนเป็นลูกสาวที่น่าจะกดปุ่มได้ยังไม่รอดเลย

เเต่ก่อนไม่มีโซเชียล โยกนั่นโยกนี่สบาย
ทุกวันนี้คนเข้าถึงข้อมูล ก็อย่างที่เห็น เละ!!

เพื่อไทย = ทักษิณ
ทักษิณ เคย เก่ง
ตอนที่ทักษิณเป็นนายกตอนนั้นอายุ 50ต้นๆ วัยกำลังพีคสำหรับผู้บริหารเลยแถมตอนนั้นคอนเน็คชั่นอย่างปึ้กทั้งไทยและต่างชาติ ส่วนนึงก็น่าจะเพราะยังทำธุรกิจอยู่
ส่วนตัวผมคิดว่าทักษิณตอนนั้นน่ะกำลังมือขึ้นทำอะไรก็สำเร็จ จนเคลิ้มไปว่าแค่ทำงานดีๆ อำนาจก็จะไม่สั่นคลอน
จนกระทั่งโดนรัฐประหารนั่นแหละถึงได้รู้ตัวว่าไม่ใช่ว่ะ
แล้วหลังจากนั้นทักษิณก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย เหมือนเพิ่งตื่นว่าประเทศไทยไม่ใช่ประชาชน ไม่ใช่แค่เรื่องทำงานดีไม่ดี แต่อีลิธต้องถูกใจด้วย เพื่อไทยก็เลยไม่ได้โฟกัสแค่เรื่องบริหารอย่างเดียวแต่ต้องมาโฟกัสเรื่องเอาใจอีลิธด้วย ต้องคอยดูว่าอีลิธพอใจด้วยมั้ยแบบที่สู้ไปกราบไปของแท้ นี่ก็เลยเป็นส่วนนึงที่ทำไมเพื่อไทยปล่อยเกียร์ว่างเรื่องโครงสร้างทุกเกียร์ทั้งที่เมื่อก่อนทักษิณพร้อมบวกกว่านี้

แล้วสำหรับตอนนี้ทักษิณคือคนอายุ 70 กว่า เลยวัยที่ดีที่สุดไปแล้ว ลองดูคนแก่ใกล้ๆตัวก็ได้ไอ้พวกลุงๆที่เห็นแล้วงงอะว่า เมื่อก่อนตอนเด็กๆจำได้ว่าไม่ได้เพี้ยนขนาดนี้นี่หว่าอะ หลายๆอย่างก็คิดง่ายๆจนแปลกใจ โลกสวยจนแปลกใจ แต่ดื้อกว่าเดิม ฟีลคนแก่โดนคอลเซนเตอร์หลอกอะ

อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ การเมืองตอนนี้ต่างจากตอนไทยรักไทยเยอะ เพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลอย่างมีเสถียรภาพขนาดนั้น นอกจากจะต้องคอยเอาใจอีลิธแล้ว พรรคอย่างภจท พปชร รทสช ก็ไม่ได้เป็นลูกสมุนที่สั่งได้ทุกอย่างมีงัดข้อจ้องจะรอเสียบตลอดเวลา รวมถึงฝ่ายค้านที่เป็นประชาชน ไม่ใช่พรรคกระจอกแบบประชาธิปัตย์

สรุปคือมีอะไรให้ระแวงหลังเต็มไปหมด + ความเพี้ยนของคนแก่(ทักษิณ) เพื่อไทยก็เลยไม่เก่งอีกแล้วอะครับ แล้วนับจากนี้ไปก็จะไม่น่าเก่งได้อีกแล้วด้วย

ไทยรักไทยนี่ เดอะเบส มันดีจริงๆ

เพื่อไทย หลังน้ำท่วมใหญ่ก็ยังโอเคอยู่ แก้วิกฤตได้แบบงงๆ

แต่ยุคนี้ ณ วันนี้ เล่นอะไรกัน

ที่ผมสังเกต จุดต่างของรัฐบาลยุคทักษิณกับยุคเพื่อไทย(ยิ่งลักษณ์,อุ๊งอิ๊ง) คือ ยุคทักษิณดึงคนเก่งๆมาช่วยบริหารหรือเป็น รมว. ทั้งนั้น ผิดกับยุคนี้ที่เป็นตามโควต้าเด็กเส้นมันเลยบริหารกันไม่เป็น

แม้วเก่งจริงและไม่ได้ตกยุคด้วย วิสัยทัศน์ตอนออก Clubhouse เมื่อ 3-4 ปีก่อนก็แสดงให้เห็นชัดเจน

แต่กลับมารอบนี้ยอมเป็นเบี้ยให้เขาใช้ ไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จแบบเมื่อก่อน ต้องคอยเกรงใจกลุ่มอำนาจเก่า

มันก็ทำอะไรมากไม่ได้หรอก ข้อจำกัดมันเยอะเกินไป

เป็น Myth ตอนนั้นอาจจะเหมือนช่วงคริปโตขึ้นทั้งกระดาน ซื้อผิดตัวก็กำไรยุดี เลยได้ผลงานมา จริงๆพูดเก่งเฉยๆ

ภาษาเกมคือ ตก meta ไปแล้ว

เมื่อก่อนเก่งจริง แต่เดี๋ยวนี้ขนาดสั่งการเองยังเละขนาดนี้ หมด แม้วเมื่อไหร่ ก็จบกัน

ไม่นะ ผมก็บอกตั้งนานแล้วว่ามันบังเอิญมาตลอด ได้จังหวะเคลม
บวกพวกนโยบายทำน้อยโฆษณาเยอะ ขี้โม้ เยอะ มาบางครั้ง บางคร่าวได้ แต่มาอยู่ตลอดมือไม่ถึงหรอก การบริหารเมืองไทยมันยาก เพราะว่าเน้นชนชั้น Elite และ ประชาชน ต้องพอใจด้วย

ตอนทำผลงานได้เศรษฐกิจโลกมันดีไง ส่วน10ปีหลังมานี้เศรษฐกิจโลกมันแย่ถ้าเจ๋งจริงก็ดูตอนนี้แหละ แต่ก็ดูผลงานถึงตอนนี้ราคาคุย แย่กว่าลุงก็ตอนนี้แหละ

ผมว่าเก่งจริง แต่การเป็นรัฐบาลผสมมันก็งี้แหละ

ทำอะไรมันก็ยาก

เพราะมันต้องแบ่งให้คนอื่นด้วย

แล้วยิ่งมาด้วยการเป็นพรรคที่ไม่ใช่อันดับ 1

จะทำอะไรมันก็ต้องเกรงใจคน

อย่างเรื่องแปรรูปรัฐวิสาหกิจอะไรแนวๆนี้อ่ะ

ถ้ามาทำในรัฐบาลแบบนี้ ผมว่าเดือดร้อนแน่นอน

ChatGPT

ช่วงเฟื่องฟูของ "ทักษิณ" สมัยเป็นนายกฯ (2544–2549)
ในช่วงนี้ ประเทศไทยมีความ “เฟื่องฟู” อย่างมากในเชิงเศรษฐกิจและนโยบายประชานิยม เช่น:

30 บาทรักษาทุกโรค

กองทุนหมู่บ้าน

OTOP

ขยายโครงสร้างพื้นฐาน

การบริหารแบบ CEO / top-down

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะ:

รัฐบาลมีเสถียรภาพสูง: พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์”

นายกฯ มีอำนาจเบ็ดเสร็จ: สามารถสั่งการฝ่ายราชการและข้าราชการประจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่มีวุฒิสภา/องค์กรอิสระที่คานอำนาจอย่างรุนแรงในช่วงแรก


ปัจจุบัน: ทำไมทักษิณ (และพรรคเพื่อไทย) จึง “ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน”
1. โครงสร้างรัฐธรรมนูญ 2560 และองค์กรอิสระ
ส.ว. 250 คนมาจากการแต่งตั้งของ คสช.

องค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช., กกต. มีแนวโน้มสนับสนุนฝ่ายอำนาจเดิม

แม้ชนะเลือกตั้ง ก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ง่าย ๆ

2. ระบบราชการที่ไม่ Responsive
รัฐราชการไทยมีแนวโน้ม “ต้าน” รัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยตรง

รัฐบาลที่ไม่ใช่เครือข่ายอำนาจเดิมมักจะ ถูกบั่นทอนจากภายใน

3. การประนีประนอมเชิงอำนาจ
พรรคเพื่อไทยในปัจจุบันต้อง “จับมือกับพลังประชารัฐ / รวมไทยสร้างชาติ”

ความกล้าตัดสินใจแบบเดิมหายไป เพราะ ต้องรักษาสมดุลในกลุ่มพันธมิตร

4. ทักษิณไม่ได้มีอำนาจแบบเดิม
แม้กลับมาไทย แต่ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง

บทบาทของเขาจำกัดอยู่หลังฉาก

ถูกจับตามองโดยฝ่ายตรงข้ามอย่างเข้มงวด

5. สังคมแบ่งขั้วและความกลัวการรัฐประหาร
หากรัฐบาลเดินนโยบายที่ “กล้าหาญ” เกินไป อาจนำไปสู่การต่อต้านจากกลุ่มอำนาจเดิมหรือแม้กระทั่งการ "เตะตัดขา" แบบไม่เป็นทางการ

สรุปชัด ๆ:
“โครงสร้างทางการเมือง” โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ 2560 และเครือข่ายอำนาจที่ฝังรากลึกในองค์กรอิสระ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แม้แต่พรรคเพื่อไทยหรือทักษิณในยุคนี้ ไม่สามารถสร้างผลงานได้เทียบเท่าอดีต

ในอดีตเขาคือ ผู้นำที่มีอำนาจเต็ม
วันนี้เขาคือ อดีตผู้นำที่ต้องเล่นในเกมของคนอื่น

หากอยากให้เกิด “เฟื่องฟู” แบบเดิมอีกครั้ง โครงสร้างการเมืองต้องถูก เปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง ก่อน

ถ้าตอนนั้นเก่งจริง และกล้าดีไซน์นโยบายขายปชช.ด้วย ไม่เหมือนยุคก่อนๆที่ไปเน้นขายความรักชาติ ขายความภักดี