จุดเริ่มต้นคือ ผู้โดยสารจะจ่ายตัง แต่แท็กซี่ไม่สามารถรับเงินโอนได้ครับ

ซึ่งตัวแท็กซี่รู้ความเสี่ยงอยู่แล้วว่าตัวเองรับได้แต่เงินสด ก็ควรจะต้องแจ้งลูกค้าก่อนครับ ไม่ใช่จะมาหวังว่าลูกค้าจะต้องมาถาม เพราะลูกค้ารู้ตัวเองอยู่แล้วครับว่าจ่ายเงินได้

กรณีนี้ถ้าลูกค้าจะผิดก็เป็นกรณีลูกค้าเบี้ยวค่าโดยสาร หรือเป็นกรณี มือถือแบ็ตหมด เน็ตล่ม แอปล่ม จนไม่สามารถจ่ายได้ครับ

นั้งกันมาตั้งนานจนถึงที่หมายไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย พอจะจ่ายเงินดันมีปัญหา  

มองมุมนี้มันก็จริงแหละครับ ผมก็ลืมคิดไป พอดีผมมีปมกับคนที่ชอบให้คนอื่นรอ เลยอาจจะมีอคติไปหน่อย  

มีครั้งนึง ผมรับผู้โดยสารจากนนทบุรีไปแถวศาลายา ค่าโดยสารเกือบ 500 บาท ตอนไปถึงที่หมายก็เวลาเที่ยงคืนนิดๆ ลูกค้าก็จะสแกนจ่าย ผมก็ให้ QR Code ไป สรุปจ่ายไม่ได้ เพราะติดช่วงเที่ยงคืน (พวกแอปมันจะโอนเงินไม่ค่อยได้) ตอนแรกผมกะจะวนรถออกไปหาตู้กดเงิน แต่หายากมาก 7-11 แถวนั้นก็ไม่มีตู้ ATM เลย (ลูกค้าเจตนาจะจ่ายอยู่แล้ว) จนสุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจบอกเลขบัญชีลูกค้าไปให้โอนมาพรุ่งนี้ แต่ดันลืมขอเบอร์ ขอไลน์ติดต่อไว้

ผมก็ขับรถกลับบ้านนอน พอตื่นมาก็มาเช็คว่าเงินโอนเข้ารึยัง สรุปยังไม่โอน ผมก็ได้แต่โทษตัวเองที่ประมาทเอง แต่สุดท้ายลูกค้าก็โอนเงินมาให้ช่วงบ่าย 3 (น่าจะเพิ่งตื่นหรือเพิ่งจำได้ว่าต้องโอนเงิน) ก็เป็นบทเรียนผมไป

เคสนี้ผมไม่โทษลูกค้านะ เพราะผมก็ลืมไปว่าโอนเงินช่วงเวลานั้นมันอาจจะติดขัด เห็นว่าได้ค่าโดยสารเยอะมันก็จะลืมๆหน่อย 555  

เรื่องของคุณน่าสนใจมากเลยนะครับ แต่ขอถามนิดนึงครับ ลูกค้าสวยมั้ยครับ  

ผู้ชายครับ  

แล้วมันมีกฎหมายบังคับหรอว่าต้องจ่ายแต่เงินสด ??

"ยุคนี้ใครๆเค้าก็รับโอนก็ถูก" คุณก็พูดเองนิ มันก็เป็นบรรทัดฐานแล้วไงว่าจ่ายได้ 2 แบบคือเงินสดกับโอนเงิน

ลุกค้ามีเจตนาจะให้เงินค่าโดยสาร แต่ไม่รับหรือรับไม่ได้ เพราะตัวเองไม่สะดวก คือไม่ผิดหรอ งั้นใครผิดอะ หรือเคสนี้ไม่มีคนผิด ??

"ถ้าไม่พกคุณก็ควรถาม" งั้นผมถามกลับว่า ถ้าตัวเองจะรับแต่เงินสด แล้วทำไมไม่บอกลูกค้าก่อนละ ลูกค้าก็เข้าใจว่าจ่ายได้ 2 ระบบ ซึ่งใครๆก็เข้าใจแบบนี้ทั้งนั้น คนในประเทศนี้ก็เข้าใจแบบนี้ทั้งนั้น ใครมันจะไปคิดว่ามีคนที่ไม่อยู่กับปัจจุบันหลุดมาแบบนี้บ้าง

จะมาอ้างว่าแก่ ไม่รู้ ทำไม่ได้ กลัวโดนโกง เลยไม่สะดวก อันนั้นมันปัญหาของคุณ ไม่ใช่ปัญหาของลูกค้า ปัจจุบันคนอื่นเขาก็รับโอนได้ทั้งนั้น แท็กซี่คันอื่นๆ ร้านค้าตลาดนัด วัดแม่งยังมี เขาก็ทำได้ทั้งนั้น

เพราะคุณไม่สามารถรับเงินได้ไงมันถึงเกิดดราม่านี้ คุณก็ต้องมานั่งรอให้ลูกค้าไปหาเงินสดมาจ่ายให้คุณ และคุณก็ยังเอาเปรียบเขาอีกด้วยการเปิดมิตเตอร์ค้างไว้ ทั้งๆที่มันเป็นปัญหาที่คุณต้องแก้ไขแท้ๆ

เคสนี้ดีแค่ไหนแล้วที่ลูกค้ายังกลับมาจ่ายเงินค่าโดยสาร (ซึ่งก็ควรต้องกลับมาจ่ายแหละ) แลกกับเวลา 30 นาทีที่คณไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ ผมว่ามันก็แฟร์พอแล้วนะ[/quote

เงินสดมันเป็นพื้นฐานครับ ใช้ชำระค่าสินค่าและบริการมานานแล้ว ส่วนเงินโอนเป็นการเสริมความสะดวกสบายครับ

จะบอกมันเป็นบรรทัดฐาน งี้ถ้าเค้าไม่มีโทรศัพท์ที่จะรับโอนคุณจะบอกว่าเค้าผิดเหรอ?

การที่พ่อค้า วัด ตลาดนัด taxi จะรับโอน มันก็แล้วแต่เค้านี้ครับ มันคือการอำนวยความสะดวก ไม่ใช่พื้นฐาน

ทุกวันนี้ยังมีร้าน มีคนที่ไม่รับโอน ไม่ใช่ทุกคนที่รับโอน คุณจะคิดว่าทุกคนต้องมารับโอน ใครไม่รับโอนคือผิดมันไม่ใ่ช่

แต่เงินสดเค้ารับกันทุกร้าน และทุกคัน เท่าที่ผมเคยใช้บริการมา

ส่วนตัวผมค้าขาย เวลาคนมาซื้อของ ถ้าเค้าไม่มีเงินสดเค้าก็ถามก่อน ไม่เคยเจอใครมาซื้อของไม่พกเงิน แล้วค่อยถามที่หลังว่าโอนได้ป่าว

เพราะเค้ารู้ตัวเองว่าไม่พกเงิน