https://www.facebook.com/photo?fbid=644596968602868&set=a.107167449012492



จากประสบการณ์คนขับรถให้บริการครับ เคสนี้ยังไงแท็กซี่ก็ผิด ผิดยังไง (ความเห็นส่วนตัวนะ)

1. ในอดีต ระบบการโอนเงินไม่ได้สะดวกเหมือนทุกวันนี้ ถ้าเป็นสัก 10 - 20 ปีก่อน ผมอาจจะบอกว่าแท็กซี่ไม่ผิด แต่ปัจจุบันการรับหรือจ่ายเงินมันเป็นบรรทัดฐานในสังคมแล้วว่ามี 2 ระบบ คือเงินสดกับเงินโอน คุณเป็นผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องเตรียมความพร้อมที่จะรับค่าบริการที่หลากหลาย หรืออย่างน้อยๆก็ต้องมี 2 ระบบนี้ไว้ ไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งนั้น นั้นหมายถึงว่าคุณไม่พร้อม ก็ต้องแก้ไขกันหน้างานว่าจะเอายังไง

2. จากข้อ 1 ถ้าคุณมีเงื่อนไขรับเงิน คุณต้องแจ้งผู้โดยสาร ไม่ใช่ให้ผู้โดยสารมาแจ้งก่อน เพราะถ้าคุณรับเงินไม่ได้มันจะเกิดปัญหาแบบนี้ (ซึ่งส่วนใหญ่จะกลายเป็นผู้โดยสารต้องมาถามเองอีก) หรือถ้าขี้เกียจพูดก็ทำสัญลักษณ์ให้ชัดเจนไปเลยว่า รับแต่เงินสด ผู้โดยสารที่จะเรียกรถจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะขึ้นหรือไม่

3. พอมันเกิดปัญหาแบบนี้ คุณก็ต้องแก้ไขปัญหาที่ไม่ทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนและไม่เอาเปรียบใคร คิดเสมอว่าถ้าคุณพร้อมมันจะไม่เกิดปัญหา คุณก็ไม่เสียเวลาทำงานต่อ

4. การเตรียมความพร้อม มันแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพในการทำงาน คุณมีหน้าที่เป็น "ผู้ให้บริการ" ดังนั้นคุณก็ต้องให้บริการอย่างเต็มที่ "ภายใต้ขอบเขตที่คุณต้องทำ" ซึ่งการรับเงินมันก็เป็นหน้าที่นั้นที่คุณต้องพร้อมรองรับ จะมาอ้างว่าไม่รู้ แก่ ทำไม่เป็น กลัวโดนโกง บลาๆๆ ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของคุณเองทั้งนั้น

5. ถ้าเป็นกรณีผู้โดยสารตั้งใจจะเบี้ยวก็ว่าไป อันนี้เขาก็ตั้งใจจะจ่าย แต่คุณดันไม่พร้อมรับเงินเอง มันความผิดใครละ (ต่อให้ลูกค้าจะให้แบงค์พันก็ต้องพร้อมมีทอน เพราะมันเป็นการให้บริการแบบส่วนตัว ซึ่งต่อให้เป็นรถเมล์ลูกค้าก็ไม่ผิดที่จะใช้แบงค์ใหญ่จ่าย แต่แค่มันเป็นเรื่องไม่สมควรทางกาลเทศะ)

คือก็ผมขับรถรับ-ส่ง ผ่านแอป Bolt ไม่ใช่ว่าจะเข้าข้างลูกค้าเสมอไปนะ แต่เคสนี้ยังไงแท็กซี่ก็ผิดเต็มประตูอยู่ดี

คือเข้าใจแท็กซี่นะที่จะรู้สึกหงุดหงิดกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่เอาจริงๆ ถ้าลองตั้งสติ ลดการใช้อารมณ์เป็นใหญ่ จะรู้เลยว่า ทำไมเราถึงลืมเตรียมตัวเองให้พร้อมวะ ถ้าพร้อมทุกอย่างก็จบ แค่นั้น

เพิ่งดูมะกี้เลย หารับเงินโอนก็จบยุคนี้เค้ารับโอนหมด
ส่วน ผดส ถ้าเอาชัวร์ขึ้นแล้วให้ถามก่อนว่ารับโอนไหม วิน ๆ

ขึ้นแทคซี่บ่อย ประโยคหลังขึ้นประมานว่า จ่ายแบ๊งใหญ่ไหม หรือ ไม่สะดวกรับโอน ได้ยินบ่อยครับ.
แปรว่ามีแทคซี่ที่เป็นมืออาชีพมากกว่าแทคซี่นี้แน่นอน.

ผมว่าผู้โดยสารเป็นความเสี่ยง แทคซี่เป็นอาชีพครับ.

ถ้าแทคซี่ถามก่อน มันจะมีทางเลือกที่สะดวกกว่ารอครึ่งชม.แล้วไม่ได้ค่ารอแน่นอน.

ถูกต้อง เพราะถ้าคุณมีเงื่อนไขรับเงิน คุณต้องพูดออกมาก่อนเลย ไม่ใช่ให้ผู้โดยสารต้องเป็นคนมาถาม เพราะถ้าคุณไม่สามารถรับเงินได้ นั้นแหละปัญหาของคุณ

แท๊กซี่ติดป้ายเลยว่ารับเฉพาะเงินสด ผดส.ผมว่าพกเงินสดไว้บ้างเถอะ เผื่อเน็ทล่ม สัญญาณไม่มี แอพธนาคารล่มจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย

คนเขาถึงไม่อยากจะขึ้นแท๊กซี่กันมากขึ้น จนกว่าแท๊กซี่จะกล้าปฏิรูประบบของตัวเองซะที คัดคนขับรถ คัดสภาพรถแต่ละอู่เช่า บังคับให้เปิดบัญชีหรือต้องหาบัญชีมารองรับเงินโอน รถแท๊กซี่ทุกคันต้องมีระบบ GPS และแผนที่อย่าง google maps

ถ้าทำคราวๆแบบนี้ได้ ผู้โดยสารก็อยากจะกลับมาใช้เองแหละ

ผมว่าคนสมัยนี้ก็อาจจะมีพกไว้แหละ แต่มันไม่ได้เยอะอะไรมากหรอก 100 - 200 มีแต่แบงค์ด้วย ไม่พกเหรียญ ก็อาจจะมีไม่พอจ่ายเลยต้องเน้นสแกนเป็นหลัก

แต่กลายเป็นในคอมเม้นต์ ถ้าไม่พกเงินสดเลยหรือพกน้อยก็ดันผิดซะงั้น ทั้งๆที่ประเด็นไม่ได้อยู่ว่าพกมาเท่าไหร่ แต่คือมีเงินจ่ายต่างหาก

ระยำตั้งแต่ไม่กดหยุดมิเตอร์แล้ว

จะบอกว่า taxi ผิด ผมว่ามันไม่ใช่ซะทีเดียวนะ จะบอกว่ายุคนี้ใครๆเค้าก็รับโอนก็ถูก แต่ มันมีกฎหมายบังคับมั้ย

ถ้าไม่ taxi หรือ ร้านค้าอื่นๆ จะไม่รับก็ไม่ผิด ส่วนคนขึ้น taxi หรือ คนใช้บริการ คุณรู้อยู่แล้วว่าคุณพกเงินสด

ไว้รึเปล่า ถ้าไม่พก คุณก็ควรถาม หรือ บอกเค้าไปก่อนใช้บริการ ก่อนซื้อของ

แล้ว taxi เค้ารอคุณอีก 30 นาที เค้าไม่กดหยุด มันก็แฟร์แล้วนี้ เพราะเค้าเสียโอกาส 30 นาทีในการรับคน

...พูดแค่เรื่องโอน-รับเงินสด กับไม่หยุดมิเตอร์นะ ไม่เกี่ยวเรื่องพฤติกรรมอื่นๆ

ก็เห็นวัยรุ่นสร้างตัวอย่างbolt แซะ,ด่า,บ่น คนที่ตัดเงินผ่านแอพอยู่ทุกวันนะ ไม่ต่างกับแท็กซี่ เคยเจอบางคนบอก คนละคันครับ ละวิ่งหนีไป100-200 เมตร แล้วกดยกเลิก ทั้งๆที่ในแอพ มันก็ขึ้น gps หรา ว่าแกนั่นแหละ

แล้วมันมีกฎหมายบังคับหรอว่าต้องจ่ายแต่เงินสด ??

"ยุคนี้ใครๆเค้าก็รับโอนก็ถูก" คุณก็พูดเองนิ มันก็เป็นบรรทัดฐานแล้วไงว่าจ่ายได้ 2 แบบคือเงินสดกับโอนเงิน

ลุกค้ามีเจตนาจะให้เงินค่าโดยสาร แต่ไม่รับหรือรับไม่ได้ เพราะตัวเองไม่สะดวก คือไม่ผิดหรอ งั้นใครผิดอะ หรือเคสนี้ไม่มีคนผิด ??

"ถ้าไม่พกคุณก็ควรถาม" งั้นผมถามกลับว่า ถ้าตัวเองจะรับแต่เงินสด แล้วทำไมไม่บอกลูกค้าก่อนละ ลูกค้าก็เข้าใจว่าจ่ายได้ 2 ระบบ ซึ่งใครๆก็เข้าใจแบบนี้ทั้งนั้น คนในประเทศนี้ก็เข้าใจแบบนี้ทั้งนั้น ใครมันจะไปคิดว่ามีคนที่ไม่อยู่กับปัจจุบันหลุดมาแบบนี้บ้าง

จะมาอ้างว่าแก่ ไม่รู้ ทำไม่ได้ กลัวโดนโกง เลยไม่สะดวก อันนั้นมันปัญหาของคุณ ไม่ใช่ปัญหาของลูกค้า ปัจจุบันคนอื่นเขาก็รับโอนได้ทั้งนั้น แท็กซี่คันอื่นๆ ร้านค้าตลาดนัด วัดแม่งยังมี เขาก็ทำได้ทั้งนั้น

เพราะคุณไม่สามารถรับเงินได้ไงมันถึงเกิดดราม่านี้ คุณก็ต้องมานั่งรอให้ลูกค้าไปหาเงินสดมาจ่ายให้คุณ และคุณก็ยังเอาเปรียบเขาอีกด้วยการเปิดมิตเตอร์ค้างไว้ ทั้งๆที่มันเป็นปัญหาที่คุณต้องแก้ไขแท้ๆ

เคสนี้ดีแค่ไหนแล้วที่ลูกค้ายังกลับมาจ่ายเงินค่าโดยสาร (ซึ่งก็ควรต้องกลับมาจ่ายแหละ) แลกกับเวลา 30 นาทีที่คณไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ ผมว่ามันก็แฟร์พอแล้วนะ

แยกเป็นคนละมักกะโรนี

ฝั่งผู้โดยสาร : ถ้ารู้ว่าไม่มีเงินสด ตอนขึ้นรถก็ต้องถามว่ารับโอนมั้ย ไม่ใช่ใช้บริการเสร็จแล้วค่อยมาถาม

ฝั่งแท็กซี่ : ไอ้กดมิเตอร์คาไว้ 30 นาที อันนี้ผมเห็นใจที่ต้องรอนะ มันไม่มีใครชอบหรอกมารอตั้ง 30 นาที ผมว่ากดมิเตอร์คาไว้เนี่ยมันก็ไม่ผิดหรอกนะ มันก็ถือว่าเป็นค่าเสียเวลา แต่มันดูโหดร้ายไปหน่อย เคสนี้คุยกันดีๆก็ได้

ว่าผมรอมาตั้ง 30 นาที มันนานมากนะ ไปส่งผู้โดยสารได้รอบนึงเลย ขอค่าเสียเวลาได้มั้ย ก็ว่าไป ไม่ใช่ไปบังคับเขาแบบนั้น แต่ก็อีกแหละ ผู้โดยสารมันก็มีหลายประเภท ประเภทที่มึนหน้าให้มาแค่ 20 บาทกับค่าเสียเวลามันก็มี

ก็ต้องรับสภาพไป เพราะแท็กซี่สันดานไม่ดีก็มีเยอะ

ผมอ่ะเกลียดแท็กซี่มากๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เคสนี้ผมมองว่าจุดเริ่มต้นมันอยู่ที่ผดส.ไม่เตรียมตัวและไม่แจ้งเงื่อนไขก่อน ถ้าไม่มีตรงนี้ เหตุการณ์ก็อาจจะไม่เป็นแบบนี้

ถ้าคนขับยกเลิกลูกค้า มันมีระบบลดคะแนน ซึ่งเป็นการทำโทษคนขับอยู่แล้วครับ คะแนนลดเยอะๆก็ถูกจำกัดการขับ

คือถ้าเจอเคสคนขับปฏิเสธลูกค้า ผมมองว่าแต่อย่างน้อยๆถ้าเป็นใน app ก็เป็นการลดการเผชิญหน้ากันโดยตรงถ้าไม่ไป ดีกว่าไปมีอารมณ์ใส่กันหน้างานถ้าเรียกแท็กซี่แล้วเกิดมีปัญหา

จุดเริ่มต้นคือ ผู้โดยสารจะจ่ายตัง แต่แท็กซี่ไม่สามารถรับเงินโอนได้ครับ

ซึ่งตัวแท็กซี่รู้ความเสี่ยงอยู่แล้วว่าตัวเองรับได้แต่เงินสด ก็ควรจะต้องแจ้งลูกค้าก่อนครับ ไม่ใช่จะมาหวังว่าลูกค้าจะต้องมาถาม เพราะลูกค้ารู้ตัวเองอยู่แล้วครับว่าจ่ายเงินได้

กรณีนี้ถ้าลูกค้าจะผิดก็เป็นกรณีลูกค้าเบี้ยวค่าโดยสาร หรือเป็นกรณี มือถือแบ็ตหมด เน็ตล่ม แอปล่ม จนไม่สามารถจ่ายได้ครับ

นั้งกันมาตั้งนานจนถึงที่หมายไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย พอจะจ่ายเงินดันมีปัญหา

ยุคนี้ที่ใครๆก็รับเงินโอน แม้ว่าแท๊กซี่จะมีสิทธิ์รับหรือไม่รับก็ได้ ผมว่าแท็กซี่ควรแจ้งตอนขึ้น หรือติดป้ายไว้หลังเบาะ อย่างน้อยถ้าไม่มี ลูกค้าจะได้ลงเลยแต่ต้น

ถ้าเป็นสมัยก่อน กรณีนี้ผมว่าแท๊กซี่ทำถูกแล้วที่กดมิเตอร์รอไว้ เพราะ เสียเวลา เสียโอกาสจริงๆ