BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: อิอิ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 12815
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 15:01
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
ถ้าในเนตมีคนกินมะนาวโซดาเยอะ มากกว่ากินยาหมอ คุณก็จะได้โซดามะนาว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: If you can't hold. You won't be rich.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 3881
ที่อยู่: Marijoa
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 15:05
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
สุดท้ายทั้งโลกจะเหลือแต่หุ่นยนต์
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 5336
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 15:11
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
เนโต้คือความหวัง พิมพ์ว่า:
ไมโครซอฟท์ปลดพนักงานทั่วโลก โปรแกรมเมอร์ถูกหั่นหนักสุดกว่า 800 ตำแหน่ง หลัง AI เขียนโค้ดแทนได้ถึง 30%

ไม่ดิสรัปต์

สำหรับผมนะ Junior อะตายแน่ ปรับตัวให้ตายยังไงก็มีข้อจำกัด คนเรามันมี Learning Curve ทุ่มเวลาเรียนรู้  


ถ้าตาม fact 800 คนคือคิดเป็น 0.3% (ทั้งหมด 2 แสนกว่าคน) เหมือนบริษัทมีพนักงาน 300 คน ลาออกไป 1 คนอะครับ

ผมมองแทบจะเป็นเรื่องปรกติของทุกบริษัท ถ้าดิสรัปต์ต้องระดับ 20-30% +
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Nov 2014
ตอบ: 10106
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 15:53
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
แกเป็น programmer ก็อาจจะ bias หน่อย แต่จริงนะ ถ้าเป็น programmer ระดับ innovation ยังไง AI เลียนแบบไม่ได้แน่นอน เพราะ AI มันแค่ทำของที่มีอยู่แล้ว มันสร้างใหม่แบบคนไม่ได้

แต่ถ้า programmer แบบก๊อปแปะ แบบนี้อ่ะตายแน่นอน สุดท้าย AI มา พวก junior programmer ตายหมด ส่วน programmer เทพๆก็ยิ่งรุ่งไปเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status: จิ้งจกเสพความเหงา
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Feb 2021
ตอบ: 12230
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 16:21
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 242
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 17:08
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
อาชีพสายช่าง น่าจะแทนยากนะ เพราะยังไงถ้ามันพัง ก็ต้องคนเนี่ยแหละที่ซ่อม
แต่อาจจะช่วยหาข้อมูลในการซ่อมให้ได้ ประหยัดเวลาได้พอสมควร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 May 2022
ตอบ: 10929
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 17:45
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
bennikun พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
bennikun พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
jocolenoname1234 พิมพ์ว่า:
แต่ โปรแกรมเมอร์ นี่

มีคนบอกว่า สมัยนี้ แค่เขียน promt เป็น สั่ง ai ให้ทำ ก็ทำได้แล้วท่าน ง่ายนิดเดียว


 

จากปากพวกไม่ใช่ engineer ทั้งนั้น พอคิดว่าตัวเองสร้างเกมส์งู เกมส์ปิงปอง หน้าเว็ปดาดๆ static webpage ได้ก็ยืดก็โม้ละกุเทพกุเก่ง

AI ไม่ทำให้ programmer หายไปไหรอก มีแต่จะทำให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิมและคนเป็นได้ง่ายกว่าเดิม ยิ่งดีเลยเพราะตอนนี้ขาดแคลนคนเก่งๆเพราะเรียนมหาลัยจบปุ๊ปเลิก code กันทั้งนั้น

มี AI เผื่อจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้นบ้างจนคนไม่ท้อเลิกก่อน  


อาจจะต้องวงเล็บว่า "ที่เก่งๆ" ไว้ด้วย ผมก็ทำงานสายนี้อยู่หลายปี ด้วยความเคารพ คนเก่งนี่ ai คงแทนยากจริงๆ แต่เอาระดับทั่วๆไปผมว่าแทนได้สบาย  

ผมว่าไม่หายหรอก มันก็จับคนไม่เก่งมาใช้ AI ให้งานเร็วขึ้นแก้ปัญหายากขึ้นได้นั่นแหละ เพราะทุกวันนี้ลำพังแค่ programmer ธรรมดายังมีไม่พอเลย  


ลำดับของการทำงานในทีม software dev จะเป็นแบบนี้ครับ
Business need > Requirement > technical spec > coding > testing > implement > go live

junior หรือ programmer แบบที่รับๆกัน(เยอะๆ)มาทำงาน จะทำแค่ coding+testing(บางที่) คือรับมาทำแค่ก้อนของตัวเอง ไม่เก่งพอจะมอง cross function หรือมองย้อนกลับไปหา business need ได้ ซึ่งถ้าเราเขียน technical spec ได้ดีพอละเอียดพอ ก็เอาไปทำเป็น prompt สำหรับให้ ai gen code ไปได้หลาย % เลย เหลือ code อีกนิดเดียว แต่ถ้า requirement เฉพาะทางจริงๆ ai ก็จะช่วยได้น้อยลง

ดังนั้นในอนาคต code แบบทั่วๆไป เราแทบจะไม่ต้อง hard code เองกันแล้วครับ ปัญหาถัดมาคือ programmer คนนั้นต้องสามารถตัดสินได้ว่า code แบบนี้ตอบ requirement หรือไม่ มี requirement ข้อไหนที่ต้องตีกลับไปคุยกับลูกค้า อาจเพราะทำไม่ได้ หรือขัดแย้งกันเองกับ requirement ข้ออื่น มันจะหมดยุค code ตาม technical spec > tester > ลูกค้า test > ขอแก้ วนๆ 6เดือนยังไม่จบ

ตอนผมยังทำงาน project ทีมผม senior ล้วนๆงานทั้งเยอะทั้งยาก แต่ชิลๆ happy งานไม่วนลูป กลัวอย่างเดียวต้องไปทำร่วมกับ junior ทีมอื่น โอกาสทำงานไม่ได้หลับได้นอนสูงขึ้นเยอะมากครับ  

ผมว่าคนเข้าใจผิดกันไปหมดนะว่า Junior = ไม่เก่ง คือถ้าบริษัทที่เข้าใจ software engineer ดีๆเค้าจะรู้ว่า senior ที่เก่งมันก็คือ junior มาก่อน ถ้าคุณไม่รับ junior มาปั้นก็ไม่มี senior เก่งๆใช้อยู่ดี

ทีนี้คนชอบไปคิดว่างาน junior ไม่มีแล้วเพราะ senior ใช้ AI brute force ได้แทนหมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องการ junior อีกต่อไป ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วยตรงนี้ สุดท้าย junior ยังไงก็มีอยู่ตลอดไปแต่เป็นพวก senior ที่เก่งไม่พอต่างหากที่จะโดนแทนที่ด้วย junior เก่งๆที่กำลังจะขึ้นมา

มาตราฐานมันจะสูงขึ้นต่างหากผมว่า แทนที่สมัยก่อน programmer hello world ได้ก็รับแล้ว สมัยนี้ต้องสามารถเขียน Full Stack ได้คนเดียวเลยเพราะมี AI ช่วย assist แล้วถ้าคุณเขียนไม่ได้ก็แปลว่าคุณไม่ถึงมาตราฐาน

มันคล้ายๆกับ jevons paradox เลยครับ ยิ่งเขียนโค้ดง่ายเท่าไหร่ programmer ยิ่งเยอะขึ้นไม่ได้น้อยลงเพราะ accessible ต่อคนทั่วไปมากขึ้น (ถ้าไม่นับเรื่อง economic เข้ามาเอี่ยวด้วย)
แก้ไขล่าสุดโดย SeQueda เมื่อ Tue May 20, 2025 17:47, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 May 2022
ตอบ: 10929
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 17:52
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
porprem พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
jocolenoname1234 พิมพ์ว่า:
แต่ โปรแกรมเมอร์ นี่

มีคนบอกว่า สมัยนี้ แค่เขียน promt เป็น สั่ง ai ให้ทำ ก็ทำได้แล้วท่าน ง่ายนิดเดียว


 

จากปากพวกไม่ใช่ engineer ทั้งนั้น พอคิดว่าตัวเองสร้างเกมส์งู เกมส์ปิงปอง หน้าเว็ปดาดๆ static webpage ได้ก็ยืดก็โม้ละกุเทพกุเก่ง

AI ไม่ทำให้ programmer หายไปไหรอก มีแต่จะทำให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิมและคนเป็นได้ง่ายกว่าเดิม ยิ่งดีเลยเพราะตอนนี้ขาดแคลนคนเก่งๆเพราะเรียนมหาลัยจบปุ๊ปเลิก code กันทั้งนั้น

มี AI เผื่อจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้นบ้างจนคนไม่ท้อเลิกก่อน  

ถ้าเอาแพทเทิร์นนี้ ai คงแทนอะไรยากมากเลยครับ
ผมมาสายครีเอเตอร์ ให้มันคิดคอนเท้น เขียนบทความ
ก็ทำได้ประมาณนึง ไม่เก่งเท่าคนเก่ง แต่เก่งกว่าระดับกาก ระดับเกือบๆกลางแล้วตอนนี้
เอาจริงๆ ผมยังคิดเลย จะจ้างพวกมือใหม่ทำไม ใช้เอไอดีกง่าอีก5555  

ที่พวกงานด้านศิลปะ content creator งานเขียนมันหายไปหลักๆมันเป็นเพราะงานพวกนี้ floor ต่ำครับหมายความว่างานที่พวกนี้ต้องทำส่วนใหญ่ๆเลยคือคุณไม่ต้อง competent มากในสายก็ได้ ยกตัวอย่างที่ท่านบอกมาเลย "จะจ้างพวกมือใหม่ทำไม ใช้เอไอดีกง่าอีก5555" คำนี้มันใช้กับการเขียนโปรแกรมไม่ได้ครับ เพราะผมว่า floor ของสายอาชีพมันสูงมาก(เช่นเดียวกับหมอ) หมายความว่าคุณเขียน hello world, เกมส์งู static page, เครื่องคิดเลขได้มันก็ไม่ได้ใกล้เคียงงานที่ software engineer ทำจริงๆเลยสักนิด มันเลยแตกต่างกับงาน creative พอสมควร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 317
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 18:25
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
SeQueda พิมพ์ว่า:
bennikun พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
bennikun พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
jocolenoname1234 พิมพ์ว่า:
แต่ โปรแกรมเมอร์ นี่

มีคนบอกว่า สมัยนี้ แค่เขียน promt เป็น สั่ง ai ให้ทำ ก็ทำได้แล้วท่าน ง่ายนิดเดียว


 

จากปากพวกไม่ใช่ engineer ทั้งนั้น พอคิดว่าตัวเองสร้างเกมส์งู เกมส์ปิงปอง หน้าเว็ปดาดๆ static webpage ได้ก็ยืดก็โม้ละกุเทพกุเก่ง

AI ไม่ทำให้ programmer หายไปไหรอก มีแต่จะทำให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิมและคนเป็นได้ง่ายกว่าเดิม ยิ่งดีเลยเพราะตอนนี้ขาดแคลนคนเก่งๆเพราะเรียนมหาลัยจบปุ๊ปเลิก code กันทั้งนั้น

มี AI เผื่อจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้นบ้างจนคนไม่ท้อเลิกก่อน  


อาจจะต้องวงเล็บว่า "ที่เก่งๆ" ไว้ด้วย ผมก็ทำงานสายนี้อยู่หลายปี ด้วยความเคารพ คนเก่งนี่ ai คงแทนยากจริงๆ แต่เอาระดับทั่วๆไปผมว่าแทนได้สบาย  

ผมว่าไม่หายหรอก มันก็จับคนไม่เก่งมาใช้ AI ให้งานเร็วขึ้นแก้ปัญหายากขึ้นได้นั่นแหละ เพราะทุกวันนี้ลำพังแค่ programmer ธรรมดายังมีไม่พอเลย  


ลำดับของการทำงานในทีม software dev จะเป็นแบบนี้ครับ
Business need > Requirement > technical spec > coding > testing > implement > go live

junior หรือ programmer แบบที่รับๆกัน(เยอะๆ)มาทำงาน จะทำแค่ coding+testing(บางที่) คือรับมาทำแค่ก้อนของตัวเอง ไม่เก่งพอจะมอง cross function หรือมองย้อนกลับไปหา business need ได้ ซึ่งถ้าเราเขียน technical spec ได้ดีพอละเอียดพอ ก็เอาไปทำเป็น prompt สำหรับให้ ai gen code ไปได้หลาย % เลย เหลือ code อีกนิดเดียว แต่ถ้า requirement เฉพาะทางจริงๆ ai ก็จะช่วยได้น้อยลง

ดังนั้นในอนาคต code แบบทั่วๆไป เราแทบจะไม่ต้อง hard code เองกันแล้วครับ ปัญหาถัดมาคือ programmer คนนั้นต้องสามารถตัดสินได้ว่า code แบบนี้ตอบ requirement หรือไม่ มี requirement ข้อไหนที่ต้องตีกลับไปคุยกับลูกค้า อาจเพราะทำไม่ได้ หรือขัดแย้งกันเองกับ requirement ข้ออื่น มันจะหมดยุค code ตาม technical spec > tester > ลูกค้า test > ขอแก้ วนๆ 6เดือนยังไม่จบ

ตอนผมยังทำงาน project ทีมผม senior ล้วนๆงานทั้งเยอะทั้งยาก แต่ชิลๆ happy งานไม่วนลูป กลัวอย่างเดียวต้องไปทำร่วมกับ junior ทีมอื่น โอกาสทำงานไม่ได้หลับได้นอนสูงขึ้นเยอะมากครับ  

ผมว่าคนเข้าใจผิดกันไปหมดนะว่า Junior = ไม่เก่ง คือถ้าบริษัทที่เข้าใจ software engineer ดีๆเค้าจะรู้ว่า senior ที่เก่งมันก็คือ junior มาก่อน ถ้าคุณไม่รับ junior มาปั้นก็ไม่มี senior เก่งๆใช้อยู่ดี

ทีนี้คนชอบไปคิดว่างาน junior ไม่มีแล้วเพราะ senior ใช้ AI brute force ได้แทนหมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องการ junior อีกต่อไป ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วยตรงนี้ สุดท้าย junior ยังไงก็มีอยู่ตลอดไปแต่เป็นพวก senior ที่เก่งไม่พอต่างหากที่จะโดนแทนที่ด้วย junior เก่งๆที่กำลังจะขึ้นมา

มาตราฐานมันจะสูงขึ้นต่างหากผมว่า แทนที่สมัยก่อน programmer hello world ได้ก็รับแล้ว สมัยนี้ต้องสามารถเขียน Full Stack ได้คนเดียวเลยเพราะมี AI ช่วย assist แล้วถ้าคุณเขียนไม่ได้ก็แปลว่าคุณไม่ถึงมาตราฐาน

มันคล้ายๆกับ jevons paradox เลยครับ ยิ่งเขียนโค้ดง่ายเท่าไหร่ programmer ยิ่งเยอะขึ้นไม่ได้น้อยลงเพราะ accessible ต่อคนทั่วไปมากขึ้น (ถ้าไม่นับเรื่อง economic เข้ามาเอี่ยวด้วย)
 


อ่านดูนี่คุณกับผมก็พูดเรื่องเดียวกันนะ แต่อาจะใช้ term ต่างกันเลยเข้าใจผิด คือสำหรับผม คนที่ low skill พวกผมเรียกกันว่า junior หมด ส่วนน้องใหม่ที่เก่งมาแล้วนี่ผมไม่อยากเรียกเค้าแบบนั้น (เฉพาะทีมผมนะ เพราะพวกนี้บางคนขึ้น project มาเยอะกว่าคนทำงานแล้วอีก)

- low skill : ไม่ว่ามือใหม่มือเก่า น่าจะไม่รอด << เอาจริงๆ พวกนี้มีเยอะเลยนะครับ พวกมาจาก code camp, มหาลัยรองๆ ถ้าคุณอยู่บริษัทใหญ่อาจจะไม่เจอ แต่ถ้าพวกบริษัท software เล็กๆนี่เพียบเลยครับทำงานด้วยแล้วปวดหัวเลย
- high skill : พวกนี้ยิ้ม ชอบเลย ai เนี่ย
- high potential : พวกนี้คุณมองว่ายังไงก็จะมีที่ให้ใช่มั้ยล่ะ ถ้าบริษัทใหญ่ๆอ่ะใช่ แต่จากประสบการณ์ผมนะ ถ้าอยู่ บ.ที่งานรุ่นพี่ก็ตึงอยู่แล้วนี้ น้องอาจจะไม่ทันได้ฝึกมือก็ได้นะ เด็กบางคนตั้งใจจริงแต่เก่งกลางๆอาจจะไม่ได้โอกาสเท่ารุ่นผม แต่ถ้าคนเด่นๆจริงอ่ะเค้าไปได้อยู่แล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 1564
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 20, 2025 22:05
3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ
เผื่อใครไม่รู้ ตอนนี้มีหุ่นยนต์ผ่าตัดละนะครับ ใช้จริงละด้วย ประเทศไทยก็เริ่มนำมาใช้แล้ว อนาคตก็ไม่แน่ว่าหมอยังจำเป็นอยู่มั้ย ไม่มีก็โอเค ส่วนตัวรู้สึกไม่ชอบสิทธิพิเศษที่สังคมให้กับอาชีพนี้เท่าไหร่

ปล คนที่บอกหมอโดนดิสรัปยาก ให้ลองกลับไปถามตัวเองห้าปีที่แล้วดูว่ามุมมองต่อการโดนดิสรัปของอุตสาหกกรมล่าม นักแปล เป็นยังไง เห็นชอบบอกกันว่าเอไอแปลไงก็ไม่เหมืแนคน ทุกวันนี้ถ้าไม่บอกว่าเอไอก็คือไม่รู้นะว่าเอไอทำ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Oct 2010
ตอบ: 2910
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 21, 2025 02:29
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
SeQueda พิมพ์ว่า:
porprem พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
jocolenoname1234 พิมพ์ว่า:
แต่ โปรแกรมเมอร์ นี่

มีคนบอกว่า สมัยนี้ แค่เขียน promt เป็น สั่ง ai ให้ทำ ก็ทำได้แล้วท่าน ง่ายนิดเดียว


 

จากปากพวกไม่ใช่ engineer ทั้งนั้น พอคิดว่าตัวเองสร้างเกมส์งู เกมส์ปิงปอง หน้าเว็ปดาดๆ static webpage ได้ก็ยืดก็โม้ละกุเทพกุเก่ง

AI ไม่ทำให้ programmer หายไปไหรอก มีแต่จะทำให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิมและคนเป็นได้ง่ายกว่าเดิม ยิ่งดีเลยเพราะตอนนี้ขาดแคลนคนเก่งๆเพราะเรียนมหาลัยจบปุ๊ปเลิก code กันทั้งนั้น

มี AI เผื่อจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้นบ้างจนคนไม่ท้อเลิกก่อน  

ถ้าเอาแพทเทิร์นนี้ ai คงแทนอะไรยากมากเลยครับ
ผมมาสายครีเอเตอร์ ให้มันคิดคอนเท้น เขียนบทความ
ก็ทำได้ประมาณนึง ไม่เก่งเท่าคนเก่ง แต่เก่งกว่าระดับกาก ระดับเกือบๆกลางแล้วตอนนี้
เอาจริงๆ ผมยังคิดเลย จะจ้างพวกมือใหม่ทำไม ใช้เอไอดีกง่าอีก5555  

ที่พวกงานด้านศิลปะ content creator งานเขียนมันหายไปหลักๆมันเป็นเพราะงานพวกนี้ floor ต่ำครับหมายความว่างานที่พวกนี้ต้องทำส่วนใหญ่ๆเลยคือคุณไม่ต้อง competent มากในสายก็ได้ ยกตัวอย่างที่ท่านบอกมาเลย "จะจ้างพวกมือใหม่ทำไม ใช้เอไอดีกง่าอีก5555" คำนี้มันใช้กับการเขียนโปรแกรมไม่ได้ครับ เพราะผมว่า floor ของสายอาชีพมันสูงมาก(เช่นเดียวกับหมอ) หมายความว่าคุณเขียน hello world, เกมส์งู static page, เครื่องคิดเลขได้มันก็ไม่ได้ใกล้เคียงงานที่ software engineer ทำจริงๆเลยสักนิด มันเลยแตกต่างกับงาน creative พอสมควร  

ผมมองตรงข้ามเลยครับ 555 งานตรรกะแบบ programmer นี่แหละน่าจะโดนมากที่สุด
ยังไม่นับรวมว่าแขนงนี้น่าจะเป็นแขนงที่น่าทุ่มทุนมากที่สุดด้วย เพราะมันค่าใช้จ่ายด้านมนุษย์เยอะ
คำว่าแทนที่ในบริบทนี่น่ะ หมายถึงอะไร ถ้ามีโปรแกรมเมอร์เยอะขึ้น แต่โปรแกรมเมอร์เหล่านั้นไม่ได้ถูกจ้าง หรือถูกเลิกจ้างไป จาก 10 เหลือแค่ 1-2 คนเก่งๆคอยควบคุม ผมว่ามันก็คือการ "แทน" ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 May 2022
ตอบ: 10929
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 21, 2025 02:34
[RE: 3 อาชีพที่จะไม่โดน AI ดิสรัปของบิล เกตต์... ไม่มีหมอ]
porprem พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
porprem พิมพ์ว่า:
SeQueda พิมพ์ว่า:
jocolenoname1234 พิมพ์ว่า:
แต่ โปรแกรมเมอร์ นี่

มีคนบอกว่า สมัยนี้ แค่เขียน promt เป็น สั่ง ai ให้ทำ ก็ทำได้แล้วท่าน ง่ายนิดเดียว


 

จากปากพวกไม่ใช่ engineer ทั้งนั้น พอคิดว่าตัวเองสร้างเกมส์งู เกมส์ปิงปอง หน้าเว็ปดาดๆ static webpage ได้ก็ยืดก็โม้ละกุเทพกุเก่ง

AI ไม่ทำให้ programmer หายไปไหรอก มีแต่จะทำให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิมและคนเป็นได้ง่ายกว่าเดิม ยิ่งดีเลยเพราะตอนนี้ขาดแคลนคนเก่งๆเพราะเรียนมหาลัยจบปุ๊ปเลิก code กันทั้งนั้น

มี AI เผื่อจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้นบ้างจนคนไม่ท้อเลิกก่อน  

ถ้าเอาแพทเทิร์นนี้ ai คงแทนอะไรยากมากเลยครับ
ผมมาสายครีเอเตอร์ ให้มันคิดคอนเท้น เขียนบทความ
ก็ทำได้ประมาณนึง ไม่เก่งเท่าคนเก่ง แต่เก่งกว่าระดับกาก ระดับเกือบๆกลางแล้วตอนนี้
เอาจริงๆ ผมยังคิดเลย จะจ้างพวกมือใหม่ทำไม ใช้เอไอดีกง่าอีก5555  

ที่พวกงานด้านศิลปะ content creator งานเขียนมันหายไปหลักๆมันเป็นเพราะงานพวกนี้ floor ต่ำครับหมายความว่างานที่พวกนี้ต้องทำส่วนใหญ่ๆเลยคือคุณไม่ต้อง competent มากในสายก็ได้ ยกตัวอย่างที่ท่านบอกมาเลย "จะจ้างพวกมือใหม่ทำไม ใช้เอไอดีกง่าอีก5555" คำนี้มันใช้กับการเขียนโปรแกรมไม่ได้ครับ เพราะผมว่า floor ของสายอาชีพมันสูงมาก(เช่นเดียวกับหมอ) หมายความว่าคุณเขียน hello world, เกมส์งู static page, เครื่องคิดเลขได้มันก็ไม่ได้ใกล้เคียงงานที่ software engineer ทำจริงๆเลยสักนิด มันเลยแตกต่างกับงาน creative พอสมควร  

ผมมองตรงข้ามเลยครับ 555 งานตรรกะแบบ programmer นี่แหละน่าจะโดนมากที่สุด
ยังไม่นับรวมว่าแขนงนี้น่าจะเป็นแขนงที่น่าทุ่มทุนมากที่สุดด้วย เพราะมันค่าใช้จ่ายด้านมนุษย์เยอะ
คำว่าแทนที่ในบริบทนี่น่ะ หมายถึงอะไร ถ้ามีโปรแกรมเมอร์เยอะขึ้น แต่โปรแกรมเมอร์เหล่านั้นไม่ได้ถูกจ้าง หรือถูกเลิกจ้างไป จาก 10 เหลือแค่ 1-2 คนเก่งๆคอยควบคุม ผมว่ามันก็คือการ "แทน" ครับ  

ระยะยาวมุมมองผมไม่ลดแน่ครับ มีแต่เพิ่มขึ้น และ capability จะมากขึ้นมาตราฐานจะสูงขึ้นด้วยครับ

ไอ่ระยะสั้นช่วงนี้ที่มัน lay off กันคือ over hire มาช่วงโควิดครับ ช่วงนั้นแค่หายใจมันก็จ้างแล้วเลยได้ programmer คุณภาพห่วยๆที่ปรกติก็ไม่ควรจะผ่านการคัดเลือกมาอยู่แล้ว

ผมขออธิบายให้เห็นภาพด้วย jevons paradox แล้วกันครับ มันคือปรากฏการที่อะไรสักอย่าง efficient ขึ้นหรือทำง่ายขึ้น อย่าในที่นี้คนเคลมกันว่า AI ทำให้เขียนโปรแกรมง่ายขึ้นมาๆ ตาม common sense ของหลายๆคนคิดว่า

ง่ายขึ้น=ใช้คนน้อยลง=จำนวนโปรแกรมเมอร์น้อยลง จริงๆแล้วมันต้องกันข้ามเลยครับ

ง่ายขึ้น=ทำfeatureได้เร็วขึ้น=บริษัทยิ่งอยากออกfeatureรัวขึ้นมากกว่าเดินหลายเท่า=จำนวนProgrammerเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นและจำนวนfeatureที่ออกเยอะขึ้น

คนไป focus ที่ความยากง่ายอย่างเดียวจนลืมไปว่าพวกบริษัทต่างๆก็อยากออก feature ถี่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น พร้อมกันมากขึ้นเช่นกัน

เวลามอง trend ต้องมองระยะยาวครับไม่ใช่บอกว่าเดือนที่แล้ว google meta ปลดคน = programmer น้อยลงแน่ๆ ผมว่าเป็น assumption ที่ไม่ค่อยถูก
แก้ไขล่าสุดโดย SeQueda เมื่อ Wed May 21, 2025 02:39, ทั้งหมด 3 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel