1. "โง่" มันคือคำด่านั่นแหละ เป็นการระบายอารมณ์อย่างหนึ่ง อย่าไปอ้างว่าเป็นคำวิจารณ์เลย ด่าก็คือด่า ก็รับกันตรงๆ นี่แหละ
2. ผมมองว่า การด่าไม่ใช่เรื่องผิด ตราบที่ไม่ได้เกินเลยไปจนกลายเป็นการหมิ่นประมาท หรือ hate speech แบบจงใจ (ให้ขัดแย้ง เกลียดชังกันอย่างรุนแรง)
3. คุณด่า วิจารณ์กันเองได้ (ตราบที่ไม่เกินกรอบ) แต่ต้องเคารพคะแนนเสียงคนอื่นๆ ที่ว่าต้องเคารพ หมายถึงว่าคุณไม่มีสิทธิ์ไปล้มผลที่เขาเลือก ไม่ว่ามันจะห่วย หรือไม่พอใจขนาดไหนก็ตาม ทำได้แค่โน้มน้าวทางความคิดเพื่อให้คนเหล่านั้นเห็นแบบเรา และเปลี่ยนใจ
4. ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วย กับการใช้คำพูดประมาณว่า "เราไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไม่เข้าใจคนที่เขาเลือกหรอก เขามีเหตุผลที่ยอมรับได้" ในทุกสถานการณ์ คำพูดนี้ผมเห็นด้วยเฉพาะกรณีที่ผู้สมัคร ไม่ได้มีการด่างพร้อยแบบเห็นได้ชัด (คือไม่เคยโดนจับ หรือทำผิดแบบเห็นจังๆ หลักฐานชัดเจน) พวกที่ความผิดชัดเจน เช่น ทุจริตชัดเจน ศาลตัดสินแล้ว หรือมีคดีเรื่องความรุนแรง เรื่องมาเฟีย วางอำนาจ เรื่องทางเพศ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ยอมรับได้ในการเลือกคนพวกนี้เข้ามาเลยครับ เพราะฉะนั้น จะอ้างว่าให้เข้าใจเหตุผล อันนี้ผมว่าตลก แต่ทั้งนี้ ก็ยังต้องอยู่ในกฎว่าต้องเคารพเสียงที่เขาเลือกด้วยนะ คือด่าได้ว่าเลือกมาได้ยังไง แต่จะไปล้มผล หรือไปจำกัดสิทธิ์คนเลือก อันนี้ไม่ได้

คนไทย ในสายตาผม เป็นพวก overrated ซะส่วนใหญ่

แบบชอบประเมินตัวเองดีเกินจริง เก่งเกินจริง

และแน่นอนครับคนที่โดนด่าว่าโง่เนี่ย พวกเขาจะไม่มีวันเลือกหรือซัพพอร์ตพรรคการเมืองที่มีติ่งมาด่าเขาเช่นกัน

ไม่ส่งผลและเป็นเรื่องปกติในระบอบ ปชต. (แต่ส่วนตัวอยากให้ถกเถียงด้วยเหตุผลมากกว่าการพ่นคำด่า)

หมายเหตุ ไม่ส่งผลต่อ ปชต ถ้าประเทศนั้นเป็น ปชต เต็มใบอยู่แล้ว

แต่ถ้าประเทศเราส่งผลครับ เพราะประเทศมีพรรคที่เป็น ปชต แค่พรรคเดียวและต้องการเก้าอี้มากกว่าครึ่งนึงขึ้นไป ด่าโง่คนยิ่งต่อต้าน เหมือนผลักคนไปอีกฝั่งอะ ซึ่งพรรคอื่นมีแต่ขี้ข้าเผด็จการ เราจึงทำได้แค่ educate

ถ้ามัน ปชต ทุกพรรค คนจะเลือกพรรคไหนก็เป็นพรรคที่อยู่ในระบอบ ปชต อันนี้ไม่กระทบ

คนที่ถูกหาว่าโง่ก็ต้องออกมาดิสคัสว่าสาเหตุที่เค้าเลือกคืออะไร

มันไม่ใช่ดีหรือไม่ดี มันแค่เป็นเรื่องธรรมชาติเฉยๆ ปชต.คือทุกคนแสดงความเห็นได้ เลือกตั้งได้ แสดงออกได้โดยไม่โดนขัดขวาง ไม่โดนจับปรับทัศนคติ ไม่โดนเซนเซอร์ ไม่ใช่ห้ามด่านะอย่าเข้าใจผิด
ทุกประเทศที่มีการเลือกตั้งมันก็ด่าผู้สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามกันทั้งนั้นแหละ ถ้าวิ่งไปต่อยเค้าให้หุบปาก หรือไปบุกล้อมบ้านบังคับรัก อันนี้อะผิดหลัก

นี่แหละประชาธิปไตย แสดงความเห็นได้เต็มที่ ด่ากันได้แบบนี้เป็นปกติ

มันไม่เห็นเกี่ยวกับคุณค่าของ ปชต.
คนถูกด่าว่าโง่ ก็ยังไปใช้สิทธิของเค้าได้หนิ

ถ้าคนถูกด่า คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่ใช่เรื่องโง่ ก็ทำไปสิจะมาคิดเล็กคิดน้อยทำไม
แต่ถ้ารู้สึกว่ามันโง่แล้วยังจะทำก็รับสภาพไป เลือกทำสิ่งที่ตัวเองก็รู้ว่าโง่ ก็ไปจัดการความคิดตัวเองเอาสิ

คิดว่าเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย
ถ้าเราเป็น voter ฝั่งคนแพ้ เราก็มักจะ“วิจาร” หรือ “ด่า” อีกฝั่งนึงเป็นเรื่องปกติ

ปัญหาคือ ระบอบประชาธิปไตย หลักการมันอยู่ที่ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ไม่ใช่คนดีคนฉลาดมีสิทธิมากกว่า ระบอบประชาธิปไตยมันเลยไม่ได้การันตีว่า “คนดี” จะได้เป็นผู้แทน

ถ้าประชาชนคนเลือกตั้งพื้นที่ไหนมีคนโง่เยอะ จูงจมูกง่าย หรืออยู่กันแบบวัฒนธรรมบ้านใหญ่มีบุญคุณ ผลก็อาจจะเป็นแบบนึง
พื้นที่ไหนคนมีความเป็นอยู่ดีเข้าใจการเมือง มีเวลาศึกษา ผลมันก็คงแปปอีกแบบนึง

หน้าตาผู้แทนเป็นแบบไหน แปลว่าประชากรพื้นที่เป็นแบบนั้น
สรุปตรงๆ ประเทศไทย มีคนโง่เยอะและคนเห็นแก่ตัวมากกว่าคนฉลาดและมีอุดมการณ์

ประชาธิปไตย หาเสียงกันก็ด่ากันอยู่แล้ว ระบบมันคือการสาวไส้ ไม่ไว้ใจใคร ไม่มีใครเป็นคนดี คนที่เข้าใจประชาธิปไตย มันต้องมองเรื่องระบบ และเป็นระบบที่เอื้อต่อการเปลี่ยนมืออำนาจให้ได้มากที่สุด

ด่าแบบเหมาด่าเลย มันไม่ได้ไประบุใครคนใดคนหนึ่ง แต่มันก็มุ่งไปที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เห็นก็ด่ากันมาตลอด มีตอนไหนเคยหยุดด่าอ่ะ ผมนึกไม่ออกเลย ไม่ว่าจากฟากไหน ผลสำเร็จมันก็คือเลือกตั้งชนะอ่ะแหละ แต่มันไม่ได้อยู่ตลอดไปไง สี่ปีข้างหน้า มันก็คิดกันใหม่อีกรอบ


ถ้าจะโง่เลือกคนเลวๆ มาทำงาน เพียงเพราะโดนด่าว่าโง่ แทนที่จะกลับไปนั่งคิดว่าทำไมคนมองเราว่าโง่ เออก็แแปลกดี

แต่ถ้าเห็นดีเห็นงามกับคนเดิมต่อ แบบมั่นใจ ก็ยืดอก ไม่เห็นต้องแค์อะไร แสดง่ว่าคุณมองว่าเค้าดี ทำงานดี ไม่โกงอะไรก็ว่าไป แต่อันนี้ผมว่ามันประจักษ์ว่า ตรงกันข้ามหมด

ผมถามหน่อย แบบไหนถึงจะด่าได้ อย่างเคสหญ้าหวานนี่ก็ 1 ในความโง่ที่ชัดเจนที่สุดแล้วนะครับ ดูครอบครัวนี้ดิ่ ทั้งประวัติ ทั้งผลลัพธ์การบริหาร ทั้งความร่ำรวยทีไ่ด้มา ไม่ตาสว่างกันบ้างเหรอ

ส่วนการด่าว่าโง่ มันสั้นไป คนมันก็มีเหตุผลอีกร้อยแปดแหละเวลาด่า แต่บางทีมันเสียเวลาจะอธิบายไง เพราะมันก็เห็นๆอยู่แล้ว เป็นข้อมูลที่ก็ไม่ได้หายากเลย

เอาจริงๆ โลกเรามันก็เลยแบ่งความเจริญได้ไง พัฒนาแล้ว กำลังพัฒนา ไม่พัฒนา ผมว่ามองกลับไปที่ประเทศไม่พัฒนาที่แบบอิหยังวะ มันต้องมีคนด่าในใจแหละว่าทำไมประชาชนไม่ทำแบบนั้นแบบนี้วะ เพียงงแต่มันไม่ค่อยเกี่ยวกับเราไง แต่นี่คือประเทศเรา ที่เรายังพอแคร์อยู่บ้าง เลยอยากด่าไง มันก็คือหนุ่งในเหตุผลที่เรากำลังพัฒนานั่นแหละ อีกนาน

คนฉลาดมีแต่ใน ss อันนี้ผมฟันเฟิมได้

ดีทั้งนั้น ตราบใดที่ไม่มีการมาปิดปากกัน ห้ามนู่นห้ามนี่ อันนี้พูดได้ พูดไม่ได้

มันอาจจะไม่ใช่บรรยากาศที่ดีในการชักจูงคน และมีวิธีพูดแบบอื่นที่มีประสิทธิภาพกว่า สุภาพกว่า แต่อย่างน้อยมันได้ถกเถียงกัน ถึงเวลาก็เลือกใหม่

ถ้ามัวแต่คิดว่าอันไหนควรไม่ควร ได้ไม่ได้ สุดท้ายการไม่พูดนั่นแหละ ที่ไม่ดีต่อประชาธิปไตยเอง

คิดว่าการด่าว่าโง่มันได้ถกกันตรงไหน กลายเป็นด่ามาด่ากลับไม่โกงเท่านั้นแหละ

คำว่า "เคารพในความเห็นต่าง" 100 คนตีความไม่เหมือนกัน

มันยากที่จะมากำหนดบรรทัดฐานเป็นรูปธรรม ห้ามด่า ห้ามด้อยค่า ห้ามใช้กำลัง มันต้องมากน้อยแค่ไหน เถียงกันสิบปีร้อยปีก็ไม่จบ หาข้อสรุปไม่ได้

ส่วนตัวคิดว่าด่าได้แต่อย่าแรง อย่าล้ำเส้น มีเหตุมีผลอธิบาย มีวุฒิภาวะให้มันสร้างสรรค์ เกิดประโยชน์ต่อผู้ฟัง ไม่ใช่สักจะด่าเอามันส์อย่างเดียว

มันด่าได้แค่ลับหลังไง ไม่กล้าพูดต่อหน้าหรอก อารมณ์เหมือนนินทาคนที่เราไม่ชอบ แต่ตรรกะมันแปลกตรงที่เราสามารถเกลียดใครก็ได้ที่ทำในสิ่งที่ไม่ตรงใจเรา อีกนัยนึงก็เหมือนคนที่ผิดหวังแล้วหาที่ระบาย