หลายๆคนในนี้น่าจะรู้อยู่แล้วว่า ประเพณีสินสอดมันเป็นอะไรที่ผู้ชายเสียเปรียบ ทำไมคุณยังยอมจ่ายหรือยอมเสียเปรียบผู้หญิง และผู้หญิงที่ได้มาเป็นเมียมันคุ้มกับสินสอดที่จ่ายไปไหม
ผ่านผู้ชายมาหลายคน คนทิ่มคนสุดท้ายได้จ่ายคุณทำใจได้ยังไงครับ ที่ต้องจ่ายสินสอด

ส่วนตัวผมนะ ถ้าวันหนึ่งผมต้องแต่งงานถ้าคุยสุดทางแล้วจริง ๆ ต้องจ่ายผมก็จ่ายแค่นั้น แต่ผมไม่ชอบวันหนึ่งผมเป็นพ่อคน แล้ว มีลูกสาว ผมจะไม่เรียกเก็บจากผู้ชายคนนั้นซักบาทผมพูดได้เลย

แต่ถ้าวันที่ผมแต่งความเชื่อของฝั่งนั้น คือต้องมีสินสอด ผมก็จะหามาจ่ายให้ตามที่คุณต้องการ ผมไม่มานั่งคิดด้วยซ้ำว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม นาทีนั้นผมคิดแค่ว่าอยากใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนนั้นไปตลอดชีวิต ถ้า ณ ตอนนั้นความคิดนี้แรงกล้ามากกว่าเรื่องเงินผมก็จะจ่าย แต่ถ้าตอนนั้นความคิดนี้ยังไม่ทรงพลังหรือแรงพอที่จะเอาชนะแนวคิดที่ว่ากูต้องจ่ายทำไม ผมก็เลือกที่จะยังไม่แต่ง แค่นั้น

อย่างตัวผมแฟน 2 คนที่ผ่านมามองถึงเรื่องแต่งงานทั้งหมดเลย คนก่อนเรียกผม 900K ตอนนั้นผมไม่อยากแต่งเลยไม่อยากเสียซักบาท ผมก็บอกถ้าอยากจะแต่งถ้าเรียกขนาดนั้น เราไม่มีปัญญา หลอกนะ ผมไม่ได้มองว่าคุ้มหรือไม่คุ้มแต่ผมหาไม่ได้แค่นั้น และ ความรู้สึกผมก็ไม่ได้แรงกล้าพอขนาดไปหาเงิน 900K มาให้สุดท้ายก็เลิกกันไป

กับคนปัจจุบันก็มองแบบนี้เหมือนกันไปคุยกับที่บ้านเขา เขาก็บอกอยากให้เท่าไหร่ก็ให้ ผม ก็รู้สึกว่าถ้าเขาอยากได้เท่าไหร่ผมก็จะหามาจ่าย เพราะ ณ เวลานี้ถ้าเทียบกัน ผมอยากอยู่กับคนนี้ไปตลอดชีวิต เท่านั้นเอง

ครับแอด Fin FIn

อย่าไปคิดมากครับ มีมากก็จ่ายมาก มีน้อยก็จ่ายน้อย

คิดถึงตอนไปทิ้มคนอื่นแล้วไม่แต่งด้วยสิ 5555

มัวแต่คิดเล็กคิดน้อย ถึงยังซิงอยุ่แบบนี้ไง

จ่ายเพื่อให้เสี่ยได้ไปปารตี้ริมสระครับ

จ่ายครับ ผมรวย

ถ้าผ่านเงื่อนไขของผมก็ไม่มีปัญหา
คร่าวๆ ก็รายได้ มรดก ภาระ
ทัศนคติ หน้าตา

ผมไม่ยอมจ่ายเหมือนกัน แต่ยอมจ่ายตังตีหม้อ

ยิ่งภาคผมนี่ยิ่งหนักจ่ายสินสอดไปโดนยึดแถมต้องส่งตังให้พ่อแม่เมียใช้ทุกเดือนอีกผมก็สงสัยอยู่ว่าทำไมเค้าแต่งกัน

หลายๆคนก็ดูฉลาดด้วยนะตอนทำงานไม่น่าคิดสั้นแบบนั้น

อย่าไปจีบกับพวกมีหน้ามีตาในสังคม เรียกเอาหน้ากันทั้งนั้น

เราตัวคนเดียว ไม่แคร์โลก ไม่แคร์ประเพณีได้ครับ ไม่มีปัญหา

แต่ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่เค้าแคร์ และคนส่วนใหญ่ที่ว่าคือ พ่อแม่เรา พ่อแม่แฟน ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย

รู้สึกเสียเปรียบครับ ทำไมผู้ชายจ่าย ทำไมผู้หญิงไม่ต้องจ่าย

ผมยอมจ่าย
ถ้าคืนหมดหรือคืนเกิน 80-90 เปิด

หรือสักแสน ถ้าหายไปเลย
พอทำใจ
มากกว่านั้น

เลิกแล้วอยู่คนเดียวดีกว่า
ไม่อยากแต่งงานกับคนที่ทีพ่อแม่
หาเงินจากลูกเขย

บอกตรงๆ นะมันอยู่ที่ความคิดคน

ถ้าคนที่ไม่คิด ไม่ศรัทธาในเรื่องสินสอดแต่แรก แล้วไม่ได้มีเงินแก้ปัญหา ให้ตายเค้าก็ไม่จ่าย

ถ้าเป็นคนมีตังถูกใจ เท่าไหร่ก็เอาไป แค่นั้นแหละ

ไม่เกี่ยวกับอะไรเลย จะเรียกมากเรียกน้อย คนไม่จ่ายก็คือตูไม่จ่าย บางทีเค้าอาจมีเป็นร้อยล้าน แต่เค้าไม่ชอบเค้าก็ไม่จ่าย ถามว่ารักไหม รัก แต่ตูจะไม่ซื้อแม่ของลูก นั่นคือเหตุผลเค้า

สินสอดในที่นี้ของผมคือ ให้แล้วหายไปเลยนะ ไม่ใช่แค่เอามาวาง

ส่วนตัวเอาเงินมาวางเรียกเป็นพร็อพ แบบนี้อยากได้เท่าไหร่ก็เอามาวางเถอะ จบงาน คืนเงิน แยกย้าย

สำหรับผมถ้าจะให้จ่ายสินสอด ผมคิดว่า ตัดคอผมอาจจะง่ายกว่าก็ได้

ก็อยากแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้อะ ไม่ได้มองเรื่องซิงอะไรขนาดนั้น ไม่ได้ซื้อจิ๋ม แต่เป็นมูลค่าของผู้หญิงดีๆคนนึงที่อยากได้มาเป็นเพื่อนคู่คิด มาเป็นที่ปรึกษา มาเป็นเพื่อนสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง มาเป็นคนที่จะช่วยกันเก็บเงิน คนที่ช่วยเชียร์อัพวันแย่ๆ คนที่คอยปลอบวันเศร้าๆ คนที่อยู่ข้างๆกัน แชร์โมเมนต์ดีๆด้วยกัน คนที่ไว้ใจได้ที่สุด คนที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่ คนดูเเลกันตอนไม่สบาย และก็เป็นคนที่เราอยากดูแลเค้า อยากอยู่ในชีวิตของเค้าไปตลอดเหมือนกัน

ชีวิตคู่มีอะไรมากกว่าการเอากัน จริงๆชีวิตก็มีอะไรมากกว่าเอากันด้วย
สินสอดก็แค่เงื่อนไขจากฝั่งเค้าที่ตั้งมา แล้วเราก็เอามาชั่งดูว่าเงินจำนวนนั้นมันคุ้มกับการที่ได้ผู้หญิงคนนี้มั้ย ถ้าคุ้มก็ยอมทำตามเงื่อนไข ถ้าไม่คุ้มก็ไม่ทำตามก็ถอนตัวออกมา มันก็แค่นั้น

นี่คือความหมายของสินสอดในพ.ศ.นี้ของผมนะ ไม่ใช่แบบอดีตแบบค่าน้ำนมอะไรนั่น บริบทสังคม-ยุคสมัยมันเปลี่ยน จะเอานิยามแบบนั้นมาเถียงกันมาดูถูกคนที่ยอมจ่ายมันก็ไม่เมคเซนส์ จะมาบอกว่าฝรั่งไม่เห็นมีอะไรก็ไม่ได้ ในเมื่อจะแต่งกับคนไทยอะ ก็เลือกบริบทนี้อะ

ไอ้กินช้าจ่ายรอบวงทำไมต้องมาจ่ายแทนคนอื่นที่เคยเอาด้วย ถ้าคิดแบบนี้ก็แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีแค่จิ๋ม และเลือกเมียจากแค่จิ๋ม ไม่ได้เลือกเพราะอย่างอื่น ก็ไม่ผิด แต่ถ้าจะใช้เงื่อนไขนี้เป็นเกณฑ์ แนะนำให้ตกเขียวครับ

ผมเห็นด้วยกับจขกทนะ คือมันไม่เมคเซนส์อ่ะ ผชคนอื่นคบแฟนเรามาฟรี ไม่ต้องเสียแต่เราเป็นคนสุดท้ายเลยต้องเสียแบบนี้หรอ

คือมันไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผชเป็นฝ่ายทำงานคนเดียวเสาหลักครอบครัวต้องเลี้ยงดูผญให้ได้ แล้วผญก็จะเก็บซิงไว้ให้ผชจนกว่าจะแต่งงาน แบบนั้นพอเข้าใจอยู่ แต่สังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนไปคนละเรื่องเลย ประเพณีทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนให้เข้ายุคสมัย ไม่ไช่ทำๆตามไปแบบไม่ตั้งคำถามอะไรเลย