e-commerce ลงมาทำขนส่งเอง

แล้วตัวเองมีแค่ขนส่งเอาอะไรไปสู้

แพ้ flash ไปเรียบร้อย ต่างจังหวัด จะส่งเคอรี่คิดเกือบร้อย แฟลชไม่สิบบาท แถมคิดราคาตามขนาดกล่อง ชิ้นเล็กๆ ใครจะอยากใช้

จำได้แม่งเรื่องเยอะ เหมือนประมาณตัวเองไม่ง้อใคร เข้าหุ้นก่อนใคร เมื่อก่อนจะส่งของต้องห่อกล่อง แรปบับเบิ้ลข้างนอกก็ไม่ได้ เอากล่องต่อกันเป็นขนาดเดียวกันก้ไม่ได้ เจอเจ้าอื่นทำได้ผมย้ายเลย ปล่อยให้ทำไม่ได้แม่งตายไปซะ

ปณ เดี๋ยวนี้ก็ไวมากละด้วยนะผมว่า ผมสั่งของจากน่านมากทมเป็น ems เข้ารับของวันจันทร์ อังคารผมได้ละ แต่ไม่รู้โปรเซสฝั่งคนส่งว่าสะดวกแค่ไหน

EMS ถูกกว่าหรือเปล่าไม่ได้ส่ง Kerry นานละครับ เนื่องจากสินค้าที่ส่งยาวเกินเลยคิดแพงไปมาก

เทียบกับไปรษณีย์ไทยเกือบครึ่ง อันนี้ผมเทียบก่อนโควิดนะ ราคาปัจจุบันคงเป็นส่วนสำคัญ

อีกอย่างสาขามักเปลี่ยนบ่อยด้วยครับ ตรงไหนยอดไม่ดีปิด พอจะไปส่งก็ไม่มีให้ส่งด้วย

ขนส่งช่วงแรก ดัมพ์ราคาสู้กัน คล้ายๆ พวกเดลิเวรี่ จนตอนนี้ก็เหลือผู้อยู่รอดไม่กี่ราย

อีกไม่เกิน 4-5 ปี ค่ายรถยนต์จากจีนที่แห่กันเข้ามาเหมือนกัน อาจจะได้เห็นอะไรชัดๆ ขึ้นอีกเยอะ

IPO 28 บาท ซึื้อคืน 1.5 บาท อิ่มอร่อยเลย

เอาที่เคยใช้บริการนะ
- ช่วงแรกจุดเด่นที่ตี ปณ.ไทย ช่วงโควิดจนทรุดไปพักนึง คือ เรื่องราคา แต่ทำไปทำมากลายเป็นสุดท้ายค่าส่งแพงกว่าทุกเจ้าเฉย
- กดเงินพนักงานต่ำเกินจนคนลาออกกันรัวๆ
- เลยส่งผลให้บริการไม่ค่อยดี ส่งของไม่ทัน/เคยมีข่าวของหาย คนต้องไปคุ้ยหาของที่ศูนย์กระจายสินค้ากันเอง คนเลยหนีไปเจ้าอื่นกันหมด
- shopee ที่เมื่อก่อนโยนงานให้ตลอด ไปทำขนส่ง spx เอง ทำให้งานส่วนนี้หายหมดรายได้ยุบลงไปเยอะ
- เหมือนไม่มีงบมาสู้เรื่องราคาแล้ว เลยกดราคาได้ไม่ลง แพงกว่าทุกเจ้า + ปณ.ไทย strike back อยู่ๆก็กลับมาบริการดีค่าส่งไม่แพงเฉย ทั้งที่ตอน kerry มาใหม่ๆมีแต่คนบ่นว่า ปณ.ไทยห่วยแตกมาก

รวมๆแล้วเลยจะเจ๊งก็ไม่แปลก

แพงแบบปัญญาอ่อน คนส่งอะมันให้โอกาศกัน ครั้งสองครั้งแค่นั้นละ ถ้ามันเห็นแพงเว่อมันก็หนีแล้ว

อย่างผมเคยส่งกรอบรูปขนาด size 20 x 30 นิ้ว ปรกติผมสงไปรณ๊นะ ประมาณ 150 - 190 บาทไม่เกินนี้

ตอนนั้นผมลองเคอรี่คิดผม 350 คำถามคือผมจะใช้งานแม่งทำไมถ้ามันแพงกว่าชาวบ้านเขาอะ

สมัยก่อนจุดเด่นของมันจริง ๆ คือ มันโทร แค่นั้น ไปรณีไทยสมัยก่อน EMS ถ้าเรียกไม่มีคนรับมันจะเอาของคืนเลย ไม่สะดวกสบาย แต่เคอรี่คือติดไง

ลงทุนช่วงแรก ดั๊มพ์ราคาให้ติดตลาด
เอาเข้า ipo ได้แล้วถอนทุนคืนจากเม่า

อีคอมเมิสเจ้าใหญ่ดันลงมาทำเองด้วยอ่ะตัดยอดไปเยอะเลย ใหนจะคู่แข่งมาใหม่รัวๆอีก

ความเห็นส่วนตัว จากที่อ่านๆมา จากหลายเว็บ หลายความเห็น

โมเดล สู้ไม่ได้ครับ

โมเดลผมมองว่าสู้ได้สบายมากครับ แต่ติดเรื่องStrategy&execution

ปณ. พร้อมสุด ข้อจำกัดการขนส่งน้อย(ส่งได้ตั้งแต่จม. ยันรถมอไซด์)
อืดสุดแต่ก็อึดเหมือนกัน
ผมว่าต้นทุนที่เค้าดำเนินการจะได้เปรียบในระยะยาว

ปณ เค้าสายป่านยาวสุดเเละอึดสุดใช่ครับ เค้าเป็นเจ้าเเรกๆที่ครอบคลุมทุกตารางเมตรในไทยจริงๆ
ซึ่งมันมาพร้อมกับCAPEX&OPEXที่สูงจากนั้นDepreciation&Amoritizaiton เข้ามาช่วยในเเง่บัญชี
ทีนี้พอลงinfraเค้าพร้อมเค้าก็สู้ได้ อีกเเง่ที่เค้ายืนได้นานกว่าKerryคือ เค้าเจ็บมาจากพวกลงทุนขยายพื้นที่มานานเเล้ว นับหลายสิบปี เหมือนลงทุนไปพันล้านเมื่อสิบปีที่เเล้ว กับลงทุนไปพันล้านเมื่อเเค่ห้าปีที่เเล้ว
ทีมบริหารมีความก้นร้อนต่างกัน shareholderก็มีความกังวลต่างกันเมื่อเทียบกับทั้งสองเจ้า
เรื่องระยะยาวจะได้เปรียบไหม อันนี้อยู่ที่การจัดการด้าน operation efficiency & service quality

เคอรี่ คล่องตัว ทันสมัย จัดการต้นทุนได้ดีและรวดเร็ว
แต่ผมว่าเค้าโตไวไป พอตลาดหด แบกค่าใช้จ่ายและต้นทุนไม่ไหวครับ
(หลังโควิดนี่หดไปเกือบ 1/3 เลยนะครับ ยังไงก็แย่)

คล่องตัวอะใช่ครับ เเต่จัดการต้นทุนได้ดีนี่ไม่ใช่ละ Cost per parcelของเคอรี่ไม่ใช่ถูกเเละไม่ใช่ดี
ขยายcapital อัดเงิน แต่ไม่ลดส่วนเกินให้ดี ก็เละ
ในเคสเคอรี่ผมไม่ได้มองว่าโตไวไป แต่คาดว่าจะโตไว ลงทุนตามตัวเลขคาดการ์ณ จนไม่สามารถถอยหลังหรือแปรสภาพได้ risk management เเย่กว่าบริษัทคู่เเข่ง เพราะเค้าเน้นลงcapital เพื่อขยายให้ครอบคลุม ไม่เหมือนการจ้างคนที่จัดได้ไวกว่า ผลกระทบทางบัญชีน้อยกว่า
เเบกค่าใช้จ่ายเเละต้นทุน ก็เเปรผันตรงกับ cost per parcel ซึ่งอันนี้จะดีได้ก็ต่อเมื่อ มี operation efficiency & economy of scale ซึ่งตอนเเรกเคอรี่มีสเกล เเต่OEไม่สามารถทำได้เเล้วพองานหายที่นี้ยาวเลย


อีกคู่แข่งที่ เข้ามาพังธุรกิจนี้ ผมว่าก็คือตัวลูก Platform E-Com เองทั้งหลาย
เพราะเค้าไม่ได้แข่งขันในธุรกิจที่ใช้ต้นทุนการขนส่งจริงๆ


SPX & LEX ใช้ต้นทุนมาเเข่งขันครับ platform เอาเรทการ์ดทุกเจ้ามาเทียบเพื่อเเจกจ่ายงาน ถ้าSPX & LEX ทำราคาที่ดีกว่าหรือเทียบเท่าเจ้าอื่นไม่ได้ ก็ไม่ได้งานครับ ให้มองว่า SPX & LEX ก็คือบริษัทที่เหมือนเคอรี่เเหละครับ สมมุติกล่อง 1 KG > SPX 200 THB , KEX 180 THB ทางเเพลทฟอร์มก็ส่งงานไซส์นี้ให้KEX



แพลทฟอร์มสามารถถัว ค่าส่ง ค่าคอมสินค้า ค่าวางของ โปร ฯ หรือเลือกออร์เดอร์ที่ส่งกำไรที่สุดไปเองได้

พวกส่งฟรี subsidized by platform จากนั้นplatformจ่ายค่าขนส่งให้บริษัทที่ส่งงานให้ครับ ตามrate cardที่ตกลง
ส่วนการเลือกออเดอร์ที่กำไรสุดก็คือตามrate cardครับ platformได้ราคาจากเจ้าไหนน้อยสุดก็เจ้านั้น ส่วนขนส่งก็มีหน้าที่ทำเรื่องถัวต้นทุนภายในกับทุกชิ้นเเละoperation efficiency

ก็ไปรษณีย์ไทยก่อนมีเคอร์รี่โคตรขี้กาก
ส่งช้า ส่งแพง ส่งผิด โยนของพัสดุแตกหัก ของหาย แล้วถ้ามาส่งไม่มีคนรับต้องขับรถไปไปรษณีย์เพื่อรับของเอง

พอมีเคอร์รี่ ก็เรียบร้อย รายได้หดเกลี้ยง เพราะที่ไหนมีเคอรรี่ มันไม่ใครเข้าไปรษณีย์ไทยแน่นอน
ก็ปรับตัว ได้ขึ้นมา มันเลยเพิ่งมาดี 3-4ปีนี้

ส่วนจะเจ๊งก็ไม่แปลก เพราะเจ้าอื่นดีกว่า / ถูกกว่า ไม่ได้กินรวบเหมือนตอนแรก

ค่าส่งแพงเกินครับ เคยถามแม่ค้าหรือเพื่อนที่ขายของกันว่า ทำไมไปใช้ flash บอกค่าส่งต่างกันเป็นครึ่ง ถ้าส่งของเคอร์ก็ต้องบวกค่าส่งแพงไปอีก ย้ายค่ายง่ายกว่า

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ ครับ
ตอนแรกผมคิดว่า Kerry แย่เพราะเสียเรื่อง Economic of scale ไปจากการที่ตลาดหดตัว
เพิ่งทราบเหมือนกันครับว่า Cost per parcle หรือต้นทุนการขนส่ง ก็มากกว่าคู่แข่งอยู่แล้วด้วย