พูดในแง่ประวัติศาสตร์นะ ศาสนาอิสลามกับสงครามเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร แล้วก็เผยแผ่ออกไปด้วยสงครามเป็นหลัก

ในยุคที่พวกมองโกลเริ่มรุกรานเอเชียกลางแล้วรับศาสนาอิสลามเข้ามาในราชสำนักมันเหมือนเป็น breakthrough ครั้งใหญ่ของศาสนาอิสลามเพราะพวกมองโกลมีแสนยานุภาพทางทหารที่สูงมาก จากกองทัพติดอาวุธแบบปกติกลายเป็นกองทัพศาสนา คนนับถือศาสนาอื่นถือเป็นพวกนอกรีตหมดผู้นำสูงสุดเรียกตัวเองเป็นดาบแห่งอิสลามมีความชอบธรรมในการกำจัดพวกนอกรีต วิธีคิดเขาเป็นแบบนั้น

เราจะเห็นว่าโมเดลการใช้ศาสนานำการเมืองมันไม่ใช่เพิ่งจะมีในยุคหลังมันมีมาตั้งนานแล้วเพราะศาสนามันเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองมาตั้งแต่ต้นศาสนามันหยิบจับมาใช้ประโยชน์ง่ายในทางการเมืองเพราะมันเป็นเรื่องความเชื่อเป็นหลัก

ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้มันจะง่ายขึ้นมากถ้าผู้นำทางศาสนาผู้นําทางจิตวิญญาณเขาให้ความร่วมมือเพราะเขามีอำนาจตีความศาสนา และในส่วนการเมืองมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ก็คุยกันให้จบแบ่งกันให้ลงตัวยังไงก็จบ ส่วนเพื่อนบ้างข้างล่างกับเศรษฐีน้ำมันแถวๆตะวันออกกลางที่คอยส่งกำลังบำรุงเราก็ไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องแบบสมัยก่อนที่เราไปคุยกับจีนเรื่องผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ให้จีนเลิกส่งเงินส่งอาวุธได้แล้ว

ผมก็เห็นคนแต่งงานแต่ไม่ต้องเข้าศาสนาก็เข้ากันได้นะ แต่ส่วนใหญ่คนนับถือศาสนาอิสลามจะมีพ่อแม่ที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามตั้งแต่กำเนิดการแต่งงานเลยไม่เคร่ง แต่หลักปฏิบัติเลยไม่ได้ทำเท่าไหร่เมื่อเข้าบ้าน ผมว่ามันปรับกันได้ละ ต้องวางหลักปฏิบัติศาสนาไปบ้างละ

ก็เหมือนคนนับถือศาสนาพุทธละ จะไปบังคับให้ไม่ดื่มเหล้าวันพระพุทธศาสนาทำไม บังคับเข้าค่ายปฏิบัติธรรมทำไม ถ้าคนนั้นนับถืออิสลามไม่ยุ่งหรอ นับถือคริสต์ไม่ยุ่งหรอ

เวลาไปโบสถ์คริตส์ ทำไมต้องเดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน สำหรับคนพุทธ ไม่มีศานา เขาให้ทำนะ แต่อิสลามไม่ให้ทำเลย ผมก็ลองมองว่า ถ้าไปวัดพุทธ คนนับถือคริสต์ อิสลาม ก็ไม่ทำตามกันหรอก แล้วแบบไหนมันจะลงตัวละ

หลักปฏิบัติจะทำก็ทำไป แต่ต้องไม่ให้คนอื่นปรับตัวเข้าหาหลักปฏิบัติศาสนาตัวเอง ยกเว้นว่าจะเข้าเขตใกล้พื้นที่มัสยิด สุเหร่า อันนี้คนศาสนาอื่นหรือไม่นับถือศาสนาก็ต้องให้พื้นที่คนนับถือศาสนานั้นด้วยละครับ หรือไม่ทานหมูก็ไม่ควรยัดเหยียดให้ทานแม้จะนอกพื้นที่ มัสยิด สุเหร่า ก็ตาม จะใช้หลักปฏิบัติขั้นสูงก็ต้องใช้ในพื้นที่ประกอบทางศาสนาละครับ

คนไม่นับถือศาสนา ก็ต้องมีพื้นที่ให้เขาเหมือนกันครับ แต่คนไม่นับถือศาสนาหรือไม่มีศาสนา ก็ต้องให้เกียรติคนนับถือศาสนานั้นๆด้วย

ในมุมมองผม อาจจะมองว่า หลักศาสนา ไม่จำเป็นต้องทำตามทุกข้อ ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางที่ตกศาสนา ตามความเชื่อคนนับถือนั้น

https://www.soccersuck.com/boards/topic/2564709

เขียนด้วยคำของตัวเองหน่อยสิครับ ผมจะได้เข้าใจว่า ส่วนที่บอกว่าอยากให้ทำเหมือนจีนคือทั้งหมดไหม หรือส่วนไหนบ้าง

1.แยกคนที่ต่อต้าน ออกจากคนที่ไม่ต่อต้าน

2.คนต่อต้านธรรมดาจับเข้าค่ายเปลี่ยนทัศนคติ พวกหัวรุนแรงจัดการขั้นเด็ดขาด

3.โยกย้ายประชากร ออกนโยบายดึงดูดคนนอกพื้นที่มาทำงาน(ในตำแหน่งเดียวกันได้เงินเดือนสูงกว่ารัฐอื่นในประเทศ)
และคนอุยกร์ถ้าไปทำงานในรัฐอื่น ก็จะได้เงินเดือนสูงกว่าทำในพื้นที่เหมือนกัน

4.เลิกโรงเรียนสอนศาสนา นร.ทุกคนต้องเข้าระบบเรียนปกติเหมือนที่อื่นๆในประเทศ

5.ลบล้างอิทธิพลอาหรับ หลักคำสอนมีคณะตรวจสอบว่าไม่มีการบิดเบือน

ผมอยากให้ท่านหนมปังขึ้นรามาเขียนเองมากกว่าครับ จะได้เข้าใจว่าที่เขาอยากให้ไทยเอาอย่างจีนคืออะไรบ้าง

ถูกแน่นอนงบลงไปทำอะไรอยากรู้ แต่ปัญหาศาสนาถ้าบอกไม่ใช่ปัญหาโยนไปที่งบเพื่อปัดปัญหาออก มันไม่ใช่อะ ถ้าไม่อยากให้งบลง คนในพื้นที่บางคนก็อย่าไปเล่นเกมส์ตาม กลุ่มก่อปัญหาก็อย่าเอาศาสนาในการสร้างเงื่อนไขสิ ในการพัฒนาพื้นที่ไม่ช่วยแก้ปัญหาการก่อปัญหา มีแค่จีนกับรัสเซียทำได้คือ ปูพรมถล่มให้ราบคาบ แล้วค่อยพัฒนาพื้นที่ ถ้าพัฒนาพื้นที่ไปพร้อมกับปัญหาไม่หาย ก็จะเป็นแบบฟิลิปปินส์

ประเทศไทยไม่ได้เจอปัญหาแบบนี้ประเทศเดียวนะ จีน รัสเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า อินเดีย ศรีลังกา ก็เจอ ยังไม่รวมทั้งในตะวันออกกลางอีกนะ นับถือศาสนาเดียวกันยังตีกันเองอีก ในมาเลเซีย ระดับการเมืองยังมีเลย

บางครั้งต้องกล้าตั้งคำถามวิจารย์ศาสนาอื่น หรือศาสนาตัวเองแล้วละ ว่ามันมีปัญหาอะไร ด้วยการวางตัวเองออกจากศาสนานั้นก่อน

วันพระพุทธศาสนา จะไม่ให้ขายแอลกฮอล์ทำไม ทั้งๆที่ปีหนึ่งไม่ถึง 10 วัน ก็ไม่ควรละ ถึงแม้แอลกฮอล์จะมีข้อเสียมากมายก็ตาม แม้จะไม่ใช่เนื้อศาสนาห้ามขายแอลกฮอล์ แต่จะใช้วันพระพุทธศาสนาทำไม

ไอ้พวกก่อการร้ายฆ่าคนบริสุทธิ์ ยังไงมันก็คือโจรที่ต้องกำจัดเนอะ ไม่ว่าศาสนาอะไร ก็อยากรู้ว่าทหารเอางบหมดไปกับอะไร ทำไมยังกำจัดไม่ได้ เทคโนโลยีมีเยอะแยะ ผมก็ไม่ใช่ทหารอ่ะน่ะ แต่ผมเชื่อว่าถ้าตั้งใจจริง ๆ ยังไงมันต้องมีกลยุทธ์ที่ต้องกำจัดได้แหละ

อันนี้จริง เด็กอิสลามตามบ้านๆที่บ้านส่งเรียนโรงเรียนนี้หมด แล้วตามนอกเมืองมีเยอะมาก เด็กเดี๋ยวนี้ส่วนมากพูดภาษาไทยไม่ได้ด้วยซ้ำ พูดแต่ภาษายาวีท้องถิ่น

มสล ทุกคนไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย แต่ผู้ก่อการร้ายทุกคนคือ มสล งี้ป่ะคับ

ผมดูมายังไม่เห็นมีวิธีไหนกำจัดได้เลยครับ ถ้าจัดการทีละคนสองคน ให้พัฒนาพื้นที่แต่ยังควบคุมสถานการไม่ได้ก็ไม่เกิดประโยชน์ นอกจากวิธียาแรงแบบ จีน รัสเซีย ศรีลังกา ให้พัฒนาพื้นที่ก็ไม่เกิดประโยชน์ ทั้งๆที่นายทุนอยากจะลงไปใจจะขาดละ

เทคโนโลยีในการใช้กำจัดคืออะไรละครับ ไปที่จีนก็ได้ที่ทันสมัยล้ำสมัยกว่าไทยหลายปี ภูมิประเทศที่กำจัดง่ายกว่าไทย ยังไม่สามารถทำได้เลยครับ ในการฆ่าผู้ก่อเหตุทีละคนไปเรื่อยๆ เพราะคนนี้ตาย คนใหม่ขึ้นมา พ่อแม่คนตายแม้จะไม่ใช่กลุ่มก่อเหตุ แต่ลูกเป็นคนก่อเหตุ ก็โกรธจีนอีก

จีนเลยใช้วิธีรุนแรงไงครับ รุนแรงกว่าตากใบหลายเท่า รุนแรงกว่าอิสราเอลอีก ก็คือล้างชุมชนไปเลย จับญาติ พ่อแม่ผู้ก่อเหตุเอาไว้ ยังจับไว้ยันทุกวันนี้เลย ถล่มราบคาบก็ค่อยพัฒนาพื้นที่ ไปหลบหนีในสุเหร่า มัสยิด โรงพยาบาล จีนก็เล่นเผาทิ้งอะ เพราะปิดสื่อ ปิดชายแดนไม่ให้มีการสนับสนุนจากภัยนอกเข้าจีนได้ ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ตัดน้ำตัดไฟ ตัดสินค้าเข้าพื้นที่ไปยังชาวบ้าน สงสัยคนไหน ก็เข้าคอร์สล้างสมอง เล่นกระทืบถ้าไม่ตาย ก็เอากลัวจีนกว่ากลัวกลุ่มก่อเหตุละครับ จับญาติเป็นตัวประกันเอาไว้ ปิดชายแดนขั้นสูงสุด ฆ่าสายลับต่างชาติ

ในเมื่อตราบใดการพัฒนาพื้นที่ไม่แก้ปัญหา เพราะกลุ่มก่อเหตุมีจุดประสงค์อยู่แล้วว่าต้องการอะไร

แต่ตัวการที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผมคือ คนในพื้นที่บางคน แม้จะไม่ใช่กลุ่มก่อเหตุ แต่ให้การสนับสนุนหลบหนี ถ้าคนในพื้นที่ไม่เล่นกับรัฐด้วย กลุ่มสร้างสถานการณ์ต้องเป็นคนภาครัฐทุกครั้ง เรื่องงบผมก็สงสัย แต่คนในพื้นที่จะก่อเหตุทำไม จะอ้างโทษแต่ภาครัฐอย่างเดียวไม่ได้ละ

ศาสนาชั้นเป็นคนดี

ส่วนอื่นของคอมเม้นต์ท่าน ผมขอไม่ยกมาละกัน เพราะไม่มีอะไรจะแย้ง

แต่รายชื่อประเทศที่ท่านยกมา ปัญหาจริงๆมันง่าย มันขาว-ดำ จนจบง่ายๆแค่ว่า "ให้ปกครองตนเองก็ยังไม่พอใจ" แค่นี้หรอครับ

ผมขอถามง่ายๆ ยกตัวอย่างสั้นๆเลยละกัน

ช่วยบอกหน่อยครับกรณีของอิสราเอล กับกรณีของรัสเซียนี่เหมือนกันยังไงครับจนทำให้ท่านสรุปได้แบบนั้น?

ผมคิดว่าเทคโนโลยีด้านข้อมูลข่าวสารเอามาวิเคราะห์ได้น่ะครับ เพราะพวกนี้มันเป็นกลุ่มก่อการร้าย มันมีแผนการ ทำเป็นกระบรวนการอยู่แล้ว ผมว่าถ้าเอามาวิเคราะห์ดีดี มันน่าจะใช้ความน่าจะเป็นบอกถึงที่ต่อไปที่จะเกิดเหตุได้น่ะ

ส่วนกลุ่มผู้ก่อการร้าย ผมว่าทหารเค้ามีข้อมูลน่ะว่ากลุ่มไหน เช่น BRN และผมว่าเค้าก็น่าจะรู้แหละ ว่ามันเอาปืน เอาอาวุธ เอาเงินมาจากไหน มันก็น่าจะหาทางจัดการตัดท่อน้ำเลี้ยงพวกนี้ออกไปได้น่ะ

และก็ควรทำร่วมมือกับพวกผู้นำในพื้นที่หรือคุยกับผู้นำในจังหวัดที่เป็นที่เคารพของประชาชนพวกนั้นมาน่ะ ให้เป็นคนมาบอกว่าไอ้คนโดนฆ่าไปอ่ะเป็นผู้ก่อการร้าย หลักฐาน 1 2 3 อะไรก็ว่าไป ไม่ได้ตายชะฮีด
และกล้องวงจรปิดหรือกล้องที่ติดกับตัวทหาร ผมไม่แน่ใจว่ามันครอบคลุมมากน้อยแค่ไหนน่ะ ถ้ามีเยอะก็เก็บหลักฐานคนก่อการร้ายได้เยอะแหละ

ความเห็นเฉยๆน่ะฮะ ผมไม่ใช่ทหาร แต่อยากให้เหตุการณ์สงบสักที

.