หรือว่าเปนเพราะเรานับถือเถรวาทพอยึดที่พิธีกรรมกับปัจเจคเเล้วมันเปลี่ยนไปเราเลยหมดศรัทธา ก้อไม่รู้ว่าฝ่ายมหายานมันเสื่อมแบบเราหรือป่าว

ศาสนา มันอิงกับความเชื่อ งมงายด้วยส่วนนึง
ยิ่งเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ พัฒนามันก็เสื่อมไปตามกาลเวลา

แถมคนนี่แหละครับ ปัจจัยหลักเลย คนเรานับถือกับที่ตัวบุคคลสูงมาก
ไม่แปลกที่จะเสื่อมไว ส่วนคนที่นับถือนี่ก็ส่วนนึงเหมือนกัน
บางที่ตัวเองเป็นคน งมงาย ก็ไม่รู้ตัว

คนที่เลื่อมใสจริง ๆ แบบศึกษาละเลื่อมใส หันมานับถือหรือหรือเปลี่ยนศาสนา มีน้อยมาก

ที่มีเพิ่มคือ นับถือตามพ่อแม่แต่เกิดแต่ไม่ได้เลือ่มใส

และนับวันคนยิ่งหมดศรัทธา

คนเรามองที่คนอื่นก่อน มันจะกับหลักธรรมที่พระองค์ทรงสอน คนรู้และเข้าถึงธรรมจริงเค้าไม่มานั่งเถียงกับใคร มันมีแต่เสียกับเสีย พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราทำตัวของเราให้ดีเป็นหลัก
เคยเห็นพระที่ปฏิบัติดียุคก่อน ใช้คำหยาบและมีเถียงจี้คนที่คุยด้วยมั้ยครับ ท่านปฏิบัติได้ เข้าถึง ท่านจะรู้ว่าคนพูดมาเพราะอะไร ท่านผ่านจุดนั้นมาแล้ว พอท่านมองย้อนกลับไปท่านย่อมเป็นชัดกว่าคนที่ยังยืนอยู่ที่นั้นๆ

ศาสนาจะไม่เสื่อมเร็ว ถ้าทุกคนยังปฏิบัติตามธรรมะ เห็นและทำสิ่งที่เป็นคุณกับตัวเองและผู้อื่นครับ เราทำได้ สังคมรอบตัวเราก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง

เพิ่ม ควรแยกพระสงฆ์กับนักบวชออกจากกันครับ
ในแก่นธรรม คนที่บวชเข้าไปนั่งเหลืองห่มเหลืองคือนักบวช
ส่วนคนที่ปฏิบัติเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน บรรลุธรรมขึ้นต้น คือโสดาบัน ไม่ว่าจะเป็นสงฆ์หรือฆราวาส เค้าเรียกว่าพระครับ พระโสดาบัน คือมนุษย์ชั้นดี ไม่ได้หลุดพ้นอะไร มาก ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ไม่ละเมิดศีล5 รู้ว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปเป็นของธรรมดา มีอารมณ์เกิดขึ้นปกติ แต่ตั้งอยู่ไม่นานก็ปล่อยวางเรื่องนั้นๆออกไปจากใจได้ ทั้งโลภ โกรธ หลง

ทุกวันนี้ผมก็แทบจะไม่นับถือศาสนาพุทธแล้ว

แต่ก็เข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญได้ปกติ วันสำคัญก็คิดว่าเป็นประเพณี

ทำบุญก็เน้นทำกับสัตว์จรจัดซะมากกว่าจะทำกับวัด

เรียกว่า ทุกศาสนาเสื่อมลงหมดก็ว่าได้นะครับ แต่ก็ไม่แปลกเพราะเหตุ ปัจจัย มันมาแบบนี้
แต่ความรู้สึกเหมือน ยุคนี้มีการคัดกรองมากขึ้น

คนที่ใช่จะเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น ศรัทธามากขึ้น

คนที่ไม่ใช่จะยิ่งถอยห่างมากขึ้น หรือไม่ก็งมงายมากขึ้น

(แต่พวกนี้พอผิดหวังซ้ำๆ ก็จะเริ่มเข้าใจมากขึ้นเอง ก็อยู่ที่จะเปลี่ยนศาสนา หรือถอยห่าง หรือเข้าใกล้ยิ่งขึ้น)


ศาสนา ก็คือองค์กรที่มีมนุษย์ดูแลปกครอง แม้จะระเบียบปฏิบัติอย่างดี แต่มนุษย์ก็คือมนุษย์

ผ่านกาลเวลามาได้นานขนาดนี้ ก็เป็นกรณีศึกษาชั้นเยี่ยมมากๆ แล้วครับ

แต่แก่นของศาสนา ขออย่าให้เสื่อมเลย

เกิดชาติหน้ามีจริงๆ อย่างน้อยก็ยังอยากได้ยินคำสอนของศาสนาอยู่นะครับ โดยเฉพาะศาสนาพุทธ

เอาจริงๆที่เสื่อมๆที่เราเห็นน่ะมันพุทธในไทย แต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของศาสนาพุทธของที่อื่นสิว่ามันย่ำแย่ขนาดนี้มั้ย เพราะว่ากันตามจริงความรุ่งเรืองของแต่ละศาสนาตอนนี้ไม่ได้แพ้ศาสนาอื่น แต่กำลังจะแพ้ "ไม่มีศาสนา"
คือคนหันไปไม่นับถืออะไรเลยเพราะในสายตาของคนศาสนาเริ่มไม่ตอบโจทย์การจัดการความทุกข์แล้ว
แต่ของไทยมันหนักเพราะมันดันถูกทำให้เป็นสถาบันศักดิ์สิทธิ์แตะต้องไม่ได้ แต่เงินสะพัด แค่โกนหัวนุ่งจีวรหัดท่องบทบาลีนิดๆหน่อยๆก็ใช้ได้แล้ว เพราะงั้นอย่าว่าแต่คนที่นับถือเลย ขนาดพระเองยังเริ่มต้นบวชไม่ใช่ด้วยความเลื่อมใสเลย

จริงๆพระก็ส่วนนึง แต่พวกฆราวาสนี่แหล่ะ ไปทำให้พระต่างๆเสียนิสัย ไปประเคนนั่นนู่นนี่ บริจาคนั่นนู่นนี่คิดว่าตัวเองยิ่งบริจาคเยอะจะยิ่งได้ขึ้นสวรรค์ ไปจัดแจงสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกพระเกินปัจจัย4 พวกพระก็เลยเหลิง คิดว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องได้ ที่นี้ก็เกิดเรื่องต่างๆตามข่าว อย่างตำรวจหรือข้าราชการอีกอย่างที่มันเหี้ยมกันทุกวันนี้ก็เพราะมีประชาชนคนเห็นแก่ตัวไปประเคนเงินให้พวกมันจนพวกมันคิดว่าเป็นสิ่งที่พวกมันต้องได้ไปแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว สังคมเป็นแบบไหน มันก็มาจากผู้คนในสังคมนั้นแหล่ะ

ดูข่าวพระเสพยา พระมีลูกเมีย พระฟาร์มเงินไว้ตั้งตัว แล้วบทลงโทษเวลาเป็นข่าวดังคือสึกแล้วจบ ใครมันจะกลัวเหมือนชี้ช่องให้คนแนวๆนี้มาบวชกันมากขึ้น พอพระสงฆ์มันมีแต่คนแนวนี้ศาสนาจะเสื่อมก็ไม่แปลก นี่ยังไม่นับพวกนุ่งขาวห่มขาวที่เหมือนจะดูดีแต่ใครใกล้ชิดจะรู้เลยว่าปากจัดโคตรๆสวนทางกับแก่นศาสนามาก

บทธรรมคำสอน พวกนี้ผมว่ายังยึดถือได้ แต่สมมุติสงฆ์นี่คนนับถือน่าจะลดลงมาก

ผมชอบกาก้า นับถือคริสต์ ตามกาก้าแล้วครับ ใช้ชีวิตสนุกมากขึ้นไม่มีกฎระเบียบไปโบสถ์ถวายเท่าที่มี 10-20 บาท หรือบางทีก็ไม่เลยเค้าไม่บังคับไม่กดดัน มีร้องเพลงเต้นสนุกด้วยฟังเทศน์ก็สบายๆ ชิวๆ เพื่อนๆ ชาวคริสต์ก็อบอุ่น ชวนไปเที่ยวไปไหนรู้สึกเหมือนครอบครัวเลยครับ ผมติดใจไม่กลับไปทางพุทธละครับ

จริงๆตัวศาสนาพุทธเอง มีหลักคำสอนที่ดีมากนะครับ จากที่ผมศึกษาศาสนาแต่ละศาสนามา
คือพูดง่ายๆว่า เอาไปปฏิบัติในชีวิตจริง ได้เม๊กเซ๊นที่สุด ถ้ายึดหลักคำสอนจริงๆ
แต่ถามว่า จะเสื่อมมั้ย อนาคตไม่แน่ครับ เพราะเด็ก Gen ใหม่ๆ เริ่มจะไม่ได้สนใจกันแล้ว
ทุกๆอย่างเสื่อมไปตามกาลเวลาครับ เหมือนหลักคำสอนในศาสนาพุทธล่ะครับ อนัจจัง ทุกขัง อนัตตา

ผมละโคตรเบื่อพ่อผมชอบบังคับไปทำบุญทุกอาทิตย์ผมไม่ไปก็บ่นก็็ด่างงจริงๆนี่กุผิดขนาดนั้นหรอวะเนี้ย

ทุกวันนี้ผมเลิกเข้าวัดแล้ว จากแต่ก่อนเข้าทุกวันพระและวันสำคัญ

คนที่บอกว่าเลิกไหว้พระ เลิกทำบุญ เดาว่าปกติก็ไม่ทำอยู่แล้ว แค่เอาเหตุความเสื่อมของคนห่มเหลืองทำตัวคล้ายๆ พระมาเป็นเหตุผลสนับสนุน

ส่วนคนที่นับถือพระพุทธเจ้า-หลักธรรม เค้าก็ไม่ได้สนใจตัวคนห่มเหลืองอยู่แล้ว พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีมีเยอะแยะ

วัดที่ไม่สร้างเรื่องเสื่อมเสียมีมากมาย สวนโมกข์ก็หนึ่ง ท่านพุทธทาสไม่เคยสร้างเหรียญ ไม่สร้างพระ ไม่มีวัตถุมงคล ไม่สร้างวัด ไม่สร้างโบสถ์ พระไม่รับงานสวด วัดไม่รับบวช

อย่างเดียวที่มีคือ หนังสือกับเทปการเทศน์ของท่านพุทธทาส

ของพวกนี้เข้าถึงง่าย แต่ทำตามยาก