BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2024
ตอบ: 145
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 14:41
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
RamosComeback พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
Iamnumber10 พิมพ์ว่า:
37 ยังเข้าราชการได้อยู่ไหมครับ  


ได้ครับ คุ้นๆว่าไม่เกิน60 ได้บำนาญด้วย  
ไม่ได้จ้า เข้าได้ แต่อายุงานไม่ครบ 25 ปีไม่มีบำนาญจ้า ต้องเข้าก่อน 35  


ได้ครับ เงื่อนไขการได้บำนาญมีหลายเงื่อนไข
1.อายุราชการเกิน35 ปี
2.มีอายุราชการ10ปี แล้วเกษียณหรือไม่ก็ออกจากราชการด้วยเหตุชรา (ออกจากราชการด้วยเหตุชราต้องอายุ50ปีขึ้นไป) นั่นหมายความว่าถ้าคุณรับราชการตอน40 ทำไป10 ปี คุณขอออกจากราชการด้วยเหตุชราคุณก็ได้บำนาญหรือไม่รับราชการตอน 50 ทำจนเกษียณอายุ60 คุณก็ได้บำนาญเหมือนกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Apr 2015
ตอบ: 2283
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 14:43
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
รับราชการดีมากครับ

ถ้าไม่ขยัน อย่างน้อยๆ ไม่อดตาย

แต่ถ้าขยัน กับได้อยู่หน่วยงานดีๆ ต่อยอดได้สบาย เวลาค่อนข้างเยอะ กับคอนเนคชั่นค่อนข้างดี
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2024
ตอบ: 145
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 14:45
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:

และต่อให้คุณได้เงินมากกว่าราชการ 2 เท่าในอายุเท่ากัน ก็ยังว่าราชการดีกว่าอยู่ดี
 


อันนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงนะครับ ผมจำไม่ได้ละว่าอ่านมาจากไหน แต่เค้าบอกว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบเท่าๆกัน เค้าบอกว่าในฝั่งเอกชน ควรจะต้องหาให้ได้ 1.7x ของฝั่งราชการ ถึงจะคุ้มกว่าเป็นข้าราชการครับ เช่นถ้าราชการได้เงินเดือนสามหมื่น ฝั่งเอกชนควรจะได้ 51k จะเรียกได้ว่าสูสีครับ ไม่ใช่ถึง 2x แบบที่คุณบอกครับ

ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ทำงานเอกชนในเมืองใหญ่แบบกทม.ที่หางานได้ไม่ยากเท่าไหร่ ไอ้อัตราด้านบนที่ผมบอก หาได้ไม่ยากครับ (50k+/-)

อีกส่วนนึงที่คุณไม่ได้มองหรือตั้งคำถามคือระบบงานครับ บางคนมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องความสบายใจในการทำงานมาเกี่ยวด้วยครับ (อย่างนิสัยผมทำงานราชการไม่ได้ เผลอๆเจอให้ออกตั้งแต่วันแรกเลยมั้ง 555)  


ทำไมแค่ 1.7 เท่าคุ้มเหรอครับ ราชการได้ 15 k เอกชน ได้25k แต่อย่าลืมนะครับเอกชนมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีประกันสุขภาพ มีประกันสังคม นี่ยังไม่รวมว่าเอกชนต้องอยู่ กทม หรือพวกนิคมซึ่งค่าครองชีพสูง และต้องเช่าที่พักอีก แต่ราชการอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพถูก ถ้าดวงดีมีที่พักให้ ยิ่งประหยัดไปอีก  


ผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ที่คุณพูดมา คุณก็ต้องเฉลี่ยสำหรับข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่กทม.ด้วยเช่นกันนะครับ พวกนั้นรายได้ก็ไม่สูงแถมยังมีค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพที่แพงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเค้าเลยน่าจะใช้ค่าเฉลี่ยครับ เราต้องไม่มองแค่จากราชการที่อยู่ตจว.อย่างเดียวสิครับ (ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดนิคมก็มีนิครับ)

จากที่ทำงานและลงหน้างานหลายๆที่ ในนิคมบางที่ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงแบบที่คุณบอกครับ กลางวันมีโรงอาหารที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าข้างนอกค่อนข้างมาก (คุณนั่งทำในส่วนออฟฟิศแต่ไปกินตรงโรงอาหาร) หรือบางแห่งก็มีรถรับส่งนะครับ เพื่อนผมสมัยอยู่โรงงานรถยนต์เจ้านึงก็ขึ้นรถตรงเซ็นทรัลบางนา ตอนเย็นก็มีรถมาส่ง หรือแถวสระบุรี มีรถบัสรับส่งถึงพื้นที่อยุธยาด้วยซ้ำครับ ซึ่งนั่นทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางนะครับ หรือเอกชนบางแห่งก็มีที่พักให้พนักงานเช่นกันครับผม ไม่ใช่แค่ราชการที่มีครับ

นั่นคือสาเหตที่เค้าให้ใช้ตัวเลข 1.7x น่ะครับ

ปล. กองทุนสำรองและปกส.หักพนักงาน แต่ประกันสุขภาพไม่หักครับ
 


ประกันสุขภาพไม่หักก้ได้ครับแต่ ถ้าไม่มีเจ็บป่วยมาทำยังไง ไม่มีสวัสดิการแบบข้าราชการ และเรื่องข้าราชการยังไงจำนวนข้าราชการใน กทม กับ นิคม ก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับข้าราชการทั้งหมดอยู่ดีครับ และเอกชน ต้องมีทรัพย์สินเท่าไหร่ ถึงจะได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเทียบเท่าบำนาญข้าราชการ
สมมติว่าข้าราชการ ได้บำนาญ 42 k ต่อเดือน 1 ปี ประมาณ 500k ถ้าทรัพย์สินให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ต้องมีทรัพย์สิน 10ล้าน หรือถ้า10% ต่อปีต้องมี5ล้าน และทรัพย์สินพวกนี้มันจพทำผลตอบแทนให้เราแบบนี้ทุกปีไหมต่างจากเงินบำนาญราชการยังไงก็ได้ทุกเดือน และข้าราชการยังมีสิทธิรักษา แต่เอกชนอายุ60 มีประกันรับทำไหมและเบี้ยเท่าไหร่เบิกได้เท่าไหร่  


เอิ่มมมม นี่คือไม่เคยทำงานเอกชนใช่มั้ยครับ
คือเค้าให้ประกันกลุ่ม/สวัสดิการรักษาครับ แค่ไม่หักจากเงินเดือนคุณครับ
สิทธิประกันสังคมก็มีครับ ที่เค้าหักเดือนละ 750 ครับ

ส่วน PVD คุณรู้ใช่มั้ยครับ ว่ามีฝั่งนายจ้างสบทบด้วยครับ
และรู้จักรประกันบำนาญใช่มั้ยครับ ว่ามันมีให้ซื้อสะสมได้
และเงินเดือนส่วนต่างในแต่ละเดือน มันเอาไปลงทุนต่อได้ใช่มั้ยครับ

ปล.ผมมีทั้งป้าและลุงที่รับราชการ ฉะนั้นผมเข้าใจระบบของข้าราชการดีครับ ป้าผมทุกวันนี้บำนาญเดือนละห้าหมื่นกว่า แต่คุณล่ะครับ มีความเข้าใจต่องานและระบบเงินเดือนของฝากเอกชนมั้ยครับ  


เข้าใจครับ เพื่อนผม น้องผม ทำเอกชน สวัสดิการรักษาของเอกชนนี่เบิกได้แค่ไหนครับถึงล้านไหมครับ และเป็นโรคเรื้อรังทำยังไง อย่างคนที่ทำงานแม่เป็น โรคแพ้ภูมิตัวเอง ใช้ยามุ่งเป้ามาหลายคอร์สแล้วโดนคอร์สนึงเป็นแสนแตว่าเป็นข้าราชการก็เบิกได้ยาวๆไป แต่เอกชนล่ะจะทำยังไง

และประกันบำนาญนี่ได้เท่าไหร่ครับ และส่งเบี้ยเท่าไหร่ ครับ และถ้าเงินมากกว่าราชการแค่ 1.7 เท่า มันจะลงทุนจนมีทรัพย์สินพอจะไปซื้อประกันสุขภาพหลัง60 กับ ทำผลตอบแทนจนเท่าบำนาญ 5 หมื่นกว่าเหรอครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2024
ตอบ: 145
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 14:45
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
The Last Man พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
The Last Man พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
Iamnumber10 พิมพ์ว่า:
37 ยังเข้าราชการได้อยู่ไหมครับ  


ได้ครับ คุ้นๆว่าไม่เกิน60 ได้บำนาญด้วย  


ตอนนี้จำกัดที่ 35 มั้งครับถ้าจำไม่ผิด  


ดูตรงไหนครับว่า35 พอดี เมื่อปีที่แล้ว 38 45 40 ก็มาบรรจุหลายคนนะ  


ตอนผมสอบมีกำหนดว่าไม่ให้เกิน 35 ครับ
แต่เมื่อกี้ไปค้นมาอาจใช้เป็นบรรทัดฐานไม่ได้แฮะ
เหมือนขึ้นอยู่กับหน่วยงานนั้นๆกำหนดไว้
ไม่ได้ตายตัว

 


รัฐวิสาหกิจรึเปล่าครับ หรือเป็นราชการแบบทหารตำรวจ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 659
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 14:50
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
shibadog พิมพ์ว่า:
RamosComeback พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
Iamnumber10 พิมพ์ว่า:
37 ยังเข้าราชการได้อยู่ไหมครับ  


ได้ครับ คุ้นๆว่าไม่เกิน60 ได้บำนาญด้วย  
ไม่ได้จ้า เข้าได้ แต่อายุงานไม่ครบ 25 ปีไม่มีบำนาญจ้า ต้องเข้าก่อน 35  


ได้ครับ เงื่อนไขการได้บำนาญมีหลายเงื่อนไข
1.อายุราชการเกิน35 ปี
2.มีอายุราชการ10ปี แล้วเกษียณหรือไม่ก็ออกจากราชการด้วยเหตุชรา (ออกจากราชการด้วยเหตุชราต้องอายุ50ปีขึ้นไป) นั่นหมายความว่าถ้าคุณรับราชการตอน40 ทำไป10 ปี คุณขอออกจากราชการด้วยเหตุชราคุณก็ได้บำนาญหรือไม่รับราชการตอน 50 ทำจนเกษียณอายุ60 คุณก็ได้บำนาญเหมือนกัน  


1. ถ้าทำงานครบ 25 ปี ลาออกก็จะได้บำนาญเลย
2. ถ้าไม่ครบ 25 ปี แต่ทำงานเกิน 10 ปี แล้วเกษียนก็จะได้บำนาญเช่นกัน สมมุติ เข้า 49 เกษียนก็จะได้อายุงาน 11 ปี แบบนี้ก็จะได้บำนาญเหมือนกัน
3. ที่ทำราชการมันก็ดีอย่างได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวสบายๆ แต่เรื่องเงินก็คงสู้เอกชนไม่ได้ อย่างปีที่ผ่านมามีรายได้ทั้งปีราวๆ 700k มีโบนัส 1.45-1.5 เทียบเอกชนไม่ได้เลย
4. บำนาญลองคิดคร่าวๆ ได้เดือนละ 50k ก็น่าพออยู่รอดได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jul 2009
ตอบ: 11323
ที่อยู่: In The World
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 14:52
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
shibadog พิมพ์ว่า:
The Last Man พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
The Last Man พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
Iamnumber10 พิมพ์ว่า:
37 ยังเข้าราชการได้อยู่ไหมครับ  


ได้ครับ คุ้นๆว่าไม่เกิน60 ได้บำนาญด้วย  


ตอนนี้จำกัดที่ 35 มั้งครับถ้าจำไม่ผิด  


ดูตรงไหนครับว่า35 พอดี เมื่อปีที่แล้ว 38 45 40 ก็มาบรรจุหลายคนนะ  


ตอนผมสอบมีกำหนดว่าไม่ให้เกิน 35 ครับ
แต่เมื่อกี้ไปค้นมาอาจใช้เป็นบรรทัดฐานไม่ได้แฮะ
เหมือนขึ้นอยู่กับหน่วยงานนั้นๆกำหนดไว้
ไม่ได้ตายตัว

 


รัฐวิสาหกิจรึเปล่าครับ หรือเป็นราชการแบบทหารตำรวจ  


ตอนนั้นทั้งรัฐวิสาหกิจ แล้วก็ราชการน่าจะมี พาณิชย์ พลังงาน ทหารวุฒิป.ตรีด้วยมั้งผมสอบไว้เยอะ 555
แต่ผมได้รัฐวิสาหกิจครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2022
ตอบ: 2620
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 14:59
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
มันมีหลายสายอะ

เอาสายที่ผมทำ เอกชนเงินเดือนมากกว่าราชการหลายเท่าครับ
อายุเลข 3 ผมว่ามีมากกว่า 3-4 เท่า

ไปรับราชการเงินเดือนหมื่นกลาง สองหมื่น กว่าจะโตถึง 3 หมื่น

คนอื่นไปหลักแสนแล้ว

คือคนแม่มไปโฟกัสแต่ค่ารักษาพยาบาล คือมันก็ไม่ได้ป่วยทุกคนไงครับ

แต่บ้านรถกินอยู่มันต้องใช้ทุกคน จะให้ไปได้เงินน้อยๆ รอให้ตัวเองป่วยแล้วคุ้มเพื่อ
แก้ไขล่าสุดโดย เราเป็นใครหรอ เมื่อ Mon Oct 07, 2024 15:01, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Feb 2008
ตอบ: 5942
ที่อยู่: Long Beach, CA
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:00
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
ไม่ดีอาจจะเรื่อง

1. เป็นระบบเส้นสาย บางคนไม่เก่งแต่ได้ทำงาน เพราะมีเส้น
2. พวกหัวๆ ชอบแดกงบ เช่น อย่างเปิดสอบนี่ผมโคตรเกลียด สมมุติเปิดสอบราชการ รับ 5 คน
เผลอๆ อาจจะ Lobby ไว้แล้ว 3 คน แล้วรับคนจากการสอบจริงๆแค่ 2 คน แต่คนสมัครสอบ 500+ คน
ค่าสมัครสอบ 250-300 บาท
3. ชอบดุใส่ลูกค้าที่ไปติดต่อในหน่วยงาน แบบพูดจาไม่ดีก็มีเยอะ


เรื่องดีดีก็
1. เงินเดือนถือว่าดี ถ้าระดับขั้นชำนาญการแล้วทำงานต่างจังหวัด สบายเลย
2. สวัสดิการดี

ผมเคยมีเส้นราชการนะ แต่ผมไม่ทำ อีกเรื่องที่ผมไม่ชอบคือชุดสีกากีด้วย มันดูโบราณ ล้าหลังยังไงก็ไม่รู้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: LFC and Relax moment
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 23978
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:02
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
Spoil

byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:

และต่อให้คุณได้เงินมากกว่าราชการ 2 เท่าในอายุเท่ากัน ก็ยังว่าราชการดีกว่าอยู่ดี
 


อันนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงนะครับ ผมจำไม่ได้ละว่าอ่านมาจากไหน แต่เค้าบอกว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบเท่าๆกัน เค้าบอกว่าในฝั่งเอกชน ควรจะต้องหาให้ได้ 1.7x ของฝั่งราชการ ถึงจะคุ้มกว่าเป็นข้าราชการครับ เช่นถ้าราชการได้เงินเดือนสามหมื่น ฝั่งเอกชนควรจะได้ 51k จะเรียกได้ว่าสูสีครับ ไม่ใช่ถึง 2x แบบที่คุณบอกครับ

ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ทำงานเอกชนในเมืองใหญ่แบบกทม.ที่หางานได้ไม่ยากเท่าไหร่ ไอ้อัตราด้านบนที่ผมบอก หาได้ไม่ยากครับ (50k+/-)

อีกส่วนนึงที่คุณไม่ได้มองหรือตั้งคำถามคือระบบงานครับ บางคนมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องความสบายใจในการทำงานมาเกี่ยวด้วยครับ (อย่างนิสัยผมทำงานราชการไม่ได้ เผลอๆเจอให้ออกตั้งแต่วันแรกเลยมั้ง 555)  


ทำไมแค่ 1.7 เท่าคุ้มเหรอครับ ราชการได้ 15 k เอกชน ได้25k แต่อย่าลืมนะครับเอกชนมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีประกันสุขภาพ มีประกันสังคม นี่ยังไม่รวมว่าเอกชนต้องอยู่ กทม หรือพวกนิคมซึ่งค่าครองชีพสูง และต้องเช่าที่พักอีก แต่ราชการอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพถูก ถ้าดวงดีมีที่พักให้ ยิ่งประหยัดไปอีก  


ผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ที่คุณพูดมา คุณก็ต้องเฉลี่ยสำหรับข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่กทม.ด้วยเช่นกันนะครับ พวกนั้นรายได้ก็ไม่สูงแถมยังมีค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพที่แพงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเค้าเลยน่าจะใช้ค่าเฉลี่ยครับ เราต้องไม่มองแค่จากราชการที่อยู่ตจว.อย่างเดียวสิครับ (ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดนิคมก็มีนิครับ)

จากที่ทำงานและลงหน้างานหลายๆที่ ในนิคมบางที่ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงแบบที่คุณบอกครับ กลางวันมีโรงอาหารที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าข้างนอกค่อนข้างมาก (คุณนั่งทำในส่วนออฟฟิศแต่ไปกินตรงโรงอาหาร) หรือบางแห่งก็มีรถรับส่งนะครับ เพื่อนผมสมัยอยู่โรงงานรถยนต์เจ้านึงก็ขึ้นรถตรงเซ็นทรัลบางนา ตอนเย็นก็มีรถมาส่ง หรือแถวสระบุรี มีรถบัสรับส่งถึงพื้นที่อยุธยาด้วยซ้ำครับ ซึ่งนั่นทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางนะครับ หรือเอกชนบางแห่งก็มีที่พักให้พนักงานเช่นกันครับผม ไม่ใช่แค่ราชการที่มีครับ

นั่นคือสาเหตที่เค้าให้ใช้ตัวเลข 1.7x น่ะครับ

ปล. กองทุนสำรองและปกส.หักพนักงาน แต่ประกันสุขภาพไม่หักครับ
 


ประกันสุขภาพไม่หักก้ได้ครับแต่ ถ้าไม่มีเจ็บป่วยมาทำยังไง ไม่มีสวัสดิการแบบข้าราชการ และเรื่องข้าราชการยังไงจำนวนข้าราชการใน กทม กับ นิคม ก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับข้าราชการทั้งหมดอยู่ดีครับ และเอกชน ต้องมีทรัพย์สินเท่าไหร่ ถึงจะได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเทียบเท่าบำนาญข้าราชการ
สมมติว่าข้าราชการ ได้บำนาญ 42 k ต่อเดือน 1 ปี ประมาณ 500k ถ้าทรัพย์สินให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ต้องมีทรัพย์สิน 10ล้าน หรือถ้า10% ต่อปีต้องมี5ล้าน และทรัพย์สินพวกนี้มันจพทำผลตอบแทนให้เราแบบนี้ทุกปีไหมต่างจากเงินบำนาญราชการยังไงก็ได้ทุกเดือน และข้าราชการยังมีสิทธิรักษา แต่เอกชนอายุ60 มีประกันรับทำไหมและเบี้ยเท่าไหร่เบิกได้เท่าไหร่  


เอิ่มมมม นี่คือไม่เคยทำงานเอกชนใช่มั้ยครับ
คือเค้าให้ประกันกลุ่ม/สวัสดิการรักษาครับ แค่ไม่หักจากเงินเดือนคุณครับ
สิทธิประกันสังคมก็มีครับ ที่เค้าหักเดือนละ 750 ครับ

ส่วน PVD คุณรู้ใช่มั้ยครับ ว่ามีฝั่งนายจ้างสบทบด้วยครับ
และรู้จักรประกันบำนาญใช่มั้ยครับ ว่ามันมีให้ซื้อสะสมได้
และเงินเดือนส่วนต่างในแต่ละเดือน มันเอาไปลงทุนต่อได้ใช่มั้ยครับ

ปล.ผมมีทั้งป้าและลุงที่รับราชการ ฉะนั้นผมเข้าใจระบบของข้าราชการดีครับ ป้าผมทุกวันนี้บำนาญเดือนละห้าหมื่นกว่า แต่คุณล่ะครับ มีความเข้าใจต่องานและระบบเงินเดือนของฝากเอกชนมั้ยครับ  
 

มองแต่เหตุปลายทาง ต้นทางกับระหว่างทางคือแทบทิ้ง เหมือนปิดจุดเด่นของเอกชน แล้วพูดถึงปลายเพื่อโชว์จุดเด่นราช

PVD + โบนัส + อัตราเงินเดือนที่สูงกว่า + ประกันกลุ่ม ถูกหยิบมาพูดถึงแค่ตัวเงินล้วนๆ แล้วชูสวัสดิการพวกค่ารักษาหลัง 60 เป็นหลัก

ถ้าเอกชนมันไม่สามารถแบกรับอะไรตรงนั้นได้เลย คงไม่มีคนทำเอกชนกันหรอก ถ้าชีวิตไม่วางแผนอะไรไว้เลย ทำงานไปวันๆ

ข้าราชการก็ตอบโจทย์ข้อนี้ แต่ถ้าทำงานไป มีการวางแผนไป ส่วนต่างเงินที่ได้ กะอีแค่ Passive Income เดือนละ 40-50K

หลายๆคนได้ตั้งแต่ทำงานอายุ 35-40++ แล้ว ไม่เห็นต้องรอจนถึง 60 เลย แต่ถ้าคุณมองว่าอยากใช้ชีวิตชิลๆ

ไม่ได้เร่งการเติบโตอะไรมาก ทำงานไปเรื่อยๆ ก็ข้าราชการตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าคนเก่งจริงมันก็ไปได้ทั้ง 2 ทาง

บางทีเป็นเรื่องของสายงานด้วย บางทีชูข้าราชการแทบตาย แต่ทำไงได้ ตำแหน่งไม่มี สายงานไม่มี มันก็ทำไม่ได้

สมมติผมจบ ประมง เกษตร ป่าไม้ ผมก็ต้องเข้าข้าราชการ 100% แต่ถ้าผมจบ IT อ่ะ ผมแม่งเป็น Programmer ตัวตึงเลย

เก่งภาษาด้วย อันนี้ผมสามารถหาเงินได้มากกว่าข้าราช ไม่ใช่แค่ 2 เท่าอ่ะ 5-10 เท่ายังได้ ทำงานจากบ้านก็ได้

ทำงานกับองกรค์ต่างชาติก็ได้ แทบไม่มีเหตุผลต้องทำราชการ คนเก่งจริงๆ เงินข้าราชมันไม่ตอบโจทย์หรอก แต่ก็ขึ้นกับสายงานด้วย

เอางี้ พวกหมอตัว Top ของประเทศ พวกนักเรียนทุนทุกวันนี้อยู่ไหนอ่ะ อยู่ไทยมั้ย ?? นู่นนนน อยู่ต่างประเทศนู่นนน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ฝากเพจด้วยครับ : https://www.facebook.com/mrroscn
ชาตินึงอัพทีนึง 55555
ช่อง : Chill by Ros
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2024
ตอบ: 145
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:02
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
The Last Man พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
The Last Man พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
The Last Man พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
Iamnumber10 พิมพ์ว่า:
37 ยังเข้าราชการได้อยู่ไหมครับ  


ได้ครับ คุ้นๆว่าไม่เกิน60 ได้บำนาญด้วย  


ตอนนี้จำกัดที่ 35 มั้งครับถ้าจำไม่ผิด  


ดูตรงไหนครับว่า35 พอดี เมื่อปีที่แล้ว 38 45 40 ก็มาบรรจุหลายคนนะ  


ตอนผมสอบมีกำหนดว่าไม่ให้เกิน 35 ครับ
แต่เมื่อกี้ไปค้นมาอาจใช้เป็นบรรทัดฐานไม่ได้แฮะ
เหมือนขึ้นอยู่กับหน่วยงานนั้นๆกำหนดไว้
ไม่ได้ตายตัว

 


รัฐวิสาหกิจรึเปล่าครับ หรือเป็นราชการแบบทหารตำรวจ  


ตอนนั้นทั้งรัฐวิสาหกิจ แล้วก็ราชการน่าจะมี พาณิชย์ พลังงาน ทหารวุฒิป.ตรีด้วยมั้งผมสอบไว้เยอะ 555
แต่ผมได้รัฐวิสาหกิจครับ  


กพ.มันกำหนดอายุไว้ที่60 ครับ 35 น่าจะรัฐวิสาหกิจ อย่าง กฟผ ที่รับสมัครเมื่อไม่นานมานี้กำหนดอายุไม่เกิน35 ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7321
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:03
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
shibadog พิมพ์ว่า:
Spoil
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:

และต่อให้คุณได้เงินมากกว่าราชการ 2 เท่าในอายุเท่ากัน ก็ยังว่าราชการดีกว่าอยู่ดี
 


อันนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงนะครับ ผมจำไม่ได้ละว่าอ่านมาจากไหน แต่เค้าบอกว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบเท่าๆกัน เค้าบอกว่าในฝั่งเอกชน ควรจะต้องหาให้ได้ 1.7x ของฝั่งราชการ ถึงจะคุ้มกว่าเป็นข้าราชการครับ เช่นถ้าราชการได้เงินเดือนสามหมื่น ฝั่งเอกชนควรจะได้ 51k จะเรียกได้ว่าสูสีครับ ไม่ใช่ถึง 2x แบบที่คุณบอกครับ

ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ทำงานเอกชนในเมืองใหญ่แบบกทม.ที่หางานได้ไม่ยากเท่าไหร่ ไอ้อัตราด้านบนที่ผมบอก หาได้ไม่ยากครับ (50k+/-)

อีกส่วนนึงที่คุณไม่ได้มองหรือตั้งคำถามคือระบบงานครับ บางคนมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องความสบายใจในการทำงานมาเกี่ยวด้วยครับ (อย่างนิสัยผมทำงานราชการไม่ได้ เผลอๆเจอให้ออกตั้งแต่วันแรกเลยมั้ง 555)  


ทำไมแค่ 1.7 เท่าคุ้มเหรอครับ ราชการได้ 15 k เอกชน ได้25k แต่อย่าลืมนะครับเอกชนมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีประกันสุขภาพ มีประกันสังคม นี่ยังไม่รวมว่าเอกชนต้องอยู่ กทม หรือพวกนิคมซึ่งค่าครองชีพสูง และต้องเช่าที่พักอีก แต่ราชการอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพถูก ถ้าดวงดีมีที่พักให้ ยิ่งประหยัดไปอีก  


ผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ที่คุณพูดมา คุณก็ต้องเฉลี่ยสำหรับข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่กทม.ด้วยเช่นกันนะครับ พวกนั้นรายได้ก็ไม่สูงแถมยังมีค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพที่แพงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเค้าเลยน่าจะใช้ค่าเฉลี่ยครับ เราต้องไม่มองแค่จากราชการที่อยู่ตจว.อย่างเดียวสิครับ (ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดนิคมก็มีนิครับ)

จากที่ทำงานและลงหน้างานหลายๆที่ ในนิคมบางที่ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงแบบที่คุณบอกครับ กลางวันมีโรงอาหารที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าข้างนอกค่อนข้างมาก (คุณนั่งทำในส่วนออฟฟิศแต่ไปกินตรงโรงอาหาร) หรือบางแห่งก็มีรถรับส่งนะครับ เพื่อนผมสมัยอยู่โรงงานรถยนต์เจ้านึงก็ขึ้นรถตรงเซ็นทรัลบางนา ตอนเย็นก็มีรถมาส่ง หรือแถวสระบุรี มีรถบัสรับส่งถึงพื้นที่อยุธยาด้วยซ้ำครับ ซึ่งนั่นทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางนะครับ หรือเอกชนบางแห่งก็มีที่พักให้พนักงานเช่นกันครับผม ไม่ใช่แค่ราชการที่มีครับ

นั่นคือสาเหตที่เค้าให้ใช้ตัวเลข 1.7x น่ะครับ

ปล. กองทุนสำรองและปกส.หักพนักงาน แต่ประกันสุขภาพไม่หักครับ
 


ประกันสุขภาพไม่หักก้ได้ครับแต่ ถ้าไม่มีเจ็บป่วยมาทำยังไง ไม่มีสวัสดิการแบบข้าราชการ และเรื่องข้าราชการยังไงจำนวนข้าราชการใน กทม กับ นิคม ก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับข้าราชการทั้งหมดอยู่ดีครับ และเอกชน ต้องมีทรัพย์สินเท่าไหร่ ถึงจะได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเทียบเท่าบำนาญข้าราชการ
สมมติว่าข้าราชการ ได้บำนาญ 42 k ต่อเดือน 1 ปี ประมาณ 500k ถ้าทรัพย์สินให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ต้องมีทรัพย์สิน 10ล้าน หรือถ้า10% ต่อปีต้องมี5ล้าน และทรัพย์สินพวกนี้มันจพทำผลตอบแทนให้เราแบบนี้ทุกปีไหมต่างจากเงินบำนาญราชการยังไงก็ได้ทุกเดือน และข้าราชการยังมีสิทธิรักษา แต่เอกชนอายุ60 มีประกันรับทำไหมและเบี้ยเท่าไหร่เบิกได้เท่าไหร่  


เอิ่มมมม นี่คือไม่เคยทำงานเอกชนใช่มั้ยครับ
คือเค้าให้ประกันกลุ่ม/สวัสดิการรักษาครับ แค่ไม่หักจากเงินเดือนคุณครับ
สิทธิประกันสังคมก็มีครับ ที่เค้าหักเดือนละ 750 ครับ

ส่วน PVD คุณรู้ใช่มั้ยครับ ว่ามีฝั่งนายจ้างสบทบด้วยครับ
และรู้จักรประกันบำนาญใช่มั้ยครับ ว่ามันมีให้ซื้อสะสมได้
และเงินเดือนส่วนต่างในแต่ละเดือน มันเอาไปลงทุนต่อได้ใช่มั้ยครับ

ปล.ผมมีทั้งป้าและลุงที่รับราชการ ฉะนั้นผมเข้าใจระบบของข้าราชการดีครับ ป้าผมทุกวันนี้บำนาญเดือนละห้าหมื่นกว่า แต่คุณล่ะครับ มีความเข้าใจต่องานและระบบเงินเดือนของฝากเอกชนมั้ยครับ  

 

เข้าใจครับ เพื่อนผม น้องผม ทำเอกชน สวัสดิการรักษาของเอกชนนี่เบิกได้แค่ไหนครับถึงล้านไหมครับ และเป็นโรคเรื้อรังทำยังไง อย่างคนที่ทำงานแม่เป็น โรคแพ้ภูมิตัวเอง ใช้ยามุ่งเป้ามาหลายคอร์สแล้วโดนคอร์สนึงเป็นแสนแตว่าเป็นข้าราชการก็เบิกได้ยาวๆไป แต่เอกชนล่ะจะทำยังไง

และประกันบำนาญนี่ได้เท่าไหร่ครับ และส่งเบี้ยเท่าไหร่ ครับ และถ้าเงินมากกว่าราชการแค่ 1.7 เท่า มันจะลงทุนจนมีทรัพย์สินพอจะไปซื้อประกันสุขภาพหลัง60 กับ ทำผลตอบแทนจนเท่าบำนาญ 5 หมื่นกว่าเหรอครับ  


ได้สิครับ ประกันกลุ่ม cover เยอะมากครับ อย่างบริษัทผมเรื้อรังก็รักษากันไป ไม่เกิน 24x ของเงินเดือน (บางที่ได้เยอะกว่านี้ ขึ้นอยู่กับเลเวลของคุณ) หรืออย่างเสียชีวิตก็มีประกันชีวิตด้วยครับ

ประกันบำนาญ ก็จ่ายประมาณ 1.6-1.9x ของเงินต้นครับ ผมส่งปีละ 170k ครับตอนนี้ถ้าเกษียณได้ประมาณปีละ 305k ครับ ส่วนเรื่องเงินเดือน ป้าผมก่อนเกษียณได้ประมาณเดือนละเกือบๆ 9 หมื่น (รวมเบี้ยกันดาร รวมค่าวิทยฐานะ ฯลฯ) ถ้าคิดที่ 1.7x --> เอกชนจะรับอยู่เกือบๆ 155k หาเงินให้เหลือใช้หลังเกษียณเดือนละ 52-53k ผมว่าทำได้นะ แค่ PVD อย่างเดียวถ้าสะสมมาทั้งชีวิต เงินก้อนก็น่าจะมีประมาณ 7.5 ล้านครับ

อันนี้ถ้าหารว่าจะอยู่ถึง 80 = เดือนละ 31k
รวมกับประกันบำนาญที่ซื้อ = 24.5k
==> 55k ต่อเดือน

อันนี้ก็ใช้หลักการคิด 1.7x ของเงินเดือนราชการเลยนะครับ แล้วถ้าคุณคิดว่า โหคนเอกชนจะมีกี่คนได้ 155k/เดือน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าฝั่งราชการมีคนที่ได้ระดับ 9 หมื่นประมาณเท่าไหร่เหมือนกันครับ
แก้ไขล่าสุดโดย byrd.tt เมื่อ Mon Oct 07, 2024 15:05, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: LFC and Relax moment
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 23978
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:05
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
เราเป็นใครหรอ พิมพ์ว่า:
มันมีหลายสายอะ

เอาสายที่ผมทำ เอกชนเงินเดือนมากกว่าราชการหลายเท่าครับ
อายุเลข 3 ผมว่ามีมากกว่า 3-4 เท่า

ไปรับราชการเงินเดือนหมื่นกลาง สองหมื่น กว่าจะโตถึง 3 หมื่น

คนอื่นไปหลักแสนแล้ว

คือคนแม่มไปโฟกัสแต่ค่ารักษาพยาบาล คือมันก็ไม่ได้ป่วยทุกคนไงครับ

แต่บ้านรถกินอยู่มันต้องใช้ทุกคน จะให้ไปได้เงินน้อยๆ รอให้ตัวเองป่วยแล้วคุ้มเพื่อ
 

ถูกก !! ต้องป่วยก่อนเพื่อคุ้ม ต้องเกษียณเพื่อคุ้ม เพื่อ ?? ถ้าเลือกได้ก็อยากมีเงินจ่ายเลย

อยากเกษียณมันตอนนี้นี่ละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ฝากเพจด้วยครับ : https://www.facebook.com/mrroscn
ชาตินึงอัพทีนึง 55555
ช่อง : Chill by Ros
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2024
ตอบ: 145
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:05
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
MrRos พิมพ์ว่า:
Spoil

byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:

และต่อให้คุณได้เงินมากกว่าราชการ 2 เท่าในอายุเท่ากัน ก็ยังว่าราชการดีกว่าอยู่ดี
 


อันนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงนะครับ ผมจำไม่ได้ละว่าอ่านมาจากไหน แต่เค้าบอกว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบเท่าๆกัน เค้าบอกว่าในฝั่งเอกชน ควรจะต้องหาให้ได้ 1.7x ของฝั่งราชการ ถึงจะคุ้มกว่าเป็นข้าราชการครับ เช่นถ้าราชการได้เงินเดือนสามหมื่น ฝั่งเอกชนควรจะได้ 51k จะเรียกได้ว่าสูสีครับ ไม่ใช่ถึง 2x แบบที่คุณบอกครับ

ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ทำงานเอกชนในเมืองใหญ่แบบกทม.ที่หางานได้ไม่ยากเท่าไหร่ ไอ้อัตราด้านบนที่ผมบอก หาได้ไม่ยากครับ (50k+/-)

อีกส่วนนึงที่คุณไม่ได้มองหรือตั้งคำถามคือระบบงานครับ บางคนมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องความสบายใจในการทำงานมาเกี่ยวด้วยครับ (อย่างนิสัยผมทำงานราชการไม่ได้ เผลอๆเจอให้ออกตั้งแต่วันแรกเลยมั้ง 555)  


ทำไมแค่ 1.7 เท่าคุ้มเหรอครับ ราชการได้ 15 k เอกชน ได้25k แต่อย่าลืมนะครับเอกชนมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีประกันสุขภาพ มีประกันสังคม นี่ยังไม่รวมว่าเอกชนต้องอยู่ กทม หรือพวกนิคมซึ่งค่าครองชีพสูง และต้องเช่าที่พักอีก แต่ราชการอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพถูก ถ้าดวงดีมีที่พักให้ ยิ่งประหยัดไปอีก  


ผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ที่คุณพูดมา คุณก็ต้องเฉลี่ยสำหรับข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่กทม.ด้วยเช่นกันนะครับ พวกนั้นรายได้ก็ไม่สูงแถมยังมีค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพที่แพงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเค้าเลยน่าจะใช้ค่าเฉลี่ยครับ เราต้องไม่มองแค่จากราชการที่อยู่ตจว.อย่างเดียวสิครับ (ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดนิคมก็มีนิครับ)

จากที่ทำงานและลงหน้างานหลายๆที่ ในนิคมบางที่ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงแบบที่คุณบอกครับ กลางวันมีโรงอาหารที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าข้างนอกค่อนข้างมาก (คุณนั่งทำในส่วนออฟฟิศแต่ไปกินตรงโรงอาหาร) หรือบางแห่งก็มีรถรับส่งนะครับ เพื่อนผมสมัยอยู่โรงงานรถยนต์เจ้านึงก็ขึ้นรถตรงเซ็นทรัลบางนา ตอนเย็นก็มีรถมาส่ง หรือแถวสระบุรี มีรถบัสรับส่งถึงพื้นที่อยุธยาด้วยซ้ำครับ ซึ่งนั่นทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางนะครับ หรือเอกชนบางแห่งก็มีที่พักให้พนักงานเช่นกันครับผม ไม่ใช่แค่ราชการที่มีครับ

นั่นคือสาเหตที่เค้าให้ใช้ตัวเลข 1.7x น่ะครับ

ปล. กองทุนสำรองและปกส.หักพนักงาน แต่ประกันสุขภาพไม่หักครับ
 


ประกันสุขภาพไม่หักก้ได้ครับแต่ ถ้าไม่มีเจ็บป่วยมาทำยังไง ไม่มีสวัสดิการแบบข้าราชการ และเรื่องข้าราชการยังไงจำนวนข้าราชการใน กทม กับ นิคม ก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับข้าราชการทั้งหมดอยู่ดีครับ และเอกชน ต้องมีทรัพย์สินเท่าไหร่ ถึงจะได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเทียบเท่าบำนาญข้าราชการ
สมมติว่าข้าราชการ ได้บำนาญ 42 k ต่อเดือน 1 ปี ประมาณ 500k ถ้าทรัพย์สินให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ต้องมีทรัพย์สิน 10ล้าน หรือถ้า10% ต่อปีต้องมี5ล้าน และทรัพย์สินพวกนี้มันจพทำผลตอบแทนให้เราแบบนี้ทุกปีไหมต่างจากเงินบำนาญราชการยังไงก็ได้ทุกเดือน และข้าราชการยังมีสิทธิรักษา แต่เอกชนอายุ60 มีประกันรับทำไหมและเบี้ยเท่าไหร่เบิกได้เท่าไหร่  


เอิ่มมมม นี่คือไม่เคยทำงานเอกชนใช่มั้ยครับ
คือเค้าให้ประกันกลุ่ม/สวัสดิการรักษาครับ แค่ไม่หักจากเงินเดือนคุณครับ
สิทธิประกันสังคมก็มีครับ ที่เค้าหักเดือนละ 750 ครับ

ส่วน PVD คุณรู้ใช่มั้ยครับ ว่ามีฝั่งนายจ้างสบทบด้วยครับ
และรู้จักรประกันบำนาญใช่มั้ยครับ ว่ามันมีให้ซื้อสะสมได้
และเงินเดือนส่วนต่างในแต่ละเดือน มันเอาไปลงทุนต่อได้ใช่มั้ยครับ

ปล.ผมมีทั้งป้าและลุงที่รับราชการ ฉะนั้นผมเข้าใจระบบของข้าราชการดีครับ ป้าผมทุกวันนี้บำนาญเดือนละห้าหมื่นกว่า แต่คุณล่ะครับ มีความเข้าใจต่องานและระบบเงินเดือนของฝากเอกชนมั้ยครับ  
 

มองแต่เหตุปลายทาง ต้นทางกับระหว่างทางคือแทบทิ้ง เหมือนปิดจุดเด่นของเอกชน แล้วพูดถึงปลายเพื่อโชว์จุดเด่นราช

PVD + โบนัส + อัตราเงินเดือนที่สูงกว่า + ประกันกลุ่ม ถูกหยิบมาพูดถึงแค่ตัวเงินล้วนๆ แล้วชูสวัสดิการพวกค่ารักษาหลัง 60 เป็นหลัก

ถ้าเอกชนมันไม่สามารถแบกรับอะไรตรงนั้นได้เลย คงไม่มีคนทำเอกชนกันหรอก ถ้าชีวิตไม่วางแผนอะไรไว้เลย ทำงานไปวันๆ

ข้าราชการก็ตอบโจทย์ข้อนี้ แต่ถ้าทำงานไป มีการวางแผนไป ส่วนต่างเงินที่ได้ กะอีแค่ Passive Income เดือนละ 40-50K

หลายๆคนได้ตั้งแต่ทำงานอายุ 35-40++ แล้ว ไม่เห็นต้องรอจนถึง 60 เลย แต่ถ้าคุณมองว่าอยากใช้ชีวิตชิลๆ

ไม่ได้เร่งการเติบโตอะไรมาก ทำงานไปเรื่อยๆ ก็ข้าราชการตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าคนเก่งจริงมันก็ไปได้ทั้ง 2 ทาง

บางทีเป็นเรื่องของสายงานด้วย บางทีชูข้าราชการแทบตาย แต่ทำไงได้ ตำแหน่งไม่มี สายงานไม่มี มันก็ทำไม่ได้

สมมติผมจบ ประมง เกษตร ป่าไม้ ผมก็ต้องเข้าข้าราชการ 100% แต่ถ้าผมจบ IT อ่ะ ผมแม่งเป็น Programmer ตัวตึงเลย

เก่งภาษาด้วย อันนี้ผมสามารถหาเงินได้มากกว่าข้าราช ไม่ใช่แค่ 2 เท่าอ่ะ 5-10 เท่ายังได้ ทำงานจากบ้านก็ได้

ทำงานกับองกรค์ต่างชาติก็ได้ แทบไม่มีเหตุผลต้องทำราชการ คนเก่งจริงๆ เงินข้าราชมันไม่ตอบโจทย์หรอก แต่ก็ขึ้นกับสายงานด้วย

เอางี้ พวกหมอตัว Top ของประเทศ พวกนักเรียนทุนทุกวันนี้อยู่ไหนอ่ะ อยู่ไทยมั้ย ?? นู่นนนน อยู่ต่างประเทศนู่นนน  


ที่คุยข้างบนภายใต้เงื่อนไขคือเอกชนรายได้มากกว่าราชการ 1.7 เท่า ถ้ามากกว่า 5เท่า10 เท่าไปเอกชนเถอะอย่ามาราชการเลย

ปล.จริงๆมีข้อดีของราชการอีกอันเลยคือข้าราชการบางหน่วยงาน บางตำแหน่งมันมีอำนาจ คนหลายๆคนเลยอยากมามีคนรู้จักบางคนเป็นติวเตอร์ฟรีแล้น ได้งเินเดือนละ เกือบๆ200k มีทรัพย์สินกว่า20ล้านโดยอายุไม่ถึง40ปี แต่มาสอบราชการเหตุผลเพราะอยากมีอำนาจ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: LFC and Relax moment
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 23978
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:08
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
shibadog พิมพ์ว่า:
MrRos พิมพ์ว่า:
Spoil

byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:

และต่อให้คุณได้เงินมากกว่าราชการ 2 เท่าในอายุเท่ากัน ก็ยังว่าราชการดีกว่าอยู่ดี
 


อันนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงนะครับ ผมจำไม่ได้ละว่าอ่านมาจากไหน แต่เค้าบอกว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบเท่าๆกัน เค้าบอกว่าในฝั่งเอกชน ควรจะต้องหาให้ได้ 1.7x ของฝั่งราชการ ถึงจะคุ้มกว่าเป็นข้าราชการครับ เช่นถ้าราชการได้เงินเดือนสามหมื่น ฝั่งเอกชนควรจะได้ 51k จะเรียกได้ว่าสูสีครับ ไม่ใช่ถึง 2x แบบที่คุณบอกครับ

ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ทำงานเอกชนในเมืองใหญ่แบบกทม.ที่หางานได้ไม่ยากเท่าไหร่ ไอ้อัตราด้านบนที่ผมบอก หาได้ไม่ยากครับ (50k+/-)

อีกส่วนนึงที่คุณไม่ได้มองหรือตั้งคำถามคือระบบงานครับ บางคนมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องความสบายใจในการทำงานมาเกี่ยวด้วยครับ (อย่างนิสัยผมทำงานราชการไม่ได้ เผลอๆเจอให้ออกตั้งแต่วันแรกเลยมั้ง 555)  


ทำไมแค่ 1.7 เท่าคุ้มเหรอครับ ราชการได้ 15 k เอกชน ได้25k แต่อย่าลืมนะครับเอกชนมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีประกันสุขภาพ มีประกันสังคม นี่ยังไม่รวมว่าเอกชนต้องอยู่ กทม หรือพวกนิคมซึ่งค่าครองชีพสูง และต้องเช่าที่พักอีก แต่ราชการอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพถูก ถ้าดวงดีมีที่พักให้ ยิ่งประหยัดไปอีก  


ผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ที่คุณพูดมา คุณก็ต้องเฉลี่ยสำหรับข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่กทม.ด้วยเช่นกันนะครับ พวกนั้นรายได้ก็ไม่สูงแถมยังมีค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพที่แพงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเค้าเลยน่าจะใช้ค่าเฉลี่ยครับ เราต้องไม่มองแค่จากราชการที่อยู่ตจว.อย่างเดียวสิครับ (ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดนิคมก็มีนิครับ)

จากที่ทำงานและลงหน้างานหลายๆที่ ในนิคมบางที่ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงแบบที่คุณบอกครับ กลางวันมีโรงอาหารที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าข้างนอกค่อนข้างมาก (คุณนั่งทำในส่วนออฟฟิศแต่ไปกินตรงโรงอาหาร) หรือบางแห่งก็มีรถรับส่งนะครับ เพื่อนผมสมัยอยู่โรงงานรถยนต์เจ้านึงก็ขึ้นรถตรงเซ็นทรัลบางนา ตอนเย็นก็มีรถมาส่ง หรือแถวสระบุรี มีรถบัสรับส่งถึงพื้นที่อยุธยาด้วยซ้ำครับ ซึ่งนั่นทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางนะครับ หรือเอกชนบางแห่งก็มีที่พักให้พนักงานเช่นกันครับผม ไม่ใช่แค่ราชการที่มีครับ

นั่นคือสาเหตที่เค้าให้ใช้ตัวเลข 1.7x น่ะครับ

ปล. กองทุนสำรองและปกส.หักพนักงาน แต่ประกันสุขภาพไม่หักครับ
 


ประกันสุขภาพไม่หักก้ได้ครับแต่ ถ้าไม่มีเจ็บป่วยมาทำยังไง ไม่มีสวัสดิการแบบข้าราชการ และเรื่องข้าราชการยังไงจำนวนข้าราชการใน กทม กับ นิคม ก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับข้าราชการทั้งหมดอยู่ดีครับ และเอกชน ต้องมีทรัพย์สินเท่าไหร่ ถึงจะได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเทียบเท่าบำนาญข้าราชการ
สมมติว่าข้าราชการ ได้บำนาญ 42 k ต่อเดือน 1 ปี ประมาณ 500k ถ้าทรัพย์สินให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ต้องมีทรัพย์สิน 10ล้าน หรือถ้า10% ต่อปีต้องมี5ล้าน และทรัพย์สินพวกนี้มันจพทำผลตอบแทนให้เราแบบนี้ทุกปีไหมต่างจากเงินบำนาญราชการยังไงก็ได้ทุกเดือน และข้าราชการยังมีสิทธิรักษา แต่เอกชนอายุ60 มีประกันรับทำไหมและเบี้ยเท่าไหร่เบิกได้เท่าไหร่  


เอิ่มมมม นี่คือไม่เคยทำงานเอกชนใช่มั้ยครับ
คือเค้าให้ประกันกลุ่ม/สวัสดิการรักษาครับ แค่ไม่หักจากเงินเดือนคุณครับ
สิทธิประกันสังคมก็มีครับ ที่เค้าหักเดือนละ 750 ครับ

ส่วน PVD คุณรู้ใช่มั้ยครับ ว่ามีฝั่งนายจ้างสบทบด้วยครับ
และรู้จักรประกันบำนาญใช่มั้ยครับ ว่ามันมีให้ซื้อสะสมได้
และเงินเดือนส่วนต่างในแต่ละเดือน มันเอาไปลงทุนต่อได้ใช่มั้ยครับ

ปล.ผมมีทั้งป้าและลุงที่รับราชการ ฉะนั้นผมเข้าใจระบบของข้าราชการดีครับ ป้าผมทุกวันนี้บำนาญเดือนละห้าหมื่นกว่า แต่คุณล่ะครับ มีความเข้าใจต่องานและระบบเงินเดือนของฝากเอกชนมั้ยครับ  
 

มองแต่เหตุปลายทาง ต้นทางกับระหว่างทางคือแทบทิ้ง เหมือนปิดจุดเด่นของเอกชน แล้วพูดถึงปลายเพื่อโชว์จุดเด่นราช

PVD + โบนัส + อัตราเงินเดือนที่สูงกว่า + ประกันกลุ่ม ถูกหยิบมาพูดถึงแค่ตัวเงินล้วนๆ แล้วชูสวัสดิการพวกค่ารักษาหลัง 60 เป็นหลัก

ถ้าเอกชนมันไม่สามารถแบกรับอะไรตรงนั้นได้เลย คงไม่มีคนทำเอกชนกันหรอก ถ้าชีวิตไม่วางแผนอะไรไว้เลย ทำงานไปวันๆ

ข้าราชการก็ตอบโจทย์ข้อนี้ แต่ถ้าทำงานไป มีการวางแผนไป ส่วนต่างเงินที่ได้ กะอีแค่ Passive Income เดือนละ 40-50K

หลายๆคนได้ตั้งแต่ทำงานอายุ 35-40++ แล้ว ไม่เห็นต้องรอจนถึง 60 เลย แต่ถ้าคุณมองว่าอยากใช้ชีวิตชิลๆ

ไม่ได้เร่งการเติบโตอะไรมาก ทำงานไปเรื่อยๆ ก็ข้าราชการตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าคนเก่งจริงมันก็ไปได้ทั้ง 2 ทาง

บางทีเป็นเรื่องของสายงานด้วย บางทีชูข้าราชการแทบตาย แต่ทำไงได้ ตำแหน่งไม่มี สายงานไม่มี มันก็ทำไม่ได้

สมมติผมจบ ประมง เกษตร ป่าไม้ ผมก็ต้องเข้าข้าราชการ 100% แต่ถ้าผมจบ IT อ่ะ ผมแม่งเป็น Programmer ตัวตึงเลย

เก่งภาษาด้วย อันนี้ผมสามารถหาเงินได้มากกว่าข้าราช ไม่ใช่แค่ 2 เท่าอ่ะ 5-10 เท่ายังได้ ทำงานจากบ้านก็ได้

ทำงานกับองกรค์ต่างชาติก็ได้ แทบไม่มีเหตุผลต้องทำราชการ คนเก่งจริงๆ เงินข้าราชมันไม่ตอบโจทย์หรอก แต่ก็ขึ้นกับสายงานด้วย

เอางี้ พวกหมอตัว Top ของประเทศ พวกนักเรียนทุนทุกวันนี้อยู่ไหนอ่ะ อยู่ไทยมั้ย ?? นู่นนนน อยู่ต่างประเทศนู่นนน  


ที่คุยข้างบนภายใต้เงื่อนไขคือเอกชนรายได้มากกว่าราชการ 1.7 เท่า ถ้ามากกว่า 5เท่า10 เท่าไปเอกชนเถอะอย่ามาราชการเลย

ปล.จริงๆมีข้อดีของราชการอีกอันเลยคือข้าราชการบางหน่วยงาน บางตำแหน่งมันมีอำนาจ คนหลายๆคนเลยอยากมามีคนรู้จักบางคนเป็นติวเตอร์ฟรีแล้น ได้งเินเดือนละ เกือบๆ200k มีทรัพย์สินกว่า20ล้านโดยอายุไม่ถึง40ปี แต่มาสอบราชการเหตุผลเพราะอยากมีอำนาจ  

โอ้ยยยยยยยยยยยย ท่านเอ้ยยยย อย่าว่างั้นว่างี้เลยนะ เพื่อนผม อายุไม่ถึง 30 จับเงินล้านกันเป็นฟ่อนแล้ว

นู้นนนน เกษตรกร อิจฉาชิบหาย พวกนี้ถ้าเรียนมาดี มาระบบความคิดการเงิน ไปต่อได้ไกลกว่าเยอะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ฝากเพจด้วยครับ : https://www.facebook.com/mrroscn
ชาตินึงอัพทีนึง 55555
ช่อง : Chill by Ros
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2024
ตอบ: 145
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 07, 2024 15:10
ถูกแบนแล้ว
[RE: ทำไมมองว่าอาชีพข้าราชการไม่ดี]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
Spoil
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
shibadog พิมพ์ว่า:

และต่อให้คุณได้เงินมากกว่าราชการ 2 เท่าในอายุเท่ากัน ก็ยังว่าราชการดีกว่าอยู่ดี
 


อันนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงนะครับ ผมจำไม่ได้ละว่าอ่านมาจากไหน แต่เค้าบอกว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบเท่าๆกัน เค้าบอกว่าในฝั่งเอกชน ควรจะต้องหาให้ได้ 1.7x ของฝั่งราชการ ถึงจะคุ้มกว่าเป็นข้าราชการครับ เช่นถ้าราชการได้เงินเดือนสามหมื่น ฝั่งเอกชนควรจะได้ 51k จะเรียกได้ว่าสูสีครับ ไม่ใช่ถึง 2x แบบที่คุณบอกครับ

ซึ่งถ้าเอาจริงๆ ทำงานเอกชนในเมืองใหญ่แบบกทม.ที่หางานได้ไม่ยากเท่าไหร่ ไอ้อัตราด้านบนที่ผมบอก หาได้ไม่ยากครับ (50k+/-)

อีกส่วนนึงที่คุณไม่ได้มองหรือตั้งคำถามคือระบบงานครับ บางคนมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องความสบายใจในการทำงานมาเกี่ยวด้วยครับ (อย่างนิสัยผมทำงานราชการไม่ได้ เผลอๆเจอให้ออกตั้งแต่วันแรกเลยมั้ง 555)  


ทำไมแค่ 1.7 เท่าคุ้มเหรอครับ ราชการได้ 15 k เอกชน ได้25k แต่อย่าลืมนะครับเอกชนมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีประกันสุขภาพ มีประกันสังคม นี่ยังไม่รวมว่าเอกชนต้องอยู่ กทม หรือพวกนิคมซึ่งค่าครองชีพสูง และต้องเช่าที่พักอีก แต่ราชการอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพถูก ถ้าดวงดีมีที่พักให้ ยิ่งประหยัดไปอีก  


ผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ที่คุณพูดมา คุณก็ต้องเฉลี่ยสำหรับข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่กทม.ด้วยเช่นกันนะครับ พวกนั้นรายได้ก็ไม่สูงแถมยังมีค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพที่แพงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเค้าเลยน่าจะใช้ค่าเฉลี่ยครับ เราต้องไม่มองแค่จากราชการที่อยู่ตจว.อย่างเดียวสิครับ (ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดนิคมก็มีนิครับ)

จากที่ทำงานและลงหน้างานหลายๆที่ ในนิคมบางที่ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงแบบที่คุณบอกครับ กลางวันมีโรงอาหารที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าข้างนอกค่อนข้างมาก (คุณนั่งทำในส่วนออฟฟิศแต่ไปกินตรงโรงอาหาร) หรือบางแห่งก็มีรถรับส่งนะครับ เพื่อนผมสมัยอยู่โรงงานรถยนต์เจ้านึงก็ขึ้นรถตรงเซ็นทรัลบางนา ตอนเย็นก็มีรถมาส่ง หรือแถวสระบุรี มีรถบัสรับส่งถึงพื้นที่อยุธยาด้วยซ้ำครับ ซึ่งนั่นทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทางนะครับ หรือเอกชนบางแห่งก็มีที่พักให้พนักงานเช่นกันครับผม ไม่ใช่แค่ราชการที่มีครับ

นั่นคือสาเหตที่เค้าให้ใช้ตัวเลข 1.7x น่ะครับ

ปล. กองทุนสำรองและปกส.หักพนักงาน แต่ประกันสุขภาพไม่หักครับ
 


ประกันสุขภาพไม่หักก้ได้ครับแต่ ถ้าไม่มีเจ็บป่วยมาทำยังไง ไม่มีสวัสดิการแบบข้าราชการ และเรื่องข้าราชการยังไงจำนวนข้าราชการใน กทม กับ นิคม ก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับข้าราชการทั้งหมดอยู่ดีครับ และเอกชน ต้องมีทรัพย์สินเท่าไหร่ ถึงจะได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินเทียบเท่าบำนาญข้าราชการ
สมมติว่าข้าราชการ ได้บำนาญ 42 k ต่อเดือน 1 ปี ประมาณ 500k ถ้าทรัพย์สินให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ต้องมีทรัพย์สิน 10ล้าน หรือถ้า10% ต่อปีต้องมี5ล้าน และทรัพย์สินพวกนี้มันจพทำผลตอบแทนให้เราแบบนี้ทุกปีไหมต่างจากเงินบำนาญราชการยังไงก็ได้ทุกเดือน และข้าราชการยังมีสิทธิรักษา แต่เอกชนอายุ60 มีประกันรับทำไหมและเบี้ยเท่าไหร่เบิกได้เท่าไหร่  


เอิ่มมมม นี่คือไม่เคยทำงานเอกชนใช่มั้ยครับ
คือเค้าให้ประกันกลุ่ม/สวัสดิการรักษาครับ แค่ไม่หักจากเงินเดือนคุณครับ
สิทธิประกันสังคมก็มีครับ ที่เค้าหักเดือนละ 750 ครับ

ส่วน PVD คุณรู้ใช่มั้ยครับ ว่ามีฝั่งนายจ้างสบทบด้วยครับ
และรู้จักรประกันบำนาญใช่มั้ยครับ ว่ามันมีให้ซื้อสะสมได้
และเงินเดือนส่วนต่างในแต่ละเดือน มันเอาไปลงทุนต่อได้ใช่มั้ยครับ

ปล.ผมมีทั้งป้าและลุงที่รับราชการ ฉะนั้นผมเข้าใจระบบของข้าราชการดีครับ ป้าผมทุกวันนี้บำนาญเดือนละห้าหมื่นกว่า แต่คุณล่ะครับ มีความเข้าใจต่องานและระบบเงินเดือนของฝากเอกชนมั้ยครับ  

 

เข้าใจครับ เพื่อนผม น้องผม ทำเอกชน สวัสดิการรักษาของเอกชนนี่เบิกได้แค่ไหนครับถึงล้านไหมครับ และเป็นโรคเรื้อรังทำยังไง อย่างคนที่ทำงานแม่เป็น โรคแพ้ภูมิตัวเอง ใช้ยามุ่งเป้ามาหลายคอร์สแล้วโดนคอร์สนึงเป็นแสนแตว่าเป็นข้าราชการก็เบิกได้ยาวๆไป แต่เอกชนล่ะจะทำยังไง

และประกันบำนาญนี่ได้เท่าไหร่ครับ และส่งเบี้ยเท่าไหร่ ครับ และถ้าเงินมากกว่าราชการแค่ 1.7 เท่า มันจะลงทุนจนมีทรัพย์สินพอจะไปซื้อประกันสุขภาพหลัง60 กับ ทำผลตอบแทนจนเท่าบำนาญ 5 หมื่นกว่าเหรอครับ  


ได้สิครับ ประกันกลุ่ม cover เยอะมากครับ อย่างบริษัทผมเรื้อรังก็รักษากันไป ไม่เกิน 24x ของเงินเดือน (บางที่ได้เยอะกว่านี้ ขึ้นอยู่กับเลเวลของคุณ) หรืออย่างเสียชีวิตก็มีประกันชีวิตด้วยครับ

ประกันบำนาญ ก็จ่ายประมาณ 1.6-1.9x ของเงินต้นครับ ผมส่งปีละ 170k ครับตอนนี้ถ้าเกษียณได้ประมาณปีละ 305k ครับ ส่วนเรื่องเงินเดือน ป้าผมก่อนเกษียณได้ประมาณเดือนละเกือบๆ 9 หมื่น (รวมเบี้ยกันดาร รวมค่าวิทยฐานะ ฯลฯ) ถ้าคิดที่ 1.7x --> เอกชนจะรับอยู่เกือบๆ 155k หาเงินให้เหลือใช้หลังเกษียณเดือนละ 52-53k ผมว่าทำได้นะ แค่ PVD อย่างเดียวถ้าสะสมมาทั้งชีวิต เงินก้อนก็น่าจะมีประมาณ 7.5 ล้านครับ

อันนี้ถ้าหารว่าจะอยู่ถึง 80 = เดือนละ 31k
รวมกับประกันบำนาญที่ซื้อ = 24.5k
==> 55k ต่อเดือน

อันนี้ก็ใช้หลักการคิด 1.7x ของเงินเดือนราชการเลยนะครับ แล้วถ้าคุณคิดว่า โหคนเอกชนจะมีกี่คนได้ 155k/เดือน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าฝั่งราชการมีคนที่ได้ระดับ 9 หมื่นประมาณเท่าไหร่เหมือนกันครับ  


การคิดบำนาญราชการใช้ฐานเงินเดือนคิดครับ ข้าราชการแค่เป็นระดับชำนาญพิเศษเงินเดือนตัน และไม่เป็นสมาชิก กบข ก็บำนาญเกิน5หมื่นทุกคนครับเพราะงั้นบำนาญ5หมื่นของราชการสำหรับยุคเก่าที่ไม่ได้บังคับเป็นสมาชิก กบข ไม่ได้ยากครับ คนรอบตัวผมถ้าบรรจุตอนอายุน้อยๆ ได้ทุกคน จะครู พยาบาล หรือหน่วยงานอื่นๆได้หมด

แล้วถามหน่อยครับเอกชนถ้าเกษียณแล้วเรื่องค่ารักษาพยาบาลทำยังไงครับใช้บัตรทองเหรอ พอดีใกล้ตัวรัฐวิสาหกิจใช้บัตรทองหรือไม่ก็สิทธิของผัว เมีย ลูก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel