[RE: ปรับโครงสร้างหนี้ กับ Hair cut หนี้ อันไหนดีกว่ากันครับ]
sl2eaMs พิมพ์ว่า:
weirdcat พิมพ์ว่า:
sl2eaMs พิมพ์ว่า:
weirdcat พิมพ์ว่า:
ปรับโครงสร้างหนี้ ก็ติดบูโรครับ แค่สถานะไม่เหมือนกัน แต่ก็คงไปขอสินเชื่อที่ไหนไม่ได้อยู่ดี
จริงๆต้องถามว่าปัญหาของท่านหนักขนาดไหน ปรับโครงสร้างหนี้แล้วรอดไหม แก้ปัญหาได้ไหม
ไม่ใช่ว่าหนี้หลายเจ้า แล้วปรับโครงสร้างหนี้ทุกเจ้า ก็ไม่รอดอยู่ดีครับ
แล้วถ้า haircut ท่านรับโทรศัพท์ได้ตลอดไหม เพราะถ้าท่านไม่รับ เจ้าหนี้มีสิทธิ์ติดต่อที่ทำงาน ที่บ้าน เพื่อติดต่อท่านได้นะครับ เจ้าหนี้บางเจ้าก็เหลี่ยม ตั้งใจโทรมาให้เรารับไม่ทัน เพื่อจะโทรไปหาท่านที่ทำงานก็มี หรือโผล่ไปที่บ้านก็มี ถ้าเป็นแบบนี้จะมีปัญหาไหม คิดดีๆครับ วางแผนรับมือไว้ยังไง กว่าจะทำ haircut ได้ก็โน่น 90 วัน ตอนเป็นหนี้เสียแล้ว
เก็บเงินเพื่อปิดหนี้ไหวหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มีเงินปิด เจ้าหนี้ฟ้องก่อนมันจะคุยลำบากครับ เพราะจริงๆเจ้าหนี้ก็ไม่ได้อยากฟ้อง เขาอยากได้เงินคืน
ส่วนตัวผมเคยทำ haircut ช่วงโควิด
แบบจำใจต้องทำเพราะงานหายหมด ถ้าจ่ายต่อคือไม่มีกินในอีก 2 เดือน
สุดท้ายก็เอาเงินที่เหลือไปค้าขาย เก็บเงินไปปิดหนี้ได้ตอนเป็นหนี้เสียพอดี
ที่คุยกับทางธนาคารเหมือนจะปรับโครงสร้างแล้วรอดครับ เพราะเค้าลดให้ผ่อนยาวขึ้นแล้วยอดผ่อนลดลงเยอะเลย หายใจคล่องเลยครับ แต่ผมเลยยังไม่รู้ว่าข้อเสียมีมีมากกว่าติดบูโรไหมครับ หรือเค้าบอกดอกเบี้ยเท่านี้ตลอดเวลาปรับโครงสร้างแบบนี้ก็จบเลยใช่ไหมครับ ก็คือต้องจ่ายยอดเดียวจนปิดหนี้เลยใช่ไหมครับ หรืออาจจะโป๊ะเพิ่มไปแต่ดอกเบี้ยเท่าเดิมใช่ไหมครับ
ส่วนตอนนี้ผมมีหนี้เจ้าเดียวครับ ยอดแสนกว่าๆ ผมอยากรีบปิดแล้วจบกับวงการหนี้เลยครับ ถ้าแบบนี้ปรับโครงสร้างจะดีกว่าไหมครับ
ปรับโครงสร้างหนี้ เหมือนไปเซ็นสัญญายอมรับหนี้+ดอกเบี้ย มาน่ะครับ
คือถ้าคุณผ่อนไม่รอด โดนยอดที่เซ็นเต็มๆเลย แต่ถ้ารอดมันก็ดีครับ ปัญหาน้อย
คุณขอสัญญามาอ่านดูก่อนได้นะครับ ผมก็เคยขอมาอ่าน แต่ไม่ได้เซ็น
ถ้ามีสินเชื่อบ้านอยู่ ลองขอกู้เพิ่มดูนะครับ แล้วเอาเงินไปปิดหนี้ที่ดอกโหดกว่าซะ
ยิ่งเป็นธนาคารเดียวกันยิ่งดี ไปขอรวมหนี้ได้
ถ้างั้นเราขอส่งเรื่องให้ดูใบสัญญาก่อนก็ได้ใช่ไหมครับ ถ้าเราไม่เซ็นรับก็ยังจะไม่เป็นปรับโครงสร้างนี้ใช่ไหมครับ คือหนี้จะไม่เทยอดรวมใช่ไหมครับ เหมือนไปเซ็นสัญญายอมรับหนี้+ดอกเบี้ย ตรงนี้คือ หนี้ที่เราเป็น แล้วบวกดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปอีกอะไรแบบนี้ใช่ไหมครับ
แล้วการปรับโครงสร้างนี้จะเจอแบบนี้ไหมครับ อันนี้ก้อปมาจากพันธิปนะครับ
2. จ่ายไม่ครบ อีกสาเหตุ ไม่แน่ใจว่าช่วงเดือนไหน แต่มีเรื่องจ่ายไม่ครบด้วย คือ เมื่อเราปรับโครงสร้างหนี้ หรือพักหนี้ หรืออะไรก็ตาม มันจะมีช่วงนึงที่ยอดปกติเช่น จ่ายเดือนละ งวดที่ 1-12 10,000 บาท แต่พอถึงงวดที่ 13 คุณอาจจะต้องจ่าย 15,000 บาท
หรือถ้าสัญญาเขียนว่าจ่ายดอกเบี้ยเท่านี้ ตลอดสัญญา อย่างเช่น จ่ายที่งวดละ 4900 44 เดือน ก็จะจ่าย 4900 จนครบ 44 เดือน หรือจะเจอแบบข้อความที่ผมก้อปมาครับ อันนี้ขอปรึกษาหน่อยนะครับ
แล้วการปรับโครงสร้างนี้มันจะเป็นจ่ายแต่ดอกไหมครับ หรืออยู่ที่สัญญา หรือมันจ่ายเป็นทบต้นทบดอกอยู่ ตอนนี้ธนาคารบอกผมว่าจ่ายแบบทบต้นทบดอกแต่ผมอ่านในเน็ตมาบางคนก็บอกว่าจ่ายแต่ดอก
ท่านให้เขาส่งเทอมการชำระเงินมาดูก่อนได้อยู่แล้วครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลามากเพราะเราเจรจาอยู่ ยังไงเขาก้อคุยกับเราก่อนน่ะครับ ภามรายละเอียดและนัดวันให้คำตอบกันไว้เลย
เรื่องการปิดยอดก็เหมือนกัน ถามเขาได้เลยครับ ว่าถ้าจะปิดทั้งก้อน หรือบางส่วน คิดดอกเบี้ยอย่างไร ถามให้เคลียรรับผม สมมติยืดเป็นผ่อน 2 ปี พอเราจ่ายไปสักพักแล้วอยากปิดทั้งก้อน ที่ผมเจอก็ไม่ต้องจ่ายดอกของเวลาที่เหลือนะ จ่ายแค่ต้นที่เหลืออยํ่
และในระหว่างผ่อน บางเดือนธนาคารจะมีโปร haircut ให้ด้วย หรือไม่ถ้าเรามีเงินก้อนก็โทรไปถามว่าเดือนนีี้มีส่วนลดไหม(ไม่ต้องไปบอกว่ามีเงินทั้งจำนวนล่ะ บอกขาดๆไว้เผื่อเขาลดให้) ในทุกๆหระบวนการ แม้ถึงศาลพิพากษาแล้ว ก็สามารถเจรจาโทรคุยได้ตลอดครับ มันอยู่ที่การเจรจา และนโยบายแบ้งอะ
ปล. การเจรจา มันคือการตกลงกัน 2 ฝ่ายนะ ยังไงมันอาศัยการพูด จังหวะเวลา กาต่อรอง ซึ่งแต่ละคนจะเจอไม่เหมือนกัน ผมอาจจะโชคดีที่มีโอกาศได้ haircut ในหลายๆจังหวะ แต่ บางคนอาจเจอน้อยก็ด้ โดยเฉพาะหลังจบฟ้องร้องในศาล (อันนี้บอกไว้เป็นแนวทาง แต่เจรจาและหาทาง haircut ให้จบก่อนขึ้นศาลดีที่สุดละ ไม่ต้องมาลุ้น)