เวลาดูคลิปรีวิว รถมาสด้า จะรุ่นไหนๆ
ตามสื่อยานยนต์ ไม่ว่าไทยหรือเทศ เค้ามักจะพูดประมาณว่า
"ขับดีสุดใน class" บ้าง... "ขับสนุกสุดใน segment" บ้าง...

เลยนึกสงสัยคาใจ ว่าหากจุดเด่น ของค่ายนี้ มันคือช่วงล่างที่ขับสนุกที่สุดจริง
แล้วไฉนแบรนด์อื่น(ที่เป็นเจ้าตลาดญี่ปุ่น) ถึงไม่คิดจะเอาส่วนดีทำแนวนี้ออกมาขายมั่ง ?
หรือเพราะมันเป็น know-how ของมาสด้าโดยเฉพาะ ที่เลียนแบบได้ยาก หรือเปล่าครับ ?

ยังไงขอผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ผ่านรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นมาหลากหลาย มาแชร์ไอเดียกันหน่อยครับ
ส่วนตัวเป็นคนชอบขับรถ พอลองขับก็เลยเข้าใจฟีลว่า zoom zoom / feel the drive ไม่ใช่แค่สโลแกนเล่นๆ
มาสด้าทำมาขับดีโดดเด่นกว่าจริงๆ

จากกระทู้ : https://pantip.com/topic/42912507

อัตราเร่งช่วงต้นมันดีกว่าแบรนด์อื่นครับ เหยียบแล้วมันพุ่งเลย มันง่ายเวลาจะแซง เวลาขับพี่โตกับพี่ฮอนเหยียบเร่งแล้วมันไม่ทันใจต้องรอรอบแล้วมันเสียจังหวะ ประเทศไทยเอาจริงแรงปลายแทบไม่จำเป็น ถ้าไม่ได้ขับออกตวจ. หรือช่วงตอนกลางคืนที่รถมันโล่งๆ เร่งได้แปบๆเดี๋ยวก็ต้องเบรค ถ้ารถญี่ปุ่นผมก็ชอบมาสด้านี่แหละ

ส่วนพี่โตเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว ไม่ต้องเพิ่มอะไรมากคนก็ซื้อ เลยไม่จำเป็นต้องไปเพิ่ม cost

ผมว่าด้วย โครงสร้าง Platform ด้วยละครับ ที่มันจะมีขนาดเล็กกว่าชาวบ้าน

การ Set ช่วงล่างที่เน้นตรงการเกาะถนน ในขณะอย่างพี่โต ก็เน้นการประหยัดน้ำมัน

ยกเว้นตัว CHR ที่เจ้าของพี่แกกะเอาสนุก เลยได้รถเกาะถนนปีศาจ ขึ้นมา

ผมว่าขับดีจริงนะ แต่สนุกสุดนี้ไม่แน่ใจ

ปรัชญาใครปรัชญามันครับ

ผมใช้อยู่ ดีกว่าในรถยี่ห้ออื่นใน segment เดียวกันจริงๆครับ แต่ต้องแลกมากับการซดน้ำมันกว่า ด้านในแคบกว่า

ช่วงล่างเกาะถนนจริงเคยเอามาสด้า 2 เช้าโค้ง 100กว่าๆ ไม่มีหลุดโค้งเลย

ช่วงล่างเค้าเกาะถนนจริงแต่แม่มโคตรกระด้างเลย สัมผัสได้ทุกหลุมถนนเลย

เทียบกับเบนซ์แล้วช่วงล่างเกาะถนนเหมือนกัน แต่เบนซ์นุ่มกว่าเยอะ

ก็มันดีกว่าเค้าหมดจริงๆ เอามาสด้าตัวล่าสุด 3 ไปจอดคู่อัลติสดู

คนละเรื่องกันเลย

มันก็ต้องเลือกเอาสักทางในการออกแบบรถ จะเอาห้องโดยสารกว้างขวาง หรือเอาสมรรถนะ ที่ต้องแลกกับรูปร่างห้องโดยสารที่แคบลง ซึ่งมาสด้าเป็นอย่างหลัง เอาชัดๆเลย ยาริสเอทีฟ vs มาสด้า2 segment เดียวกัน แต่การขับขี่มาสด้า2 ช่วงล่างคมมากยังกับรถญี่ปุ่นเจ้าตลาดราคาหลักล้าน แต่ความนั่งสบายคนละเรื่องกับเจ้าตลาดนะ

ง่ายมากครับ เพราะคนละตลาดครับ ขับสนุกกับความสะดวกสบาย มันเป็นสองสิ่งที่มักจะอยู่ตรงข้ามกัน ถ้าอยากได้ทั้งขับสนุกและความสะดวกสบาย ราคามันก็จะ x2

เพราะฉะนั้นค่ายรถญี่ปุ่นซึ่งเป็นรถตลาดต้องเลือกว่าจะเอา ขับสนุก vs สะดวกสบาย

1.ช่วงล่าง แข็ง vs ย้วย หลายคนบอกรถนุ่ม=รถดี นั่นแหละคุณเหมาะกับรถที่เน้นสบายมากกว่าเน้นการขับ เวลาวิ่งความเร็วสูง เวลาหักเลี้ยวถ้าช่วงล่างย้วยมันเหมือนคุณนั่งเรือโต้คลื่นอะลอยไปลอยมาเมาตาย ช่วงล่าง firm แข็งเวลาเข้าโค้งหรือวิ่งเร็วๆหรือเร่งความเร็วเฉียบพลันมันแทบไม่ขยับเลยครับ เพราะช่วงล่างมันช่วยซับแรง momentum จากการเลี้ยวหรือการเร่งหรือเบรคไว้ได้เกือบหมด จึงเป้นที่มาของการขับสนุก

2.พวงมาลัย ไว vs ช้า พวงมาไลไวคือคุณหักปุ๊ปมันเลี้ยงไปตามองศาเป๊ะๆปั๊ปไม่มีหน่วง ซึ่งจะทำแบบนั้นได้มันก็มีต้นทุนเพิ่มขึ้น รถที่ไม่เน้นขับสนุกมันก็ไม่ใส่พวกนี้เข้ามาสะเลยเพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว

3.คันเร่ง ไว vs ช้า เหมือนกับพวงมาไลครับ แตะปุ๊ปพุ่งปั๊ปไม่หน่วง ซึ่งคนที่อยากขับสบายๆเค้าไม่ต้องการครับ การที่คันเร่งไวมันขับเหนื่อยจัดๆ แตะๆพุ่งๆ

4.เบาะ กระชับ vs นุ่มสบาย เวลาขับรถแล้วเบาะมันไม่โอบตัวขับไปตัวดิ้นไปดิ้นมา มันรำคาญ เบาะที่ขับสนุกคือเบาะที่โอบตัวเราไม่ให้ดิ้นและกระชับ ซึ่งมันแลกมันด้วยเบาะที่แข็งและนั่งระยะไกลไม่สบาย

หลายคนเข้าใจผิดมากสงสัยจำมาจากเจนเก่า

Mazda เอาอะไรมาเหยียบแล้วพุ่งอืดยังกับเต่า


ดีจริงๆของมาสด้าคือ ช่วงล่าง,พวงมาลัยคม, เกียร์ออโต้เฟืองขับแล้วได้อารมกว่า CVT

ไม่แน่ใจเหมือนกัน ส่วนตัวผมให้คะแนน Subaru มากกว่านะเรื่องขับสนุก

ที่บ้านผมใช้ Mazda Cronos ปีประมาณ 92 ก็โอเคนะ แต่พอลอง Subaru Legacy ปีเดียวกันนี่ศักยภาพต่างกันจริงๆ จากการลองบนถนนเส้นที่ผมขับ Mazda มาตลอดนั่นละครับ เสียดายตอนนี้กลับไปนำเข้าจากนอกอีกละ

เอาจริงๆคือ platform มันไม่ได้อยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนนะ มันต้องใช้เวลาแหละ

แล้วก็ Setting ของแต่ล่ะค่าย มีแนวคิดและการปรับจูน พัฒนาต่างกันไป

เรื่องนี้ค่ายยุโรปก็เป็น BMW ขับสนุกว่า Benz พอสมควร ไปโดนรีวิวเจ้าไหนก็ต้องพูดแบบนี้ทั้งนั้น เพราะ setting ของ BMW มันมาดุดัน ขับสนุกกว่า ส่วน Benz จะได้โทนนุ่มๆ ขับสบาย แล้วก็เน้นความหรูหรามากกว่า ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็คนล่ะกลุ่มกัน อย่างผมชอบขับ BMW มากกว่า ขับสนุก แต่ยังเลือกซื้อ Benz เพราะชอบในความเป็น Benz ในส่วนอื่นๆมากกว่า

สุดท้ายก็ต้องบอกว่า Toyota เค้าปรับปรุงแล้วนะ อย่าง Yaris Ativ เค้าปรับมาดีมาก platform ใหม่อย่าง DNGA คือเฟิร์มขึ้นมาก แแต่ setting เค้าก็ยังคงไปทางนุ่มนวลมากกว่าตัว Mazda มันอาจจะไม่ได้เฟิร์มและเกาะถนนแบบ Mazda 2 แต่ได้ความหลากหลายและนุ่มนวลมากกว่า Mazda จะออกกระด้างหน่อยๆ ส่วนเครื่องยนต์ คือเค้าอาจจะขับไม่สนุกก็จริง แต่ไอ้เครื่องยนต์โบราณบล็อกเดิมๆนี่แหละ ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อนะ มันทน ไม่จุกจิก และที่สำคัญหาช่างซ่อมง่าย ซึ่งมันกลายเป็นจุดเด่นของพี่โตไปแล้ว คือรวมๆเค้าไม่ได้ไปวิ่งตามค่ายอื่น แต่ยังชูจุดเด่นของตัวเองแล้วก็กลบข้อด้อยอื่นๆให้น้อยลง Ativ เลยขายดีมากๆ

หลักๆเลยที่คนชมเรื่องนี้กันมานานคือช่วงล่างครับ ไม่ใช่เครื่องแรงอะไรเลย

มาสด้าเน้นเซ็ทช่วงล่างมาหนึบคม เข้าโค้งค่อนข้างดีถ้าเทียบกับคู่แข่งรุ่นเดียวกัน
แต่ก็แลกมาด้วยความนุ่มที่ลดลง และชิ้นส่วนช่วงล่างเยอะขึ้น (ต้องดูแลรักษามากขึ้น)
อีกเจ้าที่มาทางนี้ก็คือมิตซู Lancer

ถามว่าพี่โตจะทำแบบนี้บ้างได้ไหม คำตอบก็คือได้
แต่พี่โตเขาเลือกเซทมาให้เป็นรถที่นั่งสบายและดูแลรักษาน้อยเน้นทนทานมากกว่าสะเทือนและต้องดูแลรักษาเยอะ
เพราะพี่โตเขาวางตัวเองไว้เป็นรถบ้านที่ใครๆก็ใช้ได้ ใช้ง่าย ใช้คล่อง
และนี่ก็คือเหตุผลที่พี่โตขายดีที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่น เพราะช่วงล่างมันทน และนุ่มกำลังดี นั่งสบายตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่

ดีจริงนั่นแหละ ช่วงล่างดี ขับสนุก ระยะล้อแคบกว่ารุ่นอื่น ก็ต้องแลกกับการนั่งสบายของเบาะหลัง เป็นทุกรุ่นอ่ะ

mazda 2 3 cx พวกนี้ขับดีหมดเลย แต่นั่งหลังไม่สบาย